บทที่ 788 โองการประทานบุญคุณแด่ประชา
นี่คือแผนการอำมหิตที่โหดเหี้ยมตั้งแต่ต้นจนจบ!!
ระดับความชั่วร้ายของเรื่องนี้ทำให้คนตกตะลึง ทำให้คนเดือดดาล ทำให้ในใจของเฉินฮ่าวซงประหนึ่งมีสายฟ้านับแสนเส้นผ่าเปรี้ยงลงมาอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยนไปในเสี้ยววินาที ร่างถึงกับผงะโงนเงน
“ต้าเทียนซือ เรื่องนี้ไม่ได้นะขอรับ!!” เฉินฮ่าวซงสั่นสะท้านไปทั้งใจ ลูกหลานตระกูลเขามีไม่น้อย หากทำตามวิธีนี้จริงๆ เขาก็พอจะคาดการณ์ได้เลยว่าตระกูลของตนต้องล่มสลาย แตกออกเป็นเสี่ยงๆ อย่างแน่นอน!
อีกทั้งหากทำเช่นนี้ก็ยากที่จะชักนำการต่อต้านและการก่อกบฏต่อต้าเทียนซือ เพราะทรัพย์สินทั้งหมด ต้าเทียนซือไม่ได้เป็นคนเอาไปแม้แต่ชิ้นเดียว! เพราะเมื่อภายในของแต่ละตระกูลต่างก็เกิดความโกลาหลกันไปแล้ว พอถึงเวลานั้นต้องมีคนมากมายที่เต็มใจให้การสนับสนุนโดยไม่แยแสสิ่งใด!
นี่เท่ากับเอาตระกูลหนึ่งมาแบ่งแยกให้กลายเป็นหลายสิบตระกูล!
หากเป็นเช่นนี้ก็จะไม่มีตระกูลใดที่เป็นใหญ่ขึ้นมาได้อีก อีกทั้งหากเป็นอย่างนี้ต่อไป เฉินฮ่าวซงก็ไม่กล้าคิดเลยว่าสภาพของตระกูลพวกเขาในอีกหลายปีให้หลังจะเป็นเช่นไร
“ป๋ายฮ่าวผู้นี้ช่างชั่วช้ายิ่งนัก ทำไมเขาถึงไม่ตายๆ ไปเสียที!” เฉินฮ่าวซงใกล้จะเป็นบ้าเต็มทีแล้ว ในใจเขาร้องคำรามสบถด่าไม่หยุด
นี่เป็นเพียงแค่แผนอำมหิตอย่างเดียวเสียที่ไหน นี่มันคือภาคต่อของการค้นบ้านยึดทรัพย์ชัดๆ คราวนี้ไม่ใช่ป๋ายเสี่ยวฉุนคนเดียวที่ไปยึดทรัพย์ แต่เป็นการทำให้ภายในของตระกูลชนชั้นสูงแตกแยกกันเอง แล้วให้ลูกหลานคนอื่นๆ ในตระกูลเว้นแต่ผู้สืบทอดทำการยึดทรัพย์ตระกูลของตัวเอง!!
นี่คือการที่ป๋ายเสี่ยวฉุนหยิบยื่นมีดให้กับบุตรอนุภรรยาและลูกหลานที่ไม่ใช่ผู้สืบทอดทุกคนในตระกูล ให้พวกเขายกมีดขึ้นแทงตระกูลของตัวเอง!
อีกทั้งความร้ายกาจของเรื่องนี้ก็คือจุดนี้ นี่ก็คือการทำให้ภายในของตระกูลชนชั้นสูงทั้งหมดเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ อีกทั้งคนที่ก่อกบฏสร้างความวุ่นวายครั้งนี้ยังไม่ใช่คนนอก แต่เป็นลูกหลานของพวกเขาเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องทำให้ผู้มีอำนาจทุกคนตกอยู่ในสภาวะอึดอัดคับข้องใจ ซ้ายก็ไม่ใช่ ขวาก็ไม่เชิง…
เพราะอย่างไรซะลูกหลานเหล่านั้นก็ล้วนสืบทอดสายเลือดจากพวกเขา และความวุ่นวายภายในเช่นนี้ นอกเสียจากตนจะฆ่าสายเลือดทั้งหมด หาไม่แล้วก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เลย
และขณะเดียวกัน นี่ก็คือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองที่บ้าคลั่งของพวกลูกหลานที่ไม่ใช่ผู้สืบทอด รวมไปถึงพวกลูกหลานที่เกิดจากอนุภรรยา ตามธรรมเนียมก่อนหน้านี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีทรัพยากรในการฝึกตนที่เหนือกว่าคนปกติทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับผู้สืบทอดแล้วก็เรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว อีกทั้งพวกเขาก็ยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสมบัติในตระกูลเท่าใดนัก
ทว่าตอนนี้กลับต่างออกไป…ทุกคนล้วนได้รับการแบ่งสรรรปันส่วนอย่างเท่าเทียมกัน ผู้สืบทอดก็ดี ทายาทสายตรงก็ช่าง และยังมีบุตรภรรยาน้อย ทุกคนล้วนต้องได้รับสมบัติและทรัพยากรในสัดส่วนที่เท่ากัน!
มีหรือที่พวกเขาจะไม่บ้าคลั่ง มีหรือที่พวกเขาจะไม่กระตือรือร้น มีหรือที่พวกเขาจะไม่ปิติยินดี และคนที่ซวย…กลับเป็นผู้สืบทอดหรือนายท่านคนต่อไปที่แต่ละตระกูลกำหนดไว้!
พวกเขาจะเสียหายหนักมากราวกับเจอภัยพิบัติจากสวรรค์ ทั้งหมดนี้จะทำลายอนาคตของพวกเขา ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา!
สามารถจินตนาการได้เลยว่าความเกลียดแค้นที่พวกเขามีต่อป๋ายเสี่ยวฉุนซึ่งเป็นผู้เสนอแผนการนี้จะล้ำลึกมากแค่ไหน นั่นย่อมเป็นความเกลียดแค้นฝังลึกลงถึงกระดูกที่รุนแรงกว่าเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า
ขณะเดียวกันสำหรับพวกผู้ที่กุมอำนาจทั้งหลาย พวกเขาก็ยิ่งเหมือนตกอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง ทรัพย์สมบัติที่พวกเขาสั่งสมมาด้วยความยากลำบากต้องมาถูกแบ่งไปทั้งอย่างนี้ ถ้าเช่นนั้นทรัพย์สินที่พวกเขาเก็บสะสมมาจะมีความหมายอะไร เมื่อตระกูลแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ จะสามารถสืบทอดความรุ่งโรจน์ไปได้อย่างไร
เมื่อผู้มีอำนาจเหล่านั้นเห็นว่าตระกูลของตัวเองแตกเป็นเสี่ยงๆ ต้องทนเห็นผู้สืบทอดที่ตัวเองเลือกและลูกหลานทุกคนในตระกูลต่อสู้กันคาตาของตัวเองโดยที่พวกเขามิอาจห้ามปรามได้ ความเกลียดแค้นที่มีพวกเขามีต่อป๋ายเสี่ยวฉุนต้องพวยพุ่งเทียมฟ้า เกลียดจนปรารถนาจะดื่มเลือดของเขา ฉีกกระชากเลือดเนื้อของเขา เลาะกระดูกของเขาออกมาทั้งเป็น
ก่อนหน้านี้มีดของป๋ายเสี่ยวฉุนเพียงแค่หันไปแทงใครบางคนเท่านั้น ทุกคนรู้สึกเพียงว่ามันอันตรายจึงคิดที่จะทำลายทิ้ง ทว่าตอนนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับหันมีดทิ่มแทงใส่ทุกคนที่อยู่ในทุกขอบเขต ทุกทิศทางอย่างไม่เลือกหน้า!
“นี่มันหมาบ้าชัดๆ!” เจ้าพระยาสวรรค์หนวดงามเองก็รู้สึกเย็นเยือกไปถึงหัวใจ ร่างเริ่มสั่นเทา แม้เขาจะมีใจเอนเอียงเข้าหาต้าเทียนซือ ทว่าพอนึกถึงแผนการที่เหี้ยมอำมหิตนี้ เขาก็ให้รู้สึกว่าป๋ายเสี่ยวฉุนที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
“ต้าเทียนซือ เรื่องนี้ไม่ควรอนุมัติอย่างแท้จริง!” คิดมาถึงตรงนี้เขาก็แข็งใจเอ่ยขึ้นพลางกุมมือคารวะต้าเทียนซือ
ลมหายใจของต้าเทียนซือที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เทียนซือเกิดความไม่มั่นคงอย่างที่หาได้ยาก หน้าอกของเขากระเพื่อมไหว ดวงตาทั้งคู่ที่มองมายังป๋ายเสี่ยวฉุนเผยประกายดุเดือดอย่างถึงที่สุด
นั่นเพราะแผนการของอีกฝ่ายอยู่เหนือการคาดการณ์ของเขาอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าแผนการของป๋ายเสี่ยวฉุนจะเป็นวิธีนี้ นี่เท่ากับเป็นการเอารายงานทั้งก่อนและหลังมาชี้แจงกันอย่างละเอียด สำหรับตนแล้วแทบไม่มีข้อเสียใดๆ อีกทั้งข้อดีนั้นมีมาก…จนมิอาจบรรยายได้ นี่คือแผนสว่างที่สร้างขึ้นมาเพื่อตนโดยเฉพาะ!
แม้ว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายทางการทหารที่มากมหาศาลได้อย่างเด็ดขาด แต่กลับยอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้น นี่เหมือนการตัดขาดต้นกำเนิดแห่งความละโมบของขุนนางทั้งราชสำนักโดยตรง ขณะเดียวกันต่อให้พวกเขาจะโลภมากอีกแค่ไหน ทุกผลพวงที่พวกเขาได้รับมาก็ต้องเอามาแบ่งให้เท่าเทียมกัน เสริมสร้างพลังอำนาจของทั้งราชวงศ์จักรพรรดิขุยให้แข็งแกร่ง และคนที่ได้รับการสร้างความแข็งแกร่งนี้ก็ย่อมต้องซาบซึ้งในพระคุณ ซาบซึ้งในทุกอย่างที่ตนมอบให้ และย้อนกลับมาตอบแทนตน เพราะสนับสนุนต้าเทียนซือก็เหมือนสนับสนุนตัวพวกเขาเอง!
ขณะเดียวกันนี่ก็คือการป้องกันไม่ให้ตระกูลใดตระกูลหนึ่งแข็งแกร่งจนย้อนกลับมาเขย่าคลอนตำแหน่งและอำนาจของตนได้อีกตลอดกาล!
ดวงตาของต้าเทียนซือเป็นประกายเจิดจ้า
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าคุณค่าของป๋ายเสี่ยวฉุนไม่ได้มีมากนัก นั่นเป็นเพราะการเปิดฉากสังหารของเขาได้สยบขวัญขุนนางทั้งราชสำนักไปแล้ว แม้แต่จักรพรรดิขุยก็ยังจำต้องปิดด่าน ทำให้อำนาจของเขาทะยานไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
ทว่าในเวลานี้เช่นนี้ ทรัพย์สมบัติที่ป๋ายเสี่ยวฉุนส่งมาให้หลังจากการยึดทรัพย์เสร็จสิ้นก็อยู่ในสายตาของเขาเช่นกัน
เขาเองก็ย่อมมองออกถึงความคิดของป๋ายเสี่ยวฉุน ความคิดบางอย่างที่เดิมทีมีในใจก็ได้ถูกกระตุ้นด้วยสมบัติมากมหาศาลพวกนั้น
เขาเองก็รู้สึกว่าในตระกูลที่ได้รับการสืบทอดต่อกันมายาวนานนี้ รากฐานของพวกเขาดูเหมือนว่า…จะลึกล้ำเกินไป แต่ขณะเดียวกันต้าเทียนซือก็เข้าใจด้วยว่า เว้นเสียแต่ว่ามีสถานการณ์สุดโต่งบางอย่างจนตนต้องลงมือกำจัดพระยาสวรรค์สิบแปดคนเพื่อสยบขวัญคนทั้งแดนทุรกันดารแล้ว หาไม่แล้วหากเป็นสถานการณ์อื่นๆ ผลลัพธ์จากการที่ทำตนเช่นนั้นย่อมต้องนำไปสู่การก่อกบฏของฝูงชน
และต่อให้เป็นครั้งนี้ก็ถือว่าถึงขีดสุดของพระยาสวรรค์สิบแปดแล้วเช่นกัน หากตนยังลงมือสังหารต่อไป ย่อมต้องนำมาซึ่งการต่อต้าน ชักนำความบ้าคลั่งของผู้คน
ดังนั้นเขาจึงจำต้องหยุดมือ
ขณะเดียวกันก็จำต้องพิจารณาเรื่องที่จะผลักให้ป๋ายเสี่ยวฉุนออกไปดับความโกรธแค้นของผู้คนด้วย
ทว่าตอนนี้แผนการที่ป๋ายเสี่ยวฉุนเสมอมาช่างสมบูรณ์แบบยิ่งนัก สมบูรณ์แบบจนเขาไม่จำเป็นต้องเผชิญกับความเสี่ยงใดๆ ก็สามารถทำให้ตระกูลของชนชั้นสูงทั้งหมดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ โดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ
อีกอย่างเรื่องนี้ก็ยากที่จะทำให้คนแว้งกลับมาเล่นงานตัวเอง เพราะคนส่วนใหญ่จะไชโยโห่ร้องไปกับเรื่องนี้ ก็เป็นอย่างที่ป๋ายเสี่ยวฉุนกล่าวไว้ คนพวกนั้นต้องซาบซึ้งในบุญคุณของตนไปชั่วชีวิต แล้วก็จำเป็นต้องตื้นตันใจ ต้องสนับสนุนตน เพราะหากสนับสนุนต้าเทียนซือก็คือสนับสนุนและปกป้องผลประโยชน์ของตัวพวกเขาเอง!
ต่อให้เป็นสถานการณ์ที่สุดโต่งจริงๆ ต้าเทียนซือก็เชื่อว่าตนต้องสามารถแก้ไขมันได้
คิดมาถึงตรงนี้ ตอนที่ต้าเทียนซือมองป๋ายเสี่ยวฉุนในใจก็เต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างแรงกล้า รู้สึกว่าความคิดสิ้นนกเก็บธนูของตนช่างไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่ง ตอนนี้มาลองคิดดูแล้ว คนแบบนี้นับเป็นคนมากพรสวรรค์ที่ยากจะพานพบ!
ทั้งฆ่าคนเป็น ทั้งสามารถคิดวิธีมารับมือกับสถานการณ์ต่างๆ!
หัวใจของเขาเต้นรัวเร็วอย่างห้ามไม่ได้ ไม่อำพรางความปิติยินดีอย่างบ้าคลั่งในใจอีกต่อไป ยามนี้จึงหัวเราะร่าออกมาเสียงดัง พอเสียงหัวเราะนี้ดังเข้าหูเฉินฮ่าวซงและเจ้าพระยาสวรรค์หนวดงาม ในใจของคนทั้งสองจึงพลันบังเกิดคลื่นลูกยักษ์ถาโถม
“ต้าเทียนซือ จะทำอย่างนั้นไม่ได้นะขอรับ!”
“ขอต้าเทียนซือโปรดใคร่ครวญ!!”
ส่วนป๋ายเสี่ยวฉุนที่พอพูดจบก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเฉินฮ่าวซงและเจ้าพระยาสวรรค์หนวดงาม ดวงตาของเขาจ้องนิ่งอยู่ที่ต้าเทียนซือตลอดเวลา พอมองเห็นแววชื่นชมจากต้าเทียนซือ ได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่าย ในใจของเขาก็คลายลงได้ในที่สุด
เขาเข้าใจดีว่า ครั้งนี้…ตนคลี่คลายวิกฤตให้กับตัวเองได้แล้ว ขณะเดียวกันก็ได้กลับมากุมอำนาจอีกครั้ง อีกทั้งครั้งนี้ อำนาจที่อยู่ในมือของเขายังเหนือกว่าก่อนหน้านั้น ทะลุเพดานสูงสุด ไต่ทะยานขึ้นสูงไปอีกครั้ง!
แต่ในใจของเขากลับไร้ซึ่งความตื่นเต้นหรือดีใจ กลับกันคือมีแต่ความเย็นเยียบ ทำให้ปราณดุร้ายในดวงตายิ่งเพิ่มมากขึ้น
“ฮ่าวเอ๋อร์ เจ้าต้องยืนหยัดเอาไว้นะ…”
“ประทานโชคแด่ปวงชน พระกรุณาธิคุณแผ่ล้นใต้หล้า! ตระกูลใดก็ตามที่อยู่ในแดนทุรกันดาร ไม่แบ่งสายตรงสายรอง ไม่แบ่งลูกภรรยาหลวงลูกภรรยาน้อย ทรัพย์สมบัติแบ่งอย่างเท่าเทียมกัน เรียกว่านี่คือโองการประทานบุญคุณแด่ประชาก็ไม่นับว่าเกินไป!” ต้าเทียนซือหัวเราะดังลั่น ไม่ได้สนใจเฉินฮ่าวซงและเจ้าพระยาสวรรค์หนวดงามแม้แต่น้อย เพียงมองป๋ายเสี่ยวฉุนแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มเท่านั้น
“เรื่องนี้มีประโยชน์มหาศาลต่อราชวงศ์จักรพรรดิขุยของเรา ในฐานะที่ข้าผู้อาวุโสคือต้าเทียนซือก็ควรต้องสนับสนุนโดยการเริ่มใช้โองการนี้จากในจวนเทียนซือของข้า จากนั้นค่อยผลักดันไปให้ทั่วทั้งราชวงศ์
ไม่ว่าจะเป็นพระยาสวรรค์ เจ้าพระยาสวรรค์ หรือราชาสวรรค์ก็ต้องเป็นเช่นเดียวกัน!” ต้าเทียนซือหัวเราะฮ่าๆ เสียงหัวเราะยิ่งดังมากขึ้นทุกขณะ แถมยังถึงขั้นผุดลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้
“ป๋ายฮ่าวรับคำสั่ง!” ต้าเทียนซือโบกมือหนึ่งครั้ง
“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง!” ป๋ายเสี่ยวฉุนสูดลมหายใจเข้าลึก พูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวอย่างถึงที่สุด
“อนุญาตให้เจ้าผู้ตรวจการควบคุมกองทัพห้าพันนาย รับผิดชอบผลักดันโองการประทานบุญคุณแด่ประชา เจ้าออกไปได้!” ต้าเทียนซือกล่าวจบก็สะบัดปลายแขนเสื้อหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นเงาร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนและเฉินฮ่าวซงต่างก็พร่าเลือนแล้วหายวับไปจากตำหนักเทียนซือในพริบตา
ตลอดทั้งตำหนักเทียนซือเวลานี้เหลือแค่เจ้าพระยาสวรรค์หนวดงามคนนั้น เขาขมวดคิ้ว ในใจถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม รู้ดีว่าตนคงมิอาจแก้ไขเรื่องนี้ได้อีก เพราะแผนการของป๋ายเสี่ยวฉุนนั้นเหมาะสมกับต้าเทียนซือยิ่งนัก
เขาแอบถอนหายใจกับตัวเองหนึ่งที ก่อนจะเดินขึ้นหน้าแล้วก้มตัวคารวะ
“ต้าเทียนซือ เด็กคนนี้เก็บเอาไว้ไม่ได้ เขาคือมีดอาบยาพิษดีๆ นี่เอง ทั้งไม่นับญาติกับผู้ใด ทั้งโหดเหี้ยมอำมหิต ก่อนหน้านี้ก็เรื่องในพิธีเซ่นไหว้บรรพชน ตอนนี้มายังมายุแยงให้ชนสูงศักดิ์…แตกแยก ต่อให้เป็นข้าก็ยังรู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจ คนคนนี้ช่าง…โหดเหี้ยมยิ่งนัก!”
“อีกอย่างตัวตนของเด็กคนนี้ก็น่าสงสัย มีความเป็นไปได้มากว่าเขาจะเป็น…ป๋ายเสี่ยวฉุนผู้นั้น!! จิตใจของเขาชั่วช้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!!” เสียงของเจ้าพระยาสวรรค์หนวดงามเด็ดเดี่ยว นั่นเป็นเพราะเขาหวาดกลัวแผนการของป๋ายเสี่ยวฉุนจริงๆ
“อีกทั้งเรื่องนี้ยังต้องได้รับการยอมรับจากคนมากมาย พวกบุตรภรรยาน้อยและลูกหลานสายตรงที่ไม่ได้เป็นผู้สืบทอดต้องปิติยินดีกันอย่างบ้าคลั่ง ผู้เดียวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดก็คือซื่อจื่อที่มีตำแหน่งสูงส่งเกินผู้ใด ซึ่งศิษย์แห่งความภาคภูมิใจเหล่านี้ต่างก็เคยมีความขัดแย้งอย่างลึกล้ำกับป๋ายฮ่าว เขากำลังยืมมีดฆ่าคนชัดๆ!”