Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 736

ตอนที่ 736

ทำลายล้าง!

เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงตำแหน่งหน้าผากของอสูรอวตาร พลังชีวิตและพื้นฐานฝึกตนของผู้ฝึกตนทั้งหนึ่งแสนคนไหลเข้าไปในร่างอสูรอวตาร เมิ่งฮ่าวสามารถรับรู้ได้ทั้งหมด

“ค้นหาเต๋าขั้นต้น!” เมิ่งฮ่าวกล่าว รับรู้ได้ถึงพลังของอสูรอวตาร เขาโบกสะบัดมือ และเกราะป้องกันสีโลหิตก็หดตัวลง จากการปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของอสูรอวตาร โดยไม่มีสิ่งกีดขวางสีโลหิตคอยมาขัดขวาง หกอสรพิษสายฟ้าก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวในทันที เช่นเดียวกับวิญญาณไร้ร่างและผู้ฝึกตนสำนักชิงหลัว ซึ่งมีใบหน้าที่ซีดขาว

“รุกรานสำนักเซี่ยเยา? พวกเจ้าต้องตาย!” เสียงที่รวมเข้าด้วยกันของผู้ฝึกตนหนึ่งแสนคน ดังก้องออกมาจากอสูรอวตาร สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และเมิ่งฮ่าวก็ยกมือกำเป็นหมัดขึ้น

หมัดนั้นกระแทกเข้าไปยังหนึ่งในอสรพิษสายฟ้า จากนั้นมันก็พังทลายกลายเป็นชิ้นๆ ในทันที เพียงชั่วพริบตา อสรพิษทั้งหมดก็แตกกระจายไปพร้อมกับเสียงระเบิดขนาดใหญ่

เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ต่อมาเมิ่งฮ่าวก็หันร่างของอสูรอวตาร และทำให้มันพุ่งตรงไปยังกระบี่ขนาดใหญ่ ที่ก่อตัวขึ้นมาจากวิญญาณไร้ร่างและผู้ฝึกตนสำนักชิงหลัว

“ตาย!!” เสียงเมิ่งฮ่าวรวมเข้ากับผู้ฝึกตนหนึ่งแสนคน ดังก้องออกไปเกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ พื้นฐานฝึกตนของพวกเขาพุ่งขึ้นไป และพลังของขั้นต้นค้นหาเต๋าก็เกื้อหนุนให้เสียงกระหึ่มนั้นกลายเป็นคลื่นเสียงอันน่ากลัว

คลื่นเสียงนั้นกลายเป็นระลอกคลื่นที่กระแทกลงไปยัง วิญญาณไร้ร่างและผู้ฝึกตนสำนักชิงหลัว วิญญาณไร้ร่างหายไปทีละตน ทีละตน ราวกับว่าพวกมันกำลังถูกลบออกไป สำหรับผู้ฝึกตนที่มีกายเนื้อ พวกมันถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ โดยระลอกคลื่นที่พุ่งผ่านไป ศิษย์สำนักชิงหลัวหนึ่งหมื่นคน…ตกตายไปทั้งร่างกายและวิญญาณจนหมดสิ้นในทันที

“อสูรอวตารเซี่ยเยาของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว!” ชายชราชุดเขียวแห่งสำนักอีเจี้ยนกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ ก้าวเท้าออกมา และในที่สุดก็มาอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่ามือของมันจะว่างเปล่า แต่ปราณกระบี่อันน่าตกใจ จู่ๆ ก็เกิดขึ้นมาและกรีดลงไปยังเมิ่งฮ่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ปราณกระบี่จะตกลงมา เสียงแค่นเย็นชาก็ดังก้องออกมาจากภายในสำนักเซี่ยเยา เงาร่างสีโลหิตแวบขึ้นมาอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นปรมาจารย์อสูรโลหิต

“ไร้ความหมายที่จะไปจัดการกับผู้เยาว์รุ่นหลัง!” มันกล่าว “เจ้าต้องการจะสู้? ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็มาต่อสู้กัน!”

ตูมมมมมม!

ปรมาจารย์อสูรโลหิตและชายชราชุดเขียวแห่งสำนักอีเจี้ยน ทันใดนั้นก็พุ่งสูงขึ้นไปในอากาศ ขณะที่คนทั้งสองเริ่มต่อสู้กันไปมา ในเวลาเดียวกันนั้น ชายชราผมแดงจากสำนักจินหาน, ปรมาจารย์รุ่นสามตระกูลหลี่ และปรมาจารย์หกเต๋าก็บินขึ้นไป หกเต๋าจ้องมองไปยังอสูรอวตารที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาอาฆาตแค้น แค่นเสียงเย็นชาออกมา จากนั้นก็ไม่ให้ความสนใจอีก ขณะที่มันบินตรงไปยังปรมาจารย์อสูรโลหิต

ในตอนนี้เอง ที่เงาร่างสีโลหิตอีกสามร่างก็พุ่งออกมาจากสำนักอสูรโลหิต แต่ละร่างต่างก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับปรมาจารย์อสูรโลหิต และแต่ละร่างก็พุ่งตรงไปยังหนึ่งในสามที่เพิ่งจะบินขึ้นไป

ตอนนี้ก็มีร่างจำแลงของปรมาจารย์อสูรโลหิตทั้งหมดสี่ร่างปรากฏขึ้น เป็นสี่ร่างจำแลงที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ ไปต่อสู้กับสี่ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดของดินแดนด้านใต้

เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ และการต่อสู้ที่ด้านบนก็ทำให้อากาศบิดเบี้ยวไปมา เป็นเรื่องยากสำหรับคนทั้งหมดที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ก็สามารถบอกได้ว่าท้องฟ้านั้นดูเหมือนแทบจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ การต่อสู้อันดุเดือดนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าแม้แต่สวรรค์ยังต้องสั่นสะเทือน

“สังหารพวกมัน!!” แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่ปรมาจารย์เหล่านั้น ติดอยู่ในการต่อสู้ที่ด้านบน กองกำลังที่เหลือของสี่กองกำลังอันยิ่งใหญ่ก็พุ่งเข้าไปต่อสู้ ผู้ฝึกตนนับแสนพุ่งตรงไปยังอสูรอวตารที่ถูกควบคุมโดยเมิ่งฮ่าว

ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้นเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าแห่งสำนักอีเจี้ยน รวมทั้งหุ่นเชิดจากสำนักจินหานที่ก่อตัวขึ้นมาจากผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณ ซึ่งกระจายกลิ่นอายค้นหาเต๋าออกมาด้วยเช่นเดียวกัน ตระกูลหลี่มีค่ายกลเวทที่กำลังหมุนวนอยู่รอบๆ พวกมันมากขึ้นกว่าเดิม แต่โชคร้ายที่สำนักชิงหลัวต้องมาพบกับความสูญเสียอย่างรุนแรงตลอดไป

รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่บังคับให้อสูรอวตารมุ่งหน้าตรงไปยังการต่อสู้ของสี่กองกำลังอย่างเปิดเผย

ภายในร่างอสูรอวตาร ดวงตาของศิษย์สำนักเซี่ยเยาทั้งหนึ่งแสนคนกลายเป็นสีแดงเจิดจ้า พวกมันก่อตัวกันเป็นค่ายกลเวทแรกแห่งสำนักเซี่ยเยา ซึ่งไม่อาจจะถูกทำลายลงไปได้อย่างง่ายดาย ถ้ามันถูกทำลายลงไปได้ สำนักเซี่ยเยาก็คงจะอ่อนแอเป็นอย่างยิ่งสำหรับโลกภายนอก

“สู้ตาย!”

อสูรอวตารกระจายพลังขั้นต้นค้นหาเต๋าออกมา ขณะที่มันพุ่งทะยานเข้าไปทำการต่อสู้กับผู้ฝึกตนนับแสนคนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น

มีอสรพิษสายฟ้าเหลืออยู่เพียงแค่สี่ตัวเท่านั้น ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนเร่ร่อนที่มีดวงตาแดงก่ำ พวกมันบินฝ่าอากาศมาโจมตีเป็นระยะ สำหรับสำนักชิงหลัว พวกมันกระจัดกระจายกันออกไป และไม่มีพลังเพียงพอที่จะต่อสู้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่ในกรณีของสำนักอีเจี้ยน ภายใต้การนำของผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋า กระบี่บินนับแสนระเบิดออกไป กลายเป็นพลังอันน่าตกใจพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างต่อเนื่อง

ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าจริงๆ แล้วก็สามารถจะต่อสู้กับเมิ่งฮ่าวและอสูรอวตารได้โดยตรง มันกลายเป็นกองกำลังหลักในการต่อสู้นี้ โดยมีพลังของสิบผู้ฝึกตนขั้นตัดวิญญาณสำนักอีเจี้ยนคอยหนุนหลังอยู่

ผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณแห่งสำนักจินหาน รวมพลังกันเพื่อก่อตัวเป็นหุ่นเชิด ซึ่งกระจายกลิ่นอายค้นหาเต๋าออกมาด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้กลุ่มเมฆม้วนตัวไปมาเมื่อมันโจมตีมา พวกมันรวมพลังกับผู้ฝึกตนขั้นต้นค้นหาเต๋าแห่งสำนักอีเจี้ยน ทำการตรึงเมิ่งฮ่าวและอสูรอวตารได้สำเร็จ

สำหรับตระกูลหลี่ พวกมันพยายามที่จะแอบลอบโจมตีเมิ่งฮ่าวอย่างลับๆ บินไปรอบๆ บริเวณนั้น ปกคลุมพื้นที่ด้วยค่ายกลเวทมากมายนับไม่ถ้วน บางค่ายกลก็ใช้ในการผูกมัดอสูรอวตารไว้ บางค่ายกลก็ทำการระเบิดตัวเอง แรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อกดทับลงมาบนร่างเมิ่งฮ่าว

ทุกครั้งที่เมิ่งฮ่าวทำการโจมตี ทุกครั้งที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่ภายในร่างอสูรอวตารก็จะกระอักโลหิตออกมา ในครั้งหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าแห่งสำนักอีเจี้ยน และหุ่นเชิดของสำนักจินหานได้รวมกำลังกันโจมตี และกระแทกเข้ามายังอสูรอวตารด้วยพลังที่ทำให้พื้นดินต้องสั่นสะเทือน ผู้ฝึกตนสองหมื่นคนที่อยู่ด้านใน ไม่อาจจะต่อต้านกับพลังเช่นนั้นได้ และร่างกายพวกมันก็ระเบิดออกในทันที

โลหิตไหลซึมออกมาจากปากของอสูรอวตาร กลายเป็นพิรุณโลหิตที่พ่นกระจายลงไปบนพื้น

อย่างไรก็ตาม สี่กองกำลังอันยิ่งใหญ่ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาอย่างมากด้วยเช่นกัน

ในช่วงเวลาสามวัน ผู้ฝึกตนแห่งสำนักจินหานสามส่วนตกตายไป สองส่วนของสำนักอีเจี้ยนถูกกำจัดไป สำนักชิงหลัวเสื่อมโทรมลง และตระกูลหลี่ก็ตายไปสองในสิบส่วน

สำหรับผู้ฝึกตนเร่ร่อน เมิ่งฮ่าวไม่มีเวลาที่จะไปสนใจพวกมัน ด้วยเช่นนั้น สี่อสรพิษสายฟ้า ก็ถูกทำลายไปเพียงแค่ตัวเดียว

จนถึงตอนนี้ สี่กองกำลังอันยิ่งใหญ่ก็มีผู้สูญเสียชีวิตไปมากกว่าสองแสนคน!

เมิ่งฮ่าวยืนกรานต่อสู้อย่างถึงที่สุด ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าแขนข้างขวาของเขามีความแข็งแกร่งขั้นค้นหาเต๋าอยู่ละก็ เขาคงไม่อาจจะต่อต้านได้นานเช่นนี้ เขายกมือขวาขึ้นและต่อยหมัดออกไป กระแทกลงไปยังหุ่นเชิดสำนักจินหานที่อยู่ด้านหน้า มันสั่นสะท้านถอยไปด้านหลัง ดูเหมือนว่าแทบจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ แต่ผู้ฝึกตนขั้นต้นค้นหาเต๋าจากสำนักอีเจี้ยน จู่ๆ ก็ปรากฏกายขึ้นและขัดขวางเมิ่งฮ่าวด้วยการโบกสะบัดชายแขนเสื้อของมัน

ค่ายกลเวทมากมายนับไม่ถ้วนรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวระเบิดตัวเองออกมา และท่ามกลางเสียงระเบิดดังก้องนั้น กระบี่ขนาดใหญ่นับแสนเล่มก็แทงเข้าไปในร่างอวตารของเมิ่งฮ่าว

“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวร้องคำรามออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง อสูรอวตารกระแทกลงไปยังสำนักจินหาน ทุกที่ที่เขาพุ่งกระแทกผ่านไป ก็จะทำให้เกิดเป็นรอยแตกร้าวขึ้นอย่างมากมาย บนร่างของหุ่นเชิดที่ก่อตัวขึ้นมาจากผู้ฝึกตนสำนักจินหาน

“ค่ายกลกระบี่เดียวดาย!” แสงเจิดจ้าปรากฏขึ้นในดวงตาของศิษย์สำนักอีเจี้ยน คนทั้งหมดเริ่มขยับมือร่ายเวท จากนั้นก็จับกระบี่ของพวกมันไว้จนแน่น ขณะที่ร่างกายเริ่มเปล่งแสงออกมาอย่างเข้มข้น ราวกับว่าพวกมันเป็นกระบี่ที่กำลังสาดประกายแสงออกมา แต่ละคนดูเหมือนจะกลายเป็นกระบี่ที่ลอยขึ้นไปในอากาศ อย่างน่าตกใจ กระบี่เหล่านั้นเริ่มรวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นค่ายกลกระบี่ขนาดใหญ่!

ค่ายกลกระบี่หมุนวนอยู่กลางอากาศ ก่อตัวเป็นกระบี่ขนาดใหญ่อันคมกริบ กรีดเฉือนลงไปยังเมิ่งฮ่าว

“ไข่มุกดำขาว! ขุนเขาที่เก้า!” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือซ้าย และขุนเขาที่เก้าก็กระแทกลงไปบนตัวกระบี่ขนาดใหญ่เล่มนั้น ภูเขาสั่นไปมาและจากนั้นก็พังทลายลงไป แต่ค่ายกลกระบี่เดียวดายก็พังลงไปด้วยเช่นเดียวกัน!

เมิ่งฮ่าวบังคับให้อสูรอวตารล่าถอยไป ผู้ฝึกตนที่ยังคงเหลืออยู่แปดหมื่นคนที่ด้านใน อีกครั้งที่หนึ่งหมื่นคนไม่อาจจะต่อต้านพลังที่กระแทกลงมาได้ และพวกมันก็ระเบิดออก ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าแห่งสำนักอีเจี้ยนจู่ๆ ก็ปรากฏกายขึ้น ขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว และกลุ่มหมอกสีเขียวก็ปรากฏขึ้น ภายในกลุ่มหมอกเป็นต้นหนามพิษ มันชี้นิ้วออกไป ทำให้กลุ่มหมอกสีเขียวปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของอสูรอวตาร

ในเวลาเดียวกันนั้น ต้นหนามพิษก็พุ่งแทงเข้าไปในร่างอสูรอวตาร ขณะที่มันพุ่งผ่านเข้าไป เสียงแผดร้องโหยหวนก็ดังก้องอยู่ในหูของเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวกำหมัดขวาจนแน่นและต่อยออกไปในทันที ผู้ฝึกตนขั้นต้นค้นหาเต๋าขมวดคิ้ว จากนั้นก็แค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมา และขยับมือร่ายเวทอีกครั้ง เสียงกระหึ่มได้ยินมา ขณะที่ร่างมันหายตัวไป จากนั้นก็ปรากฏกายขึ้นใหม่ยังที่ห่างไกลออกไปหนึ่งพันจ้าง ใบหน้ามันซีดขาว เห็นได้ชัดว่าถึงแม้มันจะหลบเลี่ยงหมัดนั้นไปได้ แต่ก็ยังคงได้รับบาดเจ็บ

“ทุกคนโจมตี!” มันร้องตะโกนขึ้น ขณะที่เสียงของมันดังก้องออกไป ก็ชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า “กระบี่ไม้ไผ่!”

ริ้วแสงสีเขียวพุ่งออกไปจากนิ้วของมัน จากนั้นก็กลายเป็นท่อนไม้ไผ่ขนาดเล็ก แต่มันก็ขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นกิ่งไผ่ จากนั้นใบของมันก็หลุดร่วงออกไป กลายมาเป็นกระบี่ไม้ไผ่!

มีผู้ฝึกตนบางคนซึ่งอยู่ในกลุ่มคนรอบๆ บริเวณนั้นที่เคยเห็นกระบี่นี้มา ต่างก็เริ่มร้องตะโกนออกมาด้วยความตกตะลึง

“ของวิเศษอันล้ำค่าแห่งสำนักอีเจี้ยน!!”

หุ่นเชิดที่แข็งแกร่งมากที่สุดของสำนักจินหานส่งเสียงแค่นอย่างเย็นชา จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยมือขวา ผลักมือออกไปและทำท่าคว้าจับ ครั้นแล้วก้อนศิลาขนาดฝ่ามือก็ลอยออกไป ขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นภูเขาที่มีความสูงหนึ่งพันจ้าง

เป็นภูเขาสีดำสนิท ยกเว้นว่ามีตัวอักษรสีทองอยู่หนึ่งตัวที่ด้านข้าง

末! (โม่ = สิ้นสุด)

ภูเขาสิ้นสุด!

นี่เป็นของวิเศษอันล้ำค่าแห่งสำนักจินหาน มีชื่อเสียงโด่งดังเทียบเท่ากับกระบี่ไม้ไผ่ของสำนักอีเจี้ยน!

ปรมาจารย์รุ่นห้าตระกูลหลี่ ซึ่งมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่ของการตัดวิญญาณครั้งที่สาม กำลังบินไปมาเพื่อกระตุ้นให้ค่ายกลเวททำงาน เมื่อมองเห็นเช่นนั้น มันก็หยิบเอาหลัวผาน (เข็มทิศจีนโบราณ) สีชมพูออกมา จากนั้นก็กดลงไปบนพื้นผิวของหลัวผาน

ทันใดนั้น พื้นดินก็เริ่มส่งเสียงดังกระหึ่ม และลำแสงสีชมพูจำนวนมากก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ

“ตาย!!”

กระบี่ไม้ไผ่สำนักอีเจี้ยนดูเหมือนจะผ่าได้แม้กระทั่งสวรรค์ ได้กลายเป็นลำแสงสีเขียวพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ภูเขาสิ้นสุดของสำนักจินหานเริ่มหมุนวนไปมา กระจายแรงกดดันบดขยี้ออกมา ขณะที่รวมพลังกับลำแสงสีเขียวโจมตีมายังเมิ่งฮ่าว

สีหน้าเมิ่งฮ่าวสลดลง ไข่มุกดำขาวและขุนเขาที่เก้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาโบกสะบัดมือขวา และรวบรวมพลังทั้งหมดของพื้นฐานฝึกตนของตัวเองโจมตีออกไป ด้วยพลังทั้งหมดที่เขาสามารถรวบรวมได้

ตูม!

อสูรอวตารถอยไปด้านหลัง แสงสีเขียวแวบขึ้น ขณะที่รอยแผลขนาดใหญ่เกิดขึ้น แขนขวาของอสูรอวตารขาดออก กลายเป็นผู้ฝึกตนหนึ่งหมื่นคนในกลางอากาศ ทันทีที่พวกมันปรากฏกายขึ้น พลังอันรุนแรงก็กวาดผ่านไป และฉีกกระชากพวกมันออกเป็นชิ้นๆ

ตูม!

ภูเขาสิ้นสุดบดขยี้ลงมา และเมิ่งฮ่าวก็กระอักโลหิตออกมา รอยแตกร้าวมากมายปรากฏขึ้นบนร่างอสูรอวตาร จากนั้นก็เริ่มแตกกระจายไปอย่างรวดเร็ว มองเห็นศิษย์สำนักเซี่ยเยาที่นั่งขัดสมาธิอยู่มากมาย สีหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ตูม!

การโจมตีครั้งสุดท้ายมาจากค่ายกลเวทที่ก่อตัวขึ้นมาจากลำแสงสีชมพู ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน ขณะที่แสงนั้นกลายเป็นโลกสีชมพู จากนั้นก็หดตัวลงก่อตัวเป็นอุ้งเท้าสีชมพูขนาดใหญ่ ตะปบลงไปยังอสูรอวตารของเมิ่งฮ่าว

อสูรอวตารไม่อาจจะต่อต้านได้อีกต่อไป เห็นได้ชัดว่ามันแทบจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ และผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่ด้านในได้ตกตายไป ตอนนี้เหลืออยู่เพียงแค่สามหมื่นคนเท่านั้นที่ยังคงมีชีวิตรอด

“ล่าถอย!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกน “กลับเข้าไปในสำนัก!” แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างอสูรอวตาร ขณะที่สามหมื่นผู้ฝึกตนล่าถอยออกมาจากร่างอสูรอวตาร

เมิ่งฮ่าวเป็นคนสุดท้ายที่ล่าถอยออกมา ทันทีที่เขาออกมา มือขวาก็ขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว และจากนั้นก็ชี้ตรงไปยังอสูรอวตารที่ใกล้จะแตกกระจายไป

“ระเบิด!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!