Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 677

ตอนที่ 677

เต๋าอันยิ่งใหญ่ก้องกังวาน!

ใบมีดแรกของการตัดวิญญาณ!

เต๋าแรกของการตัดวิญญาณ!

เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ก้นทะเลเทียนเหอ ล้อมรอบไปด้วยโครงกระดูกที่ก่อตัวเป็นรูปดอกไม้ ท่ามกลางสาหร่ายทะเลที่ส่ายไหวไปมา โครงกระดูกเรืองแสงจางๆ ออกมาเป็นระยะ ซึ่งค่อยๆ กลายเป็นสีขาวอย่างน่ากลัวคล้ายกับกระดูกเหล่านั้น

แสงนั้นกดทับลงไปบนดอกปี่อ้านห้าสี สะกดข่มจนทำให้มันต้องดิ้นรนต่อสู้ด้วยความบ้าคลั่ง

ร่างเมิ่งฮ่าวเหี่ยวแห้งลง มีท่าทางอ่อนแอลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดูคล้ายกับเป็นถุงที่ห่อหุ้มกระดูก แต่ดวงตาก็สาดประกายด้วยพลังชีวิตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ราวกับว่าเขากำลังแปลงกายเป็นเต๋า จิตใจและเจตจำนงทั้งหมดของเขาต่างก็เพ่งสมาธิไปที่ดวงตา ซึ่งมองไปยังใบมีดหลากสีที่อยู่ตรงหน้า

เขาไม่สนใจทุกสรรพสิ่งในโลกด้านนอกโดยสิ้นเชิง สมาธิของเขาไปอยู่ที่ใบมีดทั้งหมด!

ใบมีดขยับเคลื่อนไหว!

มันค่อยๆ ลอยขึ้นไป! ขณะที่เป็นเช่นนี้ ใบมีดแห่งสวรรค์ที่ด้านบน ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มดาวมากมายนับไม่ถ้วน ก็ลอยขึ้นไปด้วยเช่นเดียวกัน พร้อมกับสาดประกายแสงของมันลงมายังดินแดนแห่งดาวหนานเทียน

ทันใดนั้น คลื่นยักษ์ก็พุ่งขึ้นมาทั่วทั้งทะเลเทียนเหอ สาดกระแทกออกไปไกลเป็นวงกว้าง การขยับตัวเคลื่อนไหวของใบมีด ยังทำให้ทะเลม่วงในทะเลทรายตะวันตก เริ่มม้วนตัวไปมาอย่างรุนแรงอีกด้วย

ผู้ฝึกตนทั้งหมด ซึ่งจริงๆ แล้วก็น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในทะเลชั้นนอก วงแหวนที่สี่ และวงแหวนที่สาม ต่างก็ตกตะลึงกันไปทั่ว

ใบหน้าปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังบิดเบี้ยวดูน่าเกลียดจนถึงที่สุด ขณะที่มันจ้องมองขึ้นไปในท้องฟ้า ถึงแม้ว่าสีหน้าจะเปลี่ยนไป แต่มันก็ไม่กล้าที่จะก้าวเท้าตรงไปยังอาณาเขตนั้น ซึ่งเต๋าอันยิ่งใหญ่จะกำจัดร่างกายและวิญญาณของมันไป เหตุผลก็คือว่าเต๋านั้น…ไม่ใช่เต๋าของมัน

“บัดซบ!” มันก่นด่า รังสีสังหารอันเข้มข้น สาดประกายอยู่ในแววตา “สุดท้ายการตัดวิญญาณของเจ้าก็จะสิ้นสุดลง ข้าหวังว่าเจ้าคงไม่ตายไปในขั้นตอนนี้ มิเช่นนั้นเหล่าฟูก็ไม่มีทางได้ครอบครองพื้นฐานเต๋าของเจ้า!”

“แต่…ข้าก็ยังต้องการจะรู้ว่า เต๋าที่เจ้ารู้แจ้งคืออะไรกันแน่?”

ภายในวงแหวนที่สาม สีหน้าของสามผู้ศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน แต่ก็แตกต่างจากเฟยเซียนเซิ่งและไห่เสินเซิ่ง ดวงตาของหยางหุนเซิ่งสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ มันเข้าใจในทันทีว่าการตัดวิญญาณนี้เป็นการกระทำของ…เมิ่งฮ่าว!

“กลายเป็นว่าจริงๆ แล้ว เจ้าก็อยู่ห่างจากขั้นตัดวิญญาณเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น!” มันครุ่นคิด สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ

ในเวลาเดียวกันนั้น ขณะที่ใบมีดที่คล้ายกลุ่มดาวค่อยๆ ลอยขึ้นไป ภาพลวงตาของดอกปี่อ้านที่กำลังขัดขืนดิ้นรนก็บรรลุถึงจุดที่คลุ้มคลั่ง สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากมันรับรู้ได้ถึงวิกฤตอันร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่มันต้องมาพบเจอกับความน่ากลัวอย่างแท้จริงเช่นนี้

มันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าใบมีดที่อยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว มีพลังที่จะตัดมันให้ขาดออกไป ใบมีดนั้นมีพลังของเต๋าอันยิ่งใหญ่อยู่ภายใน เป็นบางสิ่งที่มันไร้พลังจะต่อต้านได้

เสียงอันเลือนลางทันใดนั้นก็ได้ยินออกมาจากโครงกระดูกที่อยู่ในสาหร่ายทะเล และดวงตาของหยินเติงซ่างเหรินที่ตายไปนานแล้ว จู่ๆ ก็เริ่มส่องแสงออกมา “เต๋าแห่งเสรีภาพ, แห่งความเป็นอิสระ…”

มันมองไปยังเมิ่งฮ่าวที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้า และพึมพำ “ถ้าไม่ใช่ความจริงที่ว่ามันถูกทำให้แข็งแกร่งโดยดอกปี่อ้าน เด็กผู้นี้ก็คงไม่อาจจะหยั่งรู้ถึงเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์และปฐพีนี้ได้…”

“ตัดโซ่ตรวน และบรรลุถึงอิสรภาพที่แท้จริง…สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ยากที่จะบอกได้ว่ามันกำลังถูกทำให้แข็งแกร่งโดยดอกปี่อ้าน หรือว่าดอกปี่อ้านถูกทำให้แข็งแกร่งโดยมัน”

“ข้าแทบไม่อาจจะรับรู้ได้ว่าทั้งมันและดอกปี่อ้าน ต่างก็ถูกใครบางคนเฝ้ามองดูพวกมันอยู่…หนึ่งก็คือเซียนรุ่งอรุณแห่งวงแหวนที่สอง, มารดาแห่งดอกปี่อ้านซึ่งคงอยู่ในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน อีกผู้หนึ่ง…อยู่ในดินแดนตะวันออก”

ขณะที่หยินเติงซ่างเหรินกำลังมองไปยังเมิ่งฮ่าว สายตาอันน่ากลัวก็พุ่งออกมาจากความมืดมิด ซึ่งเป็นส่วนที่ลึกสุดในวงแหวนที่สอง กระจายกลิ่นอายปีศาจอันไร้ขอบเขตออกมา ถึงแม้จะเป็นปีศาจแต่ก็ยังมีร่องรอยของเจตจำนงแห่งเซียนอยู่ ขณะที่มันเพ่งมองตรงมายังเมิ่งฮ่าว

“ข้าบานขึ้นในยามรุ่งอรุณ” เจ้าของเสียงรำพึง “และข้าก็ได้สติขึ้นมา…ในวันแห่งความผันผวนของชีวิต ข้าบรรลุกลายเป็นเซียน และได้พบกับใครบางคนที่ข้าไม่ควรจะพบ”

“สุ่ยโม่ (หมึกที่ใช้วาดภาพ) ได้ขโมยหัวใจข้าไป…ซึ่งประกอบด้วยความปรารถนาทั้งหมดจากชีวิตก่อนหน้านี้ของข้า…มันจมลงไปในทะเลเทียนเหอ และถูกผนึกอยู่ในค่ายกลศิลา ถูกขังอยู่ในโลงศพทองแดง…ถูกล่ามไว้ด้วยสายโซ่มากมายนับไม่ถ้วน”

“สิ่งที่ถูกขังไว้เป็นส่วนความดีของข้า ในที่สุดมันก็กลายเป็นคุนเผิง ซึ่งตอนนี้กำลังโศกเศร้าเสียใจอยู่ในถ้ำกำเนิดใหม่”

“พันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูร รุ่นที่เก้าจะแข็งแกร่งมากที่สุด มันก็คือความหวังของเจ้า…? ข้ารู้ว่าเมื่อนานมาแล้ว ถ้าข้าไม่ได้พบเจอเจ้า ข้าก็คงจะทำลายความหวังของพันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูรไปแล้ว”

สายตาที่มองมายังเมิ่งฮ่าวจากวงแหวนที่สอง เต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน มีทั้งความเย็นชา, สับสน, เกลียดชัง และดุร้าย

เวลาเดียวกันนั้น ในต้าถังแห่งดินแดนตะวันออก มีสตรีหนึ่งคนกำลังมองไปยังทิศทางของทะเลเทียนเหอ สายตานางมองทะลุฝ่าอากาศ ผ่านไปยังทะเลเทียนเหอ ตรงมาที่เมิ่งฮ่าว

เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงหา, กังวล, ทุกข์ใจและห่วงใย ทั้งหมดนี้กลายเป็นความรักอันลึกล้ำไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งห่อหุ้มจิตใจนางไว้

นางยืนอยู่ที่ชั้นบนสุดของเจดีย์แห่งถัง จ้องมองออกไปยังที่ห่างไกล ข้างกายนางยืนไว้ด้วยบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งกุมมือนางไว้อย่างเงียบๆ รู้สึกได้ถึงร่างที่สั่นสะท้านของนาง และรับรู้ได้ถึงความชื้นของเหงื่อในฝ่ามือนาง

“นี่ก็คือความทุกข์ยากของฮ่าวเอ๋อร์” มันกล่าวเสียงแผ่วเบา “ข้าแค่อยากให้มันมีชีวิตอย่างปกติสุข เป็นชีวิตของมนุษย์ธรรมดา แต่มันก็เลือกที่จะมาเดินไปบนเส้นทางของการฝึกตน…ตอนนี้ก็ไม่อาจจะย้อนกลับไปได้แล้ว”

“ถ้ามันล้มเหลว พวกเราทั้งสองก็จะไปรับตัวมันมา เมื่อมันถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ พวกเราจะใช้ชีวิตทั้งหมดร่วมกับมัน เดินผ่านวงจรหกสิบปีแห่งฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงไปด้วยกัน…” บุรุษผู้นั้นพึมพำ ดูเหมือนจะพูดกับสตรีนางนั้นและตนเอง

“จิตใจท่านช่างโหดร้ายนัก” สตรีนางนั้นกล่าว หยดน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านบุรุษผู้นั้น และมันก็หลับตาลง ลึกลงไปในจิตใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างขมขื่น กระจายออกไปทั่วร่าง ดูเหมือนว่ามันกำลังระลึกถึงเด็กชายที่เปราะบางกำลังวิ่งอยู่ในกลุ่มหมอกเมื่อปีนั้น น้ำตาไหลนองหน้าขณะที่เด็กชายร้องตะโกนเรียกหาบิดาและมารดา มันจำได้ว่าเด็กชายเดินโซเซพยายามค้นหามัน เมื่อเด็กชายมองเห็นมัน มันก็มองเห็นหยดน้ำตาในดวงตาของเด็กชายนั้น และตระหนักว่าเด็กผู้นั้นจำเป็นต้องพึ่งพามันมากแค่ไหน

“ลี่, ท่านไม่เข้าใจ…” บุรุษผู้นั้นไม่ได้กล่าวคำพูดนี้ออกมา แต่รำพึงอยู่ในจิตใจของมัน

ตูม!

ตรงก้นทะเลเทียนเหอ ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้าเข้มข้น เขาค่อยๆ มองขึ้นไปยังใบมีดที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่มันลอยสูงขึ้นไปอย่างช้าๆ ในสวรรค์ที่อยู่สูงไกลขึ้นไปจากทะเล ใบมีดรูปร่างดวงดาวก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปเช่นเดียวกัน

ขณะที่ใบมีดนั้นเคลื่อนที่ขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด ก็ดูเหมือนว่ามันกำลังสร้างพลังขึ้นมา ในตอนที่ใบมีดบรรลุถึงจุดสูงสุด สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทะเลเทียนเหอต่างก็จ้องมองมา…

ทันใดนั้นใบมีดรูปร่างดวงดาวก็เริ่มกรีดลงมายังทะเลเทียนเหอ

เสียงกระหึ่มดังก้องเต็มอยู่ในท้องฟ้า และฉับพลันนั้นทะเลก็เริ่มแยกออกจากกัน ที่พื้นทะเล ซึ่งไม่ได้พบเจอกับแสงตะวันมานานหลายแสนปีจนนับไม่ถ้วน…ก็เปิดเผยให้โลกเห็นเป็นครั้งแรก

ที่มองเห็นอยู่ภายในก็คือเมิ่งฮ่าว รวมทั้งดอกปี่อ้าน ซึ่งกำลังดิ้นรนขัดขืนด้วยความบ้าคลั่ง

ยังมองเห็นใบมีดหลากสีที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าวอีกด้วย

ใบมีดของการตัดวิญญาณครั้งแรก!

“สวรรค์และปฐพี เป็นแค่ที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย” เมิ่งฮ่าวพึมพำ “เวลาเป็นตัวแทนของผู้เดินทางที่ผ่านไปจากรุ่นสู่รุ่นนับไม่ถ้วน” แสงแห่งความมุ่งมั่นปรากฏขึ้นในดวงตา และใบมีดก็ตวัดลงมา

“ชีวิตของข้าก็เหมือนกับที่อยู่อาศัยเหล่านั้น ไม่ว่ารอยเท้าของข้าจะนำไปยังที่แห่งใด ที่แห่งนั้นก็คือทิศทางของข้า!” เสียงเมิ่งฮ่าวดังก้องออกมา ตอนแรกเป็นเสียงแผ่วเบา แต่จากนั้นก็เริ่มดังมากขึ้นไปเรื่อยๆ

“ตัดโซ่ตรวน และบรรลุถึงเสรีภาพที่แท้จริง ได้ครอบครองความเป็นอิสระที่แท้จริง!” เสียงของเมิ่งฮ่าวทำให้ทุกสรรพสิ่งในบริเวณนั้นสั่นสะเทือน น้ำทะเลที่แยกออกจากกันส่งเสียงดังกระหึ่ม และแสงของใบมีดรูปร่างดวงดาวก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!

แทบจะดูเหมือนว่ามันได้กลายเป็นแสงสะท้อนของเมิ่งฮ่าว!

แสงสะท้อนนั้นทำให้สวรรค์และปฐพีมืดสลัวดูเลือนลางลง สายลมพัดกระหน่ำและกลุ่มเมฆก็ม้วนตัวไปมา แสงของใบมีดรูปร่างดวงดาวกระจายออกไปไร้จุดสิ้นสุด และใบมีดหลากสีตรงหน้าเมิ่งฮ่าวก็กระจายเจตจำนงอันน่าตกใจออกมา

นี่ก็คือ…แสงสะท้อนแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่!

แสงนั้นเริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น กลายเป็นระลอกคลื่นและจากนั้นก็สั่นสะเทือน อากาศรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวบิดเบี้ยวไปมา และภาพซ้อนทับมากมายนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นมา เมื่อปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังรู้สึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้ สีหน้ามันก็สลดลง

“แสงสะท้อนแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่!”

ในวงแหวนที่สอง ดวงตาของมารดาแห่งดอกปี่อ้านเบิกกว้าง ขณะที่คู่บุรุษสตรีในต้าถังแห่งดินแดนตะวันออกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง

มีแต่ความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยว และความรู้แจ้งอย่างน่าเหลือเชื่อเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้เกิดเป็นแสงสะท้อนเช่นนี้ได้!

ตัดวิญญาณไม่ได้ยุ่งยากมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับการทำให้เกิดเต๋า…แต่ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะเกิดเป็นแสงสะท้อน!

จิตใจและเจตจำนงของเมิ่งฮ่าวทั้งหมด หลอมรวมเข้ากับเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่ตกลงมา กลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแยกไม่ออก!

ข้าก็คือเต๋าอันยิ่งใหญ่ และเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็คือข้า!

ในตอนนี้ ทั้งในดินแดนด้านใต้, ดินแดนทางเหนือ หรือดินแดนตะวันออก, ปรมาจารย์และบุคคลอันยิ่งใหญ่ของทุกสำนักและตระกูล ต่างก็รับรู้ได้ถึงแสงสะท้อนแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่นี้

แสงสะท้อนนั้นก่อตัวเป็นใบมีดแห่งการตัดวิญญาณครั้งแรก ซึ่งจะทำการตัด ไม่ใช่ชีวิตหรือการคงอยู่ของเมิ่งฮ่าว แต่เป็น…ข้อบกพร่องใดๆ ที่อยู่ในร่าง ซึ่งทำให้ไม่สอดคล้องกับเต๋าของเขา!

ใช้เต๋าเพื่อตัดเต๋า ราวกับเป็นการชำระล้างสิ่งที่แปลกแยกแตกต่างไปของตนเอง เต๋าใดๆ ที่ไม่สอดคล้องก็คือสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป

และแน่นอนว่า ดอกปี่อ้านก็คือข้อบกพร่องเช่นนั้น, เป็นสิ่งที่แปลกแยกแตกต่างออกไป, เป็นเต๋าที่ไม่สอดคล้อง มันไม่จำเป็นโดยสิ้นเชิง!

“เป็นอิสระ และไร้ข้อผูกมัด มีเสรีภาพที่จะเดินทางไปในทุกแห่งหนของสวรรค์และปฐพี! ไม่มีใครมาล้อมกรอบข้าได้! สวรรค์ไม่อาจจะมาขัดขวางข้า และปฐพีก็ไม่อาจจะมาควบคุมจิตใจข้าได้! นี่ก็คือเต๋าของข้า!”

“เสรีภาพ! ความเป็นอิสระ!” เสียงเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นเสียงของเทพเทวะ แต่ละคำพูดของเขาราวกับเป็นเสียงฟ้าร้อง ทะเลเทียนเหอส่งเสียงดังกระหึ่ม เซียนรุ่งอรุณตกตะลึง คู่บุรุษสตรีในดินแดนตะวันออกสั่นสะท้าน เช่นเดียวกับปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวัง

คำพูดที่เพิ่งจะกล่าวออกไปเมื่อครู่นี้ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่ของเมิ่งฮ่าว!

ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน ขณะที่ใบมีดรูปร่างดวงดาวลอยมาถึง หลอมรวมเข้าไปในใบมีดหลากสีของเมิ่งฮ่าว กลายเป็นใบมีดเต๋าที่กรีดแทงลงไปบนกระหม่อมของเขา ในทันทีที่เขาพูดจบ

ใบมีดนั้นเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เพียงไม่นานหลังจากที่เมิ่งฮ่าวพูดจบ มันก็แทงลงไปบนกระหม่อมเขา ลึกเข้าไปในลำคอ และจากนั้นก็เป็นหัวใจ ผ่านลงไปจนถึงจุดตันเถียนที่ท้องน้อย พุ่งผ่านไปตลอดร่าง แบ่งเขาออกเป็นสองส่วนโดยสิ้นเชิง!

แต่กล้ามเนื้อเมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้ขยับไปแม้แต่น้อย ใบหน้าก็ยังคงมีรอยยิ้ม แต่กลับกันดอกปี่อ้านห้าสีที่อยู่ด้านหลัง ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวจนเส้นเลือดต้องแข็งตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ขณะที่การเชื่อมต่อใดๆ ที่มันมีกับเมิ่งฮ่าว…ถูกทำลายไปในทันที!

เส้นใยห้าสีขาดสะบั้นไป และดอกปี่อ้านห้าสีก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว มันไม่ยินยอม และระเบิดความไม่พอใจออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่โชคร้ายที่มันไม่อาจจะทำอะไรได้ ในตอนนี้ มันกำลังจะหายไป

หายไปชั่วนิจนิรันดร์

ใบมีดแห่งการตัดวิญญาณครั้งแรกของเมิ่งฮ่าว ได้ตัดโซ่ตรวน สร้างเสรีภาพ และเขาก็มีอิสระแล้ว!

ในตอนนี้ พลังชีวิตอันไร้ขอบเขตของเขากระจายออกมา ร่างกายที่เหี่ยวแห้งก่อนหน้านี้ได้ฟื้นฟูกลับคืนมา เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไป และขณะที่ภาพของดอกปี่อ้านกำลังจะกระจัดกระจายหายไปโดยสิ้นเชิง เขาก็ยื่นมือออกไปและคว้าจับมันไว้

“เจ้ามีชีวิตอยู่ในร่างข้ามาสองร้อยปี เจ้าคิดว่าหนี้เก่านี้จะลบล้างไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้? นับจากนี้ไป เจ้าก็คือของวิเศษตัดวิญญาณของข้า วันที่เจ้าเบ่งบานเจ็ดสี…ก็คือวันที่ข้า, เมิ่งฮ่าวกลายเป็นเซียน!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!