Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 938

ตอนที่ 938

ดวงตะวันอันเจิดจ้าพุ่งขึ้นมา!

สำหรับผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านล่าง การที่เมิ่งฮ่าวหันหลังและมุ่งหน้าพุ่งสูงขึ้นไปในท้องฟ้า ทำให้ความรู้สึกประทับใจในตัวเขามีแต่จะเพิ่มสูงขึ้น สำหรับผู้ถูกเลือกที่อยู่สูงขึ้นมาในท้องฟ้า ระยะห่างระหว่างเขาและพวกมันก็ยิ่งจะมีมากขึ้น ราวกับเป็นการแสดงให้เห็นว่าความแตกต่างอันกว้างใหญ่ในระดับของพวกมัน เป็นความแตกต่างที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

ความรู้สึกอันลึกล้ำของความพ่ายแพ้และไร้พลังที่จะทำอะไรได้ ปรากฏขึ้นในจิตใจพวกมัน

ฝานตงเอ๋อร์มองไปอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้สึกที่ท้าทายขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ผ่านไปนาน ดวงตานางก็สาดประกายขึ้น

“มันมีเส้นทางของมัน และข้าก็มีวิถีทางของข้า เส้นทางของมันและวิถีทางของข้าอาจจะมีจุดสิ้นสุดที่แตกต่างกัน แต่…การเดินทางก็เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุด!”

ดวงตาโจวซินเบิกกว้าง ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว มันรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้คิดว่าการไล่ตามเมิ่งฮ่าวให้ทันคือเป้าหมายหลักของมันไปแล้วในตอนนี้

ซุนไห่, ไท่หยางจื่อ และซ่งหลัวตาน ต่างก็มองไปอย่างเงียบๆ ลึกลงไปในจิตใจพวกมัน ดูเหมือนว่าทั้งหมดจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน การที่ถือกำเนิดขึ้นมาในยุคเดียวกันกับเมิ่งฮ่าว เป็นทั้งคำอวยพรและคำสาป อย่างช้าๆ พวกมันเริ่มก่อตัวเป็นความรู้สึกที่เห็นเขาเป็นพวกเดียวกัน แต่ความรู้สึกนั้นต้องแตกกระจายไปอย่างรวดเร็ว และถูกแทนที่ด้วยท่าทางที่มุ่งมั่น แม้แต่ซุนไห่เองก็ตามที มันคิดว่า

“นี่คือการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ ของดวงตะวันเท่านั้น เส้นทางที่จะก้าวไปในอนาคตยังมีอีกยาวไกล ยังมีโอกาสที่จะเอาชนะมันได้อีก”

หลี่หลิงเอ๋อร์เป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มคนเหล่านี้ที่มีความเข้าใจในตัวเมิ่งฮ่าวดีกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมดนี้ นางกำหมัดและขบฟันจนแน่น ขณะที่โคจรหมุนวนพื้นฐานฝึกตน และเริ่มพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

หวังมู่กำลังหอบหายใจออกมา มันจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวที่พุ่งสูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ และความต้องการต่อสู้กับเขาก็ลุกโชนขึ้นอยู่ในแววตา

ที่ด้านล่างบนพื้นดิน ผู้เฒ่าสูงสุดนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ เช่นเดียวกับสมาชิกของตระกูลจากสายโลหิตที่เป็นกลาง ไม่มีใครไม่ให้ความสนใจต่อเมิ่งฮ่าวเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป เรื่องราวได้เปลี่ยนไปแล้ว

การที่มองไปยังเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ ทำให้พวกมันรู้สึกราวกับว่ากำลังมองไปยังผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต!

แม้แต่ผู้เฒ่าสูงสุดก็ยังคิดเช่นนี้ด้วย ตอนนี้มีบางสิ่งที่แตกต่างกันออกไปแวบขึ้นมาในดวงตาของมันขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว

แน่นอนว่าจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเอ่ยถึงสมาชิกของสายโลหิตหลัก ซึ่งกำลังพลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้นอยู่ในจิตใจ

กลุ่มคนที่มีใบหน้าเคร่งเครียดคือสมาชิกของสายโลหิตฟางเว่ยเท่านั้น รังสีสังหารของพวกมันรุนแรงขึ้น ขณะที่มองไปยังฟางเว่ยที่อยู่สูงขึ้นไปในกลางอากาศ กำลังกระอักโลหิตออกมา ถึงแม้ว่าจะมีสมาชิกของตระกูลที่ด้านข้างกำลังช่วยรักษาอยู่ แต่อาการบาดเจ็บของกายเนื้อมันก็รุนแรงมาก จนไม่อาจจะป้องกันไม่ให้ภาพแห่งธรรมของมันต้องพังทลายลงไปได้

การพังทลายลงไปนั้นดูเหมือนจะประกอบไปด้วยพลังบางอย่างของกฎธรรมชาติ ราวกับว่าเป็นบางสิ่งที่ได้ถูกประทับลงไปอย่างลึกล้ำในวิญญาณของฟางเว่ย มันได้แต่มองไปขณะที่สองในสามภาพแห่งธรรมของมันแตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ นับไม่ถ้วน และไม่อาจจะรวมตัวกลับมาได้อีก

แม้แต่บิดาและปู่ของฟางเว่ย ก็ยังได้เคลื่อนย้ายทางไกลไปหามัน ปู่ของมันทำการกวาดผ่านบาดแผลของมันด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ และใบหน้าก็ยิ่งดูน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด

“ช่างเป็นลูกสุนัขที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างยิ่ง” มันกล่าวพร้อมกับรังสีสังหารที่แวบขึ้นมาในดวงตา “นี่คือพลังแห่งกรรม เจ้าสารเลวนั่นต้องมีความสัมพันธ์กับตระกูลจี้มาไม่มากก็น้อย มันได้ผนึกภาพแห่งธรรมของเว่ยเอ๋อร์ไว้!”

ใบหน้าฟางเว่ยซีดขาว แต่ก็ยังคงเยือกเย็นยิ่ง มันยังได้ไม่ยินยอมให้บิดาช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้อีกด้วย ลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ มองไปยังเมิ่งฮ่าวที่กำลังสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยสีหน้าที่งงงัน

เมิ่งฮ่าวกลายเป็นลำแสงพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศ สูงขึ้นไป สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนดูคล้ายกับเป็นวิหคที่ถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟ เขาไม่ได้อาศัยอยู่ภายในเปลวไฟเหล่านั้น แต่กำลังกลืนกินพวกมันเข้าไป และหงส์เพลิงที่เป็นอมตะด้วยปีกแห่งไฟ ก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไปในท้องฟ้า!

ขณะที่เขาพุ่งทะยานฝ่าอากาศขึ้นไป แก่นแท้ของมังกรปีกวารีที่อยู่ภายในร่างเขามาเป็นเวลานาน จู่ๆ ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นพลังอันอ่อนโยนกระจายออกไปทั่วทั้งร่าง

เก้าหมื่นจ้าง!

เก้าหมื่นสองพันจ้าง!

เก้าหมื่นสี่พันจ้าง!

เมื่อเขาบรรลุถึงความสูงระดับนี้ ก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นไปได้อีกอย่างต่อเนื่อง ความมุ่งมั่นในดวงตาเพิ่มมากขึ้น และเปลวไฟที่เผาไหม้ร่างกายก็มีความเข้มข้นจนถึงจุดสูงสุด แม้แต่ด้วยการรักษาจากอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ก็อาจจะทำให้เขาต้องถูกทำลายไปได้โดยสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวที่ใกล้เข้ามาของอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ก็ไม่ได้ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องลังเลแม้แต่น้อย เขาหยิบเอา…เม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้า ที่ปรุงด้วยตนเองออกมาในทันที!

นี่เป็นครั้งแรกที่เขากำลังจะกลืนกินเม็ดยา และเป็นครั้งแรกที่เขาจะพึ่งพาพลังของมัน ทันทีที่เม็ดยาผ่านเข้าไปในปาก ร่างกายก็เต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือน และพลังชีวิตอันไร้ขอบเขตก็ระเบิดออกมาจากภายในเม็ดยา มันร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง ประกอบไปด้วยแสงและความร้อนที่เกิดขึ้นมาจากฟ้าดิน จากต้นพืชสมุนไพร จากช่วงเวลาสิบสองชั่วยามในหนึ่งวัน แสงและความร้อนนั้นได้กลายเป็นเปลวไฟแห่งพลังชีวิต

ขณะที่เปลวไฟนั้นพุ่งขึ้นมาอยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเขาเริ่มมีชีวิตขึ้นมาในทันที

เก้าหมื่นห้าพันจ้าง, เก้าหมื่นเจ็ดพันจ้าง, เก้าหมื่นเก้าพันจ้าง!

เขาบินไปคล้ายกับเป็นหงส์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ จากภายในเปลวเพลิง ราวกับว่าเขาได้ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยความต้องการที่จะพุ่งทะยานขึ้นไป ราวกับว่าเขาคือราชันแห่งท้องนภา, มังกรปีกวารี!

ขณะที่เม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าหลอมละลายและกระจายออกไปทั่วร่างกาย มันไม่เพียงแต่จะทำให้เขาเต็มไปด้วยพลังชีวิตอย่างไร้ขอบเขตเท่านั้น แต่ยังได้ทำให้กายเนื้อเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ราวกับว่ามีดวงตะวันเกิดขึ้นอยู่ภายในร่างเขาตอนนี้ เป็นดวงตะวันที่กระจายแสงและความร้อนซึ่งกำลังลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา ยังได้ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกเหมือนจะเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และปฐพี รวมทั้งดวงตะวันที่อยู่ตรงด้านนอกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

ความรู้สึกนั้นทำให้จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ได้รับความรู้แจ้งบางส่วน ที่เกี่ยวข้องกับกฎแห่งธรรมชาติขึ้นมา ถึงแม้ว่าพวกมันจะดูคลุมเครือและเขาก็ไม่อาจจะคว้าจับไว้ได้ก็ตามที แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ว่านี่คือกฎธรรมชาติที่ประกอบไปด้วยเต๋าแห่งดวงตะวัน เป็นเต๋าที่เริ่มมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าไปใกล้ดวงตะวันมากยิ่งขึ้น

“ถ้าข้ามีเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าอีกหนึ่งเม็ดแล้วละก็…” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายขึ้น ขณะที่ใช้พลังของเม็ดยาทำการผลักดันตัวเองให้พุ่งผ่านระดับความสูงหนึ่งแสนจ้างขั้นสุดท้ายขึ้นไป

ตูม!

เขาพุ่งขึ้นไปราวกับเป็นดวงตะวันอันเจิดจ้า กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งหมดขณะที่…พุ่งผ่านระดับความสูงหนึ่งแสนจ้างขึ้นไป!

ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ รวมทั้งผู้ถูกเลือกทุกรุ่น ไม่มีใครในอาณาจักรเซียนหรือต่ำกว่าลงไปจะสามารถบรรลุถึงระดับความสูงนี้ได้ จากตำแหน่งที่เมิ่งฮ่าวอยู่ในตอนนี้ ทำให้เขาสามารถมองเห็นความกว้างใหญ่ของดาวตงเซิ่งได้

ผู้ถูกเลือกทั้งหมดที่อยู่ในกลางอากาศ จ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ผู้แข็งแกร่งอื่นๆ ทั้งหมดในตระกูลฟาง ต่างก็เงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะระเบิดเสียงพูดคุยกันออกมา

“มัน…มันบินขึ้นไปได้ถึงหนึ่งแสนจ้าง!!”

“จากสมัยโบราณมาจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ในตระกูลฟาง ไม่มีใครในอาณาจักรเซียนหรือต่ำกว่านั้นจะสามารถบรรลุได้ถึงเขตความสูงหนึ่งแสนจ้าง! ฟางฮ่าวคือคนแรก!”

“ช่างคาดไม่ถึงนัก! ฟางฮ่าวผู้นี้สามารถสะกดข่มผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ ได้ทั้งหมด แม้แต่เว่ยกงจื่อ! ตอนนี้มันกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจไปเรียบร้อยแล้ว!”

ขณะที่เสียงพูดคุยดังก้องขึ้นมาในคฤหาสน์โบราณ ดวงตาของเหล่าผู้อาวุโสต่างก็เต็มไปด้วยแสงแปลกๆ

แน่นอนว่าเหล่าผู้อาวุโสต่างก็สามารถจะควบคุมตัวเองไว้ได้ดีกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด เมิ่งฮ่าวคือบุคคลแรกซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอาณาจักรเซียน ที่สามารถบรรลุถึงความสูงหนึ่งแสนจ้างได้ ซึ่งก็มีผู้ฝึกตนในอาณาจักรโบราณอยู่ไม่น้อยที่สามารถจะทำเรื่องเช่นเดียวกันนี้ได้

แต่การทดสอบของกายเนื้อนี้ เป็นโชควาสนาสำหรับกลุ่มคนรุ่นเยาว์ ผู้แข็งแกร่งของตระกูลที่อยู่ในอาณาจักรโบราณได้แต่ต้องฝึกฝนอยู่ในสถานที่ของตนเองเท่านั้น

ฟางเว่ยจ้องนิ่งไปยังเงาร่างที่อยู่ห่างออกไปไกลของเมิ่งฮ่าว มองดูเขาบรรลุถึงระดับความสูงหนึ่งแสนจ้าง รู้สึกคล้ายกับมีหมัดต่อยลงไปที่หน้าอกมันอย่างรุนแรง โลหิตไหลซึมออกมาจากปาก และสีหน้าก็หมองคล้ำลง ภายในใจมันแทบจะใกล้บ้าไปด้วยความรู้สึกที่ต่อต้าน

“ข้าน่าจะเป็นคนที่อยู่ตรงนั้น…ไม่ใช่มัน!”

ขณะที่คนทั้งหมดกำลังสั่นสะท้านอยู่ภายในใจ เมิ่งฮ่าวกำลังลอยตัวอยู่ที่ระดับความสูงหนึ่งแสนจ้าง เป็นไปไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าไปในระดับความสูงเช่นนี้ แต่ด้วยพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว เขาไม่จำเป็นต้องหายใจ ลอยตัวอยู่ที่นั่นคล้ายกับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้พ่าย

เนื่องจากอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ทำให้กายเนื้อของเขาใกล้จะเป็นเซียนแท้มากขึ้นทุกขณะจิต ยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางที่เขาเดินผ่านมาก็แตกต่างไปจากคนอื่นๆ เป็นเส้นทางที่เหนือกว่าตานกุ่ย และโชคชะตาเซียนแท้ของท่าน เส้นทางของเขาคือ…การกลายเป็นเซียนแท้ในท่ามกลางเซียนแท้ทั้งปวง!

เขามีเส้นทางที่ต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องมีโชคชะตาเซียน เขาจะทะลวงผ่านเข้าไปกลายเป็นเซียนแท้โดยตรง ในความเป็นจริงแล้ว…มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเดินไปบนเส้นทางเช่นนี้ได้ เส้นทางของเขาโดดเด่นไม่เหมือนใคร เขามีชีพจรเซียนอยู่ภายในร่างเรียบร้อยแล้ว เป็นชีพจรเซียนที่มาจาก…วิหารพิธีเต๋าเซียนโบราณ!

สำหรับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดคือเหตุผลที่ทำไมเขาถึงลอยตัวอยู่ที่ระดับความสูงหนึ่งแสนจ้างได้ในตอนนี้!

แสงและความร้อนซึ่งปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวตรงจุดนี้ แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ เขามองไม่เห็นแสงหรือรับรู้ได้ถึงความร้อนใดๆ…เขาอยู่ที่ด้านในของแสง และกำลังได้กลิ่นของความร้อนนั้น

เมิ่งฮ่าวค่อยๆ มองขึ้นไป และเริ่มสั่นสะท้าน ขณะที่กายเนื้อเริ่มสั่นไปมาด้วยความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

ที่ด้านบนขึ้นไปเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอย่างไร้จุดสิ้นสุด และที่สูงขึ้นไปกว่านั้น เขาสามารถมองเห็น…ดวงตะวันที่แท้จริง!

มันมีขนาดใหญ่โต เป็นลูกทรงกลมสีแดงเข้ม ดูเหมือนว่าจะอยู่ในส่วนที่ลึกมากที่สุดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กำลังส่องแสงสว่างไปยังทุกสรรพสิ่ง

เมื่อเมิ่งฮ่าวมองไป ความรู้สึกที่เกี่ยวกับเต๋าแห่งดวงตะวัน ก็ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังคงไม่ชัดเจนเพียงพอ ถึงแม้ว่าการบินขึ้นมาที่ความสูงหนึ่งแสนจ้าง ก็ยังอยู่ห่างจากดวงตะวันเป็นอย่างมาก!

“กายเนื้อของข้าห่างจากการทะลวงผ่านอีกไม่ไกลแล้ว!!”

ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น คนทั้งหมดเชื่อว่าเขาได้บรรลุถึงจุดสิ้นสุดของท้องฟ้าแล้ว และไม่อาจจะไปสูงได้มากกว่านั้นอีก อย่างไรก็ตามเขาได้พุ่งต่อไป ใช้พลังของพื้นฐานฝึกตน, กายเนื้อ และดวงตะวันแห่งเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าเพื่อเกื้อหนุนให้เขาพุ่งสูงขึ้นไป

หนึ่งแสนหนึ่งพันจ้าง, หนึ่งแสนสามพันจ้าง, หนึ่งแสนห้าพันจ้าง…เขาบินขึ้นไปด้วยความไม่รวดเร็วมากนัก เวลาผ่านไป และเขาก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นไปเรือยๆ!

คนทั้งหมดที่ด้านล่างตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายไปโดยสิ้นเชิง

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันยังคงพุ่งสูงขึ้นไปได้อีก!!”

“หนึ่งแสนจ้างคือจุดสิ้นสุด! การที่สูงขึ้นไปมากกว่านั้นจะทำให้มีอันตรายเพิ่มขึ้นมาได้ ตรงจุดนั้นมันกำลังก้าวขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว นั่นเป็นสถานที่ที่มีแต่ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าเท่านั้นที่สามารถจะผ่านเข้าไปได้!”

“มันกำลังจะทำอะไร…?”

ผู้ถูกเลือก สมาชิกของตระกูล คนทั้งหมดกำลังรู้สึกประหลาดใจ

เมื่อเมิ่งฮ่าวบรรลุถึงระดับความสูงหนึ่งแสนห้าพันจ้าง คนทั้งหมดต่างก็คิดว่าเขาจะหยุดลงแล้ว แต่จากนั้น…

การเปลี่ยนแปลงระหว่างอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ รวมทั้งแสงและความร้อนที่หมุนเวียนกันไปมาอย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้กายเนื้อของเมิ่งฮ่าวเริ่มกระจายเสียงดังกระหึ่มขึ้นมา จากนั้นแสงสีขาวก็ระเบิดออกมาจากภายในร่างเขา

ทันทีที่แสงนั้นปรากฏขึ้น คนทั้งหมดที่สามารถมองเห็นได้ต่างก็อ้าปากค้าง แม้แต่ผู้ถูกเลือกซึ่งรู้สึกว่าได้ถูกแยกออกไปจากเขา ต่างก็ตกตะลึงขึ้นมาในทันที

“แสงสีขาวนั่น…คือ…”

“นั่นคือแสงเซียน!”

“นั่นคือแสงเซียนแท้แห่งสวรรค์และปฐพีนี้ ซึ่งได้ปรากฏขึ้นก่อนที่กายเนื้อจะบรรลุถึงระดับเซียนแท้แล้วเท่านั้น!”

ฝานตงเอ๋อร์และผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ ทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านอยู่ภายในใจ ผู้อาวุโสแห่งตระกูลฟาง และสมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูล ที่มองเห็นแสงนั้นได้ คนทั้งหมดต่างก็สะท้านใจไปตามๆ กัน

ฟางเว่ยมองไปยังแสงนั้น และสีหน้าไม่อยากจะเชื่อก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้ามัน แม้แต่บิดาและปู่ของมันก็รู้สึกราวกับว่าพวกมันกำลังถูกฟาดด้วยสายฟ้า และอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

มีอยู่หลายคนได้บินออกมาจากภายในคฤหาสน์โบราณในทันทีเพื่อมองขึ้นไปในท้องฟ้า ตอนแรกพวกมันมีสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นก็ไม่อยากจะเชื่อ และในที่สุดก็รู้สึกมหัศจรรย์ใจยิ่ง!

“แสงเซียน…” ผู้เฒ่าสูงสุดนิ่งอึ้งไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นสีหน้าที่ยากจะพบเห็นนัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!