ตอนที่ 712
รวมตัวกันที่ทะเลสาบเต๋า!
สามเขตอันตรายแห่งดินแดนด้านใต้!
ถ้ำกำเนิดใหม่, ทะเลสาบเต๋าโบราณ และวิหารไท่เอ้อร์โบราณ
ที่ลึกลับมากที่สุดในทั้งหมดก็คือถ้ำกำเนิดใหม่ ที่ดุร้ายมากที่สุดก็คือวิหารไท่เอ้อร์โบราณ แต่สำหรับผู้ฝึกตน สิ่งที่ให้ประโยชน์มากที่สุดในแง่ของการฝึกตนก็คือ…ทะเลสาบเต๋าโบราณ!
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงถูกพิจารณาว่าเป็นเขตอันตรายอยู่ดี หลังจากที่เข้าไปแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำนายได้ว่าจะมีชีวิตรอดกลับออกมาได้หรือไม่ แต่เมื่อทะเลสาบเต๋าอยู่ในขั้นการปะทุขึ้นมา อันตรายก็จะลดลงไปบ้างเล็กน้อย และโอกาสที่จะได้รับโชควาสนาก็มีมากขึ้น
ภายในเขตทะเลสาบเต๋า มักจะมีรอยแยกที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้น ซึ่งสามารถตัดได้ทุกสรรพสิ่งยกเว้นของวิเศษอันล้ำค่า นอกจากนี้ก็ยังมีเวทป้องกันอีกมากมาย ที่คงอยู่มานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน ถ้าเกิดพลาดก้าวเท้าเข้าไปเพียงแค่ก้าวเดียว ก็มีโอกาสถึงเก้าในสิบส่วนที่จะต้องจบลงด้วยความตาย
นอกจากนี้ก็ยังมีกับดักของการเคลื่อนย้ายทางไกลอีกหลายจุด พวกมันมักจะปรากฏขึ้นโดยไร้วี่แววล่วงหน้า และจะเคลื่อนย้ายผู้คนไปยังอาณาเขตของทะเลสาบ ถ้าโชคดีก็อาจจะเดินไปโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจจะถูกเคลื่อนย้ายทางไกลเข้าไปในรอยแยก หรืออาจจะเข้าไปในทะเลสาบบางแห่ง แม้แต่ผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าก็อาจจะถูกสังหารไปได้ หรืออาจจะได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์เช่นนั้น ไม่มีใครสามารถหลบหนีจากไปโดยไม่มีอันตรายได้
ยังมีสิ่งที่น่าหวาดกลัวมากไปกว่านั้นก็คือว่า…เมื่อตกอยู่ในกับดักวงจรของการเคลื่อนย้ายทางไกล ก็จะถูกเคลื่อนย้ายร่างเข้าไปหรือออกมาจากสถานที่ที่แตกต่างกันในทันที โดยไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้
เป็นวงจรที่ไร้จุดสิ้นสุด และผู้ฝึกตนที่ตกอยู่ในวงจรนี้ก็จะถูกทรมานโดยการเคลื่อนย้ายทางไกลอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตกตายไปทั้งร่างกายและวิญญาณ
ผลลัพธ์ที่น่าเศร้าเช่นนี้เป็นสิ่งที่อาจจะไม่เคยได้ยินในทะเลสาบเต๋าโบราณ จริงๆ แล้ว บางครั้งก็อาจจะได้เห็นซากศพผ่านเข้าไปหรือออกมาจากกับดักเคลื่อนย้ายทางไกลเหล่านั้น
น้อยคนนักที่จะตระหนักว่าทะเลสาบเต๋าโบราณนี้ จริงๆ แล้วจะมีรูปแบบเช่นใดกันแน่ ตรงจุดศูนย์กลางของอาณาเขตทั้งหมดเป็นทะเลสาบแห่งเต๋าขนาดใหญ่ ซึ่งถูกห้อมล้อมด้วยทะเลสาบขนาดเล็กกว่าอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ทะเลสาบเหล่านี้มีพื้นผิวที่คล้ายกับกระจก เมื่อมีใครมองลงไปก็จะดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างในสวรรค์แห่งนี้จะถูกสะท้อนกลับมา
ที่อยู่รอบนอกออกไปเป็นน้ำพุเต๋า โดยปกติแล้วน้ำพุเหล่านั้นจะว่างเปล่าและเหือดแห้งไป แต่เมื่อพวกมันปะทุขึ้นมา ก็จะมองเห็นภาพสะท้อนของเต๋าขึ้น
นอกเหนือจากภาพสะท้อนเต๋าแล้ว ก็เริ่มจะมองเห็นได้ว่าในน้ำพุเต๋าและทะเลสาบ บางครั้งก็จะพ่นออกมาด้วยของวิเศษอันล้ำค่า, บันทึกโบราณ หรือแม้แต่สัตว์อสูรอันน่ากลัวและแปลกๆ วัตถุแห่งสวรรค์และของวิเศษแห่งปฐพี หรืออาจจะมีแผ่นหยกพร้อมด้วยวิชาพิเศษเฉพาะ มักจะปรากฏขึ้นเป็นระยะ บางชิ้นก็ไร้ค่า ในขณะที่บางชิ้นก็หาค่ามิได้ กล่าวโดยสรุปแล้ว ก็มีสิ่งของอยู่เกือบทุกชนิดที่อาจจะปรากฏขึ้น
ในที่สุด ก็มีผู้คนเริ่มคาดเดาว่าด้านล่างของทะเลสาบโบราณนี้ เป็นซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างโบราณ หรือเมืองที่ล่มสลายไปเมื่อนานมาแล้ว
มีผู้คนมากมายปรารถนาที่จะเข้าไปในซากปรักหักพังนั้น แต่ถึงจะเป็นผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า ก็ยังไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้ แม้แต่ผู้ฝึกตนของตระกูลจี้แห่งดาวหนานเทียนก็ไม่สามารถ ทำให้พวกมันรู้สึกผิดหวังอย่างมากมาย
ตอนนี้มีผู้ฝึกตนนับแสนกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ด้านนอกของทะเลสาบเต๋าโบราณ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ฝึกตนเร่ร่อน ซึ่งไม่กล้าที่จะเข้าไปในเขตชั้นในของทะเลสาบเต๋า พวกมันไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการครอบครองน้ำพุเต๋า
ใครที่แข็งแกร่งเพียงพอก็จะได้ครอบครองน้ำพุเต๋า ซึ่งจะช่วยให้พวกมันก่อตั้งพื้นฐานได้ในอนาคต แต่น้ำพุเต๋าก็มีน้อยกว่าสามพันแห่ง จึงทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้นเป็นประจำทุกวัน
แน่นอนว่า ถึงแม้จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ผู้ฝึกตนคนแล้วคนเล่าก็ยังได้รับความรู้แจ้ง และมีชื่อเสียงขึ้นในที่แห่งนี้ จึงทำให้เกิดความตื่นเต้นเพิ่มมากขึ้นในท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตน ซึ่งมักจะเริ่มคลุ้มคลั่งเมื่อมีโอกาสได้รับโชควาสนา
ขณะที่เวลาเลื่อนผ่านไป ผู้ฝึกตนก็มาถึงมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าบางคนได้พยายามจะเข้าไปผจญภัยที่เขตด้านใน ซึ่งไม่ใช่เป็นแค่น้ำพุเต๋าเท่านั้น แต่เป็นทะเลสาบเต๋าที่กว้างสิบจ้าง!
สำหรับน้ำพุเต๋า จากที่เห็นก็มีโอกาสถึงเก้าสิบเก้าในร้อยส่วน ที่พวกมันจะปะทุขึ้นจนเกิดเป็นภาพสะท้อนเต๋า และจะพ่นสิ่งของอื่นๆ ออกมาเป็นระยะ
แต่สำหรับทะเลสาบเต๋า เรื่องราวก็แตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งขึ้นกับขนาดของทะเลสาบ ยกตัวอย่างเช่น ทะเลสาบเต๋าขนาดสิบจ้าง นอกจากเกิดเป็นภาพสะท้อนเต๋าแล้ว ก็จะมีโอกาสหนึ่งในสิบส่วน ที่จะพ่นของวิเศษออกมา สำหรับทะเลสาบเต๋าขนาดหนึ่งร้อยจ้าง ก็จะยิ่งมีโอกาสเพิ่มขึ้นถึงสามในสิบส่วน
ดังนั้นทะเลสาบเต๋าขนาดหนึ่งพันจ้างก็จะมีโอกาสถึงหกในสิบส่วน
สุดท้าย ทะเลสาบเต๋าขนาดหนึ่งหมื่นจ้างก็จะมีโอกาสมากถึงเก้าในสิบส่วน ที่จะพ่นของวิเศษอันล้ำค่าออกมา!
สำหรับน้ำพุเต๋า เมื่อไหร่ที่พวกมันปะทุขึ้น ภาพสะท้อนเต๋าก็จะปรากฏขึ้น ต่อจากนั้นน้ำพุเต๋าแห่งนั้นก็จะมีภาพสะท้อนเต๋าตรึงแน่นอยู่แค่ภาพเดียว ซึ่งจะปรากฏขึ้นทุกครั้งหลังจากที่มีการปะทุขึ้นมา แต่ทะเลสาบเต๋าจะแตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าภาพสะท้อนเต๋าจะปรากฏขึ้น แต่ก็จะหายไปในที่สุด จากนั้นก็สามารถไปรอที่รอบๆ ทะเลสาบ จนกว่าจะมีการปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
ภายในอาณาเขตของทะเลสาบเต๋าโบราณ จะมีทะเลสาบขนาดสิบจ้างอยู่เกือบหนึ่งพันแห่ง ซึ่งแต่ละทะเลสาบจะถูกครอบครองโดยสำนักขนาดเล็ก ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับบุคคลภายนอกที่จะเข้าไปใกล้ได้ สำหรับทะเลสาบขนาดหนึ่งร้อยจ้างมีไม่กี่ร้อยแห่ง ส่วนใหญ่แล้วก็จะถูกครอบครองโดยสำนักหรือตระกูลขนาดกลาง
สำหรับทะเลสาบขนาดหนึ่งพันจ้าง มีอยู่ทั้งหมดสิบแห่ง มีสำนักหรือตระกูลใหญ่ เช่น สำนักอีเจี้ยนเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติในการครอบครอง
ในตอนนี้ จำนวนผู้ฝึกตนแห่งดินแดนด้านใต้ที่มารวมตัวกันในที่แห่งนี้ ถึงจะไม่ถึงหนึ่งล้านคน แต่ก็มีอยู่ระหว่างเจ็ดแสนถึงแปดแสนคน ขณะที่ผู้คนมาถึงมากยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งมีการต่อสู้และสังหารกันมากขึ้น
ตูม!
กลุ่มผู้ฝึกตนทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้นในท้องฟ้า แต่ละคนสาดประกายด้วยแสงสีทอง ที่เห็นเป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนทั้งหมดนั้นต่างก็สวมใส่ชุดเกราะสีทอง ดูแล้วดุร้ายน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่พวกมันพุ่งผ่านอากาศมา ท้องฟ้าและพื้นดินก็เริ่มเลือนลางลง ระลอกคลื่นกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง พวกมันไม่ได้มองลงมา แต่จ้องนิ่งไปที่เขตชั้นในของทะเลสาบเต๋าโบราณ เมื่อพวกมันเข้าไป ก็ไม่ได้บินผ่านไป แต่เดินไปด้วยความระมัดระวังภายใต้การนำของผู้แข็งแกร่งของสำนัก
“สำนักจินหานมาถึงแล้ว!”
“ผู้ฝึกตนเหล่านั้นมาจากสำนักจินหาน! ผู้ที่อยู่ด้านหน้าสุดคือปรมาจารย์หลิงตงแห่งสำนักจินหาน! อย่าบอกข้านะว่าคนที่อยู่ด้านหลังมันก็คือ ซานจิ่วต้าซือ!?!?” (เจ้าโอสถภูผานิรันดร์)
“เห็นเจ้าคนอ้วนที่ด้านข้างนั่นหรือไม่? นั่นเป็นคนที่สาบานว่าจะมีภรรยาให้ครบหนึ่งร้อยคน, เจ้าหลี่ฟูกุ้ยที่ไร้ยางอาย, ใช่หรือไม่?”
เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกเริ่มดังออกมาจากด้านใน ของอาณาเขตแห่งทะเลสาบเต๋า ขณะที่สำนักขนาดเล็ก หรือแม้แต่ขนาดกลาง เริ่มกระวนกระวายใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าศิษย์หญิงสาว ต่างก็เริ่มหน้าแดงด้วยความกังวลใจ เมื่อได้พูดถึงนามของหลี่ฟูกุ้ย
ในไม่ช้า เสียงอื่นๆ ก็ดังขึ้นมาจากเขตด้านนอก
“ตระกูลหลี่ก็มาแล้ว!!”
“นั่นคือ…ปรมาจารย์รุ่นสิบเก้าตระกูลหลี่! กล่าวกันว่าท่านเป็นผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณครั้งที่สอง! ดูคนที่อยู่ด้านหลังท่านสิ! ดูเหมือนว่าจะมีศักดิ์ฐานะเท่าเทียมกัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนผู้นั้นก็เป็นปรมาจารย์ตัดวิญญาณด้วยเช่นกัน?!”
“ตระกูลซ่งก็มาแล้วเช่นกัน! ข้าเห็นหุ่นเชิดหินฝนหมึกของตระกูลซ่งแล้ว!!”
“สำนักชิงหลัว! ข้าเห็นผู้คนจากสำนักชิงหลัวด้วย!”
“สำนักและตระกูลเกือบทั้งหมดในดินแดนด้านใต้มาถึงหมดแล้ว!”
เสียงเหล่านั้นดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทางทั้งทะเลสาบเต๋าโบราณ บุคคลที่เป็นผู้นำของสำนักชิงหลัวไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็น ปรมาจารย์ตัดวิญญาณครั้งที่สามซึ่งมีชีวิตรอดจากการโจมตีของเมิ่งฮ่าว เห็นได้ชัดว่า พื้นฐานฝึกตนของมันได้ฟื้นฟูกลับคืนมาบ้างเล็กน้อย ใบหน้ามันเคร่งเครียดขณะที่ชำเลืองมองไปรอบๆ บริเวณนั้น และนำศิษย์ในสำนักเข้าไปในทะเลสาบเต๋า
ภายในกลุ่มคนจากตระกูลซ่งเป็นซ่งเจี๋ย สีหน้านางสงบนิ่ง มีบุรุษวัยกลางคนติดตามนางมาอย่างใกล้ชิด สีหน้ามันดูน่ากลัวถึงแม้จะไม่มีความกราดเกรี้ยวอยู่บนใบหน้าก็ตามที และมีซ่งเหล่าไกว้อยู่ในคนกลุ่มนี้ด้วยเช่นเดียวกัน พื้นฐานฝึกตนของมันค่อนข้างจะสูงกว่าเดิมอยู่เล็กน้อย ตอนนี้มันอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ห่างจากขั้นตัดวิญญาณเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น
ด้านหลังพวกมันเป็นศิษย์รุ่นเยาว์แห่งตระกูลซ่งนับหมื่น รวมทั้งหุ่นเชิดนับหมื่นด้วยเช่นกัน หุ่นเชิดเหล่านั้นเป็นสีดำ กระจายความเย็นเยียบอันเข้มข้นออกมา และมีหน้าตาที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ในขณะที่ตระกูลซ่งผ่านเข้าไปในเขตชั้นในของทะเลสาบเต๋าโบราณ กลุ่มเมฆมงคลสีม่วงก็ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่ห่างออกไปไกล ขณะที่มันใกล้เข้ามา ก็มองเห็นชายชราที่มีใบหน้าเหลืองซีดอยู่ด้านใน มันถูกห้อมล้อมด้วยชายชราอีกหลายคนที่มีกลิ่นอายเช่นเดียวกัน ใบหน้าพวกมันเคร่งขรึมและไม่พูดจา ด้านหลังพวกมันภายในกลุ่มเมฆเป็นศิษย์อีกนับหมื่น รวมทั้งกระถางปรุงยาขนาดใหญ่ ซึ่งมีกระบี่ลอยหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ กระถาง
พลังของพวกมันดูเจิดจ้าและมีสีสัน ขณะที่ใกล้เข้ามา กลุ่มผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านนอกของทะเลสาบเต๋าก็ตระหนักได้ในทันทีว่าพวกมันเป็นใคร
“สำนักจื่อยิ่น!”
“นั่นก็คือผู้อาวุโสเต๋าแห้งเหี่ยวแห่งสำนักจื่อยิ่น! มันเป็นผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณ!”
“ดูที่ด้านหลังมัน! นั่นก็คือสองผู้งดงามแห่งสำนักจื่อยิ่น…ฉู่อวี้เยียน และ หานเสวี่ยซาน!”
ภายในกลุ่มศิษย์สำนักจื่อยิ่น สายตาของฉู่อวี้เยียนกวาดมองไปทั่วยังภาพที่ด้านล่าง คิ้วที่งดงามของนางขมวดขึ้น ราวกับว่านางกำลังมองหาใครบางคนอยู่ แต่ก็ไม่พบเห็นคนผู้นั้น ข้างกายนางเป็นหญิงสาวเยาว์วัยที่ดูมีเสน่ห์ พร้อมด้วยผิวกายที่ขาวผ่องราวกับหิมะ ซึ่งช่วยดึงดูดความสนใจให้เพิ่มมากขึ้น นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นเซิ่งหนี่ว์ (สตรีศักดิ์สิทธิ์) แห่งเมืองเซิ่งเสวี่ยในดินแดนสีดำ, หานเสวี่ยซาน
ดูเหมือนว่านางก็มองหาในกลุ่มคนด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นสีหน้านางก็เริ่มจะค่อนข้างหดหู่ลง ข้างกายนางเป็นบุรุษวัยกลางคนที่มีหน้าตาหล่อเหลาเงียบขรึม มันมักจะมองไปยังหานเสวี่ยซานเป็นระยะ ด้วยแววตาที่อ่อนโยนซึ่งมันได้แอบปกปิดไว้เป็นอย่างดี
คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเยี่ยเฟยมู่ เป็นคนเดียวกับที่เคยแข่งขันกับเมิ่งฮ่าวในปีนั้นเพื่อตำแหน่งเทพกระถางม่วง…มันเป็นผู้ถูกเลือกของเต๋าแห่งการปรุงยา หลังจากที่ผ่านมานับร้อยปี ตอนนี้มันก็อยู่ในขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้ง
ยังมีอีกคนในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ดูเหมือนจะค่อนข้างไม่ค่อยน่าสนใจ แต่ก็มีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้ง มันก็มองลงไปยังด้านล่างด้วยเช่นกัน ราวกับว่ากำลังมองหาใครบางคนที่คงอยู่ในความทรงจำของมัน
“มันไม่ได้มา…?” ชายชราถอนหายใจ “ถึงแม้ว่ามันจะมา แต่ก็คงจะจำข้าไม่ได้…” ภายในจิตใจของชายชรา แวบความทรงจำอันมากมายนับไม่ถ้วน จากในอดีตที่ผ่านมาตอนที่อยู่ในสำนักจื่อยิ่น
“ศิษย์พี่ฟางมู่ ท่านยังจำไป๋หยุนหลายได้หรือไม่…?”
อย่างน่าประหลาดใจ ท่ามกลางกองกำลังของสำนักจื่อยิ่น ยังมองเห็นอันจ้ายไห่และหลินไห่หลง ซึ่งเป็นสองเทพกระถางม่วงด้วยเช่นเดียวกัน สายตาของพวกมันกวาดมองไปมา และมองเห็นสีหน้าอันซับซ้อนอยู่บนใบหน้าพวกมัน
กลุ่มเมฆมงคลนี้นำกลุ่มคนจากสำนักจื่อยิ่นเข้าไปในเขตด้านในของทะเลสาบเต๋าโบราณ และจากนั้นก็หายลับตาไป ในที่สุดเขตด้านนอกของทะเลสาบก็กลับคืนสู่ปกติเหมือนเดิม
สามวันต่อมา ที่ห่างไกลออกไปในเส้นขอบฟ้า แสงสีโลหิตสาดประกายออกมา แสงสีโลหิตนั้นกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง สิ่งที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเป็นสัตว์อสูรสีโลหิตปรากฏขึ้น มันพุ่งตรงมาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จากนั้นก็เริ่มมองเห็นใบหน้าขนาดใหญ่ยักษ์ของมันได้
ใบหน้านั้นมีเขาที่ขดงอสีโลหิตดูน่ากลัว ซึ่งกระจายพลังอันน่าประหลาดใจออกมา!
ถ้ามองดูให้ละเอียดก็จะน่าตกใจยิ่งเมื่อพบว่า ใบหน้านั้นจริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นมาจากผู้ฝึกตนนับหมื่นคน สำหรับเขาที่ขดงอนั้น ตรงปลายของมันเป็นบุรุษหนุ่มที่สวมใส่ชุดยาวสีโลหิต เส้นผมที่ยาวของมันพริ้วไปมาอยู่บนใบหน้าที่สงบนิ่งเรียบเฉย แต่ภายในดวงตาคู่นั้นมองเห็นความโหดเหี้ยมอย่างน่ากลัวอยู่
มันเป็นผู้ที่มีหน้าตาหล่อเหลา แต่ก็ไม่ได้ดูเรียบร้อยคงแก่เรียนเลยแม้แต่น้อย กลับดูเหมือนจะดุร้ายและเย็นชา นี่ก็คือ…เมิ่งฮ่าว ซึ่งหลังจากผ่านการตายมาแล้ว ก็มีความโหดเหี้ยมของมารร้ายอยู่ในจิตใจ
ด้านหลังเมิ่งฮ่าวเป็นหกผู้เฒ่าตัดวิญญาณแห่งสำนักเซี่ยเยา รวมทั้งศิษย์อีกสี่หมื่นคน
“สำนักเซี่ยเยา!”
“บุรุษหนุ่มผู้นั้น…ใช่เป็นเมิ่งฮ่าวหรือไม่? มันเคยถูกเรียกว่าฟางมู่, ตานติ่งต้าซือ ตอนนี้…มันเป็นเจ้าสำนักน้อยแห่งเซี่ยเยาจง!!”
“เพื่อที่จะช่วยเหลือคนรักของมัน, สวี่ชิง มันได้ไปต่อสู้กับสำนักชิงหลัวทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว! นั่นก็คือเมิ่งฮ่าว!” ทันใดนั้นเขตด้านนอกของทะเลสาบเต๋าก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย ตอนนี้เหตุการณ์ในสำนักชิงหลัวได้ผ่านมามากกว่าหนึ่งปีแล้ว และข่าวคราวก็กระจายออกไปเป็นวงกว้างมานานแล้ว
ภายในกลุ่มคน มีผู้ฝึกตนที่เป็นหญิงสาวอยู่ไม่น้อยที่มองไปยังเมิ่งฮ่าวพร้อมกับดวงตาที่สาดประกายด้วยความคิดว่า “ข้าอยากจะมีคนรักเหมือนเมิ่งฮ่าวบ้าง!”
ขณะที่เสียงพูดคุยดังขึ้นมาจากผู้ฝึกตนทั้งหมด เมิ่งฮ่าวและกลุ่มคนจากสำนักเซี่ยเยาก็ผ่านเข้าไปในเขตด้านในของทะเลสาบเต๋าโบราณ
ในตอนนี้ อาณาเขตทั้งหมดทันใดนั้นก็เริ่มสั่นสะเทือน ตามมาด้วยแผ่นดินไหว น้ำพุเต๋าแห่งแล้วแห่งเล่า ตามมาด้วยทะเลสาบเต๋า ทั้งหมดเริ่มปะทุขึ้นมา ภาพสะท้อนเต๋ามากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น และแสงอันปั่นป่วนวุ่นวายก็แวบขึ้นไปในสวรรค์และปฐพี
สำนักเซี่ยเยามาถึงในเวลาที่ทะเลสาบเต๋าปะทุขึ้นมาพอดี!
———————
หมายเหตุ :
- 1. ซานจิ่วต้าซือ (เจ้าโอสถภูผานิรันดร์) เคยเป็นศิษย์ผู้สืบทอดของ ตานกุ่ยต้าซือ (เจ้าโอสถจอมปีศาจ) ตอนที่ 236 มันมายังสำนักจื่อยิ่น โดยอ้างว่าจะมาเคารพอาจารย์ แต่จริงๆ แล้วก็จะมาดูตัวตนของตานติ่งต้าซือ (เจ้าโอสถจอมกระถาง) ในตอนที่ 241 และศิษย์จากแผนกเม็ดยาปฐพีของมันก็ได้โต้เถียงกับเมิ่งฮ่าวเรื่องการปรุงยาในตอนที่ 246
- 2. ซ่งเจี๋ยเป็นคู่หมั้นที่เมิ่งฮ่าวชนะมาจากการแข่งขันคัดเลือกบุตรเขย แต่จากนั้นเขาก็หลบหนีจากไป นางปรากฏตัวครั้งล่าสุดในสำนักเซียนอสูรโบราณ ตอนที่ 594 ส่วนซ่งเหล่าไกว้เริ่มมีบทบาทในตอนที่ 48 และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หอกเหล็ก สุดท้ายเมิ่งฮ่าวก็ขโมยของวิเศษจากภูเขาสมบัติของมันไปเกือบทั้งหมด จากนั้นมันก็ปรากฏตัวครั้งล่าสุดในงานคัดเลือกบุตรเขยตระกูลซ่ง ซึ่งมันได้พนันว่าเมิ่งอ่าวจะชนะในการแข่งขัน ในตอนที่ 194
- 3. ฉู่อวี้เยียนและหานเสวี่ยซาน ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันล่าสุดในตอนที่ 388
- 4. เยี่ยเฟยมู่ (ขอเปลี่ยนชื่อจากเยี่ยเฟยโม่เดิมนะครับ) ปรากฏขึ้นล่าสุดตอนที่ 309 ซึ่งเมิ่งฮ่าวได้ช่วยชีวิตมันพร้อมกับฉู่อวี้เยียนและศิษย์สำนักจื่อยิ่นคนอื่นๆ ในเขาวงกตภายในร่างของโฉ่วเหมินไถ ใกล้กับถ้ำกำเนิดใหม่ จากนั้นตอนที่ 314 มันได้สาบานว่าจะเอาชนะเมิ่งฮ่าวในเรื่องของเต๋าแห่งการปรุงยาให้ได้
- 5. ไป๋หยุนหลายเป็นผู้ช่วยเมิ่งฮ่าวในสำนักจื่อยิ่น
- 6. อันจ้ายไห่และหลินไห่หลง ปรากฏขึ้นหลายครั้งในภาคการปรุงยาของสำนักจื่อยิ่น ทั้งสองต่างก็รู้สึกดีกับฟางมู่หรือเมิ่งฮ่าว