บทที่ 831 ผู้แข็งแกร่งรวมตัวกัน
ความเจ้าเล่ห์มากกลอุบายของราชาผียักษ์ พอจะดูออกได้จากครั้งที่เขาปั่นหัวสามตระกูลใหญ่แห่งนครผียักษ์เมื่อครานั้น เวลานี้ป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็คลางแคลงใจ ขณะที่กำลังก้าวถอยหลัง สายตาก็คอยมองประเมินภาพเหตุการณ์บนสนามรบอยู่เป็นระยะ
เขาเองก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าราชาผียักษ์จะทุ่มหินใส่เท้าของตัวเองจริงๆ
“พี่ผียักษ์ของข้าคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์มาแต่ไหนแต่ไร…” ป๋ายเสี่ยวฉุนที่หวาดผวาพึมพำอยู่กับตัวเอง เขาปรารถนาให้ราชาผียักษ์วางแผนได้ลึกล้ำขึ้นยิ่งๆ ขึ้นไป หาไม่แล้วป๋ายเสี่ยวฉุนก็รู้สึกว่าคราวนี้ชีวิตน้อยๆ ของตนคงต้องหายไปจริงๆ แล้ว
และขณะที่ป๋ายเสี่ยวฉุนกำลังใคร่ครวญถึงผลได้ผลเสียอยู่นั้น ราชาผียักษ์ก็เอ่ยเนิบช้า น้ำเสียงดังก้องไปแปดทิศ
“เจ้าในเวลานี้ยังมีความเร็วชวนพิศวงอย่างนั้นได้อีกไหม!”
ขาดคำของราชาผียักษ์ ดวงตาทั้งคู่ของเด็กหญิงก็หดตัวลง สีหน้าพลันแปรเปลี่ยน นางดูดซับพลังทั้งหมดของดวงอาทิตย์สีดำราชาผียักษ์มา เรือนกายจึงแตกสลายไปทีละชั้น และสุดท้ายถึงเขมือบกลืนดวงอาทิตย์สีดำเข้าไปได้ ทว่าสิ่งที่ตามมาก็คือ…เมื่ออยู่ภายใต้พลังมหาศาลของดวงอาทิตย์สีดำ นางกลับยังไม่สามารถ…หลอมละลายพลังของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลาสั้นๆ นั่นจึงเป็นเหตุให้ร่างของนางที่เดิมทีเคลื่อนที่ได้ปราดเปรียวว่องไว เปลี่ยนมาเป็นหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม
ยิ่งตอนนี้แปลงกายมาเป็นทะเลเลือดด้วยแล้ว นางก็ยิ่งเหมือนถูกกักตัวอยู่บนแผ่นดินผืนนี้ อาจไม่ใช่ตลอดกาล แต่อย่างน้อยในช่วงระยะเวลาหนึ่งนางก็ไม่สามารถไปจากที่แห่งนี้ได้ ไม่ต่างจากการถูกปิดผนึกเอาไว้!
นี่ ก็คือแผนการของราชาผียักษ์ ศัตรูของเขาร้ายกาจมากเกินไป ทั้งยังมีความเร็วที่พิลึกพิลั่นจนเขาตกใจ นอกจากนี้ที่มาของอีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้คนไม่กล้าคิดลึก สำหรับศัตรูเช่นนี้ วิธีปกติทั่วไปล้วนมิอาจคว้าชัยชนะมาได้ จำเป็นต้องลองเสี่ยงดวง ดังนั้นราชาผียักษ์ถึงได้ร่ายใช้อาทิตย์ดำดับโลก หากดวงอาทิตย์สีดำนั้นสามารถระเบิดพลังสังหารอีกฝ่ายได้ย่อมดีที่สุด แต่หากทำไม่ได้…นั่นก็หมายความว่าลำพังพละกำลังของราชาผียักษ์เพียงคนเดียวย่อมไม่สามารถปลิดชีพคนผู้นี้ได้ จำเป็นต้องให้คนมากมายร่วมมือกันถึงจะทำสำเร็จ!
และในความเป็นจริง เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ก็ได้ถูกราชาผียักษ์ใช้เวทลับของครึ่งเทพแจ้งไปยังต้าเทียนซือนานแล้ว!
เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงแค่ต้องจำกัดการเคลื่อนไหวของเด็กหญิงให้อยู่ที่เดิม ทำให้นางไม่สามารถหนีไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ รอจนพวกต้าเทียนซือมาถึง ทุกคนร่วมมือกัน ถึงจะสามารถสังหารคนผู้นี้ได้!
และนี่ยังเป็นเพียงสองในสามแผนการที่เขาคิดเอาไว้เท่านั้น
ยังมีแผนการสุดท้ายที่ราชาผียักษ์ยังไม่ได้เอาออกมาใช้ เวลานี้เขาพลันยกมือขวาขึ้น ทันใดนั้นมือผีก็จำแลงลงมาจากนภากาศอีกครั้ง ก่อนจะโจมตีลงไปยังทะเลเลือดด้านล่างอย่างแรง
ใบหน้าของเด็กหญิงที่อยู่ในทะเลเพลิงเปลี่ยนมาเป็นดุร้าย หลังจากตระหนักได้ถึงแผนการของราชาผียักษ์ นางก็เหมือนอับอายจนพานมาเป็นความโกรธ นางกรีดร้องเสียงแหลม ทะเลเพลิงซัดหลุนๆ ตรงเข้าเขมือบกลืนมือผีที่ฟาดลงมา
ป๋ายเสี่ยวฉุนที่อยู่ห่างไกลซึ่งพอมองเห็นภาพนี้และได้ยินคำพูดประโยคนั้นของราชาผียักษ์ ในใจเขาก็คลายลงได้เสียที ขณะเดียวกันก็เข้าใจแผนการของราชาผียักษ์แล้วด้วย
“ไม่เสียแรงที่เป็นราชาผียักษ์…” ป๋ายเสี่ยวฉุนฮึกเหิมอยู่ในใจ คนรอบด้านก็เหมือนมองเห็นความหวัง เวลาเดียวกันนั้น ฟ้าดินของแดนทุรกันดารแห่งนี้ก็มีเงาร่างสี่เงาที่เหมือนผสานรวมกับความว่างเปล่า กำลังตรงดิ่งมายังที่แห่งนี้!
เงาหนึ่งในนั้นถือขวานศึกใหญ่ยักษ์ไว้ในมือ ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยปราณแห่งความดุร้ายแกร่งกร้าว สวมเสื้อเกราะสีดำ ทั้งยังสวมหมวกศึกที่มีลักษณะเหมือนเขาวัว ทุกที่ที่ผ่าน ความว่างเปล่าก็พังถล่มทลาย
นั่นก็คือ…ราชาเก้านรกภูมิ!!
เงาร่างที่สอง คนผู้นี้มีเรือนกายอ้วนฉุเหมือนภูเขาเนื้อลูกหนึ่ง แต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อความปราดเปรียวของเขา เวลานี้เขากำลังก้าวยาวๆ ข้ามผ่านความว่างเปล่ามาพร้อมกับพายุที่พัดกระหน่ำ ราวกับว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ต่อให้เป็นบัญชาจากสวรรค์ก็ยังต้องก้มหัวให้ ปล่อยให้เขาเหยียบย่ำก้าวผ่านได้ตามใจชอบ
คนผู้นี้ก็คือบิดาของซวี่ซาน ราชาเทพจุติ!!
ส่วนเงาร่างที่สามนั้นความเร็วเหนือเกินใคร เจตจำนงแห่งสงครามระเบิดออกมาจากร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนภากาศหรือปฐพีก็ล้วนมีเงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนผุดพุ่งขึ้นมาเหมือนจะโจมตีให้โลกทั้งใบแหลกสลาย ก่อนที่เงากระบี่เหล่านั้นจะกลายมาเป็นพายุกระบี่ที่หมุนคว้างไปแปดทิศพร้อมเสียงอึกทึกกึกก้อง ตำแหน่งจุดศูนย์กลางของเจตจำนงแห่งการต่อสู้นี้มีชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมยาวสีเขียวคนหนึ่งยืนอยู่ คนผู้นี้เรือนกายยึดตรงสง่าผ่าเผย ใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายมีความคล้ายคลึงกับกงซุนอี้อยู่หลายส่วน เขาก็คือ…ราชาชิงชัย!!
ส่วนเงาร่างที่สี่นั้นมาจากทางทิศของนครจักรพรรดิขุย เส้นผมของเขาขาวโพลน ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยยับย่น ทว่าความแข็งแกร่งของปราณที่แผ่มาจากร่างของเขากลับนำหน้าเป็นหนึ่งในบรรดาคนทั้งสี่ ราวกับว่าทุกการกระทำของเขาล้วนสามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้กับทั้งแดนทุรกันดารได้ เขาก็คือ…ต้าเทียนซือ!!
ด้านหลังต้าเทียนซือยังมีเจ้าพระยาสวรรค์อีกสิบท่าน เฉินฮ่าวซงเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ละคนกำลังห้อทะยานมาด้วยสีหน้ามืดทะมึนเคร่งเครียดถึงขีดสุด!
เมื่อครึ่งก้านธูปก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างก็ได้รับข่าวจากต้าเทียนซือแทบจะในเวลาเดียวกัน ความหมายที่แฝงเร้นอยู่ในข่าวนั้นทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ใจสั่นสะท้าน
“วิญญาณที่เหมือนจะมาจากนอกโลก!!”
“มีพลังในการกลืนกิน!!”
“ตบะคลุมเครือ สามารถกลืนพลังของครึ่งเทพ!!”
เรื่องนี้ใหญ่มากจนแม้แต่ต้าเทียนซือก็ยังตื่นตะลึงอย่างหนัก เขาเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าคนที่หน้าตาเหมือนป๋ายเสี่ยวฉุนซึ่งจู่ๆ ปรากฏตัวกะทันหันผู้นี้จะมีความสมารถมากถึงขนาดนี้ ดังนั้นพอได้ข่าวจากราชาผียักษ์ เขาจึงรีบเรียกรวมผู้แข็งแกร่งทั้งหมดให้ตรงไปสังหารศัตรูพร้อมกันอย่างไร้ซึ่งความลังเลใด!
พูดแล้วเหมือนยาว แต่ในความเป็นจริงแล้ววินาทีที่ราชาผียักษ์กับเด็กหญิงลงมือพร้อมกันอีกครั้ง ความว่างเปล่ารอบกายพวกเขาก็มีเสียงกัมปนาทดังขึ้นกะทันหัน คนแรกที่ปรากฏตัวไม่ใช่ต้าเทียนซือ แต่เป็น…ราชาชิงชัยที่สวมชุดคลุมยาวสีเขียวซึ่งมีปราณกระบี่พวยพุ่งเทียมฟ้า!!
การปรากฏตัวของเขามาพร้อมกับกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาจากความว่างเปล่า หลังจากรอยแยกขนาดใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้น เขาก็เดินพรวดออกมาหนึ่งก้าว เพิ่งจะเผยกายก็มองเห็นใบหน้าของเด็กหญิงที่กลายมาเป็นทะเลเลือดและถูกกักตัวไว้บนพื้นดินนั่นทันที
“วิญญาณต่ำช้า บังอาจมาทำตัวโอหังในราชสำนักขุยของพวกข้าเชียวรึ!” เสียงของราชาชิงชัยเย็นเยียบเสียดลึกไปถึงกระดูก ขนะที่เขาพูดก็ยกมือขวาขึ้น ทันใดนั้นท้องฟ้าที่อยู่ด้านหลังเขาพลันพร่าเลือน
ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นกระบี่สีเขียวซึ่งมีขนาดใหญ่ยักษ์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แล้วกระบี่นั้นก็ฟันฉับลงไปบนทะเลเลือดที่อยู่บนพื้นอย่างเหี้ยมหาญ!
กระบี่ที่มาพร้อมกับแสงเยือกเย็นเหมือนสามารถดับสลายทุกสรรพชีวิตได้ในการฟาดฟันเดียว คนที่อยู่รอบด้านแค่ใช้สายตามองไป ไม่ว่าจะมีตบะอะไร ต่อให้เป็นคนฟ้าก็ยังใจแกว่ง สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าหากเปลี่ยนมาเป็นพวกเขาที่เผชิญหน้ากับกระบี่นี้ ไม่ว่าเวทคาถาใดก็ล้วนมิอาจนำมาใช้การได้ และต้องตายสถานเดียวเท่านั้น!
ราชาผียักษ์หัวเราะยาวเหยียด แม้สีหน้าของเขาจะขาวซีดเพราะก่อนหน้านี้ลงกำลังไปมากเกิน ทว่าเขากลับยังคงลงมือพร้อมราชาชิงชัย ร่วมกันกำราบศัตรูตัวฉกาจ
เด็กหญิงหน้าเปลี่ยนสี นางแหงนหน้าแผดเสียงคำรามแหลมยาว ทะเลเลือดหมุนคว้างดังครืนครั่น ทันใดนั้นมือยักษ์สองข้างก็ยื่นพรวดออกมาจากในทะเลเลือดแล้วทะยานขึ้นฟ้าตรงดิ่งขึ้นคว้าจับราชาผียักษ์และราชาชิงชัย!
เสียงตูมตามดังเกริกก้องไปทั้งฟ้าดิน กระบี่ที่ทำให้ทุกคนตะลึงลานกลับถูกมือเลือดนั้นคว้าจับเอาไว้ได้ แม้มือเลือดทั้งมือจะแหลกสลาย ทว่าวินาทีที่แตกกระจายออกจากกันมันกลับตรงเข้ามาก่อตัวเข้าหากันใหม่อีกครั้ง!
ป๋ายเสี่ยวฉุนใจสั่นจนชาไปหมดทั้งร่าง แต่กระนั้นก็ยังอดไม่ได้ที่จะอ้าปากหอบหายใจดังๆ เขาพบว่าทุกครั้งที่ตนคิดว่าเด็กหญิงคนนั้นได้แสดงพลังสูงสุดออกมาแล้ว อีกฝ่ายจะต้องทำให้เขาอึ้งค้างทุกครั้ง อย่างเช่นในตอนนี้ที่มือใหญ่สีเลือดทั้งสองสามารถต่อกรกับครึ่งเทพผู้ยิ่งใหญ่สองคนได้ในเวลาเดียวกัน!
“นางดูดซับพลังดวงอาทิตย์สีดำเข้าไปถึงได้แข็งแกร่งกว่าเดิม…มองดูเหมือนนางตกหลุมพราง ทว่าขณะเดียวกันบางทีนี่ก็อาจเป็นสิ่งที่นางจงใจให้เกิดขึ้น…เพื่อที่ว่าจะทำให้ตัวเองได้กลืนกินพลังที่มากกว่าเดิม!”
ความคิดของป๋ายเสี่ยวฉุนแล่นเร็วจี๋ ขณะที่คว้าร่างของสตรีธุลีแดงที่ร้อนรนหลังจากฟื้นตื่นขึ้นมาให้ถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นกลางอากาศของสนามรบก็เสียงคำรามหนึ่งมาพร้อมกับขวานศึกสีดำขนาดใหญ่ที่พอโผล่พรวดออกมาจากความว่างเปล่าก็เงื้อมขึ้นจามใส่ทะเลเลือดผืนนั้นทันที!
พลังของขวานศึกนี้น่าตะลึงเกินหาสิ่งได้เปรียบ ป๋ายเสี่ยวฉุนแค่มองปราดเดียวก็สัมผัสได้ถึงพลังแห่งการทำลายล้างขุมหนึ่ง ต้องรู้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนฟ้าคนใด เกรงว่าเมื่อเจอกับขวานเล่มนี้ก็ยังต้องแตกดับทั้งกายและจิตอย่างไม่มีทางโชคดีรอดไปได้
ทว่าชั่วขณะที่ขวานเล่มนั้นฟันฉับลงมา หลังสิ้นเสียงกรีดร้องของเด็กหญิงที่ทำให้จิตวิญญาณของคนสั่นคลอน ในทะเลเลือดผืนนั้นก็พลันมีมือเลือดที่สามแหวกน้ำทะเลออกมาแล้วต่อยโครมเข้าใส่ราชาเก้านรกภูมิที่พุ่งลงมาพร้อมกับขวานศึกในมือ!!
ครึ่งเทพผู้ยิ่งใหญ่สามคนพร้อมใจประหัตประหารเด็กหญิงคนหนึ่ง!!
ยังไม่สิ้นสุด ขณะที่ทั้งสองฝ่ายเปิดศึกใหญ่จนฟ้าดินเปลี่ยนสี ท่ามกลางลมกระโชกแรงก็มีเสียงแค่นเย็นชาที่กลายมาเป็นตราประทับขนาดใหญ่ยักษ์ซึ่งเยื้องกรายลงมาจากท้องฟ้า ตราประทับนี้ครอบคลุมพื้นที่เกินขอบเขตของทะเลเลือด เมื่อมันคลุมลงมา ดวงตาของเด็กหญิงที่อยู่ในทะเลเลือดก็เผย…ความเคร่งเครียดอย่างรุนแรงออกมาเป็นครั้งแรก
ท่ามกลางเสียงกัมปนาทสนั่นหวั่นไหว นางถึงกลับจำแลงมือเลือดขึ้นมาเป็นมือที่สี่ มือที่ห้าเพื่อต้านทานตราประทับนั่นพร้อมกัน เสียงสะเทือนฟ้ายังคงดังกึกก้อง ก่อนที่เงาร่างของต้าเทียนซือจะเดินออกมาจากด้านหลังตราประทับนั้น!
พอเขาปรากฏตัว ฟ้าดินก็สั่นสะเทือน คลื่นพลังอำนาจที่เหนือกว่าครึ่งเทพทั่วไประเบิดออกมาจากร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง มือขวาของเขายกขึ้นกดไปด้านหน้า ทันใดนั้นก็มีตราอาคมหลายชั้นทับซ้อนกัน และพริบตาเดียวก็ทับซ้อนกันอย่างน้อยหนึ่งแสนชั้น!
“ดับ!” ต้าเทียนซือหรี่ตาลงพร้อมเอ่ยเสียงเนิบช้า มือขวากดลงไป ทันใดนั้นตราอาคมหนึ่งแสนชั้นที่พุ่งครืนครั่นลงมาจากท้องฟ้าด้วยอานุภาพพลิกภูเขาคว่ำมหาสมุทรก็ตรงเข้ากระแทกใส่มือเลือดทั้งหมดที่ยื่นออกมาจากในทะเลเลือด
วินาทีที่มือเลือดเหล่านั้นปะทะเข้ากับตราอาคมแสนชั้นก็ระเบิดกระจายเป็นเสี่ยงๆ ทำให้ตราอาคมยิ่งร่วงดิ่งบุกราบไปข้างหน้าราวผ่าลำไม้ไผ่ มิอาจมีสิ่งใดมาต้านทานได้!!
ป๋ายเสี่ยวฉุนฮึกเหิมในใจ เหมือนว่าในที่สุดก็มองเห็นความหวังแล้วจริงๆ!
“ราชาผียักษ์ผู้ยอดเยี่ยม วางแผนได้น่าชื่นชมยิ่งนัก ตรึงร่างของศัตรู จากนั้นก็รวมพลังกับราชาชิงชัยและราชาเก้านรกภูมิ หากฆ่าได้ก็ฆ่า หากฆ่าไม่ได้ก็ต้องทำให้ศัตรูวอกแวกเสียสมาธิ แล้วค่อยมอบการโจมตีดับชีพไว้ให้กับ…ต้าเทียนซือที่แข็งแกร่งที่สุด!!”