Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 693

ตอนที่ 693

อาณาจักรแห่งความเป็นนิรันดร์

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว เขาหันหน้ามองกลับไปยังเงาร่างเลือนลางที่ด้านหลัง ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ และใกล้จะเริ่มคลุ้มคลั่งไปได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าจะเป็นความคลุ้มคลั่งอย่างเงียบๆ ก็ตามที

“เจ้าจำข้าได้หรือไม่?” เงาร่างเลือนลางนั้นค่อยๆ เริ่มเผยให้เห็นเป็นชายชราขึ้นอย่างชัดเจน ดูเหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไป แต่ภายในความธรรมดานั้น มีจิตใจที่พิเศษอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ซุกซ่อนอยู่

“ผู้อาวุโสสุ่ยตงหลิว?” เมิ่งฮ่าวกล่าว ร่างสั่นสะท้าน แน่นอนว่า เขาจดจำได้ในทันทีว่าชายชราผู้นี้ก็คือสุ่ยตงหลิว

สุ่ยตงหลิว ใครก็ตามที่คงอยู่ในความทรงจำของท่าน ไม่อาจจะถูกทำลายไปโดยการตัดกรรมแห่งตระกูลจี้ได้

“อาณาจักรแห่งความสมบูรณ์ถึงแม้จะดีแต่ก็เป็นแค่พื้นฐาน ผู้ที่ไม่รู้ต่างก็คิดว่าพื้นฐานสมบูรณ์คือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด มันมาจากสามคัมภีร์อันยิ่งใหญ่ และสามารถทำให้เจ้ามีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่!”

“แต่เท่าที่ข้าคิด อาณาจักรแห่งความสมบูรณ์ก็คล้ายกับกิ่งก้านและใบ มันกระจายออกไปทั่วทั้งร่างของเจ้า และในที่สุดก็บานเป็นดอกไม้ จากนั้นก็กลายเป็นผลไม้เต๋า ผลไม้นั่นก็คือกุญแจที่จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!”

“เจ้าอาจจะสูญเสียพื้นฐานไป แต่ผลไม้เต๋าก็ยังคงอยู่ที่นั่น ทำไมเจ้าถึงแสดงท่าทางราวกับว่าได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญมากที่สุดไป?!”

เมิ่งฮ่าวได้สติกลับคืนมา และจิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มอย่างรุนแรง “ผลไม้เต๋า?!”

“แน่นอนว่าคือผลไม้เต๋า” สุ่ยตงหลิวกล่าวตอบเสียงราบเรียบ “เป้าหมายหลักของอาณาจักรแห่งความสมบูรณ์ก็คือการสร้างผลไม้เต๋าแห่งความสมบูรณ์ขึ้นมา!”

“ผลไม้เต๋าแห่งความสมบูรณ์นั้นไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นอาณาจักรแห่งผู้ยิ่งใหญ่ แต่อาณาจักรนั้นก็ยังถือว่าเล็กน้อยด้วยเช่นกัน!” สุ่ยตงหลิวสะบัดชายแขนเสื้อ

“เหนือจากอาณาจักรผู้ยิ่งใหญ่ก็คือความเป็นนิรันดร์!”

“นั่นก็คือสุดยอดของระดับขั้นแหล่านี้อย่างแท้จริง แตกละเอียด, แตกร้าว, ไร้ตำหนิ, สมบูรณ์, ผลไม้เต๋า, ความเป็นนิรันดร์ เหล่านี้ก็คือหกระดับขั้นอันยิ่งใหญ่แห่งขั้นของพื้นฐานฝึกตนใดๆ ก็ตาม เจ้าแค่บรรลุถึงขั้นสมบูรณ์เท่านั้น”

“สำหรับความเป็นนิรันดร์…เจ้ามีคุณสมบัติตรงกับความต้องการแล้ว มีใครบางคนมาตัดความสมบูรณ์ของเจ้าไป แล้วทำไมจิตใจเจ้ายังคง…ถูกขังอยู่? ทำไมถึงไม่…มุ่งหน้าเข้าไปในการตัดครั้งที่สองของเจ้า?” เสียงของสุ่ยตงหลิวดังก้องคล้ายกับเสียงฟ้าผ่าอยู่ในหูของเมิ่งฮ่าว ทำให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่อยู่ภายในจิตใจ

สมองเมิ่งฮ่าวหมุนคว้างไปมา ร่างกายสั่นสะท้าน และแสงอันเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็สาดประกายอยู่ในดวงตา คำพูดของสุ่ยตงหลิวได้บดขยี้ความสับสนทั้งหมดของเขาไป ราวกับว่าในความมืดมิดแห่งยามราตรี ลำแสงอันเจิดจ้าทันใดนั้นก็ส่องทะลุผ่านเข้ามายังความมืดในโลกของเขา

“ผลไม้เต๋า…ผลไม้เต๋า…” เมิ่งฮ่าวคิด หอบหายใจ “ตัดความสมบูรณ์ ก็สำเร็จผลไม้เต๋า!”

“ปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวัง เอาพื้นฐานสมบูรณ์ของข้าไป แต่ความสมบูรณ์นั้น…ก็ได้ครอบครองจิตใจข้าโดยสิ้นเชิง! ดังนั้นนี่ก็คือเวลาที่ข้าจะต้องตัด…ใจข้าเอง!”

“ตัดความสมบูรณ์ในจิตใจข้าออกไป!”

“เมื่อข้ามีพื้นฐานฝึกตน ข้าก็ไม่อาจจะตัดมันได้ โดยไม่มีพื้นฐานฝึกตน…ใครจะบอกว่า…ข้ายังคงตัดมันไม่ได้อีก!?”

“ตัดวิญญาณ ตัดวิญญาณ สิ่งที่ถูกตัดก็คือวิญญาณ สิ่งที่ถูกตัดก็คือจิตใจ นี่ก็คือ…ใบมีดแห่งการตัดวิญญาณครั้งที่สองของข้า!”

“ตัดอาณาจักรแห่งความสมบูรณ์ออกไป ตัดอดีต สร้างผลไม้เต๋าที่สมบูรณ์ของข้าขึ้นมาให้ได้!” เสียงกึกก้องได้ยินอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาได้รับความรู้แจ้ง ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีพื้นฐานฝึกตน แต่กลิ่นอายที่เป็นระลอกคลื่นก็พุ่งตรงขึ้นไปในท้องฟ้า

ภายในกลิ่นอายนั้นทำให้สวรรค์เกิดการเปลี่ยนแปลง กลุ่มเมฆม้วนตัวไปมา และสายลมก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน อย่างน่าตกใจยิ่ง บรรพบุรุษของเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็ส่งเสียงดังกระหึ่มกึกก้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเคยพบเจอมาก่อนหน้านี้ในทะเลเทียนเหอ

ทันใดนั้น ท้องฟ้าที่ด้านบนทุกอาณาเขตของดินแดนด้านใต้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง สายลมกระโชก, สายฟ้าประทุขึ้น, เสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหว ผู้แข็งแกร่งในดินแดนด้านใต้ทั้งหมดตกตะลึง และผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็มองขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยความประหลาดใจ

ในเวลาเดียวกันนั้น ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่ด้านนอกของดาวหนานเทียน จากด้านในของขุนเขาที่เก้า เจตจำนงอันน่าตกใจจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น กวาดผ่านไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้า หลังจากนั้นก็หายไปในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน

นี่ก็คือเจตจำนงแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ของขุนเขาทะเลที่เก้า! มันคือกฎธรรมชาติแห่งสวรรค์และปฐพี ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนการกระทำของขุนเขาทะเลที่เก้า

เจตจำนงเองก็เป็นเต๋าอันยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน มันปรากฏขึ้นเต็มอยู่ในท้องฟ้าแห่งดาวหนานเทียน พร้อมกับแสงอันไร้ขอบเขต แม้แต่แท่นผนึกเซียนของตระกูลจี้ ที่อยู่ด้านนอกดาวหนานเทียน ก็ยังต้องสั่นสะท้าน และหยุดการทำงานลง

ในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน ผู้อาวุโสตระกูลจี้ รวมทั้งผู้แข็งแกร่งมากมายนับไม่ถ้วน จากสำนักและตระกูลต่างๆ คุกเข่าลงด้วยความตกตะลึงและเริ่มโขกศีรษะ

ในท้องฟ้าเหนือดาวหนานเทียน เจตจำนงแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า จู่ๆ ก็กลายเป็นใบมีดพุ่งตรงลงมายังเมิ่งฮ่าวในถ้ำกำเนิดใหม่

เจตจำนงที่ตกลงมานี้มีพลังมากเกินกว่าใบมีดแรกในการตัดครั้งแรกของเขา ดินแดนแห่งดาวหนานเทียนทั้งหมดต่างก็สั่นสะเทือน

สวรรค์เปิดออก เผยให้เห็นดินแดนแห่งสวรรค์ แม่น้ำแห่งดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วนส่องแสงระยิบระยับ ดูเหมือนเตรียมที่จะเป็นสักขีพยานต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้

ในถ้ำกำเนิดใหม่ ใบมีดปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว นี่ก็คือใบมีดตัดวิญญาณของเขา ลอยอยู่ที่นั่นตรงหน้าเขา ส่องแสงเจิดจ้าอย่างน่าตกใจ

เส้นผมเมิ่งฮ่าวลอยพริ้วไปมา เงยหน้าขึ้นและแผดร้อง “ตัด!”

ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกไป ใบมีดแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็ตกลงมา เฉือนเข้าไปในถ้ำกำเนิดใหม่ หลอมรวมเข้าไปในใบมีดที่อยู่เหนือศีรษะเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็แทงเข้าไปในกระหม่อมของเขา

ทันทีที่ใบมีดแตะสัมผัสโดนศีรษะของเมิ่งฮ่าว มันก็กรีดผ่านร่างเขาจนทะลุลงไปบนพื้น ร่างเมิ่งฮ่าวราวกับถูกตัดแยกออกเป็นสองส่วน

เสียงแตกกระจายได้ยินมา ไม่ใช่มาจากร่างกายเขา แต่มาจากโซ่ตรวนที่อยู่ภายในจิตใจ เป็นโซ่ตรวนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความไม่เต็มใจ ที่จะต้องยอมรับการสูญเสียอาณาจักรแห่งความสมบูรณ์!

พันธนาการทั้งหลายเหล่านั้นถูกตัดไปโดยสิ้นเชิง!

เมิ่งฮ่าวเริ่มสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรงในทันที จากนั้นก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ความเยือกเย็นอย่างน่าเหลือเชื่อกระจายเต็มไปทั่วร่าง รู้สึกราวกับว่าก่อนหน้านี้ มีน้ำหนักของภูเขาทั้งลูกกำลังกดทับลงมาบนร่าง แต่จากนั้นภูเขาก็หายไป

ในเวลาเดียวกันนั้น อย่างน่าตกใจยิ่ง ภาพของผลไม้ก็ปรากฏขึ้นอยู่ที่หน้าผาก กระจายแสงระยิบระยับคล้ายกับเป็นของวิเศษ

นี่ก็คือ…ผลไม้เต๋า!

มันถูกสร้างขึ้นมาจากสัญลักษณ์เวทมากมายนับไม่ถ้วน และดูสมบูรณ์แบบในทุกแง่มุม

ปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวัง สามารถขโมยพื้นฐานเต๋าของเมิ่งฮ่าวไป แต่ก็ไม่สามารถเอาผลไม้เต๋าของเขาไปได้ ผลไม้เต๋าเป็นของเมิ่งฮ่าวเพียงคนเดียว และผู้ใดก็ไม่อาจจะนำไปได้

ในตอนที่ผลไม้เต๋าปรากฏขึ้น พื้นฐานฝึกตนทันใดนั้นก็ระเบิดออกมาอยู่ในร่างเมิ่งฮ่าว ตอนแรกมันเป็นขั้นรวบรวมลมปราณ จากนั้นก็พื้นฐานลมปราณ ต่อมาก็เป็นสร้างแกนลมปราณ และหลังจากนั้น, วิญญาณแรกก่อตั้ง

หลังจากอยู่ที่ขั้นสูงสุดของวิญญาณแรกก่อตั้ง ความต้องการเป็นอิสระและมีเสรีภาพของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้การตัดครั้งแรกของเขาปรากฎขึ้นอีกครั้ง

พื้นฐานฝึกตนของเขาฟื้นฟูกลับคืนมาโดยสมบูรณ์!

ภัยพิบัติก็อาจจะเป็นความโชคดีได้เช่นกัน!

พลังของเมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นลำแสงหลากสี สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากตัดอาณาจักรแห่งความสมบูรณ์ได้ทำให้ร่างเขาสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง แม้แต่กลิ่นอายของพลังพื้นฐานฝึกตนที่มากขึ้นกว่าเดิม ทันใดนั้นก็กระจายออกมาจากร่างเขา

นี่ก็คือพื้นฐานฝึกตนของการตัดครั้งที่สอง!

“ผลไม้เต๋าอันยิ่งใหญ่!” แสงแปลกๆ สาดประกายอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว และเริ่มสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วง กายเนื้อได้กลับเข้าไปอยู่ในขั้นที่ต่อต้านสวรรค์ ซึ่งเขาได้บรรลุอันเนื่องมาจากวิชาร่างศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากพลังชีวิตอันไร้ขอบเขตอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ซึ่งต๋าหนี่ว์ได้มอบให้ ทำให้เขามีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม

“ถึงแม้ผลไม้เต๋าจะดี” สุ่ยตงหลิวกล่าวเสียงราบเรียบ “แต่เมื่อเจ้ามีคุณสมบัติสำหรับความเป็นนิรันดร์แล้ว ทำไมถึงไม่นั่งลง และพยายามที่จะได้รับความรู้แจ้งนั้น!” ท่านโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิลงไปบนพื้นในทันที “ถามตัวเจ้าเอง อะไรคือความเป็นนิรันดร์?!”

“อะไรคือความเป็นนิรันดร์?” คำถามนี้ดังก้องอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว

ความเป็นนิรันดร์…

ดักแด้ไร้ตาก็คือความเป็นนิรันดร์ ถ้าดักแด้ไม่ถูกทำลายไป เส้นไหมก็จะไม่มีวันขาด ถ้าเส้นไหมไม่มีวันขาด ดักแด้ก็จะไม่มีทางถูกทำลายไปได้!

นั่นก็คือวงจรแห่งความเป็นนิรันดร์!

เวทแยกวิญญาณก็คือความเป็นนิรันดร์ วิญญาณที่ไม่มีวันตายสามารถถูกสร้างขึ้นมาได้ เมื่อไหร่ที่เกิดขึ้นเช่นนั้น วัฏจักรของการเกิดใหม่แห่งสวรรค์และปฐพีไม่อาจจะทำลายมันไปได้ ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะตายไปแล้ว แต่หลายปีต่อมา เลือดเนื้อของมันก็จะเกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง

“ความเป็นนิรันดร์เป็นสิ่งที่คงอยู่ภายในตัวข้าตลอดไป ไม่มีสิ่งมีชีวิตในสวรรค์และปฐพีใดๆ จะสามารถทำอะไรเพื่อนำมันไปจากข้าได้ แม้แต่เจตจำนงแห่งสวรรค์และปฐพีเอง ก็ยังไม่อาจจะแย่งชิงความเป็นนิรันดร์ที่เป็นของข้าได้!”

“ความเป็นนิรันดร์ก็คือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่น เป็นกฎแห่งความแข็งแกร่ง!”

“ของสิ่งใดที่เป็นของข้า ก็จะเป็นของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น!” ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็มองขึ้นไปยังสุ่ยตงหลิว

“เจ้ารู้แจ้งถึงมันแล้ว?” สุ่ยตงหลิวกล่าว มองมาที่เขา

“รู้แจ้งแล้ว!” ทันทีที่เขากล่าวตอบ เสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในร่าง ผลไม้เต๋าแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้สัญลักษณ์เวทมากมายนับไม่ถ้วนกระจายไปมาเต็มอยู่ทั่วร่าง หลอมรวมเข้าไปในพื้นฐานฝึกตน, ร่างกายและจิตใจของเขา

ในเวลาเดียวกันนั้น เวทแยกวิญญาณก็เริ่มโคจรหมุนวนอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว หลังจากที่หมุนวนเพียงแค่รอบเดียว ฉับพลันนั้นเมิ่งฮ่าวก็เข้าใจถึงความหมายของวิชาเวทนี้อย่างแท้จริง

มันเป็นสุดยอดเวทแห่งเต๋าที่ทำให้ผู้คนเข้าใจถึงอาณาจักรแห่งความเป็นนิรันดร์!

เพื่อที่จะฝึกฝนเวทแยกวิญญาณ คนผู้นั้นจำเป็นต้องพบเจอกับความตายมาก่อน เพื่อที่จะมีพลังจิตอย่างน่าเหลือเชื่อ และความโชคดีที่ไม่ธรรมดา และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การมีประสบการณ์ของชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย อยู่ตรงเส้นกั้นบางๆ ระหว่างชีวิตและความตาย ซึ่งเดินพลาดเพียงก้าวเดียวก็จะนำไปสู่ความตายอย่างแท้จริง หรือล้มเหลวในการฝึกฝนวิชาเวทนี้

สำหรับเมิ่งฮ่าว เหตุผลที่เขาสามารถรู้แจ้งได้ก็เนื่องมาจากดักแด้ไร้ตา เส้นใยแห่งชีวิตของมันและความตายที่โอบล้อมอยู่รอบๆ วิญญาณของเขา ทำให้ไม่อาจจะแยกออกจากกันได้ วิญญาณของเขายังมีชีวิตอยู่ ในขณะที่ร่างกายได้ตายไป

ในช่องว่างระหว่างความเป็นตายนั้น วิญญาณของเมิ่งฮ่าว…มีคุณสมบัติของความเป็นนิรันดร์!

เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ โลงศพที่เคออวิ๋นไห่จัดเตรียมไว้ให้กับเคอจิ่วซือ ก็ทำหน้าที่นี้เช่นเดียวกัน ทำให้เคอจิ่วซือประสบความสำเร็จในการฝึกฝนเวทแยกวิญญาณ

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านขณะที่สัญลักษณ์เวทแทรกซึมเข้าไปในทุกๆ ส่วนของร่างกาย เนื่องจากการหลอมรวมของสัญลักษณ์เวทเหล่านี้ ถึงแม้ว่าพื้นฐานฝึกตนของเขาจะอยู่ในการตัดครั้งที่สองเท่านั้น แต่อาณาจักรของเขาก็…อยู่ในความเป็นนิรันดร์!

เขาไม่ได้อยู่ในอาณาจักรแห่งความสมบูรณ์อีกต่อไป แต่อยู่เหนือกว่าความสมบูรณ์ อยู่ในอาณาจักรความเป็นนิรันดร์!

อาณาจักรความเป็นนิรันดร์! สิ่งที่เป็นของของข้า ไม่มีใครจะสามารถมาขโมยมันไปจากข้าได้!

เมิ่งฮ่าวลุกขึ้นยืน พลังพุ่งพล่านปั่นป่วน อันเนื่องมาจากอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ทำให้พื้นฐานฝึกตนการตัดครั้งที่สองของเขาไกลเกินกว่าช่องว่างระหว่างการตัดครั้งที่สาม อันที่จริง ในการหลอมรวมเข้ากับกายเนื้อของเขา ทำให้ตอนนี้…เขาก็คือบุคคลอันดับหนึ่งรองจากค้นหาเต๋า!

เมิ่งฮ่าวหันหน้าไปยังสุ่ยตงหลิว ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ

“ผู้อาวุโส ขอบคุณมากสำหรับความเมตตา ที่กรุณาช่วยชี้เส้นทางที่ถูกต้องให้กับข้า!”

สุ่ยตงหลิวมองมาที่เขาชั่วครู่และจากนั้นก็กล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า…ข้าเพียงแค่หวังว่านับจากนี้ไป เจ้าจะไม่ผูกใจเจ็บแค้นต่อตระกูลหวัง ถ้าเจ้าต้องการ เจ้าสามารถสังหารบุคคลที่ขโมยพื้นฐานเต๋าของเจ้าไปได้ แต่ไม่ใช่คนอื่นๆ อย่าได้เป็นปีศาจที่ไปสังหารผู้คนที่ไม่ได้มาตอแยหาเรื่องเจ้า”

“ไปเถอะ จิตใจเจ้ามีห่วงกังวลอยู่ ข้าจะไม่รั้งเจ้าไว้อีก”

เมิ่งฮ่าวมองกลับไปยังท่าน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างเงียบๆ ประสานมือและโค้งตัวลงอีกครั้ง จากนั้นก็หันหลังและพุ่งออกไปจากถ้ำ ราวกับเป็นกระบี่ที่หลุดออกมาจากฝัก กระจายรังสีสังหารออกมา

สุ่ยตงหลิวมองเมิ่งฮ่าวจากไป หลังจากนานสักพัก ก็หันหลังและเดินกลับเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำกำเนิดใหม่ สำหรับบุคคลเช่นโฉ่วเหมินไถ และต๋าหนี่ว์ ถ้ำกำเนิดใหม่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่สำหรับสุ่ยตงหลิว มันไร้จุดสิ้นสุด

ท่านเดินและเดินไป จนกระทั่งในที่สุดก็มาถึงห้องที่สร้างขึ้นมาจากก้อนศิลา

ห้องศิลาว่างเปล่า ยกเว้นผืนผ้าใบที่วาดภาพไปแล้วครึ่งหนึ่ง

ภาพวาดนั้นบรรยายถึงหมู่บ้านชนบท มีชายชราผมขาวผู้หนึ่งยืนอยู่ที่นั่น พร้อมกับประสานมืออยู่ที่ด้านหลัง มองออกไปยังที่ห่างไกล ด้านข้างมันเป็นเด็กผู้ชายที่มีใบหน้าอ้อนวอนขอร้อง แต่ชายชราผู้นั้นก็ทำท่าส่ายหน้า

สุ่ยตงหลิวมองไปยังภาพวาด และท่าทางหวนรำลึกก็ปรากฏขึ้นในแววตา ในที่สุดท่านก็หลับตาลง

ทันใดนั้น จิตกรชราที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในดินแดนตะวันออก จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา ยิ้มให้กับบุรุษผู้ร่ำรวยซึ่งกำลังยืนอยู่ที่เบื้องหน้า และจากนั้นก็กระแอมไอออกมา

“การถอดจิตของเหล่าฟูเป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้มาเริ่มวาดภาพของเจ้ากันเถอะ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!