Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 496

ตอนที่ 496

เจ้าบังอาจนัก

ธวัชส่งเสียงกระหึ่ม กวาดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างไป ทำให้อากาศบิดเบี้ยว ท้องฟ้าสั่นสะเทือน พื้นดินสั่นสะท้าน เพียงชั่วพริบตา ธวัชอันแปลกประหลาดนี้…ก็พุ่งตรงไปยังบุรุษชุดดำ

ใบหน้าของมันทันใดนั้นก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง มันรวดเร็ว แต่ก็ไม่เร็วพอที่จะหลีกเลี่ยงธวัชสามแฉก เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ธวัชม้วนพันไปรอบๆ ร่าง และเริ่มบีบรัดมันให้ตายไป!

เสียงปะทุดังต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่หอกสีดำซึ่งบุรุษชุดดำถืออยู่ในมือแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่หลังจากที่เกิดขึ้นเช่นนั้น บุรุษชุดดำก็รวมตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งในที่ห่างไกล ครั้งนี้ร่างของมันดูเลือนลางมากขึ้นและกระพริบไปมามากขึ้นกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่ามันอ่อนแอลงมากขึ้น

“ธวัชนั่น…ธวัชนั่น…” ดวงตามันเบิกกว้าง ขณะที่จ้องไปยังธวัชที่หมุนวนอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวร่างของมันถูกระเบิดออกโดยธวัช และอ่อนแอลงอย่างมากมาย เมิ่งฮ่าวก้าวเนิบนาบตรงไป อีกครั้งที่เขาสวดท่องคัมภีร์ ซึ่งเคยใช้โจมตีไปยังปรมาจารย์เอกะเทวะออกมา นี่เป็นเครื่องมือของผู้ผนึกอสูรเพื่อสร้างความสั่นสะท้านอันน่าหวาดกลัวขึ้น, คัมภีร์ผนึกอสูร

“เต๋าโบราณ; ปรารถนาที่จะผนึกสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง; สร้างคุณความดีเพื่อขุนเขาทั้งหมด; ทัณฑ์แห่งเต๋าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของเก้าขุนเขาทะเล; จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์!”

ทันทีที่คัมภีร์ถูกท่องออกมา บุรุษชุดดำก็ล่าถอยไปด้านหลัง และส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมาอีกครั้ง

“บัดซบ! บัดซบ! เจ้ามันน่ารังเกียจยิ่งนัก!!” มันร้องคำรามออกมา ในตอนนี้ ทำไมมันถึงไม่เข้าใจว่าจุดประสงค์ในการใช้ธวัชนั้นของเมิ่งฮ่าวก็คือ รบกวนมันไม่ให้สะกดข่มคัมภีร์นี้ได้? เป็นเวลานาน, นานมากมาแล้วที่มันได้อดทนต่อเรื่องเช่นนี้ เดิมทีมันอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งเหนือผู้ใด แต่เพียงชั่วพริบตา ก็ถูกทำให้อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว ร่างของมันแตกกระจายไป และก่อนที่มันจะทันได้รวมตัวขึ้นมาใหม่ ก็ถูกสะกดลงด้วยคัมภีร์ ขณะที่เจ้าสารเลวบัดซบน่ารังเกียจผู้นี้ ได้ท่องสวดคัมภีร์ผนึกอสูรออกมาอีกครั้ง

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ขณะที่บุรุษชุดดำเริ่มล่าถอยไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวทันใดนั้นก็แวบขึ้น เอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอ; เอาชีวิตของฝ่ายตรงข้ามมา! นี่เป็นกฎเกณฑ์การต่อสู้ของเมิ่งฮ่าว โดยไม่ลังเล มือขวาโบกสะบัดผ่านอากาศไป ทำให้กลุ่มแสงสีโลหิตพุ่งตรงไปยังบุรุษชุดดำด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ

อย่างน่าตกใจ ภายในลำแสงสีโลหิตนั้นก็คือร่างจำแลงโลหิต!

ร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้!

ทันทีที่มันปรากฏขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างในพื้นที่บริเวณนั้น ก็เปื้อนไปด้วยแสงสีแดงเข้ม บุรุษชุดดำที่ถูกสะกดลงด้วยคัมภีร์ ร่างของมันสั่นสะท้านขณะที่ร่างจำแลงโลหิตพุ่งกระโจนเข้าใส่

สีหน้ามันสลดลงโดยสิ้นเชิง เกิดเป็นเสียงปัง และร่างของมันก็ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กลุ่มหมอกสีดำจำนวนมากมาย ซึ่งสร้างขึ้นมาจากเจตจำนงของปีศาจและพลังชีวิตของมัน ถูกดูดซับเข้าไปโดยร่างจำแลงโลหิต

“ข้าไม่ยอมรับเรื่องนี้!” ไกลออกไป บุรุษชุดดำปรากฎขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันยังได้อ่อนแอกว่าก่อนหน้านี้มากนัก แหงนหน้าขึ้นส่งเสียงกู่ร้องออกมา มันไม่อาจจะยอมรับเหตุการณ์ครั้งนี้ได้จริงๆ ถ้ามันอยู่ในรูปแบบที่ทรงพลังขั้นสูงสุด มันก็สามารถต่อสู้กับร่างจำแลงโลหิตได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ มันได้อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ

ทันใดนั้น ความรู้สึกถึงความตายที่ใกล้เข้ามา ก็พุ่งขึ้นในจิตใจ มันไม่เคยจะคาดคิดว่าวันที่มันถูกสังหารจะมาถึง

ขณะที่ร่างจำแลงโลหิตได้เข้ามาใกล้มันอีกครั้ง ความบ้าคลั่งเต็มอยู่ในดวงตา ทันใดนั้นมันยกมือขึ้นและชี้ตรงไปยังกระแสน้ำวนที่อยู่สูงขึ้นไปในท้องฟ้า

“ฮวงจ่ง! (หลุมฝังศพโดดเดี่ยว)” มันคำรามออกมา

ขณะที่คำพูดดังก้องออกมา ร่างของมันก็แวบขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มหมอกที่อยู่บนแท่นบูชาในกระแสน้ำวนก็เริ่มม้วนตัวไปมา ดูเหมือนกำลังดิ้นรนพร้อมกับใบหน้าที่มีอยู่บนพื้นผิวของกลุ่มหมอก แต่ใบหน้านั้นก็ถูกสะกดลงด้วยความบ้าคลั่งเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้

ขณะที่พวกมันสะกดกลุ่มหมอก พลังชีวิตและปราณอสูรจำนวนมากมาย ก็เริ่มกระจายออกมาจากร่างผู้คนนับหมื่น ที่ถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มหมอกของแปดเผ่าพันธมิตร ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่มาเข้าร่วมงานประมูลเริ่มตัวสั่นสะท้าน ร่างกายแห้งเหี่ยวและแก่ชราลงอย่างรวดเร็ว พลังชีวิตของพวกมันไหลซึมออกมาจากทวารทั้งสี่เพื่อหลอมรวมเข้ากับปราณอสูร จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังกระแสน้ำวน

พลังชีวิตของผู้คนนับหมื่น กลายเป็นกลุ่มปราณมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปในกระแสน้ำวน หลังจากถูกใบหน้าดูดกลืนเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้น ใบหน้าเกือบครึ่งจู่ๆ ก็พุ่งออกมาจากภายในกลุ่มหมอก พวกมัน…พุ่งออกมาจากภายในกระแสน้ำวน พุ่งผ่านท้องฟ้าตรงไปยังบุรุษชุดดำ

ขณะที่พวกมันออกมาจากกระแสน้ำวน กลุ่มหมอกที่อยู่บนแท่นบูชาก็เริ่มส่งเสียงกู่ร้องอย่างเข้มข้นออกมา ราวกับว่ามีบางสิ่งที่อยู่ด้านในกำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง เพื่อพยายามจะทำลายผนึกที่สะกดมันไว้

เพียงชั่วพริบตา ใบหน้าก็เข้าไปใกล้บุรุษชุดดำ และเริ่มหมุนวนไปรอบๆ ร่างมัน ใบหน้าเหล่านั้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย, บ้าคลั่ง และกระหายเลือด ขณะที่หลอมรวมเข้ากับบุรุษชุดดำ ขณะที่ทำเช่นนั้น กลิ่นอายของมันก็พุ่งขึ้น เพิ่มความเข้มข้นขึ้นอย่างน่าตกใจ

กลุ่มควันสีดำเดือดพล่านม้วนตัวไปมา เต็มไปด้วยใบหน้าอันดุร้ายมากมาย แต่ละใบหน้าเหล่านี้เป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ซึ่งขึ้นตรงกับความศรัทธาของผู้ฝึกตนแปดเผ่าพันธมิตร

“ข้าคือฮวงจ่ง (หลุมฝังศพโดดเดี่ยว), ข้าคือโม๋เนี่ยน (ร่างปีศาจ)…ข้าคือเยาปิงฮวงจ่ง (อาวุธอสูรหลุมฝังศพโดดเดี่ยว) ก่อตัวขึ้นมาจากความเศร้าเสียใจของชีวิตที่ข้าสังหารไป ตลอดหลายปีจนนับไม่ถ้วน, ร่างแห่งปีศาจ!”

“เมื่อหลุมฝังศพโดดเดี่ยวถูกทำลายลง, ร่างแห่งปีศาจก็พุ่งขึ้นมา!” แสงแปลกๆ ลุกโชนอยู่ในดวงตาของบุรุษชุดดำ กลิ่นอายของมันทันใดนั้นระเบิดออก และปราณสีดำก็เต็มอยู่ในบริเวณนั้น ร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้จู่ๆ ก็หยุดลง จ้องไปยังบุรุษชุดดำ ราวกับว่ามันรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่น่ากลัวเมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และท่าทางจดจ่อตั้งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้า

ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้น ลำแสงหลากสีลำแสงแล้วลำแสงเล่า ได้ปรากฎขึ้นในที่ห่างไกลออกไป ฉับพลันนั้น ผู้ฝึกตนนับหมื่นก็ปรากฏขึ้นในทันที

คนเหล่านี้เป็นผู้ฝึกตนจากชนเผ่ารอบๆ บริเวณนี้ ซึ่งได้ติดตามเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อปล้นชิงวิญญาณอสูร หลังจากที่พวกมันปรากฏขึ้น รังสีสังหารของพวกมันก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไปมากกว่าเดิม แต่เมื่อพวกมันมองเห็นสภาพของสนามรบ ก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ และเงียบลงในทันที

สายตาของพวกมันจ้องนิ่งไปบนร่างเมิ่งฮ่าวและบุรุษชุดดำ ซึ่งกำลังเดือดพล่านด้วยกลุ่มควันสีดำจำนวนมากมายในทันที

“ตาย!” บุรุษชุดดำร้องตะโกนออกมา ก้าวเท้าตรงไป ยกมือขวาขึ้น ทำให้ปราณสีดำพลุ่งพล่านปั่นป่วน จากนั้นก็กลายเป็นใบหน้าอันดุร้ายขนาดใหญ่ พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีปราณสีดำอีกจำนวนหนึ่ง ม้วนตัวออกพุ่งตรงไปยังร่างจำแลงโลหิต

เมิ่งฮ่าวสวมใส่หน้ากากสีโลหิตขึ้นอีกครั้ง มองเห็นแววของความมุ่งมั่น ขณะที่เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ใช้มือขวาขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ชี้ออกไป

“ไร้หน้า!”

ใบหน้าขนาดใหญ่พอๆ กัน ฉับพลันนั้นก็ปรากฎขึ้น ซึ่งไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเซียนโลหิต เป็นใบหน้าของเมิ่งฮ่าวเอง พุ่งฝ่าอากาศตรงไปยังใบหน้าของปราณสีดำ ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากใบหน้าดุร้ายที่เล็กกว่าจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

เสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจ ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่เมิ่งฮ่าวพูดออกมาอีกครั้ง

“หนึ่งคำ!” ทันใดนั้น ริมฝีปากของใบหน้าที่เขาเรียกออกมาก็เริ่มขยับ พลังคลื่นเสียงกระจายออกไป

“ไฟสงครามรวมเป็นหนึ่ง!” เขายกมือทั้งสองขึ้น จากนั้นก็กดลงไปบนพื้น ฉับพลันนั้นกลุ่มควันก็พุ่งขึ้นมาทั่วทุกทิศทาง ตามมาด้วยบางสิ่งที่ดูคล้ายกับเป็นเปลวไฟแห่งสงคราม นี่เป็นรูปแบบที่สามของขุมทรัพย์เซียนโลหิต

ท่ามกลางเสียงระเบิด ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า

“ข้าต้องการ…พลังความศรัทธาของพวกท่าน!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนออกมา ทีละคน ทีละคน สมาชิกของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์เริ่มคุกเข่าลง รอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์บนร่างพวกมัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเมิ่งฮ่าว เริ่มส่องแสงออกมา

“ทลายเมฆา…” พลังแรงศรัทธาอันไร้ขอบเขตไหลเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าวจากทั่วทุกทิศทาง ระเบิดความเข้มข้นออกมา ช่วยให้เมิ่งฮ่าวสามารถใช้สิ่งที่เขาไม่เคยใช้มาก่อน รูปแบบที่สี่ของขุมทรัพย์เซียนโลหิต!

ทลายเมฆา มาจากคำว่า “ทลายเมฆา, พิรุณโลหิต, ทะเลปกคลุมท้องฟ้า!”

ทลายเมฆา! กลุ่มเมฆที่รวมตัวกันแต่จากนั้นก็ถูกทำลายไป พลังของการทำลายกลุ่มเมฆนี้ ทำให้เกิดเป็นสายลมแห่งการทลายเมฆา ซึ่งสามารถบดขยี้สวรรค์และปฐพี เห็นได้ชัดว่าพลังนี้เกินกว่ารูปแบบทั้งสามก่อนหน้านี้ของขุมทรัพย์เซียนโลหิต พลังอันรุนแรงน่าตกใจนี้ทำให้กลุ่มเมฆมากมายหลายชั้นนับไม่ถ้วน ฉับพลันนั้นก็กระจายออกไปรอบๆ เมิ่งฮ่าว ทำให้เกิดเป็นกลุ่มหมอกอันหนาแน่นเต็มไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น

กลุ่มหมอกนี้จริงๆ แล้วก็สร้างขึ้นมาจากกลุ่มเมฆ

พลังของการทลายเมฆามาจาก…การแตกกระจายออกไปของกลุ่มเมฆ!

เสียงกระหึ่มดังก้องออกมา ขณะที่เมฆหมอกในบริเวณนั้นจู่ๆ ก็ดูคล้ายกับว่ากำลังถูกแยกออกจากกันโดยหัตถ์ใหญ่ยักษ์ที่มองไม่เห็น พวกมันแตกกระจายไป และทันทีที่เกิดการแตกกระจาย ใบหน้าที่ถูกเรียกออกมาโดยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของบุรุษชุดดำ ทันใดนั้นก็แตกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

บุรุษชุดดำโซเซถอยไปด้านหลัง ยังคงไม่ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้มันสามารถใช้พลังจากพื้นฐานฝึกตนได้เพียงแค่สามในสิบส่วนเท่านั้น ที่เหลือได้อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงของการต่อสู้

เมื่อมันเห็นวิชาเวทของมันแตกกระจายออกไปอีกครั้ง มันก็เงยหน้าขึ้นส่งเสียงกู่ร้องออกมา สองมือขยับร่ายเวท และอีกครั้งที่ใบหน้าครึ่งหนึ่งของกลุ่มหมอกในกระแสน้ำวนได้ลอยออกมา และหลอมรวมเข้ากับร่างของมัน และอีกครั้งที่กลิ่นอายของมันระเบิดออกมา

ใบหน้ามันทันใดนั้นก็เริ่มดุร้ายขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ มันชี้นิ้วตรงไปยังกลุ่มคนนับหมื่นที่มาร่วมการประมูลซึ่งอยู่ด้านล่างบนพื้น

เกิดเป็นเสียงแผดร้องอย่างโดดเดี่ยวอ้างว้างออกมาจากผู้ฝึกตนทั้งหมด ยกเว้นซุนต้าไห่ที่ถูกปกป้องด้วยเกราะป้องกันของเมิ่งฮ่าว พลังชีวิตของพวกมันถูกดูดออกไปจากร่างและหลอมรวมเข้ากับปราณอสูรโดยสิ้นเชิง ปราณอสูร และแม้แต่กลุ่มหมอกที่อยู่รอบๆ กลุ่มผู้ฝึกตน ทั้งหมดต่างก็พุ่งตรงไปยังบุรุษชุดดำ

ขณะที่กลุ่มหมอกถูกดูดออกไป ก็เผยให้เห็นซากศพที่แห้งกรังนับหมื่น นอนระเกะระกะไปทั่วทุกที่!บุรุษชุดดำส่งเสียงกู่ร้อง ขณะที่กลุ่มหมอกหลอมรวมเข้ากับร่างของมัน ทำให้พื้นฐานฝึกตนของมันเริ่มฟื้นฟูกลับคืนมา มันยกมือขึ้นและทำท่าคว้าจับตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

จากการตอบรับท่าคว้าจับ กลุ่มหมอกสีดำระเบิดออกมาจากร่างของมัน กลายเป็นมือขนาดใหญ่หนึ่งพันจ้าง พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

“พิรุณโลหิต!” เมิ่งฮ่าวกล่าว ร่ายเวทด้วยสองมือ ในช่วงวิกฤตนี้ เขาใช้รูปแบบที่ห้าของความสามารถศักดิ์สิทธิ์เซียนโลหิต ภายใต้การควบคุมของเมิ่งฮ่าว ร่างจำแลงโลหิตระเบิดออก กลายเป็นลำแสงสีโลหิตมากมายนับไม่ถ้วน พุ่งตรงมาที่เขา หลอมรวมเข้ากับพิรุณโลหิต ซึ่งเมิ่งฮ่าวเพิ่งจะเรียกออกมา ทำให้ทั่วทั้งบริเวณนั้นกลายเป็น…พิรุณแห่งโลหิตอย่างแท้จริง

ทุกๆ หยดของพิรุณแห่งโลหิตอันใหญ่โตนี้ เต็มไปด้วยพลังเวทของเซียนโลหิต ทุกหยดพุ่งฝ่าอากาศตรงไปยังหัตถ์หมอก ที่ถูกเรียกออกมาโดยบุรุษชุดดำ

ภาพที่เห็นนี้ทำให้ทุกคนในบริเวณนั้น ต่างก็ตกตะลึงเข้าไปถึงแก่นกาย เสียงระเบิดดังก้องออกมา ซึ่งสามารถได้ยินห่างออกไปไกลนับหมืนหลี่ทั่วทุกทิศทาง โลหิตกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเขาพังทลาย พิรุณโลหิตลอยออกไปทั่วทุกทิศทาง ร่างจำแลงโลหิตในตอนนี้เซื่องซึมเหงาหงอย ร่างบุรุษชุดดำสั่นสะท้าน ขณะที่มันอ่อนแอลงไปอีกครั้ง จนถึงจุดที่ดูเหมือนว่าจะหายตัวไปได้ทุกเมื่อ เพราะมันถูกทำให้อ่อนแอลงโดยคัมภีร์ การต่อสู้ครั้งนี้ช่างลำบากยากเข็ญเป็นอย่างยิ่ง แต่มันก็เริ่มมองเห็นชัยชนะ ใบหน้ามันบิดเบี้ยวอย่างโหดเหี้ยม รวบรวมพลังทั้งหมด ทำให้หัตถ์กลุ่มหมอกสีดำปรากฎขึ้นอีกครั้ง พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

“ผู้ผนึกอสูร ตาย!!”

ในตอนนี้เองที่…

“ร่างปีศาจ เจ้ากล้า!?!?” เสียงอันกราดเกรี้ยวดังก้องออกมาราวกับเสียงฟ้าร้อง ดูเหมือนจะประกอบไปด้วยอำนาจแห่งสวรรค์ ดังออกมาจากภายในโลกของกระแสน้ำวน ราวกับเป็นหยาดพิรุณที่โหมกระหน่ำตกลงมาอย่างหนักจากภายในกลุ่มหมอกสีดำบนแท่นบูชา

ขณะที่เสียงนั้นระเบิดออกมา ใบหน้าที่ยังเหลืออยู่ซึ่งพยายามจะสะกดข่มกลุ่มหมอกสีดำ ฉับพลันนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชออกมา พวกมันแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ในทันที ทำให้กลุ่มหมอกทันใดนั้นก็กระจายออกไปทั่วทุกทิศทางเผยให้เห็น…หอกซีดขาวซึ่งแทงเข้าไปในจุดกึ่งกลางของแท่นบูชา

หอกนี้ก็คือ…เยาปิงฮวงจ่ง (อาวุธอสูรหลุมฝังศพโดดเดี่ยว) ที่แท้จริง!!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!