Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 514

ตอนที่ 514

ห้าธาตุรวมเป็นหนึ่งชั่วขณะ

เส้นผมเมิ่งฮ่าวสะบัดพริ้วไปมา ถึงแม้จะไม่มีลมพัดมาก็ตามที ดวงตาเขาสาดประกายด้วยแสงอันลึกล้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวกลายเป็นสีแดงเจิดจ้า ทะเลสาบแห่งโลหิตที่ด้านล่างเริ่มเดือดพล่านและพุ่งขึ้นไปในอากาศ

ถ้านั่นเป็นสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้น ความน่ากลัวอย่างแท้จริงของภาพศักดิ์สิทธิ์โลหิตก็จะไม่เป็นที่ประจักษ์ อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกตนทั้งหมดในบริเวณนั้นจู่ๆ ก็รู้สึกว่าโลหิตที่อยู่ภายในร่างของพวกมัน ฉับพลันนั้นก็ไม่อาจจะควบคุมได้ ราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมาจากภายในร่างพวกมัน!

กลุ่มคนในเผ่ากองโจรต่างก็รู้สึกเช่นนี้ เช่นเดียวกับผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านบนของโม่เหมิน!

ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นตะหนกในทันที จากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้

ทุกสิ่งทุกอย่างมืดสลัวเลือนลาง สูงขึ้นไป สายลมโชยพัด กลุ่มเมฆม้วนตัวไปมา มองเห็นน้ำพุโลหิตอยู่ในกลางอากาศ ภายในฝูงสัตว์ปีศาจ ตรงนิ้วชี้ของเมิ่งฮ่าว!

ช่วงเวลาเดียวกันนั้น ในดินแดนด้านใต้ ที่ห่างไกลออกไปจากชายขอบของดินแดนสีดำ…

แสงสีโลหิตจากวัดโบราณไท่เอ้อร์พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า แสงนี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับสำนักใหญ่และตระกูลดังแห่งดินแดนด้านใต้ในทันที

รูปปั้นเทพทั้งหมดที่อยู่ภายในวัดโบราณไท่เอ้อร์ เริ่มหลั่งน้ำตาแห่งโลหิตออกมา เป็นภาพที่แปลกประหลาดจนสร้างความปั่นป่วนไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้

แทบจะดูเหมือนว่ารูปปั้นเหล่านี้กำลังทำพิธีบวงสรวงพลังแห่งเซียนโลหิต ขณะที่มันได้กลับคืนมาสู่โลกนี้!!

ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับมาในดินแดนอันกว้างใหญ่ของทะเลทรายตะวันตก ตรงด้านนอกโม่เหมิน

เมิ่งฮ่าวค่อยๆ มองขึ้นไปยังผู้แข็งแกร่งสูงสุดของพันธมิตรเผ่ากองโจรที่กำลังตกตะลึงอยู่

“ด้วยร่างจำแลงโลหิตตระกูลจี้ ทำให้ข้าสร้างเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์โลหิตขึ้นมาได้ แต่มันก็ไม่อาจจะเทียบได้กับฝนม่วง ดังนั้นข้าก็ไม่ได้ต้องการให้มันคงอยู่ตลอดไป อย่างไรก็ตาม การที่บรรลุไปถึงวงจรอันสมบูรณ์ของห้าธาตุชั่วคราวได้ก็ดีไม่น้อย หรือบางที…ข้าอาจจะใช้ภาพศักดิ์สิทธิ์โลหิตนี้ เป็นพื้นฐานและหลอมรวมเข้าด้วยกันกับฝนม่วง จากนั้นข้าก็จะบรรลุถึงขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่ของภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำ!” ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งหวัง เมิ่งฮ่าวยกมือขึ้น และกดนิ้วลงไปบนหน้าผาก

“ห้าธาตุ…รวมเป็นหนึ่งชั่วขณะ!”

พลังที่ก่อให้เกิดวิญญาณแห่งอีกาสีทอง! ทองคำ!

พลังชีวิตอันไร้ขอบเขตแห่งต้นชิงมู่! ไม้!

ดินยะเยียบซึ่งให้กำเนิดหานถู่เยาตี้! ดิน!

เปลวไฟอมตะ! ไฟ!

และตอนนี้ พลังแห่งขุมทรัพย์เซียนโลหิต ได้กลายเป็นโลหิต, น้ำ!

ทันใดนั้น ธาตุทั้งห้าก็บรรลุถึงวงจรอันยิ่งใหญ่ มันอาจจะเป็นวงจรอันยิ่งใหญ่ชั่วขณะ แต่กระนั้นก็ทำให้พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานขึ้นไป แกนสีทองสมบูรณ์ของเขากระจายแสงสีทองอันไร้ขอบเขตออกมา ในท่ามกลางขั้นตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า…เริ่มมองเห็นเป็นวิญญาณแรกก่อตั้ง!ในเวลาเดียวกันนั้น ธาตุทั้งห้าก็เริ่มหลอมรวมเข้าด้วยกัน!

ทอง ไม้ น้ำ ดิน ไฟ ห้าธาตุหลอมรวมเข้าด้วยกัน ต่างก็ส่งเสริมและควบคุมซึ่งกันและกัน ขณะที่พวกมันรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อก่อตัวเป็นฮุ่นตุ้น (混沌 – เทพโบราณของจีน มีสี่ปีก หกขา ไร้หน้าและดวงตา) ภายในฮุ่นตุ้นนี้มีเส้นใยแห่งแสงหนึ่งเส้น!

แสงนี้เป็นสีทอง เป็นสีทองเดียวกับทองแห่งธาตุทั้งห้า และเป็นสีเดียวกับรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุทอง และเป็นสีเดียวกับแกนสีทองสมบูรณ์ของเมิ่งฮ่าวด้วยเช่นกัน ทันทีที่แสงสีทองปราฏขึ้น พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งทะยานขึ้นไป

สูงขึ้นไปอย่างไม่รู้จบ เพียงชั่วพริบตา…เขาก็ทะลวงผ่านขั้นแกนสีทอง เข้าไปสู่ขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้ง!

แกนสีทองสมบูรณ์เริ่มหลอมละลาย จากภายในกลายเป็นวิญญาณแรกก่อตั้ง ซึ่งโดดเด่นเป็นของเมิ่งฮ่าวแต่เพียงผู้เดียว!!

ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวสามารถสังหารวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นต้น, สร้างความตกตะลึงให้กับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นกลาง และต่อสู้กับวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นสุดท้าย ยากที่จะบอกว่าเขาจะมีชัยเหนือวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นสุดท้ายได้ แต่นี่ก็เป็นพลังที่ขั้นสร้างแกนลมปราณไม่อาจจะมีได้ พลังวิญญาณแรกก่อตั้งห้าสีของเมิ่งฮ่าวได้เสร็จสมบูรณ์ในขั้นตอนเดียว เมื่อรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ปรากฏขึ้น ตอนนี้เขามีพลังการต่อสู้อย่างที่คาดไม่ถึงมาก่อน และสร้างความตกตะลึงให้กับโลกแห่งการฝึกตนนี้ไปทั่ว

อย่างน่าประหลาดใจ ในมุมมองของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของคนภายนอก ได้มองเห็นว่าจริงๆ แล้ว เมิ่งฮ่าวอยู่แค่ขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่ของสร้างแกนลมปราณเท่านั้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าเมิ่งฮ่าวจงใจให้มองเห็นว่าเขาอยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณ

ตอนนี้…ในช่วงที่พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวระเบิดขึ้นไป ทำให้เขาเข้าไปสู่ขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้ง วิญญาณแรกก่อตั้งได้ก่อตัวขึ้นอยู่ภายในแกนสีทอง ใบหน้าของผู้ฝึกตนที่กำลังมองดูอยู่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อในทันที และพวกมันก็อ้าปากค้างไปตามๆ กัน

“มัน…ได้ทะลวงผ่านพื้นฐานฝึกตน? มันอยู่ในขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง?”

“เป็น…เป็นไปได้อย่างไรกัน? มันบรรลุขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง? อย่าบอกนะว่าก่อนหน้านี้ จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณ!?!?”

“เป็นไปไม่ได้! บางทีมันอาจจะเป็นผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นทำให้พื้นฐานฝึกตนของมันลดลง และตอนนี้ก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้?” เสียงพูดคุยด้วยความประหลาดใจ กระจายออกไปทั่วทั้งสนามรบ เช่นเดียวกับท่ามกลางกลุ่มคนที่มุงดูอยู่บนกำแพงเมืองโม่เหมิน และแม้แต่ท่ามกลางกลุ่มผู้แข็งแกร่งของเผ่ากองโจร ซึ่งพยายามต่อสู้ฝ่าเป็นเส้นทางผ่านฝูงสัตว์ปีศาจเข้าไป ก็ยังพูดด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน

ขณะที่พวกมันต่างก็ตกอยู่ในห้วงความประหลาดใจ ลำแสงที่สองก็พุ่งออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว นอกเหนือจากแสงสีทอง

สีเขียว!

แสงเจิดจ้าสีเขียวประสานรวมกับแสงสีทอง เส้นผมเมิ่งฮ่าวพริ้วไสวไปมา ขณะที่พลังชีวิตอันไร้ขอบเขตจู่ๆ ก็เริ่มกระจายออกมาจากร่าง เพียงชั่วขณะพื้นฐานฝึกตนก็ไต่ทะยานขึ้นไปสูงกว่าเดิม ในตอนนี้…เขาอยู่ในขั้นต้นสูงสุดของวิญญาณแรกก่อตั้ง อีกเพียงก้าวเดียวก็จะอยู่ในขั้นกลางวิญญาณแรกก่อตั้ง!

เหตุการณ์นี้ทำให้จิตใจของคนทั้งหมดที่กำลังมองดูอยู่ สั่นสะท้านขึ้นมาในทันใด ขณะที่เมิ่งฮ่าวเงยหน้าขึ้นและส่งเสียงกู่ร้องออกมา สีทั้งสามก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง เป็นท้องฟ้าสามสี!

สีทอง, สีเขียว รวมกับสีที่เป็นตัวแทนของภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำ, สีแดง!!

ท้องฟ้าสามสีที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว เป็นภาพที่สะท้อนขึ้นไปในท้องฟ้า ขณะที่พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานสูงขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง สูงขึ้นไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด ทะลวงผ่านวิญญาณแรกก่อตั้งขั้นต้น เข้าไปสู่วิญญาณแรกก่อตั้งขั้นกลาง

ในตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งหมดที่กำลังมองมา ต่างก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาตั่วหลันเบิกกว้าง ราวกับว่านางกำลังมองดูสิ่งที่เป็นไปไม่ได้บางอย่าง แม้แต่จางเหวินสู่ ดวงตาของมันก็สาดประกายด้วยความจดจ่ออย่างลึกล้ำ

ต่อมา สีที่สี่ซึ่งทำให้โลกต้องสั่นสะท้าน ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้น สีเหลือง!

ด้านหลังเมิ่งฮ่าว มองเห็นเป็นท้องฟ้าสี่สี พื้นฐานฝึกตนของเขาไม่ได้หยุดการไต่ระดับขึ้นไป แต่ยังคงพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขาได้เตรียมการไว้อย่างรอบคอบทั้งหมดแล้ว และตอนนี้ก็กำลังปลดปล่อยระเบิดผลลัพธ์ของมันออกมา

พลังของเขาระเบิดออก และกระจายกลิ่นอายอันกล้าหาญออกมามากขึ้น ขณะที่ด้านหลัง ลำแสงห้าสีได้ประสานเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นท้องฟ้าห้าสี!

นั่นก็คือสีที่ห้าซึ่งเป็น…สีดำ!

ห้าธาตุ, ห้าสี ในตอนนี้ พวกมันได้กลายเป็นท้องฟ้าห้าสี หมุนวนอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว เสื้อผ้าปลิวสะบัด เส้นผมพริ้วไปมา ดวงตาสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้าแปลกๆ

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น ร่างกายกระจายแสงห้าสีออกมาเป็นท้องฟ้าห้าสีอยู่ที่ด้านหลัง ขณะที่ในตอนนี้ มองไม่เห็นรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์อยู่บนร่างเขาอีกต่อไป ทั้งหมดที่เขามีก็คือ…ท้องฟ้าห้าสีและกลิ่นอายอันน่ากลัวอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้!

แสงห้าสีจากธาตุทั้งห้าของเมิ่งฮ่าวเหล่านี้ สีทองมาจากภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุทอง สีเขียวมาจากธาตุไม้ โลหิตธาตุน้ำเป็นสีแดง ดินยะเยียบเป็นสีดำ!

สุดท้ายก็คือไฟ มันไม่ได้มีสีแดง แต่เป็นสีเหลือง เปลวไฟอันร้อนแรงพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

พื้นฐานฝึกตนของเขาพุ่งทะยานขึ้นไปเป็นครั้งสุดท้าย กลิ่นอายที่ระเบิดออกมาเต็มไปด้วยความเข้มข้นลึกล้ำอย่างน่าเหลือเชื่อ ส่งผลให้ภายในจิตใจลึกๆ ของผู้ฝึกตนทั้งหมดที่กำลังมองมา เต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัวและสั่นสะท้าน

ในที่สุด เขาก็บรรลุถึงขั้นกลางสูงสุดของวิญญาณแรกก่อตั้ง ห่างจากขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้งเพียงแค่…เศษเสี้ยวเล็กๆ สุดท้ายพื้นฐานฝึกตนที่กำลังพุ่งทะยานขึ้นไปก็หยุดลง คนทั้งหมดในสนามรบสั่นสะท้านขณะที่พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าว

พื้นฐานฝึกตนที่ระเบิดออกมานี้ มาจากแกนสีทองที่ถูกสะกดไว้นานหลายปี ในตอนนี้ เขาได้ปลดปล่อยพลังที่สะกดไว้ทั้งหมดออกมา จนทำให้พุ่งขึ้นไปจนถึงขั้นกลางสูงสุดของวิญญาณแรกก่อตั้ง

ก่อนหน้านี้ เขาสามารถต่อสู้กับขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้งได้ ในตอนนี้…เมิ่งฮ่าวมีความแข็งแกร่งอย่างเพียงพอ ถึงแม้จะไม่อาจสร้างความสั่นสะเทือนให้กับขั้นตัดวิญญาณได้ แต่เขาก็สามารถบดขยี้ผู้ฝึกตนที่อยู่ต่ำกว่าขั้นนี้ลงได้ทั้งหมด ราวกับบดขยี้หญ้าแห้งหรือกิ่งไม้ผุ ราวกับเป็นคมมีดที่กรีดเฉือนลงไปบนก้อนเต้าหู้!

แม้จะเป็นเช่นนี้ทั้งหมด แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังถอนหายใจออกมา

“ถ้าข้าเข้าใจฝนม่วงได้ ข้าก็จะสามารถหลอมรวมมันเข้าไปในภาพศักดิ์สิทธิ์โลหิต เพื่อสร้างเป็นวงจรอันยิ่งใหญ่ของภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำได้ ถ้ามันเกิดขึ้นเช่นนั้น พื้นฐานฝึกตนของข้าก็จะทะลวงผ่านขั้นกลางวิญญาณแรกก่อตั้งไปได้อย่างแน่นอน!” เมิ่งฮ่าวรู้ว่าตอนนี้พื้นฐานฝึกตนของเขาไม่ได้อยู่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งห้าธาตุอย่างแท้จริง และด้วยเช่นนั้น จึงทำให้เขาไม่อาจจะผ่านขั้นกลางวิญญาณแรกก่อตั้งไปได้

นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง น้ำของธาตุทั้งห้านี้ประกอบไปด้วยโลหิตส่วนหนึ่งของเซียนโลหิต สิ่งที่เขาต้องการก็คือฝนม่วงแห่งวันสิ้นโลกทะเลทรายตะวันตก

นั่นก็คือสิ่งที่เขาเลือก

ในตอนนี้ พื้นฐานฝึกตนห้าธาตุของเขาเป็นแค่การรวมตัวกันชั่วขณะเท่านั้น จริงๆ แล้ว วิญญาณแรกก่อตั้งนี้เป็นแค่ภาพลวงตา และห้าธาตุก็ไม่ได้หลอมรวมกันโดยสมบูรณ์ เขายังไม่ได้ปรุงวิญญาณแรกก่อตั้งห้าสี เมื่อไหร่ที่เขาทำ พื้นฐานฝึกตนก็คงจะมั่นคงอย่างสมบูรณ์

ทันใดนั้น แสงแปลกๆ ก็สาดประกายอยู่ในดวงตา เขามองออกไปยังสัตว์ปีศาจมากมายนับไม่ถ้วนในที่ห่างไกล และผู้แข็งแกร่งรวมถึงเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังประหลาดใจของเผ่ากองโจร

“ถึงเวลาแล้วที่ต้องทดสอบพลังการต่อสู้ ของธาตุทั้งห้าที่มารวมตัวกันชั่วขณะนี้!” ขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง สัตว์ปีศาจก็ส่งเสียงแผดร้องคำราม และกระโจนเข้าไปยังผู้แข็งแกร่งเผ่ากองโจร บังคับให้พวกมันต้องป้องกันตัว ทันใดนั้น หนึ่งในผู้แข็งแกร่งวิญญาณแรกก่อตั้ง ก็แยกตัวออกมาจากคนอื่นๆ โดยสัตว์ปีศาจ มองเห็นเป็นช่องว่างขึ้นอย่างชัดเจนระหว่างมันและเมิ่งฮ่าว ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปไม่กี่ร้อยจ้าง

ชายชราและเมิ่งฮ่าวจ้องมองซึ่งกันและกันชั่วขณะ จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็กล่าวเสียงราบเรียบ “เข้ามา”

“ช่างหยิ่งยโสทรนงนัก!!” ชายชราแผดร้องออกมา ซึ่งก็คือผู้เฒ่าสูงสุด ดวงตามันสาดประกายด้วยความเย็นชา ขณะที่ใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อยพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

กลุ่มคนที่เหลือจากชนเผ่าของมัน รวมถึงผู้เฒ่าและหัวหน้าเผ่า ได้ถูกสังหารไปเนื่องจากดอกจิตปีศาจพิสดาร ในตอนนี้มีมันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้แข็งแกร่งสูงสุดที่เหลืออยู่ของเผ่า มันพุ่งตรงไปดวงตาสาดประกายด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น ขณะที่มันใกล้เข้ามา ภาพศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์บนศีรษะของมัน เป็นดวงดาวที่มีขนาดใหญ่โตมหึมา ซึ่งจากนั้นก็กลายเป็นศิลาที่มีขนาดความกว้างหนึ่งพันจ้าง ส่งเสียงกระหึ่มออกมาขณะที่มันพุ่งผ่านอากาศตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น สีหน้าสงบราบเรียบ โบกสะบัดมือขวา ทำให้ท้องฟ้าห้าสีแวบขึ้น เสียงหวีดหวิวได้ยินมาขณะที่แสงห้าสีกระจายออกไป และจากนั้นก็หายไป ชั่วขณะหลังจากนั้น ก้อนศิลาที่ใกล้เข้ามาก็สั่นสะเทือน และจากนั้นก็แตกกระจัดกระจายออกไป

ภาพที่เห็นนี้ทำให้คนทั้งหมดที่กำลังมองมาตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เฒ่าสูงสุดที่กำลังพุ่งเข้ามา ใบหน้ามันเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือและชี้ตรงไป

ขณะที่เขาชี้นิ้วไป ท้องฟ้าห้าสีก็สั่นกระเพื่อมและจากนั้นก็หายไป เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็ได้รวมตัวกันอยู่ที่นิ้วของเมิ่งฮ่าว จากนั้นนิ้วของเขาก็ชี้ลงไป แสงเจิดจ้าห้าสีก็พุ่งตรงไปยังชายชราผู้นั้น

มันเป็นถึงผู้เฒ่าสูงสุด แต่กระนั้นสีหน้าก็ยังเปลี่ยนไป กู่ร้องออกมาขณะที่ปลดปล่อยพลังเวทและอาวุธเวทออกมา มันพุ่งถอยไปด้านหลัง ใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อยออกมาหลายครั้ง เพื่อหายไปตัวในทันที และจากนั้นก็ไปปรากฎตัวขึ้นใหม่ในที่ห่างไกล

มันมีปฏิกิริยาและเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ดูราวกับว่าถึงลำแสงห้าสีจะรวดเร็วและดุร้ายมากเพียงใดก็ตามที ก็ไม่อาจจะแตะต้องสัมผัสโดนตัวมันได้ อย่างไรก็ตาม…จู่ๆ มันก็พบว่าตลอดทั้งร่างของมันกำลังสั่นสะท้าน กระอักโลหิตออกมากองโต ขณะที่แสงเจิดจ้าห้าสีมาปรากฏขึ้นที่บนหน้าอก มันจ้องมองลงไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ไม่อาจจะทำสิ่งใดๆ ได้นอกจากอ้าปากค้าง

“มันเป็นไปได้อย่าง…?”

“ก็เหมือนที่ท่านเห็น” เมิ่งฮ่ากล่าวเสียงแผ่วเบา ดวงตาสาดประกายด้วยความรู้แจ้ง “ท่านไม่อาจจะหลบเลี่ยงพลังของห้าธาตุได้”

ชายชราไม่กล่าวอะไรออกมา แต่รอยยิ้มอันขมขื่นปรากฏขึ้นบนใบหน้า ทันใดนั้น ตลอดทั้งร่างของมันก็กลายเป็นสีแดง ขณะที่โลหิตทั้งหมดภายในร่างระเบิดออก เสียงปะทุได้ยินมาขณะที่มันกลายเป็นกลุ่มหมอกโลหิต ในเวลาเดียวกันนั้น แสงสีทองก็กระจายออกมาจากภายในร่าง เปลี่ยนร่างมันจากภายในสู่ภายนอกให้กลายเป็นรูปปั้นทองคำ แต่มันก็ยังไม่ได้ตายไปขณะที่ตกลงไปบนพื้น การที่มันยังคงมีชีวิตอยู่นี้ก็เหมือนกับเป็นการถูกทรมานอย่างน่าขมขื่นใจ แต่จากนั้น ทะเลแห่งเปลวไฟก็พุ่งออกมาจากภายในร่าง เผาไหม้มันให้ตายไปทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!