บทที่ 893 แข่งขันอย่างดุเดือด
ในขณะนี้ ประตูลับแห่งดวงจันทร์สีม่วงสั่นสะเทือน พลังแห่งดวงจันทร์อันน้อยนิดที่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งประตูลับ คือแสงหิ่งห้อยจันทรา เชื่อมโยงกับแสงแห่งดวงจันทร์ดวงนี้
และเขามีอาญาสิทธิ์แห่งดวงจันทร์สีม่วง อำนาจนี้เกิดจากจันทร์สีชาด ปัจจุบันเป็นของสวี่ชิงแต่เพียงผู้เดียว และยังถูกมองว่าเป็นร่องรอยของความเชื่อมโยงอีกด้วย
แม้ว่าดวงจันทร์แต่ละดวงจะไม่เหมือนกัน แต่สิ่งเหล่านี้สร้างเงื่อนไขให้แก่เขา การกระทำในปัจจุบันจึงเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล
ทันทีที่นั่งลง เสียงประตูลับแห่งดวงจันทร์สีม่วงดังสนั่น พลังแห่งดวงจันทร์อันเข้มข้นอย่างหาที่เปรียบมิได้จากดวงจันทร์ทั้งหมด หลั่งไหลไปยังสวี่ชิงพร้อมกัน
หลังจากความรู้สึกไม่สบายเพียงชั่วขณะ มันก็กลายเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว!
เมื่อเทียบกับสวี่ชิง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการดูดซับหรือปริมาณทั้งหมดของเทียนโม่จื่อ ทั่วสือซาน และฝานซื่อซวง ล้วนเหมือนกับแสงหิ่งห้อย ไม่โดดเด่น
แม้แต่เหยียนเสวียนจื่อและเอ้อร์หนิว พวกเขาเปิดประตูลับได้มากสุดเพียง 5 บาน นั่นคือการกลืนกินของสุนัขสวรรค์เท่านั้น
หากไม่มีการเปรียบเทียบก็คงดี แต่เมื่อมีการเปรียบเทียบ ความแตกต่างย่อมชัดเจน
สวี่ชิงนั่งอยู่บนดวงจันทร์ ราวกับเป็นเจ้าแห่งดวงจันทร์!
ดังนั้น…เทียนโม่จื่อและทั่วสือซานที่กำลังเลื่อนขั้น จึงอดไม่ได้ที่จะส่งจิตเทพออกมาจับตาดูด้วยความตกตะลึง ส่วนฝานซื่อซวงที่กำลังดูดซับพลังแห่งดวงจันทร์อยู่เช่นกัน ก็หายใจถี่ มองไปทางสวี่ชิง ความรู้สึกไร้สาระเกิดขึ้นในใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
แม้แต่เอ้อร์หนิวยังร้อนใจ ด้านหนึ่งเป็นเพราะความต้องการดวงจันทร์ของเขา อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะเขารู้สึกว่าการทำการใหญ่ในครั้งนี้ เหตุใดศิษย์น้องเล็กถึงโดดเด่นกว่าตัวเองบ่อยๆ…
เมื่อเทียบกับอดีต ตอนนี้กลับกันอีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าศักดิ์ศรีในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ของเขาถูกท้าทายอย่างรุนแรง
ดังนั้น เขาจึงร้องตะโกนออกไปทันที
“ศิษย์น้องเล็ก ศิษย์น้องเล็กที่รักของข้า… เหลือให้ข้าบ้างสิ!”
สุนัขสวรรค์จำแลงของเอ้อร์หนิว ดูดพลังแห่งดวงจันทร์ไม่ได้ ในขณะนี้ทำได้เพียงอ้าปากกว้าง ตะโกนไปยังสวี่ชิงพร้อมกับร่างจริง ดูเหมือนเขาจะรู้สึกว่ายังไม่พอ เอ้อร์หนิวกัดฟันแน่น ลุกขึ้นตรงไปยังแนวกั้นของดาวเคราะห์ที่เขาอยู่
ในขณะที่ใกล้เข้ามา เลือดพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ราวกับไม่ใช่ของตัวเอง ตกลงบนแนวกั้น ทำให้มันกลายเป็นสีแดงและกลายเป็นน้ำแข็งในทันที
จากนั้นสุนัขสวรรค์บนหัวก็พุ่งออกไป กัดแนวกั้นโดยตรง
แนวกั้นพังทลายพร้อมเสียงโครมคราม ร่างนายกองพุ่งออกมา หมายจะก้าวขึ้นไปบนดวงจันทร์
แต่เขาไม่มีเงื่อนไขที่เหมาะสม ในขณะที่เข้าใกล้ เขาก็ถูกขับไล่ออกจากดวงจันทร์
แรงผลักมหาศาลจากดวงจันทร์ ทำให้เขาถูกผลักออกทุกครั้งที่เข้าใกล้ ราวกับตกอยู่ในพายุ ทำได้เพียงตะโกนอีกครั้ง
“ศิษย์น้องเล็ก…”
สวี่ชิงไม่ได้ลืมตา จมจ่อมกับการดูดซับพลังแห่งดวงจันทร์ แต่เขาก็ยังคงยกมือขวาขึ้นโบกสะบัด รับนายกอง
ใช้ตัวเองเป็นหลักยึดของศิษย์พี่ใหญ่ แปลงเป็นเชือกที่มองไม่เห็น ยึดโยงกับเอ้อร์หนิว
ในที่สุดก็ทำให้เอ้อร์หนิวถึงแม้จะยังคงถูกดวงจันทร์ผลักไส แต่ก็อาศัยหลักยึดนี้ลอยคว้างราวกับว่าว หยุดอยู่กับที่ได้และเริ่มดูดซับพลังแห่งดวงจันทร์
และเพื่อที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ ในขณะที่ดูดซับ เอ้อร์หนิวก็ส่งเสียงอย่างรวดเร็ว
“อาชิงน้อย ข้าบอกเจ้าเลย ในกลุ่มคนเหล่านี้ ข้าเป็นคนแรกที่มาถึงพระราชวังจักรพรรดิ และก่อนที่คนอื่นจะมาถึง ศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว”
“พลังแห่งดวงจันทร์อะไรนั่นเป็นแค่จานเรียกน้ำย่อย อีกเดี๋ยวเมื่อถึงเวลา เจ้าก็จะรู้ว่าเป้าหมายของศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าคืออะไร นั่นคือจานหลัก”
สวี่ชิงได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า ประตูลับแห่งดวงจันทร์สีม่วงในร่างกายยังคงดูดซับ พลังแห่งดวงจันทร์ภายในยิ่งเข้มข้นขึ้น กลิ่นอายวิถีสวรรค์ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผ่านรอยแยกของประตูลับบานที่ 3 ที่ค่อยๆ เปิดออก จะเห็นได้ว่าพลังแห่งความเย็นยะเยือกภายในปะทุออกมาอย่างต่อเนื่อง แสงหิ่งห้อยจันทราซึ่งเป็นต้นแบบของวิถีสวรรค์ก็ยิ่งเด่นชัด
กลิ่นอายของสวี่ชิงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย!
นายกองก็เช่นกัน ภายใต้การแบ่งปันดวงจันทร์นี้ของทั้ง 2 แต่ละคนเก็บเกี่ยวพลังเต็มที่ ในไม่ช้าดวงจันทร์ก็หมุนพาพวกเขาไป ดวงอาทิตย์กำลังจะมา
วิธีการดูดซับของพวกเขาที่ติดอยู่กับดวงจันทร์ ทำให้ฝานซื่อซวงเหมือนกับแม่น้ำที่ถูกตัดขาด เมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาทำได้เพียงกัดฟันกรอด ในขณะที่ทำปางมือสร้างกระบี่บินจำนวนนับไม่ถ้วนล้อมรอบร่างกาย
กระบี่บินเหล่านี้พุ่งออกไปยังแนวกั้นไร้รูปของดาวเคราะห์ที่เขาอยู่ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในที่สุดกระบี่ทั้งหมดก็รวมกัน กลายเป็นคมกระบี่ที่แหลมคมที่สุด ตกลงบนแนวกั้น
เขาไม่ได้ต้องการที่จะทำลายแนวกั้น แต่ต้องการเพียงแค่เปิดช่อง!
ด้วยวิธีนี้ ก็จะสามารถรักษาระดับการป้องกันระดับสูงสุดได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถดูดซับพลังแห่งดวงจันทร์ที่ล่องลอยอยู่ภายนอกผ่านรูเล็กๆ นี้ได้
ถึงแม้ปริมาณจะจ้อยร่อย แต่โชคดีที่สวี่ชิงมาสาย ฝานซื่อซวงดูดซับไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นจึงพอที่จะประคับประคองไปได้
และเมื่อเทียบกับเขาแล้ว เทียนโม่จื่อและทั่วสือซานต่างถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก รู้สึกโชคดี เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการคือพลังแห่งดวงอาทิตย์ ไม่ใช่พลังแห่งดวงจันทร์…
ทว่าต่ยังไม่ทันได้ผ่อนคลายลมหายใจ เหยียนเสวียนจื่อก็ต้องขมวดคิ้ว
นางส่งเสียงหึ ก้าวออกไปถึงข้างแนวกั้นของดาวเคราะห์ที่นางอยู่ ยกมือขวาขึ้น ใช้หมัดจักรพรรดิอมตะทุบไปที่แนวกั้น
แนวกั้นทั้งหมดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วระเบิดออก
เจตจำนงแห่งพลังอันกล้าแกร่งแสดงออกอย่างเต็มที่ในหมัดนี้
ขณะที่ร่างของนางก้าวตรงไปยังดวงอาทิตย์ที่หมุนวนมา แต่สิ่งที่นางเผชิญนั้นเหมือนกับที่นายกองเจอ คือนางไม่มีคุณสมบัติที่จะเหยียบดวงอาทิตย์ได้
ดังนั้น แรงผลักของดวงอาทิตย์จึงขัดขวางนางไว้
อย่างไรก็ตาม เหยียนเสวียนจื่อก็คือเหยียนเสวียนจื่อ แม้จะถูกผลักไส แต่เมื่อเห็นคนที่นางเกลียด 2 คนสามารถดูดซับพลังได้เช่นนี้ นางก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำไม่ได้
แม้ว่าพลังขับไสจะน่ากลัว แต่นางก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยหมัดเดียวอย่างต่อเนื่อง
หมัดของนางไม่มีดับสูญ มีความทรงพลัง นั่นคือวิถีของนาง
มุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ ไม่อาจขัดขวางได้!
ดังนั้น ในเสียงคำรามที่ดังกึกก้องนี้ นางก็ค่อยๆ เข้าใกล้ดวงอาทิตย์จริงๆ ท่ามกลางความตกตะลึงของเทียนโม่จื่อและทั่วสือซาน
จากนั้นก็เปิดประตูลับทั้ง 5 ของตน เผยกองดินของตน แปลงโลกใหญ่ของตน ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อกดข่มตนเอง ทำให้ตนเองนั่งอยู่บน…ดวงอาทิตย์
ภาพนี้ทำให้นายกองรู้สึกตาร้อน
“เหยียนเสวียนจื่อผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เมื่อเทียบกับข้าแล้ว ถึงแม้จะยังด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็เกือบจะเท่ากับศิษย์น้องเล็กแล้ว”
และการกระทำของเหยียนเสวียนจื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาแห่งเคราะห์กรรมของเทียนโม่จื่อไม่ยอมแพ้ หยิบขวดหยกขาวขนาดเล็กออกมา หลังจากเปิดออกก็เป่าลมหายใจลงไปเฮือกหนึ่ง
แสงดาวแผ่ออกมาจากขวดเล็กๆ นี้ นั่นคือแสงดาวที่ไม่เหมือนกับโลกนี้ ในขณะนี้เมื่อเทียนโม่จื่อเป่าออกมา แสงดาวก็คล้ายจะมีลมหายใจ พุ่งตรงไปยังแนวกั้นด้านหน้า
ในชั่วพริบตา แนวกั้นก็ถูกเจาะทะลุ เกิดเป็นกระแสวน ดูดพลังแห่งดวงอาทิตย์ที่ล่องลอยอยู่ภายนอกเข้ามา
นี่เป็นทางเลือกของทั่วสือซานเช่นกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งเช่นสวี่ชิงและเหยียนเสวียนจื่อ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น และไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่ม ดังนั้นตราบใดที่พลังที่ล่องลอยยังคงอยู่ พวกเขาก็ยังพอรับได้
ท้ายที่สุด เป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือการเลื่อนขั้นสู่มหาขั้นเตรียมสู่เทวะ
ส่วนการสำรวจพระราชวังจักรพรรดินั้น ต้องรอหลังจากการเลื่อนขั้น
ทุกคนคล้ายจะรอคอยต่อไปเช่นนี้
พวกเทียนโม่จื่อ 3 คน เป้าหมายของพวกเขาคือมหาขั้นเตรียมสู่เทวะ ดังนั้นจึงรอโอกาส ต่อไปคือการรอการหลุดพ้น รอการทำลายกองดิน รอความว่างเปล่ากลายเป็นความจริง รอโลกใหญ่ถูกจุดไฟในสุสานจักรพรรดิแห่งนี้
นายกองเองก็กำลังรอคอย รอเวลาที่เขาพูดถึง
เป้าหมายของเขาผู้อื่นไม่รู้ แต่สวี่ชิงและนายกองทำการใหญ่มาหลายครั้งแล้ว ในใจก็พอจะเดาได้
เหยียนเสวียนจื่อกำลังรอคอยอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายของนางคงไม่ใช่แค่มหาขั้นเตรียมสู่เทวะเพราะโอกาสในสุสานจักรพรรดิสำหรับเทียนโม่จื่อและคนอื่นๆ เหยียนเสวียนจื่อไม่ได้ต้องการมันมากขนาดนั้น
ดังนั้น ในสายตาของสวี่ชิง ผู้คนในที่นี้จึงแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
และเขาเองก็กำลังรอคอยอยู่เช่นกัน
เขากำลังรอให้สมบัติเทพแห่งดวงจันทร์สีม่วงของตนบรรลุวิถีสวรรค์ รอให้วิถีสวรรค์ที่เข้ากับสมบัติแห่งกระบี่จักรพรรดิปรากฏขึ้น รอให้ทั้ง 5 ประตูลับเปิดออก ก้าวเข้าสู่มหาขั้นหวนสู่อนัตตา
และยังรอสิ่งที่เขาตัดสินในใจ การใหญ่ของนายกอง!
และแล้วเวลาก็ผ่านไปเช่นนี้
ระหว่างการหมุนเวียนของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ กลิ่นอายของพวกเทียนโม่จื่อก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มีพลังแห่งมหาขั้นเตรียมสู่เทวะ นายกองเองก็แผ่แสงลึกลับ ความบ้าคลั่งภายในกำลังจะลุกเป็นไฟ
เหยียนเสวียนจื่อที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนดวงอาทิตย์ก็ลืมตาขึ้น นางไม่ได้ทอดสายตาไปเบื้องบน แต่เป็นเบื้องล่างของดาวเคราะห์
ส่วนสวี่ชิง… สมบัติเทพแห่งดวงจันทร์สีม่วงในร่างกายของเขา ในที่สุดในขณะนี้ก็ส่งเสียงคำรามกึกก้อง สะท้อนไปทั่วทะเลความรู้สึก ประตูลับแห่งดวงจันทร์สีม่วงที่เปิดรอยแยกไว้ ในขณะนี้ก็เปิดออกอย่างสมบูรณ์!
จะเห็นแสงหิ่งห้อยจันทราลอยขึ้นจากภายในประตูลับ ความเย็นยะเยือกที่สามารถแช่แข็งกาลเวลา ปะทุขึ้นจากภายใน
5 ประตูลับ เปิด 3 !
กลิ่นอายของสวี่ชิงก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในชั่วพริบตานี้ ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เคย ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย กลมกลืนกับดวงจันทร์เบื้องล่างอย่างสมบูรณ์
และในตอนนี้เอง!
ภายใต้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ภายใต้ฉัตรหลากสี ระฆัง กลองบูชา และมังกรแสงดาราร่างยักษ์ 9 ตัวที่รายล้อม บนแผ่นดิน บนแท่นบูชา ภายในโลงศพของจักรพรรดิเซียนที่ตั้งอยู่…
มีเสียงหัวใจเต้นดังขึ้น!
ตุบ ตุบ!
เสียงหัวใจเต้นดังกว่าเสียงฟ้าร้อง แม้แต่การสร้างสวรรค์แลแผ่นดินยังยากที่จะเปรียบเทียบ เพราะสวรรค์ถูกเทพเจ้าทำให้แปดเปื้อน เพราะแผ่นดินกลายเป็นอาณาจักรแห่งเทพเจ้า
ดังนั้น เสียงหัวใจเต้นที่ดังขึ้นนี้จึงเป็นเสียงของเทพเจ้า
ดินแดนเทพเจ้าแปดเปื้อน ร่างของจักรพรรดิ…จะรอดพ้นได้อย่างไร
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น พระราชวังจักรพรรดิก็ส่งเสียงคำราม ส่งผลกระทบต่อสุสานที่ตั้งอยู่ แผ่กระจายไปยังดาวเคราะห์ กวาดไปทั่วแผ่นดินเทวะ ในขณะเดียวกัน โอกาสที่เหยียนเสวียนจื่อรอคอย…ก็มาถึง!
นางไม่ลังเล ร่างกายพุ่งออกจากดวงอาทิตย์อย่างแรง ในขณะที่เสียงหัวใจเต้นก้องกังวาน พุ่งตรงไปยัง…ฉัตรใหญ่หลากสี ที่อลอวลด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ครอบคลุมพื้นที่ครึ่งหนึ่งของแผ่นดิน!
นั่นคือสมบัติล้ำค่าของจักรพรรดิเซียน!
และยังเป็นสิ่งที่นางเตรียมไว้สำหรับโลกใหญ่ของนางเอง…สวรรค์!
สิ่งที่นางต้องการสร้างคือโลกที่ยิ่งใหญ่เหนือทุกสรรพสิ่ง ที่หายากทั้งในอดีตและปัจจุบัน!
โลกนี้ปั้นขึ้นได้จากกองดิน มีเพียงสวรรค์ที่ปกคลุมอยู่ด้านบนเท่านั้นที่ได้มายาก
นี่คือเป้าหมายของเหยียนเสวียนจื่อ
ด้วยเหตุนี้ นางจึงสะกดความเกลียดชังและความต้องการฆ่าเอ้อร์หนิวเอาไว้ แล้วพุ่งเข้าใกล้ด้วยเสียงคำราม หมัดจักรพรรดิอมตะคำราม ใช้พลังทั้งหมดสั่นสะเทือนมังกรดาราที่พุ่งเข้ามา
ขณะที่มังกรดาราพังทลาย นางกระอักเลือดออกมา ทว่าร่างของนางไม่หยุดหย่อนแม้แต่น้อย กลับปรากฏขึ้นเหนือฉัตรหลากสี!
ในขณะที่นั่งลง ประตูลับทั้ง 5 ก็เปิดออก กองดินตกลงมา นางต้องการที่จะหลอมฉัตรนี้เข้าไปในร่างกาย กลายเป็นฉัตรแห่งมหาขั้นเตรียมสู่เทวะของตน เพื่อก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดที่เหนือกว่าทุกคน
ความกล้าหาญเช่นนี้เทียนโม่จื่อและคนอื่นๆ เทียบไม่ติด
และในตอนนี้ ก็ไม่มีใครสามารถขัดขวางทางเลือกของนางได้ ในชั่วพริบตา ฉัตรหลากสีนั้นก็แผ่เจตจำนงที่ไม่มีใครเทียบได้ เริ่มหลอมรวมกับนาง
กลิ่นอายแห่งการเลื่อนขั้นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
เมื่อมองจากระยะไกล ราวกับบุปผาเทพเจ้ากำลังเบ่งบานในพระราชวังจักรพรรดิ บุปผาครอบคลุมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แผ่ขยายไปถึงดาวเคราะห์ 108 ดวง รากหลากสีที่งอกออกมาจากใต้ฐานบุปผา…เชื่อมเข้ากับโลงศพที่ส่งเสียงหัวใจเต้น!
ไม่ว่าเทพในโลงศพนั้น จะเป็นฝีมือของใคร เป็นแผนสำรองของใคร หรือเป็นการเกิดใหม่ของใคร…
สิ่งที่เหยียนเสวียนจื่อต้องการไม่ใช่ขั้นสูงสุดของมหาขั้นเตรียมสู่เทวะ…แต่เป็น…เทพเจ้า!
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)



