ตอนที่ 701
เจ้าสำนักน้อยแห่งเซี่ยเยาจง
“ไข่มุกสีดำเป็นตัวแทนแห่งความตาย และไข่มุกสีขาวก็เป็นตัวแทนแห่งชีวิต!”
“ไม่ถูกต้อง ไข่มุกขาวคือความตาย และไข่มุกดำก็คือชีวิต!”
“ก็ยังไม่ใช่อีก มีเต๋าอยู่มากมายเท่าใดกันแน่ในที่แห่งนี้? สาเหตุและผลของกรรม ความจริงและความเท็จ ชีวิตและความตาย วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ สวรรค์และปฐพี…” สีหน้าของปรมาจารย์หกเต๋าเปลี่ยนไป ขณะที่ไข่มุกเข้ามาใกล้ มันก็โบกสะบัดมือขวาไปที่เบื้องหน้า ทันใดนั้นกระถางธูปก็ลอยออกไป และเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้น ฉับพลันนั้นน้ำที่ขุ่นข้นก็ระเบิดออกมาจากภายใน
“น้ำพุเหลือง!” ปรมาจารย์หกเต๋าแผดร้องออกมา ทำให้น้ำที่ขุ้นข้นนั้นกระจายกลิ่นอายแห่งความตายอันน่ากลัวออกมา ขยายตัวออกไป กลายเป็นแม่น้ำที่ม้วนกวาดออกตรงไปยังสองไข่มุก
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มันเข้าไปใกล้ไข่มุกทั้งสอง น้ำพุเหลืองก็เริ่มสั่นสะท้านและจากนั้นก็แยกออกจากกัน…วิญญาณมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นและเริ่มกระจัดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง มีท่าทางสับสนงุนงง
ต่อจากนั้น กระถางธูปก็สั่นสะท้าน และภาพของก้านธูปที่กำลังเผาไหม้อยู่ด้านในก็เริ่มลอยขึ้นมา สีหน้าของปรมาจารย์หกเต๋าเปลี่ยนไป และเริ่มใช้มือขวาขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ชี้นิ้วออกไป
“ธูปไฟ!” กระถางธูปเริ่มสั่นสะท้าน และทันใดนั้นโลกแห่งภาพลวงตาก็พุ่งขึ้นมา ทั้งหมดนั้นประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งกำลังคุกเข่าโขกศีรษะอยู่
ตามมาด้วยการโขกศีรษะ กลิ่นอายของพวกมันพุ่งขึ้นไปในอากาศเป็นระยะ จากนั้นก็ผสมรวมเข้าด้วยกัน ต่อมาโลกนั้นก็กลายเป็นรูปปั้นมากมาย ซึ่งแต่ละรูปปั้นเหล่านั้นต่างก็มีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกับปรมาจารย์หกเต๋า จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังไข่มุกดำขาวด้วยความรวดเร็วสูงสุด
สองไข่มุกเข้ามาใกล้ และเสียงระเบิดอย่างน่าตกใจก็ดังก้องออกมา โลกทั้งหมดและรูปปั้นกลายเป็นสีดำและขาวในทันที จากนั้นก็เริ่มพังทลายลง กระถางธูปสั่นสะท้านและจากนั้นก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว สีหน้าของปรมาจารย์หกเต๋าเปลี่ยนไปอีกครั้ง ยื่นมือขวาออก กดลงไปบนพื้นดิน
“หยินหยางหมุนเวียน สวรรค์เปลี่ยนปฐพีแปลง!” มันยกมือขวาสูงขึ้นไป ทำให้ธงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
ขณะที่ธงนั้นโบกสะบัดไปมา ก็มองเห็นวิญญาณมากมายนับไม่ถ้วนกำลังส่งเสียงแผดร้องอยู่ข้างในอย่างน่าตกใจ
“พันล้านธูปวิญญาณ”
อย่างน่าประหลาดใจ พันล้านวิญญาณที่อยู่ภายในผืนธงที่กำลังพริ้วไปมา ได้ลอยตรงไปยังไข่มุกดำขาว กระจายเสียงแผดร้องของพันล้านวิญญาณอันน่าตกใจออกมา
เพียงแค่ไม่นานหนึ่งพันล้านวิญญาณก็หายไป แต่ไข่มุกดำขาวก็ไม่อาจจะรักษารูปแบบของพวกมันไว้ได้อีก กลายเป็นกลุ่มหมอกสีดำและขาวพุ่งตรงไปยังปรมาจารย์หกเต๋าอีกครั้ง
ดวงตาของปรมาจารย์หกเต๋าเต็มไปด้วยแสงแปลกๆ และมันก็ไม่ยอมหลบเลี่ยง อันที่จริงมันได้ก้าวตรงไปขณะที่กลุ่มหมอกสีดำและขาวเข้ามาใกล้ จากนั้นมันก็อ้าปากกลืนกลุ่มหมอกเหล่านั้นลงไป ในเวลาเดียวกันนั้น เงาร่างที่มีสามหัวหกแขนก็ปรากฏอยู่ด้านหลังมัน ซึ่งอ้าปากกว้างออกมาด้วยเช่นกัน
ปรมาจารย์หกเต๋ากลืนกินกลุ่มหมอกสีดำและขาวลงไปโดยตรง ทำให้ร่างกายมันเริ่มสั่นสะท้าน ใบหน้าซีดขาวขณะที่พยายามจะต่อต้านพลังนั้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายากที่จะทำได้ มันกระอักโลหิตออกมากองโต จากนั้นเสียงแตกร้าวก็ได้ยินมาจากภายในร่างกายของมัน ทันใดนั้น กระแสแห่งสายหมอกสีดำและขาวก็ระเบิดออกมาจากหน้าอกมัน และจากนั้นก็จางหายไปในอากาศ
ศิษย์สำนักชิงหลัวที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ มองไปยังปรมาจารย์หกเต๋า นี่เป็นวิชาอันทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เขาสามารถใช้ออกมาได้อย่างแท้จริง
“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ!” ปรมาจารย์หกเต๋ากล่าว เงยหน้าขึ้นหัวเราะเป็นเสียงดัง “ดี! ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว เมื่อเจ้าทำในสิ่งที่กำหนดไว้ได้สำเร็จ เหล่าฟูก็จะช่วยให้เจ้าได้สมความปรารถนา!” ด้วยเช่นนั้น มันก็บีบมือซ้ายให้แน่นขึ้น ทำให้เสียงแตกร้าวดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ลูกผลึกวิญญาณของสวี่ชิงเกือบครึ่งแตกกระจายไป วิญญาณของนางไม่ได้โผล่ออกมา แต่วิญญาณไร้ร่างที่อยู่ในบริเวณนั้นทั้งหมด ต่างก็พุ่งตรงไปด้วยสีหน้าตะกละตะกลามอย่างที่ไม่รู้จักพอ
“เจ้า!!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องออกมา ดวงตากลายเป็นสีแดงจ้า ตอนนี้เขาไม่สนใจว่าจะเป็นหรือตาย ไม่สนใจต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ยกเว้นวิญญาณที่อยู่ในลูกผลึกนั้น!
ดวงตาของวิญญาณทันใดนั้นก็ลืมขึ้นมา และมองไปยังเมิ่งฮ่าว เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยนและความปรารถนา…
“ตั้งแต่เหล่าฟูฝึกตนมา ก็ไม่เคยรักษาคำสัญญามาก่อน” ปรมาจารย์หกเต๋ากล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เมื่อเจ้าทำให้เหล่าฟูมีโทสะ เจ้าก็ต้องตายไปอย่างเจ็บปวดทรมาน” ด้วยรอยยิ้มอย่างชั่วร้าย มันโบกสะบัดมือ ทำให้แท่นบูชาที่คล้ายกับเจดีย์เก้าชั้นมาปรากฏขึ้นที่ข้างกายมัน
ด้านบนสุดของแท่นบูชาเป็นวิญญาณไร้ร่างที่มีตาปูดโปนนับไม่ถ้วน ส่งเสียงกรีดร้องที่ไร้เสียงออกมา
ต่อมาปรมาจารย์หกเต๋าก็โยนลูกผลึกตรงไปยังแท่นบูชานั้น ขณะที่ลูกผลึกลอยอยู่กลางอากาศ ก็เกิดเป็นเสียงแตกร้าวออกมา
ปัง!
ลูกผลึกแตกระจายไปโดยสิ้นเชิง และวิญญาณของสวี่ชิงก็โผล่ออกมา วิญญาณไร้ร่างที่อยู่รอบๆ ตัวนาง ส่งเสียงแผดร้องด้วยความตื่นเต้นออกมา ขณะที่พวกมันพุ่งกระโจนเข้าใส่
“ถ้าเจ้าช่วยนางได้” ปรมาจารย์หกเต๋ามองมายังเมิ่งฮ่าว “เหล่าฟูก็คงจะรักษาสัญญาไว้ได้เป็นครั้งแรก”
เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไปยังแท่นบูชาด้วยความคลุ้มคลั่ง ก่อนที่เขาจะทันได้เข้าไปใกล้ ปากของวิญญาณไร้ร่างก็กัดลงไปที่วิญญาณของสวี่ชิง นางสั่นสะท้านมองไปยังเมิ่งฮ่าว ดูเหมือนจะมีหยดน้ำตาอยู่ในดวงตาของนาง
เขารู้สึกราวกับว่าจิตใจกำลังถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ แผดร้องด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความทุกข์อย่างสาหัส “มากินเลือดเนื้อของข้าแทน!”
ด้วยเช่นนั้นเขาก็ใช้มือกรีดลงไปที่หน้าอก ทำให้โลหิตและชิ้นเนื้อกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง กลิ่นอายแห่งผู้ผนึกอสูรระเบิดขึ้นกระจายออกไป
วิญญาณไร้ร่างหยุดชะงักนิ่ง จากนั้นก็หันหน้ามา ความตะกละอย่างไม่รู้จักพอในดวงตาพวกมันพุ่งขึ้นมาจนถึงขีดสุด และพวกมันก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว เพียงชั่วพริบตา พวกมันก็เจาะไชเข้าไปในหน้าอกเมิ่งฮ่าว และจากนั้นก็เริ่มกัดกิน
ความเจ็บปวด!
เป็นความเจ็บปวดอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้!
แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่สนใจ เขาบังคับให้ตัวเองเดินหน้าต่อไป ทีละก้าว ทีละก้าว เดินตรงไปยังบันไดที่จะนำไปสู่ชั้นบนสุดของแท่นบูชา วิญญาณไร้ร่างยึดติดอยู่ที่ตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ และพวกมันก็ไม่กังวลที่จะเจาะไชเข้าไปในร่างเขา ก่อนที่จะเริ่มกัดกินเลือดเนื้อของเขา
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีวิญญาณไร้ร่างตนใดที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เมิ่งฮ่าวก้าวเดินต่อไปได้
ศิษย์สำนักชิงหลัวในบริเวณนั้นต่างก็ประหลาดใจโดยสิ้นเชิง แม้แต่คนที่เคยแอบเกลียดชังเมิ่งฮ่าวอย่างรุนแรงก็ตามที
ดวงตาของปรมาจารย์หกเต๋าหดเล็กลง
กลุ่มหมอกสีดำเดือดพล่านอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว เลือดเนื้อของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังมีอาณาจักรแห่งความเป็นนิรันดร์ ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถรักษาฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่านั่นก็แค่นำมาซึ่งความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ก้าวแล้วก้าวเล่า นำเมิ่งฮ่าวขึ้นไปบนขั้นบันได และในที่สุดก็ไปถึงสวี่ชิง เขายื่นมือที่สั่นสะท้านออกไปยึดจับนางไว้
แต่ในตอนนี้เองที่ดวงตาของปรมาจารย์หกเต๋าสาดประกายขึ้นอย่างชั่วร้าย มันแค่นเสียงเย็นชาออกมา และจากนั้นก็ชี้นิ้วออกไปตามสบาย ทันใดนั้นกลุ่มหมอกสีดำก็ตรงไปยังวิญญาณของสวี่ชิง
“จบลงแล้ว” มันกล่าว
กลุ่มหมอกสีดำพุ่งตรงไปยังสวี่ชิง จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ส่งเสียงแผดร้องด้วยความหดหู่ใจ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต “ไมมมมมม่!!!”
ด้วยการไม่คำนึงถึงสิ่งใดๆ เขายื่นมือออกไปคว้าจับสวี่ชิงไว้ อย่างไรก็ตาม ลำแสงสีดำก็ยังไม่ยอมหยุด มันกระแทกเข้าไปในวิญญาณของสวี่ชิง ปกคลุมนางไว้ จนกลายเป็นเปลวไฟสีดำ
ในตอนนี้เองที่มือของเมิ่งฮ่าวได้วางลงไปบนวิญญาณของสวี่ชิง มือนั้นผ่านเปลวไฟสีดำเข้าไปเพื่อยึดจับนางไว้
สวี่ชิงเริ่มพึมพำ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเสียงดังออกมาก็ตามที มีแต่ริมฝีปากของนางเท่านั้นที่ขยับเคลื่อนไหว “ท่านอยู่ ข้าตาย…สัญญากับข้าว่าท่านจะมีชีวิตอยู่ต่อไป…”
เมิ่งฮ่าวรู้สึกโดดเดี่ยว, หมดหนทาง พื้นฐานฝึกตนของเขาไร้ประโยชน์ และโลกนี้ก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน “ข้าแค่ต้องการจะฝึกฝนวิถีเซียนอย่างมีความสุข! ข้าแค่ต้องการจะอยู่กับสวี่ชิงเท่านั้น! ฝึกตน? นี่…นี่เป็นชีวิตฝึกตนแบบไหนกัน?!”
ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังก้องขึ้นมาในจิตใจเมิ่งฮ่าว
“สัญญากับข้าเรื่องหนึ่ง และข้าก็จะช่วยเจ้า!” เสียงนั้นเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด แต่ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทันทีที่เขาได้ยิน ก็ตอบไปโดยไม่ลังเล โดยไม่ต้องใช้เวลาขบคิดว่ามันจะแปลกประหลาดสักเพียงใด
“ข้าสัญญา ท่านต้องการอะไรก็ได้ ข้าสัญญา!”
ทันทีที่เขากล่าวคำพูดออกมา สวี่ชิงซึ่งดูเหมือนแทบจะจางหายไปโดยสิ้นเชิง ทันใดนั้นก็ถูกปกคลุมด้วยลำแสงสีโลหิต ซึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
ทันใดนั้น เปลวไฟสีดำก็ดับลง!
สีหน้าของปรมาจารย์หกเต๋าสลดลงในทันที กลุ่มเมฆสีแดงม้วนตัวไปมาอยู่ที่ด้านบนขึ้นไป ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดง และใบหน้าขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในกลางอากาศ
เป็นใบหน้าของชายชรา ที่มีดวงตาสีแดงเข้ม พร้อมกับเขาสีโลหิตที่งอกออกมาจากหน้าผากของมัน ทันทีที่ใบหน้านี้ปรากฏขึ้น ศิษย์สำนักชิงหลัวก็รู้สึกราวกับว่าโลหิตในร่างพวกมันเริ่มเดือดพล่านขึ้นมา ราวกับว่ามันอาจจะระเบิดออกมาจากภายในร่างพวกมันได้ทุกเมื่อ
ทั่วทั้งโลกแห่งนี้, ท้องฟ้าแถบนี้, พื้นดินบริเวณนี้ ได้กลายเป็นสีโลหิตไปจนหมดสิ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มองเห็นได้ ต่างก็กลายเป็นสีโลหิตไปโดยสิ้นเชิง!
ม่านตาของปรมาจารย์หกเต๋าหดเล็กลง และพลังของมันก็พุ่งขึ้นมา โบกสะบัดมือขวา ทำให้กระถางธูป หมุนวนเป็นวงกลมอยู่รอบๆ ศีรษะของมัน
“อสูรโลหิต! เจ้ากล้าที่จะเข้ามาสอดแทรกเรื่องราวของสำนักชิงหลัว?!?!”
“ทำไมจะไม่กล้า?” ใบหน้าในท้องฟ้ากล่าวตอบ ทั่วทั้งร่างปรมาจารย์หกเต๋าเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มกึกก้อง ขณะที่โลหิตซึ่งมีอยู่น้อยนิดในร่างของมัน ทันใดนั้นก็ระเบิดออก กลายเป็นหยดโลหิตกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
สีหน้ามันเปลี่ยนไป และบินขึ้นไปในอากาศ กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังใบหน้าขนาดใหญ่นั้น “ทุกคนกล่าวว่าอสูรโลหิตคือผู้แข็งแกร่งมากที่สุดแห่งดินแดนด้านใต้! แต่เหล่าฟูไม่เชื่อ!”
“ดินแดนด้านใต้?” ใบหน้านั้นส่ายศีรษะ “ดินแดนป่าเถื่อนน่าจะดีกว่า” อย่างน่าตกใจ มือสีโลหิตที่เต็มไปด้วยรอยย่นได้ปรากฏขึ้น ซึ่งกระจายเจตจำนงโลหิตอันน่าตกใจออกมา พุ่งตรงไปยังปรมาจารย์หกเต๋า คว้าจับมันไว้และบีบลงไปเบาๆ
เสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่กระถางธูปแตกกระจายไป แม่น้ำเหลืองหายไป และโลหิตก็กระจายออกมาจากปากมันมากยิ่งขึ้น ปรมาจารย์หกเต๋ารู้สึกประหลาดใจอย่างถึงที่สุด
“เจ้า…เจ้า…”
“ข้าจะไม่สังหารเจ้า” ใบหน้านั้นกล่าวเสียงราบเรียบ “เรื่องนี้จะสำเร็จลุล่วงต่อไปในอนาคต โดยเจ้าสำนักน้อยแห่งเซี่ยเยาจง (สำนักอสูรโลหิต)” มือยักษ์นั้นปล่อยออก ทำให้ปรมาจารย์หกเต๋าตกลงไปบนพื้น โลหิตไหลซึมออกมาทั่วร่าง
ศิษย์สำนักชิงหลัวที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นมองมาด้วยใบหน้าที่ซีดขาว เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ใบหน้าที่อยู่บนท้องฟ้าค่อยๆ หันมามองยังเมิ่งฮ่าวอย่างช้าๆ ราวกับว่าเขาเป็นเพียงสิ่งเดียวในโลกนี้ที่มันจะยอมถ่อมตัวลงมามองดู
“เจ้าให้คำสัญญาไปแล้ว”
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวซีดขาวไร้สีเลือด แต่สีหน้าก็ยังคงสงบนิ่ง ขณะที่มองลงไปยังวิญญาณของสวี่ชิง ซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ด้วยแสงสีแดง นางไม่ได้เจ็บปวดอีกต่อไป และตอนนี้กำลังฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างช้าๆ เขามองกลับไปยังใบหน้าบนท้องฟ้า
“แม้แต่จะให้กลายเป็นอสูร ผู้เยาว์ก็ยินดี”
“ไม่จำเป็นต้องกลายเป็นอสูร สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าทำก็คือ…กลายเป็นมาร!”
“เข้าสังกัดสำนักเซี่ยเยา กลายเป็นหนึ่งในจอมมาร กลายเป็นเจ้าสำนักน้อยแห่งเซี่ยเยาจง!”
“พันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูร ในที่สุดก็กลายเป็นมาร ช่างน่าสนใจนัก นี่ไม่ใช่ความตั้งใจของเต๋าสวรรค์ นี่ก็คือความตั้งใจของข้า!”
“กลายเป็นมาร นับจากนี้ไป เจ้าก็คือมาร เป็นตำแหน่งที่อยู่เหนืออสูร เดินไปบนเส้นทางของเจ้าต่อไป สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าทำก็คือ…ไม่ต้องผนึกอสูรอีกต่อไป ข้าต้องการเห็นว่า เจ้าจะสามารถใช้พลังผนึกอสูรของเจ้า ผนึกสวรรค์แห่งจิ่วซานไห่ได้หรือไม่!”