ตอนที่ 939
ร่างศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง!
“คาดไม่ถึงว่ามันจะทำให้เกิดเป็นแสงเซียนขึ้นมาได้!” ในถ้ำศิลาที่อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินของคฤหาสน์โบราณ ชายชราที่ผอมแห้งในชุดสีแดงเข้ม กำลังมองไปด้วยสายตาที่เจิดจ้าราวกับเป็นเปลวเพลิง
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าตระกูลฟางของพวกเรา…ในที่สุดก็สามารถจะท่องทะยานไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้าได้อีกครั้ง? ผ่านมาแล้วกี่ปีที่แทบจะไม่ได้เห็น…ร่างศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงเช่นนี้!?”
ผู้ฝึกตนที่อยู่ในอาณาจักรเซียน ซึ่งมีกายเนื้อเซียนแท้จะถูกเรียกว่าผู้ศักดิ์สิทธิ์!
ผู้ศักดิ์สิทธิ์มีความหมายเป็นนัยว่า พวกมันคือผู้ไร้พ่ายในอาณาจักรเซียน! ถ้าพื้นฐานฝึกตนเซียนแท้คือสิ่งที่สูงสุด…บุคคลที่จะกลายเป็นเซียนแท้และเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงในเวลาเดียวกัน ก็จะคือ…ผู้ยิ่งใหญ่!
นั่นคือ…ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้พ่ายแห่งอาณาจักรเซียน!
ทั้งหมดนี้จะถูกแสดงออกมาโดยแสง
แสงเซียน!
ก่อนที่กายเนื้อเซียนแท้จะปรากฏขึ้น แสงสีขาวก็จะสาดประกายออกมา เป็นธรรมดาที่ปราณเซียนจะไหลซึมออกมาจากภายในแสงนั้น สร้างเป็นสีที่โดดเด่นเป็นเฉพาะขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นแสงเซียน!
มีแต่…ร่างศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงปรากฏขึ้นเท่านั้น ถึงจะสามารถ…มองเห็นแสงนั้นได้!
ภายในแสงนั่น เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านอยู่เล็กน้อย รับรู้ได้ถึงปราณเซียนอันเข้มข้น ปรากฏอยู่ภายในแสงที่ปกคลุมไปรอบๆ ตัว ปราณนั้นไม่ได้มาจากโลกที่ด้านนอก แต่ออกมาจากภายในร่างกายของตัวเอง
ราวกับว่ามันได้แอบซ่อนอยู่ภายในเส้นโลหิต ปกปิดตนเองอยู่ในวิญญาณ ซ่อนเร้นอยู่ภายในพลังชีวิตของเขา!
เมื่อแสงเซียนปรากฏขึ้น มันก็มาพร้อมกับปราณเซียนอันเข้มข้น กายเนื้อเมิ่งฮ่าวเริ่มเกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้น ขณะที่มันพุ่งขึ้นไปอย่างบ้าคลั่งยังขั้นที่เป็นกายเนื้อเซียนแท้
เปลวไฟลุกไหม้อยู่ในส่วนลึกสุดในดวงตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่พลังอันน่าเหลือเชื่อพุ่งขึ้นมาจากภายในร่าง ในตอนนั้นเองที่เขาเริ่มบินขึ้นไป เขาได้หยุดให้ความสนใจกับกาลเวลาที่ไหลผ่านไปมานานแล้ว จากตอนที่เขาได้บินออกมาจากศาลาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ตงเซิงจือหยาง (ตะวันรุ่งบูรพา) ทั้งสามสิบหกวันได้ผ่านไปมากกว่าครึ่งแล้ว ตอนนี้ยังเหลืออยู่อีกเพียงแค่สิบห้าวันเท่านั้น แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังไม่หยุดการเคลื่อนที่
หนึ่งแสนหกพันจ้าง, หนึ่งแสนแปดพันจ้าง…
หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นจ้าง!!
แสงที่อยู่รอบๆ ตัว เริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม!
ยังมีปราณเซียน แสงและความร้อนซึ่งคงอยู่ในความว่างเปล่าที่มืดมิด ได้กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นรังไหม กำลังห่อหุ้มไปรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว เฝ้ารอคอยที่จะ…ถูกทะลวงออกมาเพื่อเผยให้เห็นชีวิตใหม่!
รังไหมนั้นยังได้หล่อเลี้ยงเขาไปด้วย ทำให้พลังชีวิตใหม่ของเมิ่งฮ่าวเริ่มมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น!
ดวงตาเขาสาดประกายด้วยความมุ่งมั่นที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หยุดลง แต่ผลักดันให้ตนเองพุ่งสูงขึ้นต่อไป หงส์เพลิงพุ่งทะยานขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว ซึ่งเป็นการสำแดงเจตจำนงแห่งวิญญาณของเขา เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำรามออกมาราวกับเป็นมังกรปีกวารี ซึ่งเกิดจากเจตจำนงของราชันแห่งท้องนภาที่อยู่ภายในร่างเขา
ตูม!
หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันจ้าง!
“ยังไม่พอ!” เมิ่งฮ่าวคิด หยีตามองไปยังแสงเจิดจ้าที่อยู่รอบๆ ตัว ตอนนี้เม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าที่อยู่ภายในร่างเขา ได้ถูกดูดซับเข้าไปจนหมดสิ้น ที่ระดับความสูงนี้ถึงแม้จะถูกปกคลุมด้วยแสงเซียน ร่างกายเขาก็ยังคงลุกไหม้ขึ้นมา เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะจัดการได้ แม้แต่อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ก็ยังไม่อาจจะทำงานต่อไปได้ จนกว่าเขาจะหยุดลง จากนั้นเมื่อรังไหมที่อยู่รอบๆ ตัวเขาถูกทำลาย เขาก็จะตกตายไป
“ต้องมีวิธีอื่นอีก…” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายขึ้น ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือออกไป ทำให้เปลวไฟสีดำปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ
“ข้าสามารถจะปรุงเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าในที่แห่งนี้และในตอนนี้! ถึงข้าจะไม่มีต้นสมุนไพร แต่ข้าก็สามารถใช้เวทแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ สร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้!”
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ขณะที่จู่ๆ ก็หยุดชะงักลง พยายามอดทนต่อความร้อนอันน่าเหลือเชื่อนี้ ยื่นมือออกไป ทำให้เปลวไฟขยายขนาดขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้น สูตรเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าก็ปรากฏขึ้นอยู่ในจิตใจทันที
การสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า คือการใช้จินตนาการเพื่อสร้างเป็นเม็ดยาที่แท้จริงออกมาได้ เม็ดยานั้นคนอื่นๆ ไม่อาจจะกลืนกิน หรือรับรู้ถึงมันได้ มีแต่คนที่ปรุงมันขึ้นมาได้เท่านั้นถึงจะสามารถมองเห็นและกลืนกินมันลงไปได้
“ที่ความสูงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันจ้าง มีแสงและความร้อนอันน่าเหลือเชื่อ เหล่านี้คือเงื่อนไขสูงสุดสำหรับการปรุงเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้า!” เมิ่งฮ่าวหลับตาลงและขยับมือร่ายเวทด้วยมือซ้าย ในเวลาเดียวกันนั้นภาพของส่วนผสมต้นสมุนไพรที่จำเป็นก็ปรากฏขึ้น จากนั้นเขาก็โบกสะบัดมือ ทำให้แสงและความร้อนนั้นหมุนวนไปรอบๆ ภาพของต้นสมุนไพรเหล่านั้น และจากนั้นเขาก็คว้าจับพวกมันไว้ด้วยมือขวา
มือขวาของเมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นกระถางปรุงยาอันยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์และปฐพี ส่องแสงอันเจิดจ้าและความร้อนที่เข้มข้นออกมา
พลังทั้งหมดของเขาได้มุ่งเน้นไปที่การปรุงเม็ดยา พึ่งพาปราณเซียนที่หมุนวนอยู่รอบๆ ตัว ด้วยจิตใจ, ด้วยวิญญาณ, ด้วยเจตจำนง ดูเหมือนว่าเขาแทบจะทำการถอดจิตออกมา ขณะที่เพ่งสมาธิไปที่การสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่าอย่างเต็มกำลัง
เมิ่งฮ่าวไม่อาจล้มเหลว และมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เขาสามารถจะอยู่ในที่แห่งนี้ได้นานสูงสุดแค่สิบสองชั่วยาม ถ้าการปรุงเม็ดยานี้ล้มเหลว เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำลายรังไหมออก เพื่อเข้าไปสู่กายเนื้อเซียนแท้
แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้! เขารู้ว่าถ้าสามารถพุ่งสูงขึ้นไปอีก กายเนื้อของตัวเองก็จะทะลวงผ่านได้มากไปกว่านั้น
นี่คือโอกาส เป็นโชควาสนาที่เขายินดีจะต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา!
ที่ความสูงระดับนี้ คนส่วนใหญ่ที่อยู่ด้านล่างไม่อาจจะมองการกระทำของเขาได้ คนทั้งหมดที่มองเห็นได้ในตอนนี้ ต่างก็จ้องมองไปด้วยความตกตะลึง แต่ก็ไม่ค่อยชัดเจนนักว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
มีเพียงผู้แข็งแกร่งมากที่สุดเท่านั้น ที่ค่อยๆ เริ่มปะติดปะต่อชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน และคาดเดาได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น การคาดเดาของพวกมันทำให้เกิดเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อขึ้น เป็นการคาดเดาที่ไม่มีใครในพวกมันกล้าที่จะยอมเชื่อถือ
“มันกำลัง…”
“ปรุงเม็ดยา!?”
“ข้ามองไม่เห็นต้นสมุนไพรใดๆ แต่มันก็กำลังปรุงเม็ดยาอยู่จริงๆ!”
“ครั้งหนึ่งข้าเคยได้ยินท่านผู้เฒ่าโอสถเอ่ยถึงอาณาจักรเต๋าแห่งการปรุงยาในตำนาน…พวกมันถูกเรียกว่า…การสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า!”
สีหน้าของผู้อาวุโสในตระกูลฟางทั้งหมด เปลี่ยนไปด้วยความตกตะลึง
ผู้เฒ่าสูงสุดกำลังหอบหายใจออกมา ขณะที่มันมองสูงขึ้นไปในท้องฟ้า สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมิ่งฮ่าวได้สร้างความตกตะลึงให้กับมันด้วยการกระทำและความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างต่อเนื่อง
เวลาเดียวกันนั้นในแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา นักปรุงยาระดับแปดสิบกว่าคน จู่ๆ ก็หยุดการปรุงยา และมองขึ้นไปอย่างช้าๆ ราวกับว่าพวกมันกำลังมีปฏิกิริยาต่อความรู้สึกด้านการปรุงยาของเมิ่งฮ่าว ช่วงเวลาไม่กี่อึดใจต่อมา สีหน้าพวกมันก็เปลี่ยนไปอย่างถึงที่สุด
“กลิ่นอายนั่น…”
“นั่นคือ…”
“การสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า!!”
ภายในเขตภูเขาด้านหลังของแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา บนภูเขาที่เต็มไปด้วยเซียนเขาเดียว ผู้เฒ่าโอสถยืนอยู่ที่นั่น มองขึ้นไปในท้องฟ้า อย่างช้าๆ รอยยิ้มค่อยๆ กระจายออกไปทั่วใบหน้าท่าน เป็นรอยยิ้มที่แผ่กว้างออกไปจนกระทั่งเริ่มหัวเราะขึ้นมา
ผู้ถูกเลือกจากสำนักต่างๆ กำลังตกตะลึง พวกมันจะคาดคิดได้อย่างไรว่าเมิ่งฮ่าว…สามารถปรุงเม็ดยาขึ้นมาด้วยตนเองได้ เขาอยู่ในระดับความสูงที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยแสงและความร้อน แต่เขาก็ยังคง…สามารถจะปรุงเม็ดยาขึ้นมาได้!
ผู้ถูกเลือกเหล่านี้ถูกถนอมฟูมฟักเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี จากสำนักและตระกูลต่างๆ มานานหลายปี และเคยเห็นสิ่งต่างๆ มามากมาย บางคนก็คิดไปถึงอาณาจักรแห่งการปรุงยาในตำนานขึ้นมาทันที
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร!?!?” หลี่หลิงเอ๋อร์คิด อ้าปากค้างมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง มีเพียงสิ่งเดียวที่นางได้ยินอยู่ในตอนนี้ คือหัวใจที่กำลังเต้นรัวอยู่ในหน้าอกของนาง
ฝานตงเอ๋อร์, โจวซิน, ซุนไห่, ไท่หยางจื่อ ทั้งหมดกำลังอ้าปากค้างพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง
“มีอะไรบ้างที่มันทำไม่ได้?” หวังมู่คิด จิตใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่พ่ายแพ้อย่างลึกล้ำ
จากนั้นก็เป็นฟางเว่ย ซึ่งมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนงุนงง
ในที่สุดเวลาสิบสองชั่วยามก็ผ่านไป เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน และร่างกายก็กำลังแห้งเหี่ยวลงไป พลังของเขากำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เขากำลังจมตัวเองลงไปอยู่ในห้วงของการปรุงยา ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในท่ามกลางของตงเซิงจือหยาง (ตะวันรุ่งบูรพา) ซึ่งเป็นยามเที่ยงตลอดทั้งสามสิบหกวัน แต่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่นักปรุงยาจะสามารถรับรู้ถึงการผ่านไปของเวลาได้ จากความรู้สึกของร่างกายพวกมัน
ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือว่า เขามีความคุ้นเคยกับเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าเป็นอย่างดี เขาสามารถจะปรับเปลี่ยนสูตรยาให้ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้นเมื่อช่วงเวลาชั่วยามที่สิบสามมาถึง ประกายแสงก็ระเบิดขึ้นมาจากฝ่ามือของเขา เข้าไปสู่ความมืดมิดที่ปกคลุมอยู่รอบตัว
มีเพียงสิ่งเดียวที่เหล่าผู้ชมสามารถมองเห็นได้ก็คือ แสงที่รุ่งโรจน์นั้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่เมิ่งฮ่าวเห็นคือเม็ดยาที่กำลังวางอยู่บนฝ่ามือของเขา
มันคือเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความว่างเปล่า!
ด้วยเงื่อนไขที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้ เขาได้ใช้วิธีการสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า เพื่อทำการปรุงเป็นเม็ดยา ผลลัพธ์นั้นแทบทำให้เขาต้องพังทลายลงไป ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้สร้างบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาจากความว่างเปล่าก็ตามที แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างถึงที่สุด
อันที่จริง เขามีความรู้สึกว่าถ้าพยายามจะทำเช่นนี้อีกครั้ง เขาก็จะคงไม่อาจจะทำได้อีก
การสร้างเม็ดยาขึ้นมาเช่นนี้คือข้อจำกัดของเขาแล้ว เขามองไปยังเม็ดยาที่กำลังวางอยู่บนฝ่ามือ ประกายแสงที่กระจายออกมาดูงดงามจนคล้ายกับเป็นของวิเศษแห่งสวรรค์และปฐพี โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยนิด เขาหยิบเอาเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าที่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ ใส่เข้าไปในปาก
ทันทีที่เม็ดยาผ่านเข้าไปในปาก มันก็ระเบิดขึ้น กลายเป็นดวงตะวันอันเจิดจ้าอยู่ภายในร่าง ทำให้เกิดเป็นแสงและความร้อนอันไร้ขอบเขตขึ้นมา กลายเป็นพลังชีวิตที่ทำให้แสงเซียนที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างยิ่งมีความน่าตกใจมากขึ้นไปอีก
“มัน…มันทำได้สำเร็จ!” นักปรุงยาระดับแปดในแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาลุกขึ้นมายืนทีละคน เสียงหัวเราะของผู้เฒ่าโอสถดังก้องขึ้นมาอีกครั้งจากเขตภูเขาด้านใน
ในคฤหาสน์โบราณ สีหน้าของผู้เฒ่าสูงสุดเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เหล่าผู้อาวุโสอื่นๆ ในบริเวณนั้น ต่างก็เงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาจะเริ่มสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ ขึ้น
ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ ซึ่งได้แอบสะท้านใจมานานแล้ว จากการกระทำของเมิ่งฮ่าว
ครั้งนี้เมิ่งฮ่าว…มีชื่อเสียงพุ่งขึ้นมาภายใต้นามของเขาเอง! เขาได้ก้าวเท้าเข้ามาในโลกแห่งการฝึกตนของขุนเขาทะเลที่เก้าอย่างแท้จริง
ด้วยพลังที่เกื้อหนุนของเม็ดยา เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไป และดวงตาก็ลุกไหม้ขึ้นด้วยความแน่วแน่เด็ดเดี่ยว
“กายเนื้อเซียนแท้!” เขากล่าวขึ้น ร่างกายสั่นสะท้าน และแสงอันเจิดจ้าก็พุ่งออกมาจากร่าง ขณะที่พุ่งทะยานสูงขึ้นไปในท้องฟ้า หนึ่งวันผ่านไป เขาพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สูงขึ้นและสูงขึ้น หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหกพันจ้าง, หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันจ้าง…
หนึ่งแสนสองหมื่นจ้าง!!
หนึ่งแสนสองหมื่นสามพันจ้าง, หนึ่งแสนสองหมื่นหกพันจ้าง…หนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันจ้าง!!
เมื่อเมิ่งฮ่าวบรรลุถึงระดับความสูงที่น่าตกใจ แสงเซียนที่อยู่รอบๆ ตัวก็ระเบิดออกไปในทั่วทุกทิศทาง ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณนั้น
ในตอนนั้นเองที่กายเนื้อของเมิ่งฮ่าวได้ทะลวงผ่านจุดตีบตัน เสียงแตกร้าวที่แตกต่างกันออกไปได้ยินมา กลายเป็นเสียงระเบิดที่คล้ายกับเป็นเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ดูดซับปราณเซียนและแสงเซียนทั้งหมดเข้าไป และทันใดนั้นพลังที่ทำให้ปฐพีต้องแตกกระจายไปก็พุ่งขึ้นมาอยู่ภายในร่างกาย
ปราณเซียนที่กำลังหมุนวนไปมา ได้ทำให้ร่างกายเขากลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นของวิเศษอันล้ำค่า แม้แต่เลือดเนื้อทุกส่วนก็คล้ายกับเป็นของวิเศษของเซียนแท้ กระดูกของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นจนถึงระดับอันน่าประหลาดใจ เส้นลมปราณเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นพลังอันน่ากลัวไหลผ่านไปทั่วร่าง
เส้นผมของเขาเริ่มยาวมากขึ้น และร่างกายก็เริ่มมีความสูงและดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น ใบหน้าเขาดูสง่างามเป็นอย่างยิ่ง และกลิ่นอายก็เพียงพอที่จะสร้างความหวาดกลัวให้กับจิตใจของเซียนทั้งปวง ทั่วทั้งร่างเขาคล้ายกับเป็นอัญมณีอันล้ำค่า ซึ่งลอยตัวอยู่ที่ระดับความสูงในท้องฟ้า ทำให้คนทั้งหมดที่สามารถมองเห็นได้ ต้องสั่นสะท้านใจไปโดยสิ้นเชิง
กายเนื้อเซียนแท้!
ผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง!