Skip to content

A Will Eternal 669

A Will Eternal
BC

บทที่ 669 ก่อกำเนิดวิถีฟ้า

ก่อกำเนิดวิถีฟ้านั้น…ยากเกินไป!

C

ความยากไม่ได้อยู่ที่แค่ต้องใช้วิญญาณคนฟ้าห้าดวง แต่วิญญาณทั้งห้าดวงนี้ยังต้องมีธาตุไม่ซ้ำกันด้วย จำเป็นต้องรวบรวมให้ครบทั้งธาตุทอง ไม้ น้ำ ดิน ไฟ และนี่ก็ยิ่งทำให้ความยากเพิ่มมากขึ้น

เพราะอย่างไรซะในแผ่นดินใหญ่ทงเทียน วิญญาณคนฟ้าก็มีน้อยยิ่งกว่าน้อย ทว่าป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็ต้องเรียกว่าดวงดีมากถึงได้เดินมาจนถึงก้าวนี้ สำนักธาราเทพมอบให้เขาหนึ่งดวง ตู้หลิงเฟยมอบให้เขาหนึ่งดวง สองดวงนี้จึงยังไม่ต้องพูดถึง ทว่านับตั้งแต่ดวงที่สามเป็นต้นมา ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปอย่างมหาศาล

เพื่อวิญญาณคนฟ้าดวงที่สาม เขาเกือบตายอยู่ในตำหนักใต้ดิน อีกทั้งยังถูกส่งมาที่แดนทุรกันดาร และเพื่อวิญญาณคนฟ้าดวงที่สี่ เขาก็ถึงกับยอมล่วงเกินตระกูลป๋าย เสี่ยงภัยเฉียดตายไม่ต่างกัน!

ส่วนวิญญาณคนฟ้าดวงสุดท้ายนี้ เขาเองก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างน่าเวทนากว่าจะได้มาครอง

ตอนนี้หลังจากที่ผสานวิญญาณคนฟ้ากลายมาเป็นร่างจำแลงทั้งห้า

ป๋ายเสี่ยวฉุนย้อนนึกภาพเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอมาก็รู้สึกหวาดผวาไม่คลาย เขามองร่างจำแลงทั้งห้าที่อยู่รอบกายพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึก ในสมองมีภาพวิธีการเลื่อนขั้นเป็นก่อกำเนิดวิถีฟ้าซึ่งเขียนไว้บนศิลาหินในเขาวงกตลอยขึ้นมา

“ผสานร่างจำแลงทั้งห้ารวมเป็นหนึ่งกับตัวจริง…ก็จะฝ่าจากยาอายุวัฒนะ เหยียบเข้าสู่ก่อกำเนิด!” ป๋ายเสี่ยวฉุนหลับตาทั้งคู่ลง เรื่องนี้สำคัญสำหรับเขาอย่างยิ่งยวด ดวงตาทั้งคู่จึงฉายประกายเด็ดเดี่ยว

“ทอง ไม้ ไฟ น้ำ ดิน ผสานร่างทองก่อน!” ตบะในร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนพลันแผ่ออกมา คลื่นยาอายุวัฒนะขั้นสมบูรณ์แบบระลอกหนึ่งปะทุออกมาจากในร่าง ยาสีทองกลิ้งซัดดังครืนๆๆ ก้องไปทั่วห้องลับ นัยน์ตาป๋ายเสี่ยวฉุนที่โชนแสงคมกล้ามองไปยังร่างจำแลงวิญญาณคนฟ้าธาตุทองที่อยู่ข้างกาย

ยามนี้ร่างจำแลงทองก็เงยหน้ามองมาทางตัวจริงเช่นกัน ก่อนจะสะบัดร่างกลายเป็นรุ้งยาวสีทองเส้นหนึ่งที่พุ่งเข้าหาหว่างคิ้วร่างจริงของป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างไร้ซึ่งความลังเล

ตอนที่เข้ามาใกล้ก็ค่อยๆ กระจายตัวออกอย่างต่อเนื่องทำให้แสงสีทองเจิดจ้าขึ้นมาในชั่วพริบตาแล้วหายวับเข้าไปในหว่างคิ้วของป๋ายเสี่ยวฉุน ชั่วขณะที่ผสานรวมก็กลายมาเป็นพลังทองบริสุทธิ์ของห้าธาตุซึ่งแผ่ไปทั่วร่างป๋ายเสี่ยวฉุน

ในสมองของป๋ายเสี่ยวฉุนพลันมีเสียงดังกึกก้อง ร่างของเขาสั่นสะท้าน สัมผัสได้ถึงพลังธาตุทองที่ไหลวนไปทั่วร่างหนึ่งรอบ ก่อนที่มันจะพุ่งไปหายาสีทองของเขา ทว่าไม่ได้กระแทกเข้าใส่ แต่ลอดทะลุเข้าไปในตัวยาแล้วหายวับไปภายใน

ยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนสั่นระริกทันใด ปราณแห่งความลี้ลับซับซ้อนแผ่ซ่านออกมาจากยาเม็ดนี้ ปราณนั้นแฝงเร้นไว้ด้วยพลังชีวิตที่เข้มข้นซึ่งราวกับส่งผลกระทบต่อทั่วร่างของป๋ายเสี่ยวฉุน ทำให้เกิดการแปรสภาพที่น่าเหลือเชื่อบางอย่าง

ทั้งยังมีอักขระสีทองจำนวนมากปรากฏรอบยาอายุวัฒนะแล้วหมุนล้อมวนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใบหน้าของป๋ายเสี่ยวฉุนในเวลานี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์อย่างที่บรรยายไม่ถูก!

ทว่าผ่านไปไม่นานนัก ด้านนอกยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนก็มีอักขระสีทองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันปณิธานแห่งความเหี้ยมเกรียมดุดันก็ระเบิดตูมออกมาจากในยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุน

ราวกับว่าภายใต้สถานการณ์ที่ห้าธาตุมีเพียงพลังของธาตุทองนี้ พลังธาตุทองจึงรุนแรงเกินไป พอมันระเบิดออกก็เหมือนจะทำให้ยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนระเบิดแหลกสลายตามไปด้วย!

หรือแม้แต่เส้นชีพจรในร่างของเขายามนี้ก็ยังถูกเติมเต็มไว้ด้วยพลังธาตุทอง ร่างกายจึงเหมือนจะแบกรับไม่ไหว กำลังจะถูกธาตุทองดันให้แตกตัว!

หากสยบไว้ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นป๋ายเสี่ยวฉุนก็ต้องตายอย่างมิต้องสงสัย ตายอย่างไม่มีสิ่งใดหลงเหลือไม่ว่าจะเป็นเรือนกายหรือจิตวิญญาณ!

เมื่อวิกฤตนี้เกิดขึ้น ป๋ายเสี่ยวฉุนจึงลืมตาโพลง ดวงตาที่ฉายแสงคมกริบหันไปมองยังร่างจำแลงไฟ!

“เหลวชนะแข็ง ไฟพิชิตทอง!” ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามกร้าว ทันใดนั้นดวงตาของร่างจำแลงไฟก็โชนแสงลุกเรือง ตลอดทั้งร่างลุกไหม้ติดไฟ กลายมาเป็นทะเลเพลิงสีแดงฉานที่พุ่งตรงเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุนแล้วผสานเข้าไปกลางหว่างคิ้ว เวลาแค่พริบตาเดียวก็กระจายไปทั่วร่างของป๋ายเสี่ยวฉุน

ภายใต้การเผาไหม้ของเปลวไฟนี้ พลังธาตุทองจึงเหมือนถูกกำราบให้นิ่งสงบไปในทันที เมื่อพลังธาตุไฟไหลวนไปทั่วร่างจนพิชิตธาตุทองไว้ได้แล้ว ธาตุไฟก็พุ่งจากสี่ด้านแปดทิศเข้าไปหายาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุน

เสียงตูมตามดังอึกทึก ทะเลเพลิงที่แปลงมาจากพลังไฟล้อมวนอยู่นอกยาอายุวัฒนะในชั่วพริบตาแล้วพุ่งเข้าไปข้างในยาอายุวัฒนะทันทีโดยไม่มีหยุดชะงัก อักขระสีทองที่อยู่รอบด้านเปล่งประกายวิบวับ พลังธาตุทองที่อยู่ด้านในถูกสยบด้วยพลังไฟจนมิอาจสร้างอันตรายใดๆ ให้กับยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนได้อีก

แต่ก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าพลังทองจะถูกสยบจนไม่เกิดอันตราย ทว่าการระเบิดของพลังไฟก็ทำให้ยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนปริแตก

วิกฤตยังไม่คลี่คลาย พริบตาเดียวยาอายุวัฒนะก็กลายมาเป็นยาไฟ ความร้อนสูงอบอวลไปทั่วจนร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนโซมไปด้วยเหงื่อ ดั่งในร่างผนึกทะเลเพลิงเอาไว้ หากระเบิดออกมาเมื่อไหร่ย่อมเผาทำลายสรรพสิ่งรอบด้านให้วอดวาย

ความรู้สึกถึงวิกฤตไม่เพียงแต่ไม่ลดลง กลับยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ทว่าสีหน้าของป๋ายเสี่ยวฉุนยังคงนิ่งสงบ เขารู้ว่าตอนนี้ตนจะลนลานไม่ได้ ทุกอย่างล้วนต้องดำเนินไปตามขั้นตอนอย่างเข้มงวด เขาจึงคำรามหนึ่งครั้งแล้วหันไปมองร่างจำแลงน้ำทันที!

“มากชนะน้อย น้ำพิชิตไฟ!”

เสียงตูมดังหนึ่งครั้ง ร่างจำแลงน้ำของป๋ายเสี่ยวฉุนก็กลายมาเป็นแสงสีฟ้าหนึ่งเส้น เมื่อมองอย่างละเอียดจะเห็นได้ว่าในแสงสีฟ้านั้นคล้ายมีหยดน้ำสีฟ้าอยู่หนึ่งหยด แม้จะมีเพียงแค่หยดเดียว

ทว่ากลับเหมือนมีน้ำไร้ที่สิ้นสุดไหลไปหาหว่างคิ้วของป๋ายเสี่ยวฉุนแล้วหายวับไปด้านใน

ประหนึ่งสาดน้ำเย็นลงไปบนเหล็กสีแดงร้อนฉ่า พลังน้ำกระจายไปทั่วร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนเพื่อสยบพลังไฟ ขณะเดียวกันก็ตรงเข้าหายาไฟ ก่อนจะหลอมละลายเข้าไปด้านใน ทว่าต่อให้ระงับพลังไฟไว้ได้แล้ว วิกฤตก็ยังคงมีอยู่ดังเดิม!

การระเบิดของพลังน้ำทำให้ร่างทั้งร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนเหมือนจะหลอมละลาย ราวกับว่าอวัยวะภายในทุกชิ้นกำลังจะเปลี่ยนมาเป็นบ่อน้ำบ่อหนึ่ง

การกัดกร่อนเช่นนั้น ความเจ็บปวดเช่นนั้นทำให้ดวงตาป๋ายเสี่ยวฉุนแข็งค้างกลายเป็นสีแดงก่ำ ลมหายใจของเขาถี่รัว พลันคำรามก้อง

“จริงชนะลวง ดินพิชิตน้ำ!”

เสียงยังคงดังสะท้อนร่างจำแลงดินก็หายวับไปในพริบตา เสียงตูมตามดังไม่ขาดหาย ร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนสั่นเทิ้มไม่หยุด ดวงตายิ่งแดงราวสีเลือด ธาตุดินระเบิดไปทั่วร่าง ขณะที่ร่างของเขากำลังจะกลายมาเป็นผืนแผ่นดิน เสียงของเขาก็ดังออกมาอีกครั้ง

“รวมชนะแยก ไม้พิชิตดิน!”

เสียงครืนครั่นดังอยู่ในกาย เมื่อธาตุไม้ผสานรวมเข้ามา ในร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนก็มีพลังห้าธาตุอยู่ครบถ้วน ตอนนี้เมื่อพลังดินถูกสยบ พลังไม้ระเบิดออก ยาอายุวัฒนะของเขาจึงกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วคล้ายจะกลายมาเป็นยาไม้เม็ดหนึ่ง

ทว่าป๋ายเสี่ยวฉุนกลับยังคงมีสมาธิดีเยี่ยม อีกทั้งนัยน์ตาของเขายังเผยแววรอคอยมากล้น ก่อนจะแผดเสียงตะโกนอีกครั้ง

“แข็งชนะอ่อน ทองพิชิตไม้!”

วินาทีที่ประโยคนี้ดังออกมา พลังทองในยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนที่ถูกสยบไปก่อนหน้านี้ก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ธาตุไม้ที่เมื่อครู่เป็นฝ่ายได้เปรียบถูกกำราบไปในทันที ทว่าพริบตาเดียวเมื่อพลังธาตุทองลุกผงาดก็เจอการกำราบจากธาตุไฟ จากนั้นไฟก็ถูกน้ำพิชิต น้ำถูกดินสยบ ดินถูกไม้ปราบ…

ทั้งหมดนี้กลายมาเป็นวงโคจรอย่างหนึ่ง โดยมียาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนเป็นภาชนะแบกรับ แล้วเริ่มทำการหมุนเวียน ภายใต้การหมุนเวียนนี้ ห้าธาตุผสานอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ขาดไปแม้แต่ธาตุเดียว!

นี่…ก็คือสาเหตุที่การก่อกำเนิดวิถีฟ้าจำเป็นต้องใช้วิญญาณคนฟ้าห้าธาตุ หากมีวิญญาณคนฟ้าไม่ครบห้าธาตุ ขาดธาตุใดไปธาตุหนึ่งหรือขาดไปสี่ธาตุก็ล้วนทำให้คนที่ทดลองจะฝ่าทะลุขั้นดับสลายมลายสูญ!

มีเพียงห้าธาตุครบถ้วนเท่านั้นถึงจะทำให้เกิดวงจรที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้!

หลังจากการหมุนเวียนนี้โคจรครบเก้ารอบแล้ว ป๋ายเสี่ยวฉุนก็เงยหน้าแผดเสียงคำรามสะท้านฟ้าดิน ท่ามกลางเสียงคำรามนี้ตบะของเขาไต่ทะยานขึ้นสูงด้วยความเร็วที่น่าหวาดกลัว พร้อมกับยาอายุวัฒนะที่แตกออกดังโพล๊ะ และด้านในยาอายุวัฒนะที่แตกออกก็ปรากฏให้เห็นเป็น…คนตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างไม่มีผิดเพี้ยน!

คนตัวเล็กนี้ก็คือทารกที่ถือกำเนิดขึ้นมา!

ยามนี้มันกำลังหลับตา ทั่วร่างเปล่งแสงห้าสี พลังธาตุทั้งห้าไหลวนอยู่ในร่างของมันอย่างสมบูรณ์แบบ ปราณระลอกหนึ่งที่เหมือนจะเขย่าคลอนนภากาศผุดขึ้นมาจากบนร่างของทารกนี้อย่างต่อเนื่อง ปะทุออกมาไม่ขาดสาย

เวลานี้หากมีนักพรตก่อกำเนิดคนอื่นๆ มาเห็นเข้าต้องร้องอุทานเสียงหลงแน่นอน เพราะทารกที่ถือกำเนิดโดยการใช้ยารวมกำเนิดจะถูกเรียกว่าทารกสามัญ ไม่เพียงแต่พร่าเลือน ทั้งยังขุ่นมัว เทียบได้กับคนธรรมดาทั่วไป

แต่ทารกที่ถือกำเนิดโดยใช้วิญญาณสัตว์ฟ้าจะไม่พร่าเลือน แล้วก็ไม่ขุ่นมัว แต่ที่สำคัญที่สุดคือจะก่อตัวขึ้นจากธาตุใดธาตุหนึ่งอย่างทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน โดยดูจากพรสวรรค์และวิชาการฝึกตนของแต่ละบุคคลถึง ก่อนที่ธาตุนั้นจะกลายมาเป็นแสงวิเศษที่ล้อมพันไปทั่วร่าง

นี่ถือว่าเป็นขีดสุดแล้ว มีเพียงทารกก่อกำเนิดวิถีฟ้าเท่านั้นถึงจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ไม่เพียงแต่โปร่งใสแวววาว ที่สำคัญที่สุดคือเกิดมาก็มีแสงวิเศษห้าธาตุอย่างสมบูรณ์แบบ แสงวิเศษห้าธาตุนี้ก็คือแสงแห่งชีวิต ไม่เพียงแต่นับจากนี้จะไม่ถูกวิชาห้าธาตุใดๆ สยบ ที่น่าตะลึงยิ่งกว่านั้นก็คือหากแผ่พลังออกมาก็สามารถสยบทุกทารกที่ก่อกำเนิดขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นทารกสามัญหรือวิญญาณสัตว์ฟ้าก็ล้วนถูกพิชิตทั้งหมด!

นี่ทำให้เวลาที่นักพรตขอบเขตเดียวกันที่ประมือกับก่อกำเนิดวิถีฟ้าจะอ่อนแอกว่าถึงสามส่วน หากเป็นพวกที่ไม่มีสติปัญญาและจิตใจที่แข็งแกร่งมากพอ ทารกในกายก็จะตัวสั่น มิอาจโคจรตบะได้

ก่อกำเนิดเช่นนี้…แทบไม่มีอยู่จริง!

นี่…ก็คือก่อกำเนิดวิถีฟ้า!

ท่ามกลางเสียงกัมปนาท ทารกที่ถือกำเนิดขึ้นมาเบิกตาโพลง วินาทีที่ดวงตาทั้งคู่เปิดขึ้น ท้องฟ้านอกนครผียักษ์พลันมีเสียงอสนีบาตดังกังวานสะเทือนไปยันเก้าชั้นฟ้า

เปรี้ยง…

เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ทารกในกายของป๋ายเสี่ยวฉุนพลันแผ่ปราณวิถีฟ้าอันไพศาลออกมาขานรับกับเสียงฟ้าคำรณ เขย่าคลอนแปดทิศ

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!