Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 324

ตอนที่ 324

การแบ่งเขตของดินแดนสีดำ

เมิ่งฮ่าวนั่งหลับตาขัดสมาธิอยู่ในถ้ำแห่งเซียน นิ้วมือข้างขวากดลงไปบนพื้นดิน จิตสัมผัสของเขาตอนนี้หลอมรวมเข้ากับปราณอสูรของภูเขา ไม่เพียงแต่จิตสัมผัสจะมีระยะทางกว้างไกลออกไปเท่านั้น แต่เขายังสามารถสร้างกายทิพย์ที่แข็งแกร่งได้มากขึ้นกว่าเดิม

หลัวชงแห่งดินแดนสีดำ และหญิงสาวจากทะเลทรายตะวันตก อยู่ที่ตรงหน้าของพื้นที่การมองเห็นของเมิ่งฮ่าว โลกที่เบื้องหน้าเขากำลังกระจายเป็นระลอกคลื่นอันเลือนลาง ทั้งอากาศและผืนดิน ราวกับว่ามันเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

หลัวชงและผู้ฝึกตนอีกสี่คนก็มีเงาร่างที่เลือนลางเป็นระลอกคลื่นด้วยเช่นกัน สำหรับหญิงสาวที่งดงามนางนั้น ทันทีที่ผีเสื้อของนางกระพือปีกบินออกมา ก็เริ่มมองเห็นนางได้ชัดขึ้นในทันที

เมิ่งฮ่าวมองไปยังนาง และในเวลาเดียวกันนั้น นางก็มองกลับมาที่เขา

สำหรับหญิงสาว นางไม่ได้มองเห็นเมิ่งฮ่าวมีรูปร่างเป็นคน แต่เป็นภาพภูเขาที่เลือนลาง!

เป็นภูเขาที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็กระจายเจตจำนงอันโอ่อ่าและทรงพลังออกมา พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เป็นแรงกดดันที่ทำให้ใบหน้านางเปลี่ยนไป

“อสูร…” ดวงตานางแวบขึ้นและม่านตาก็หดเล็กลง

“ข้าคือตั่วหลันจากทะเลทรายตะวันตก ข้าไม่มีเจตนาจะรุกรานท่าน, เจ้าอสูร…” เสียงของนางแผ่วเบาและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เมิ่งฮ่าวไม่ได้กล่าวตอบ เขามองไปที่นางโดยละเอียดสักพัก โดยเฉพาะภาพศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนหน้าผากของนาง

หลังจากนั้นภาพของภูเขาก็จางหายไปจากสายตาของหญิงสาว หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ร่างของนางสั่นสะท้าน และดวงตาก็สาดประกายด้วยแสงเจิดจ้า นางเริ่มหายใจอย่างหนักหน่วง ทำให้หน้าอกของนางสั่นกระเพื่อม กลายเป็นแรงดึงดูดความสนใจของหลัวชง

“ตั่วหลันเซียนจื่อ” มันกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น?”

มันมองเห็นใบหน้านางค่อนข้างซีดขาว ไม่เพียงแต่มันที่สังเกตเห็น บุคคลทั้งสี่ที่อยู่ด้านหลังก็มองเห็นด้วยเช่นกัน

“ไม่มีอะไร” นางกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้ม รีบระงับสติให้เยือกเย็นลงอย่างรวดเร็ว แต่ท่าทางหวาดกลัวก็ยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในดวงตาของนาง

ในเวลาเดียวกันนั้น ในถ้ำแห่งเซียนของภูเขาเตี้ย เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้น สองตาสาดประกายเจิดจ้า ขณะที่ยกมือขึ้นมามองลงไปยังสองนิ้วของเขา

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเข้าไปสู่ขอบเขตนี้และได้เห็น…พลังของภาพศักดิ์สิทธิ์ ราวกับว่ามันมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับอสูร!”

ท่าทางครุ่นคิดปรากฎขึ้นในดวงตา ในอดีตที่ผ่านมา เขาเคยศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับรูปแบบของภาพศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่อาจได้ข้อสรุปใดๆ แต่หญิงสาวเมื่อครู่นี้ได้ใช้พลังของภาพศักดิ์สิทธิ์ และสามารถรับรู้เขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงปราณอสูรจากรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ของนาง

“น่าสนใจนัก” เขาคิด หลับตาลงอีกครั้ง

เวลาผ่านไปไม่นานนัก ก่อนที่หลัวชง, ตั่วหลันและอีกสี่คนเข้ามาใกล้กับกลุ่มผู้ฝึกตนของเมิ่งฮ่าว

การใกล้เข้ามานี้ทำให้ผู้ฝึกตนในบริเวณนั้นมองขึ้นไปยังพวกมัน  ทันทีที่กลุ่มผู้ฝึกตนมองเห็นหน้ากากสีทองของหลัวชง และสองผู้ฝึกตนชุดเขียวด้านหลังมัน รวมถึงผู้ฝึกตนจากทะเลทรายตะวันตก ใบหน้าของพวกมันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเลื่อมใสขึ้นในทันที

ในดินแดนสีดำมีสองขั้วอำนาจที่ยิ่งใหญ่ซึ่งคล้ายกับอาณาจักร หนึ่งเป็นโม่ถู่กง (ราชวังดินแดนสีดำ) อีกหนึ่งก็คือจิ่วเหมิง (เก้าสหพันธ์)

จิ่วเหมิงเป็นกลุ่มของเมืองที่เป็นพันธมิตรร่วมกัน ถูกควบคุมโดยตระกูลผู้ฝึกตนที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองขั้วอำนาจนี้ โม่ถู่กงน่ากลัวมากที่สุด ผู้ฝึกตนของพวกมันจะสวมใส่หน้ากาก ใช้สีในการบ่งชี้ถึงระดับพื้นฐานฝึกตนของพวกมัน

หน้ากากสีฟ้าเป็นตัวแทนของสร้างแกนลมปราณ, หน้ากากสีเงินเป็นตัวแทนของวิญญาณแรกก่อตั้ง, หน้ากากสีทองเป็นตัวแทนของเต้าจื่อ

โม่ถู่กงมีกฎบังคับใช้ในดินแดนสีดำ เป็นการบ่งบอกว่ามันเป็นกลุ่มที่ทรงพลังอันดับหนึ่ง และเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า กลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากทะเลทรายตะวันตก เนื่องจากเช่นนั้น แม้แต่สำนักในดินแดนด้านใต้ก็เกรงกลัวโม่ถู่กง

เต้าจื่อจากโม่ถู่กงก็เหมือนกับผู้ถูกเลือกแห่งสวรรค์ เพียงมันพูดแค่คำเดียว ก็สามารถตัดสินความเป็นตายของผู้ฝึกตนเหล่านี้ได้ มันคือสวรรค์ ผู้ฝึกตนเหล่านี้ไม่มีอะไรนอกจากเป็นแมลงตัวเล็กๆ

นกแก้วเงยหน้าของมันขึ้น มองไปยังกลุ่มคนที่บินอยู่ในท้องฟ้าด้วยความดูถูก ด้านข้างมัน ผีโต้งมีสีหน้าเคร่งขรึม “คนพวกนี้ไร้ศีลธรรมนัก” มันพึมพำ “พวกมันชั่วร้ายยิ่ง…”

ตรงกลางอากาศด้านบน สายตาหลัวชงกวาดผ่านกลุ่มคน และมันก็แค่นเสียงเย็นชาออกมาในทันที

เสียงของมันตกกระทบไปที่กลุ่มผู้ฝึกตน รู้สึกราวกับว่าเป็นเสียงที่มีโทสะของจักรพรรดิ์ ทำให้พวกมันทั้งหมดก้มหน้าลงและโขกศีรษะให้อย่างเงียบๆ

เมื่อได้เห็นเช่นนี้ ก็ทำให้แววตาหลัวชงเต็มไปด้วยความพึงพอใจ มันมองมายังตั่วหลันผู้งดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ

“ตั่วหลันเซียนจื่อ, ท่านกำลังค้นหาอะไรกันแน่?” มันกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“พวกเรามีสาขาเล็กๆ ของผู้ฝึกตนอยู่ที่นี่ ข้าสามารถบอกให้พวกมันค้นหาให้ ไม่ว่าท่านต้องการอะไรก็ตาม” จากคำพูดของมัน เห็นได้ชัดว่ามันมองเห็นผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านล่างไม่มีอะไรนอกไปจากเป็นแมลงตัวเล็กๆ

คิ้วอันสวยงามของตั่วหลันขมวดขึ้นเล็กน้อย และนางมีท่าทางลังเล นางคิดเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งนางปรารถนาจะหาเป็นทำเลที่ตั้ง และการมีผู้คนที่คุ้นเคยกับพื้นที่แห่งนี้ ก็จะช่วยนางเป็นอย่างมาก แต่ในขณะที่นางกำลังจะพยักหน้าตอบตกลง ดวงตานางจู่ๆ ก็หดเล็กลง นางเพิ่งจะเห็นว่าในท่ามกลางสถานที่แห่งนี้มีภูเขาเตี้ยๆ อยู่

จากการมองเพียงแวบแรก ภูเขาลูกนี้ดูเหมือนจะแปลกตาสำหรับนาง แต่พอมองเป็นครั้งที่สอง นางก็รู้สึกถึงสิ่งแปลกๆ ที่ทำให้นางต้องคิดย้อนกลับไปยังอสูรที่นางเพิ่งจะพบเห็นมา…

หลัวชงเห็นางมองไปยังภูเขาลูกนั้น มันเหลือบมองไปอย่างผ่านๆ ก่อนที่สายตาของมันจะตกกระทบไปที่บึงยา ทันทีที่มันมองเห็น ดวงตาก็หดแคบลง และมันก็พุ่งตรงไปผ่านกลุ่มคน ร่อนลงไปที่ด้านข้างของบึงยาในทันที

มันกวักน้ำขึ้นมาและตรวจสอบ จากนั้นดวงตาของมันก็ส่องประกายเจิดจ้า

“นี่คือบึงน้ำยาตามธรรมชาติ! ระดับความเข้มข้นของมันช่างน่ามหัศจรรย์นัก เป็นความเข้มข้นสูงสุด!”

มันหัวเราะเสียงดังออกมา ไม่สนใจสีหน้าโกรธเคืองของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ มันโบกสะบัดมือขวา ปรากฎเป็นขวดหยกขึ้นในมือ ซึ่งมันเตรียมจะบรรจุน้ำในบึงยานี้เข้าไป

“ถ้าข้านำก้อนศิลาในบริเวณนี้ไป” มันคิด “ข้าก็สามารถนำบึงน้ำนี้ไปวางอยู่ในราชวังได้!” ดูเหมือนว่าการนำหญิงสาวที่งดงามนี้มา กำลังได้ชดเชยกลับมาทั้งหมดแล้ว

เพียงชั่วพริบตา ขวดหยกก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ น้ำในบึงเริ่มเคลื่อนไหว และจากนั้นก็ไหลพุ่งตรงไปยังขวดหยก ผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคนในพื้นที่แห่งนี้เริ่มมีโทสะมากขึ้นเรื่อยๆ ยากที่จะบอกว่าใครเป็นคนแรก แต่พวกมันทั้งหมดก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ดวงตาสาดประกายด้วยความเกลียดชัง ผู้ฝึกตนดินแดนสีดำโดยเนื้อแท้แล้วก็โหดร้ายและป่าเถื่อนเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นใครบางคนมาขโมยสิ่งที่ใช้เพิ่มพลังฝึกตนของพวกมันอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ก็ทำให้ความเลื่อมใสของพวกมันเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งขึ้นมาในทันที

“พวกเจ้าช่างบังอาจนัก!” หลัวชงพูดขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา

“ข้าคือเต้าจื่อ และข้าก็ชอบบึงยานี้ ซึ่งเป็นโชคของบึงน้ำนี้ รวมถึงพวกเจ้าด้วย ถ้าข้าไม่จำเป็นต้องให้พวกเจ้าช่วยตั่วหลันเซียนจื่อแล้วละก็ ด้วยท่าทางของพวกเจ้าเมื่อครู่นี้ ข้าก็จะสังหารให้ตกตายไปทั้งหมด!”

ทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากของมัน เสียงอันเยือกเย็นก็ดังก้องออกมาจากภายในของภูเขาเตี้ย

“พวกมันอาจจะบังอาจ แต่นิสัยของเจ้ามันแย่มาก”

เสียงที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ทำให้หลัวชงหันร่างไปในทันทีด้วยแววตาจดจ่อ สองผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าดินแดนสีดำ พุ่งลงมาจากด้านบน ปรากฎกายอยู่ด้านข้างมัน ดวงตาของพวกมันแวบขึ้น พวกมันได้ทำการค้นหาทั่วทั้งภูเขาด้วยจิตสัมผัส

แต่ก็ไม่อาจตรวจพบใครอยู่ด้านใน เสียงที่ไม่คาดคิดนี้ทำให้พวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในทันที

ขณะที่เสียงของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไป เขาโน้มตัวลงและสัมผัสพื้นดินด้วยนิ้วหนึ่งนิ้ว พื้นดินสั่นสะเทือน และปราณอสูรจำนวนมากมายก็เลื้อนขึ้นมาจากพื้นดิน พวกมันกระจายออกไปจากภูเขา และเริ่มรวมตัวกันอยู่บนยอดเขา

ไม่มีใครสามารถมองเห็นปราณนี้ได้ ไม่แม้แต่หลัวชงและผู้ติดตามของมัน สิ่งเดียวที่พวกมันสัมผัสได้ก็คือความรู้สึกถึงอันตรายอย่างน่ากลัว ผู้ฝึกตนสองคนจากทะเลทรายตะวันตก ตรงข้ามกัน เช่นเดียวกับตั่วหลัน ที่สามารถมองเห็นปราณนี้ได้อย่างชัดเจน ใบหน้าพวกมันเปลี่ยนไป ขณะที่ปราณจำนวนมากมายเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างของภูติผี

ร่างภูติผีนั้นดูเหมือนจะสวมใส่ชุดสีดำ ไม่อาจมองเห็นโฉมหน้าได้อย่างชัดเจน แต่ขณะที่มันยืนอยู่ที่นั่น ก็ดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับภูเขา ราวกับว่ามันเป็นภูเขา และภูเขาก็เป็นมัน

ตั่วหลันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเดียวกับที่นางได้รับจากก่อนหน้านี้

นางมองไปรอบๆ และตระหนักว่าผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคนทั้งหมด มีท่าทางเคารพเทิดทูนอยู่บนใบหน้า พวกมันไม่ได้โขกศีรษะให้กับภูเขาเตี้ย แต่ภาพตรงหน้านี้ ทำให้นางนึกไปถึงสิ่งที่เคยเห็นในชนเผ่าของทะเลทรายตะวันตก

สมาชิกของชนเผ่านั้นต่างก็เคารพนอบน้อมต่อภาพศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังมากที่สุดของชนเผ่าอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกมันได้ครอบครองพลังของภาพศักดิ์สิทธิ์…สิ่งที่นางกำลังมองเห็นอยู่ในตอนนี้เป็นแค่ขั้นเริ่มต้นของพิธีการเช่นนั้น

ทันใดนั้น ภูติผีสีดำที่บนยอดเขาเตี้ยก็เคลื่อนไหว รวมรวมปราณอสูรในพื้นที่บริเวณนั้น และพุ่งตรงมายังหลัวชงและอีกสองคนที่อยู่ข้างกายมัน ถึงแม้พวกมันไม่อาจจะมองเห็น แต่พวกมันก็สามารถรู้สึกได้ถึงอันตราย และล่าถอยไปด้วยความตกใจ

แต่ความรวดเร็วในการหลบหนีของพวกมัน ก็ไม่อาจจะเปรียบเทียบได้กับความว่องไวของภูติผีสีดำ ขณะที่พวกมันกำลังจะปะทะกัน ใบหน้าตั่วหลันก็บิดเบี้ยว นางไม่อาจปล่อยให้เต้าจื่อของโม่ถู่กงต้องตายไปต่อหน้านาง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของนางเป็นอย่างมาก นางยกมือขวาขึ้น และจากนั้นก็โบกสะบัดนิ้ว ผีเสื้อบนหน้าผากนางบินออกมา พุ่งตรงไปยังหลัวชงและคนอื่นๆ อย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกันนั้น สองผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างแหบแห้งออกมา ภาพศักดิ์สิทธิ์ของหมียักษ์รวมตัวกัน คำรามออกมาขณะที่มันพุ่งตรงไป หลังจากนั้นก็เป็นพญาคชสารวิ่งอุ้ยอ้ายตรงไปเช่นกัน

ในชั่วพริบตา ภาพภูติผีซึ่งเมิ่งฮ่าวสร้างขึ้นมาจากวิชาผนึกความเที่ยงธรรม ก็พุ่งเข้าไปโจมตีแต่ละคนพร้อมกันหกครั้งในเวลาเดียวกัน

เสียงระเบิดดังก้องออกมาเป็นระลอกคลื่น ภูตผีปราณอสูรของเมิ่งฮ่าวสั่น

สะท้าน และจากนั้นก็สูญสลายไป โลหิตกระจายออกมาจากปากของหลัวชง ใบหน้าของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าซีดขาว หนึ่งในพวกมันคว้าจับหลัวชง และพุ่งถอยหลังไป สองผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกส่งเสียงกู่ร้อง ขณะที่พวกมันล่าถอยไปด้านหลังสองสามก้าว ขณะที่ตั่วหลัน ใบหน้าของนางเป็นสีแดงเข้มในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะกลายเป็นปกติเหมือนเดิม

“ท่านเจ้าอสูร, พวกเรามาในวันนี้…”

นางรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย และกำลังจะกล่าวคำพูดไกล่เกลี่ย แต่ทันใดนั้นเองที่เสียงแค่นอย่างเย็นชาก็ดังก้องออกมาจากภายในภูเขาเตี้ย

“กายทิพย์ของข้ายังอ่อนแอ” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงแผ่วเบา ปราณสีดำรอบๆ ตัวปกคลุมไปทั่วร่าง ซึ่งทันใดนั้นก็แวบขึ้น พุ่งตรงออกมาจากถ้ำแห่งเซียนราวกับควันสีดำ

เพียงชั่วพริบตา เขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกที่มีภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นรูปหมี เขายกมือขวาขึ้นมา ซึ่งเป็นข้างที่สวมถุงมือ และกำมือเป็นหมัดต่อยตรงไปยังผู้ฝึกตนนั้น

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!