บทที่ 335 ฟันสังหาร!
การควบคุมพืชหญ้าของหญิงสาวชุดดำผู้นี้ไม่เกี่ยวข้องกับวิถีโอสถ แต่เป็นวิชาอภินิหารคล้ายพรสวรรค์อย่างหนึ่งซึ่งเกิดจากวิชาที่ฝึกฝน สามารถสื่อสารกับพืชหญ้าและนำไปสู่การควบคุม
ถึงแม้สำนักธารฟ้าจะถนัดเวทแห่งมิติ แต่ยังไงซะพลังแฝงอันเป็นรากฐานคือต้นไม้ปีศาจมะเดื่อฟ้าต้นหนึ่ง เมื่อฝึกวิชาอยู่บนต้นไม้นี้ แน่นอนว่าย่อมมีความเชื่อมโยงที่พิเศษบางอย่างกับพืชหญ้า หรือถึงขั้นพูดได้ว่าชีวิตนี้ของลูกศิษย์สำนักธารฟ้าทุกคนล้วนมีต้นมะเดื่อฟ้าเป็นทหารกล้าที่ร่วมรบเคียงบ่า!
วิธีการเช่นนี้จะพูดว่าควบคุม ก็สู้พูดว่าเป็นการทำสัญญาที่ไม่เข้มงวดอย่างหนึ่งจะดีกว่า เพราะแค่เป็นการยืมใช้พลังของกันและกันเท่านั้น!
ทว่าทางฝ่ายของป๋ายเสี่ยวฉุนกลับต่างไปจากหญิงสาวชุดดำผู้นี้อย่างสิ้นเชิง เขาใช้วิถีโอสถเป็นพื้นฐาน ใช้คาถาพืชหญ้าแปลงกองทัพเป็นตัวชักนำ ที่เขาต้องการไม่ใช่การทำสัญญา ไม่ใช่การยืมใช้ แต่เป็น…การควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบ!
วิธียับยั้งและส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน วิถีแห่งการหลอมรวมพืชหญ้า บวกกับสร้างฐานรากวิถีฟ้าของตัวเขา ตอนนี้หลังจากมหาสมุทรวิญญาณเก้าชั้นกลายเป็นผลึก ขอบเขตของปราณวิถีฟ้านี้จึงระเบิดกระจายออก ทำให้บนตัวของเขามีความเด็ดขาดเหี้ยมหาญเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งส่วน…อย่างเป็นธรรมชาติ…โดยที่นักพรตสร้างฐานรากคนอื่นๆ ไม่มี!
หากไม่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้มีความพิเศษ อีกทั้งมาจากสำนักของแม่น้ำตอนกลาง เกรงว่าคงถูกป๋ายเสี่ยวฉุนบดขยี้อย่างสมบูรณ์แบบไปนานแล้ว ตอนนี้แม้จะพยายามดิ้นรนต่อสู้ แต่กลับยังคง…สู้ไม่ได้เช่นเดิม!
“กลับไปซะ!” ดวงตาทั้งคู่ของป๋ายเสี่ยวฉุนฉายแสงคมกล้า มือทั้งคู่ผลักออกไปข้างหน้าอย่างแรงหนึ่งครั้ง ปากตวาดเสียงทุ้มลึกดังประดุจสายฟ้าระเบิด
ภายใต้เสียงตวาดนี้ ลมพายุพืชหญ้าด้านหน้าเขาส่งเสียงโครมครามดังอึกทึก ไม่ว่าจะยินดีหรือไม่ บัดนี้ก็ต้องเปลี่ยนทิศทาง หมุนคว้างย้อนกลับไปทางเดิม ตรงดิ่งเข้าหาหญิงสาวชุดดำ
ดวงตาทั้งคู่ของหญิงสาวเผยความเหลือเชื่อ นางไม่อาจยอมรับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ เมื่อครู่นี้นางก็ตระหนักได้แล้วว่าการปรากฏตัวของร่มสีดำ เป็นเพราะ
ป๋ายเสี่ยวฉุนจงใจล่อให้ตนเข้าไปใกล้
สำหรับจังหวะการต่อสู้ของป๋ายเสี่ยวฉุน ทำให้นางรู้สึกกริ่งเกรงไม่น้อย และความประหลาดของร่มสีดำคันนั้นก็ยิ่งทำให้นางใจสั่น ทว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
ที่สำคัญที่สุดคือวิชาแห่งมิติของนางกลับใช้ไม่ได้ผลเมื่อมาอยู่ต่อหน้า
ป๋ายเสี่ยวฉุน ดวงตาที่สามกลางหว่างคิ้วของป๋ายเสี่ยวฉุนทำให้นางรู้สึกเหมือนร่างถูกเปลือยตั้งแต่ในยันนอก
ไม่มีวิชาแห่งมิติจึงยากที่จะร่ายเวทลอบฆ่าออกมา และก็ไม่อาจอำพรางตัวให้หลุดพ้นไปได้ นี่เท่ากับตัดแขนของนางทิ้งไปหนึ่งข้าง อีกทั้งการถูกดึงดูดพลังชีวิตก่อนหน้านี้ก็ยิ่งทำให้นางอ่อนแอลงไปอีกไม่น้อย
หลังจากต้องเสียเปรียบติดต่อกันหลายครั้ง เดิมนางคิดจะยืมใช้วิชาพืชหญ้านี้สังหารป๋ายเสี่ยวฉุน แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่วิชาพืชหญ้าก็ยังถูกยับยั้งไปด้วย!
อีกทั้งนี่ไม่ใช่แค่การยับยั้งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นี่เป็นการช่วงชิงเอาสิทธิ์การควบคุมพืชหญ้าไปจากนางซึ่งๆ หน้า!
“ข้าไม่ยอม!!” นัยน์ตาทั้งคู่ของนางเวลานี้เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ตลอดทั้งร่างตกอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง นางเป็นถึงศิษย์แห่งความภาคภูมิใจของสำนักธารฟ้า หยิ่งยโสลำพองใจในตัวเองมาตลอด บดขยี้ทุกคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้หมด อีกทั้งตอนนี้ขาดอีกแค่เส้นเดียวก็สามารถเลื่อนขั้นได้เป็นยาอายุวัฒนะ ถูกฝากความหวังมหาศาล การที่ต้องมาถูกคนระดับเดียวกันกำราบได้อยู่หมัดเช่นนี้ นางไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน!
เวลานี้มองเห็นว่าพายุหมุนเข้ามาใกล้ตัวเอง หญิงสาวหัวเราะเสียงเหี้ยมโหยหวน นั่งยองลง มือทั้งคู่กดลงบนพื้นดินอย่างแรง เมื่อเงยหน้าขึ้น เส้นผมปลิวสะบัด คำรามเสียงต่ำ
“คาถาทหารไม้!”
เมื่อเสียงคำรามของนางดังออกไป เท้าทั้งคู่ของนางก็มีหนวดจำนวนนับไม่ถ้วนงอกออกมา พอหนวดเหล่านี้ปรากฏขึ้นก็ตรงดิ่งเข้าหาพื้นดิน และแผ่ขยายทอดยาวฝังลึกลงบนพื้นอย่างรวดเร็วคล้ายรากไม้!
เวลาเดียวกันนั้น มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าร่างของนางปรากฏเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นเป็นจำนวนมาก เส้นเอ็นเหล่านี้สีเข้มคล้ำ คล้ายเปลือกของต้นไม้!
ส่วนผิวพรรณของนางก็กลายมาเป็นสีน้ำตาล พลังชีวิตตลอดร่างระเบิดตูมออกในนาทีนี้ กลายร่างจากนักพรตมาเป็น…คนต้นไม้!
คาถาทหารไม้คือเวทลับที่ถ่ายทอดต่อกันมาของสำนักธารฟ้า สามารถทำให้นักพรตคนหนึ่งจำแลงกายมาเป็นคนต้นไม้ได้!
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าการควบคุมพืชหญ้านี้ เจ้าจะยังแย่งชิงไปได้!” เมื่อน้ำเสียงแหบพร่าดังออกมาจากปากหญิงสาว ร่างกายของนางก็กลายมาเป็นคนต้นไม้ขนาดยักษ์อย่างสมบูรณ์แบบ!
โดยเฉพาะรากใต้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างที่เมื่อแผ่ขยายไปเต็มพื้นดิน พลังไร้ที่สิ้นสุดของพืชหญ้าที่อยู่โดยรอบก็ระเบิดออกมาจากในผืนป่า ลั่นครั่นครืนตรงดิ่งเข้ามาหานาง
ชั่วพริบตา ร่างของนางก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเดี๋ยวเดียวก็มีขนาดประมาณร้อยจั้ง อานุภาพตลอดร่างบีบคั้นน่าเกรงขาม เมื่อมองไกลๆ ก็เหมือนกลายมาเป็นต้นมะเดื่อฟ้าจริงๆ!
ส่วนพายุหมุนที่กระโจนเข้าใส่ วินาทีที่กระทบเข้ากับนางที่กลายร่างเป็นคนต้นไม้ก็คล้ายยอมศิโรราบ เปลี่ยนมาเป็นหมุนวนไปรอบคนต้นไม้ แล้วรวมตัวเข้าด้วยกันบนกิ่งไม้ที่เป็นมือขวา กลายร่างมาเป็น…ขวานรบขนาดยักษ์หนึ่งเล่ม!
ขวานรบเล่มนี้เป็นสีเขียว เกิดจากการรวมตัวกันของพืชหญ้าจำนวนมหาศาล ชักนำพลังของพืชหญ้ารอบด้าน ทำให้พื้นที่เกือบครึ่งป่าสั่นสะเทือน ซึ่งการต่อสู้ระหว่างนางกับป๋ายเสี่ยวฉุนก็ได้ดึงดูดความสนใจจากคนมากมายอยู่นานแล้ว
“ตายซะเถอะ!!” เสียงของหญิงสาวกร้าวกระด้าง จิตสังหารพุ่งสู่จุดสูงสุด ยกมือขวาที่ถือขวานรบเล่มโตขึ้นแล้วฟันฉับเข้าใส่ป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างดุดัน
ระหว่างขั้นตอนการตวัดฟันนี้ พืชหญ้ารอบด้านส่ายไหวโอนเอน พลังของพืชหญ้าเหลือคณานับก่อตัวเข้าด้วยกัน ประหนึ่งว่าการฟันครั้งนี้มาจากพลังเกือบครึ่งของผืนป่า หมายอาศัยการลงมือของหญิงสาว ดับทำลายทุกชีวิตให้มอดม้วย!
ความรู้สึกถึงวิกฤตรุนแรงปะทุขึ้นกลางใจของป๋ายเสี่ยวฉุน รอบด้านอบอวลไปด้วยเสียงอึกทึกกึกก้อง ผนึกโลกโลหิตทนรับไม่ไหวจึงระเบิดแตกทลาย วินาทีที่ระเบิดออกนั้น บรรยากาศการสู้รบของที่นี่จึงแผ่พรวดออกไป ดึงดูดเอาสายตาของคนมากกว่าเดิมให้จับจ้องมองมา
“นั่นอาจารย์อาป๋าย!!”
“ศิษย์พี่หญิงเฉิน!!” ขณะที่นักพรตของทั้งสองฝ่ายต่างร้องอุทานแตกตื่น
ป๋ายเสี่ยวฉุนสูดลมหายใจเข้าลึก หลับตาลง มือขวายกขึ้นช้าๆ ไม่ได้ทำมุทรา หรือแม้แต่ตบะก็ยังไม่เคลื่อนโคจร ในสมองมีเพียงสิ่งเดียวที่ลอยขึ้นมา…นั่นคือปุ่มกระดูกขนาดยักษ์ที่ราวกับภูเขาหนึ่งลูก!
ขณะเดียวกันกับที่ปุ่มกระดูกนี้ลอยขึ้นมาในสมองของป๋ายเสี่ยวฉุน รอบด้านของเขาก็อบอวลไปด้วยไอน้ำ ไอน้ำนี้พริบตาเดียวก็ขยายออกไปรอบด้าน แผ่กระจายอย่างต่อเนื่อง ปกคลุมกว้างไกลมากพอรัศมีร้อยลี้
ในรัศมีร้อยลี้นี้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักสยบธารหรือสำนักธารฟ้า นักพรตทั้งสองฝ่ายล้วนตัวสั่นเยือก ความรู้สึกกดดันรุนแรงจนมิอาจพรรณนาได้ก่อตัวขึ้น ทำให้พวกเขาหายใจติดขัด
แม้แต่นักพรตยาอายุวัฒนะที่อยู่กลางอากาศเองก็ยังพากันหน้าเปลี่ยนสี!
ส่วนหญิงสาวที่แปลงกายเป็นคนต้นไม้ผู้นั้น เวลานี้ก็ใจสั่นสะท้านไม่ต่างกัน ทว่ากลับไม่มีเวลาให้คิดมาก เวลานี้สมาธิทั้งหมดมารวมกันอยู่บนขวานรบที่ตวัดฟันลงไปหาป๋ายเสี่ยวฉุนพร้อมเสียงดังตูมตาม!
ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ…
ถึงขนาดที่อาภรณ์ เส้นผมของป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยังทำท่าคล้ายจะฉีกขาดแตกทลายเพราะพลังของขวานรบที่ฟันลงมา…
วินาทีที่อยู่ห่างจากป๋ายเสี่ยวฉุนไม่ถึงสามจั้ง ดวงตาทั้งคู่ที่ปิดลงของป๋ายเสี่ยวฉุนพลันเบิกโพลง ในดวงตาของเขาไร้ประกายชีวิตชีวา ไอน้ำรอบกายเขาบัดนี้ได้ระเบิดพลังออกอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ในรัศมีร้อยลี้กลายมาเป็นบึงน้ำ!!
“เขตแดน…ธารา!” เสียงที่คล้ายพึมพำดังเนิบนาบออกมาจากปากของ
ป๋ายเสี่ยวฉุนในวินาทีเดียวกันกับที่ดวงตาทั้งคู่ของเขาเปิดขึ้น แม้เสียงนั้นจะเบา แต่กลับเป็นเหมือนการเรียกขาน ซึ่งทันใดนั้นก็มีเสียงตอบรับเป็นเสียงคำรามต่ำๆ ที่ถึงแม้จะแผ่วเบามาก ทว่าแม้แต่นักพรตก่อกำเนิดก็ยังแสดงสีหน้าตกใจ เสียงนั้นคล้ายว่าลอยมาจากยุคดึกดำบรรพ์ และก็ทั้งเหมือนถูกส่งมาจากอีกมิติหนึ่ง ระเบิดครั่นครืนอยู่ในโลกใบนี้
พื้นดินกระเทือน เสียงคำรามนี้แรกเริ่มยังแผ่วเบา ทว่าพริบตาเดียวก็สะท้านฟ้าเขย่าดิน ดังเกินเสียงอสนีบาต สะเทื้อนสะเทือนให้ทุกสรรพสิ่งในแปดทิศสั่นไหว นักพรตทุกคนตะลึงพรึงเพริด คนต้นไม้ที่กลายร่างมาจากหญิงสาวผู้นั้นก็ยิ่งตัวสั่น นัยน์ตาเผยความคาดไม่ถึง
สีหน้านี้เพิ่งจะปรากฏ ขวานรบกำลังจะร่วงลงโดน ทันใดนั้น หนามแหลมคมขนาดยักษ์ชิ้นหนึ่งก็ซ้อนทับเข้ากับร่างของป๋ายเสี่ยวฉุน แล้วผุดขึ้นทะยานสู่ฟากฟ้า!
สิบจั้ง ร้อยจั้ง พันจั้ง หมื่นจั้ง!!
พื้นดินสะเทือนเลือนลั่น หนามแหลมคมนี้โผล่ทะลุพื้นดินคล้ายจะทิ่มแทงเข้าไปในนภากาศ ท่ามกลางเสียงกัมปนาทอึกทึก หนามแหลมนี้ก็โผล่สูงถึงหมื่นจั้ง และด้านหลังของมันยังมีหนามแหลมเรียงต่อกันอีกหลายแถวโผล่ตามออกมา ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมและเมฆพัดตลบ!
ส่วนหญิงสาวที่กลายร่างเป็นคนต้นไม้ ร่างของนางยังไม่ทันได้สัมผัสโดนตัวของป๋ายเสี่วฉุนด้วยซ้ำ เมื่อหนามแหลมชิ้นหนึ่งโผล่พรวดขึ้นมา กายท่อนล่างของนางจึงถูกแทงทะลุทะลวงในพริบตาเดียว แม้แต่เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดยังถูกกลบทับไปด้วยเสียงดังกึกก้อง ร่างที่โดนเสียบถูกช้อนให้ลอยละลิ่วทะลุเข้าไปในชั้นเมฆ!!
หญิงสาวสิ้นหวัง ร่างเปลี่ยนจากคนต้นไม้คืนสภาพกลับมาเป็นนักพรต เมื่อเลือดปริมาณมากไหลทะลักทลายออกมา ประกายแสงในดวงตาจึงค่อยๆ มืดสลัว ลมหายใจรวยริน!
ท่ามกลางคลื่นบนพื้นดินและไอน้ำขมุกขมัว คล้ายจะมองเห็นได้รำไรว่าเบื้องใต้หนามแหลมปริมาณมากเหล่านี้มี…เรือนกายใหญ่โตมโหฬารปรากฏอยู่!
เพียงแต่ว่าเรือนกายนี้ใหญ่เกินไป ขนาดรัศมีร้อยลี้ก็ยังไม่สามารถบรรจุร่างของมันได้หมด ทำให้ทุกคนมองไม่ออกว่านี่คือ…ร่างของสุดยอดสัตว์ที่มีลักษณะแบบใดกันแน่!
เมื่อเปรียบเทียบกับมันแล้ว ท่ามกลางหนามคมกริบมากมาย หญิงสาวที่ถูกเสียบอยู่บนปลายหนามแหลมชิ้นหนึ่งจึงเล็กกระจิดริดจนไม่มีค่าพอให้พูดถึง…
ภาพนี้ทำให้นักพรตสองฝ่ายที่อยู่ในผืนป่ามองตาค้างอ้าปากกว้าง ยังดีที่ไม่ได้ดำรงอยู่นานนัก ตลอดทั้งขั้นตอนนี้ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วลมหายใจ หลังจากสัตว์ขนาดยักษ์ที่อยู่ในเขตแดนธาราส่งเสียงคำรามหนึ่งครั้ง เงาร่างของมันก็ค่อยๆ จางหาย
ไอน้ำก็สลายไปไร้ร่องรอย เมื่อทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ เมื่อความรู้สึกกดดันเบาบางลง ร่างของหญิงสาวผู้นั้นร่วงลงมาจากกลางอากาศดังตุบ นอนกองอยู่ด้านหน้า
ป๋ายเสี่ยวฉุน
เลือดสดไหลซึม พลังชีวิตตลอดทั้งร่างของหญิงสาวแทบจะหมดสิ้น ท่ามกลางรอยยิ้มขมขื่น ดวงตาของนางที่แฝงไว้ด้วยความดุร้ายจ้องเขม็งไปยังป๋ายเสี่ยวฉุน คล้ายพยายามใช้พลังทั้งหมดที่มีอ้าปากออกเพื่อสาปแช่งป๋ายเสี่ยวฉุน
ทว่าริมฝีปากทั้งคู่ของนางยังไม่ทันอ้าออกจากกัน ป๋ายเสี่ยวฉุนสะบัดปลายแขนเสื้อหนึ่งครั้ง กระบี่โลหิตที่รวมตัวกันขึ้นจากเลือดของผู้อาวุโสซึ่งลอยอยู่ไม่ห่างพลันพุ่งพรวดเข้ามา แล้วฟันฉับลงไปที่ศีรษะของหญิงสาวอย่างเหี้ยมโหด!
ศีรษะปลิวกระเด็น หญิงสาวเบิกตากว้าง ความไม่ยินยอมในดวงตาค่อยๆ สลัวราง ดับสลายทั้งกายและจิต!
กระบี่โลหิตสลายตัวออกจากกัน…
เป็นอย่างที่ป๋ายเสี่ยวฉุนกล่าวไว้ เขาต้องการปลิดชีวิตของหญิงสาวด้วยกระบี่เล่มนี้ ใช้เลือดชำระเลือด!
ท่ามกลางความเงียบงัน ป๋ายเสี่ยวฉุนเก็บถุงเก็บของของหญิงสาวมา ในใจถอนหายใจแผ่วเบา ขณะที่กำลังจะหมุนตัวจากไป ทว่าเวลานี้เอง เสียงคำรามรวดร้าวอาดูรพลันดังมาจากกลางอากาศที่ห่างออกไปไกล
“ศิษย์น้องถง!!”