บทที่ 921 สายเลือดพิสดารบันลือสมบูรณ์
คำพูดหลานเหยาเพียงดังออกมา สายตาของชายหนุ่มแซ่เฟิงก็จับจ้องมาที่ร่างของสวี่ชิง
สวี่ชิงแม้กำลังรบจะน่าครั่นคร้าม แต่ถูกระดับเตรียมสู่เทวะ 2 คนจ้องเอาแบบนี้ โดยเฉพาะนายกองยังอยู่ในมือของอีกฝ่าย ตอนนี้ 2 ขาก็เริ่มขยับอีกครั้ง ภาพนี้…
จะมองอย่างไรเขาก็เป็นฝ่ายตั้งรับ
ดังนั้นสวี่ชิงไม่ได้พูดอะไรมากมาย ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งตรงไปข้างล่าง ผ่านหลานเหยาไปอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปยังจุดลึกของหลุมอย่างเร็วรี่
เกราะมหาขุนพลฟ้าทมิฬก็สาดประกายแสงบนร่าง พลังกายเนื้อเทพเจ้าแผ่ลาม เกราะบรรพจารย์ผู้ใช้วิญญาณปกคลุมร่างเช่นกัน ยิ่งมีโคม 9 ดวงวนล้อมอยู่รอบกาย
ร่วมกับเรือนผมยาว ชุดคลุมยาวสีเขียวคราม ทำให้สวี่ชิงในตอนนี้รัศมีท่วงท่าไม่ธรรมดา
ขณะเดียวกันในยามที่เขาสะบัดมือ ตะขาบผีมหาศาลปรากฏขึ้น สำรวจนำทางอยู่ข้างหน้า
หลานเหยาเห็นเช่นนี้ ในดวงตาฉายประกายกลุ่มหนึ่ง ส่วนชายหนุ่มแซ่เฟิงมองตะขาบผีเหล่านั้น ในดวงตายิ่งเย็นเยียบ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร
เช่นนี้เอง ภายใต้การสำรวจทางของสวี่ชิง ทั้ง 3 ก็เคลื่อนไปหน้าในหลุมลึกแห่งนี้
การเคลื่อนไหวของสวี่ชิงไม่ช้าเลย และไม่ได้ไม่ลงแรงเหมือนอย่างก่อนหน้านี้อีก ดังนั้นด้านความเร็วของพวกเขา ก็ไม่แตกต่างกับตอนที่ชายหนุ่มแซ่เฟิงและหลานเหยาเบิกทางตอนก่อนหน้านี้สักเท่าไร
ระหว่างทางบางทีอาจเป็นเพราะสวี่ชิงโชคดี หรือบางทีเป็นเพราะผลจากการสยบของกลิ่นอายนกยูง 8 สีเมื่อครู่ ก็ทำให้ไม่ได้เจออุปสรรคอะไร และหลังจากที่เดินทางไปได้ 1 ก้านธูป ในที่สุดก็มาถึงยังก้นหลุมลึก
ที่นี่เป็นโพรงแห่งหนึ่ง
แต่เล็กกว่าข้างนอกเล็กน้อย สิ่งก่อสร้างก็เช่นกัน น้อยลงไปมาก มีเพียงเจดีย์ 9 องค์ที่เด่นชัดมาก
พวกมันถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี ตราประทับโบราณที่สลักอยู่บนนั้นสามารถจินตนาการได้ว่าในยามรุ่งโรจน์ ตราประทับอักขระเหล่านี้น่าจะส่องแสงวูบวาบ เจดีย์ทั้ง 9 ก็น่ามีพลังพันธนาการที่สอดคล้องกัน
ส่วนสิ่งก่อสร้างที่นี่แม้จะน้อย แต่รากที่แห้งเหี่ยวกลับหนาแน่นยิ่งขึ้น ปกคลุมไปทั่วสารทิศอย่างถี่ยิบ ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นหรือผนังโพรง เต็มไปทั่วทุกที่
กระทั่งว่าบนเจดีย์สูงเหล่านั้นก็ถูกรากแห้งเหี่ยวพันรัดเช่นกัน
เพียงแต่การมาเยือนของสวี่ชิง คล้ายว่านำกลิ่นอายจากโลกภายนอกเข้ามาด้วย ทำลายความสงบของที่นี่ และสร้างความเปลี่ยนแปลงอันแแปลกประหลาดบางอย่าง
การเปลี่ยนแปลงอย่างแรกคือรากเหล่านั้น มีจำนวนหนึ่งที่กลายเป็นเถ้าธุลีเอง..
จากนั้น เถ้าเหล่านั้นไม่ได้หายไป แต่กลับรวมกันอีกครั้งภายใต้สายตาของสวี่ชิง ก่อเป็นเด็กน้อยตัวดำเมื่อมมากมาย
เด็กน้อยเหล่านี้ดูแล้วท่าทางประมาณ 5-6 ขวบ จำนวนมีมากถึงหลายร้อย หลังจากปรากฏตัวขึ้น ก็ต่างนอนลงไปกอดรากแห้งเหี่ยวที่ยังไม่สลายไป ดวงตาดำสนิททั้ง 2 จ้องมองสวี่ชิง สีหน้าแฝงด้วยความละโมบและหิวโหย
ในดวงตาสวี่ชิงประกายเย็นเยียบฉายวาบ จากนั้นเหนือศีรษะก็มีเสียงพุ่งมาอย่างรวดเร็ว เงาร่างของหลานเหยาและชายหนุ่มแซ่เฟิงมาปรากฏตัวที่นี่
สายตาของคนทั้ง 2 กวาดไปรอบๆ จากนั้นก็จับจ้องไปยังร่างของเด็กน้อยแปลกประหลาดเหล่านี้ ทว่าก็ไม่ได้ลงมือ
สวี่ชิงย่อมเข้าใจ นี่คือรอให้ตนลงมือ
และที่มาที่ไปของเด็กพวกนี้…สวี่ชิงในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญท้องถิ่นของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เพียงผาดเดียวก็ย่อมมองออกทันทีว่าเป็นสิ่งประหลาดที่เกิดขึ้นจากวิญญาณที่ผสานรวมกับการกลายพันธุ์ ภายใต้การโจมตีจากกลิ่นอายเทพเจ้า
สิ่งประหลาดประเภทนี้ สำหรับคนอื่นแล้วจัดการยากเป็นอย่างยิ่ง ป้องกันไม่หวาดไม่ไหว แต่สำหรับสวี่ชิงแล้ว เขาฆ่ามามากมายนัก
สำหรับวิธีที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับพวกมันก็คือเจ้าเงา
แต่ตัวตนของเจ้าเงา แม้ก่อนหน้านี้จะใช้ไปแล้ว แต่ก็เผยให้เห็นความสามารถให้เห็นในมุมต่ำ สำหรับชายหนุ่มแซ่เฟิงและหญิงสาวแซ่หลาน 2 คนที่อยู่ข้างหลัง ก็นับว่าอยู่นอกเหนือการรับรู้ของพวกเขา
เช่นนี้แล้ว สวี่ชิงก็ไม่อยากจะเปิดเผยให้เร็วนัก
ดังนั้น เขาไม่ได้เลือกที่จะใช้เจ้าเงา แค่ให้ตะขาบผีพวกนั้นคุ้มกันอยู่ข้างหลัง ป้องกันการโจมตีกะทันหันจากชายหนุ่มแซ่เฟิงและหลานเหยา
ทำเรื่องพวกนี้เสร็จ ในใจของเขาก็ฉายความละโมบที่ปรากฏขึ้นแล้วหายลับไปในดวงตาของชายหนุ่มแซ่เฟิงที่ได้เห็นเมื่อก่อนหน้านี้ขึ้น
แล้วนึกถึงการป้องกันซึ่งกันและกันของหลานเหยากับอีกฝ่ายมาตลอดทาง
“แม้พลังของเจ้าเงาจะเปิดเผยออกมามากมายเร็วแบบนี้ไม่ได้ แต่…การสำแดงพลังที่จำเป็นของตัวเอง อยู่ที่นี่บางทีอาจจะมีผลประโยชน์อย่างอื่น…”
สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด ร่างถึงได้ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ทันทีที่ลอยต่ำลง เด็กน้อยตัวดำเมื่อมที่กอดอยู่บนรากไม้แห้งเหี่ยวเหล่านั้น แต่ละคนจู่ๆ ก็ต่างอ้าปากมหึมาอันเกินสมควรขึ้น ส่งเสียงหวีดร้องแหลมเล็กสะท้านสะเทือนวิญญาณ พุ่งตรงมาหาสวี่ชิงทางนี้
แทบจะในพริบตาที่พวกเขาประชิดเข้ามา ไหมวิญญาณในร่างของสวี่ชิงก็ปะทุออกมาข้างนอก เพียงพริบตา ไหมวิญญาณ 10 ล้านเส้นก็พุ่งออกมา โดยมีสวี่ชิงเป็นศูนย์กลาง ทะลุพุ่งไปรอบๆ
รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ความคมของเส้นไหมน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
ทุกที่ที่ผ่านเด็กตัวดำแปลกประหลาดเหล่านั้น ก็ต่างชะงักค้างไปกลางอากาศ
ร่างของทุกคนถูกไหมวิญญาณมหาศาลพุ่งทะลุ ยิ่งเพราะพื้นที่แห่งนี้ไม่ใหญ่ ดังนั้นไหมวิญญาณเชื่อมต่อกับทุกสารทิศ ทำให้ทะเลสีดำเหล่านี้ถูกแช่แข็งอยู่กลางท้องฟ้า
ในตอนที่มองไป ภาพนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มแซ่เฟิงและหลานเหยาในดวงตาฉายประกายรางๆ
เพราะไหมวิญญาณเหล่านี้ในตอนนี้ก่อเป็นสภาพเหมือนใยแมงมุม ส่วนสวี่ชิงอยู่ที่ใจกลาง เด็กตัวดำสิ่งประหลาดหลายร้อยรอบๆ นิ่งไม่ไหวติง
ไม่นานนัก จากการสั่นสะเทือนของผนังรอบๆ เด็กตัวดำสิ่งประหลาดเหล่านี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นไอดำสลายไป จากนั้นไหมวิญญาณ 10 ล้านเส้นก็ค่อยๆ กลับมาช้าๆ ผสานไปในร่างสวี่ชิง
สวี่ชิงสีหน้าเป็นปกติ ยืนอยู่ข้างๆ หลีกทางที่จะเคลื่อนไปข้างหน้า มองไปทางชายหนุ่มแซ่เฟิง “ตาเจ้าแล้ว”
ชายหนุ่มแซ่เฟิงมองสวี่ชิงผาดหนึ่ง แล้วพลันเอ่ยขึ้น “ไหมพวกนั้นของเจ้าช่างแปลกประหลาดอัศจรรย์นัก ไม่ทราบว่าหลอมมันขึ้นได้อย่างไร”
สวี่ชิงไม่ได้ตอบกลับ แต่ถามไปประโยคหนึ่ง “ขนนก 5 สีของสหายเฟิงก็แปลกประหลาดน่าอัศจรรย์เช่นกัน ไม่ทราบว่าทำมันขึ้นมาได้อย่างไร”
ชายหนุ่มแซ่เฟิงขมวดคิ้ว “เจ้าคิดว่าข้าจะบอกเจ้าไป”
“ข้าแซ่เหยียนก็อยากจะตอบแบบนี้เช่นกัน” สวี่ชิงเอ่ยราบเรียบ
ชายหนุ่มแซ่เฟิงสะบัดแขนเสื้อ ไม่พูดอะไรอีก ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งออกไป ตรงไปยังเจดีย์สูงองค์ที่ 5 ประสานปางมือที่ตรงนั้น คล้ายว่ากำลังสำแดงวิชาลับอะไร
ส่วนหลานเหยาลอยมาทางสวี่ชิง แต่ก็ไม่ได้เข้าใกล้เกินไป ห่างกันประมาณ 10 กว่าจั้ง แบ่งสมาธิจับตามองชายหนุ่มแซ่เฟิงทางนั้น พลางยิ้มเอ่ยกับสวี่ชิง “สหายเหยียนเสวียนจื่อ ขนนก 5 สีของสหายเฟิงชื่อว่าวิญญาณโลกแท้ เป็นเคล็ดวิชาลับพิเศษของโลกระดับเตรียมสู่เทวะ แต่ไม่ใช่ระดับเตรียมสู่เทวะทุกคนจะครอบครองได้”
คำพูดหลานเหยาเพียงดังขึ้น ชายหนุ่มแซ่เฟิงที่กำลังสำแดงวิชาอยู่ไกลๆ ก็คำรามเสียงต่ำมา “สหายหลาน ไยเจ้าจึงพูดมาเช่นนี้!”
หลานเหยาได้ยินสายตาก็เย็นเยือก “สหายเฟิง เคล็ดวิชาลับวิญญาณโลกแท้ที่เจ้าใช้เป็นมรดกเผ่าปีกมารของข้า ไม่ได้เป็นของเจ้าคนเดียวสักหน่อย ทำไมน้องสาวคนนี้พูดแค่ประโยคเดียวก็กลายเป็นพูดมาไปเสียได้ สหายเฟิง ระวังคำพูดของเจ้าด้วย!”
ชายหนุ่มแซ่เฟิงเงียบนิ่ง แค่นเสียงขึ้นจมูกก็ไม่สนใจอีก สำแดงวิชาต่อไป
แต่หลานเหยาทางนี้เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างจะเกลียดชังกับคำกล่าวที่ว่าพูดมากประโยคนั้น สายตายังเย็นชาต่อไป แต่กับสวี่ชิงทางนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรมากต่อ
สวี่ชิงกะพริบตาปริบๆ มองออกว่าการกระทำของหลานเหยาไม่มากก็น้อยแฝงไว้ด้วยความเป็นมิตรนิดๆ
ดังนั้นจึงขบคิดในใจ กำลังจะพูดอะไร แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆ เจดีย์องค์ที่ 5 ที่ชายหนุ่มแซ่เฟิงอยู่ก็พลันระเบิดลั่น เริ่มกะพริบแสงสีขาว
ประกายแสงนี้สาดออกมาจากยอดเจดีย์ ราวน้ำไหล หลังจากปกคลุมไปทั้งเจดีย์สูง ก็แผ่ลามไปตามรากไม้แห้งเหี่ยวเหล่านั้นที่พันอยู่บนเจดีย์
เพียงแต่รากไม้แทบจะทั้งหมด หลังจากที่ประกายแสงไหลเข้าไป ก็ล้วนฉายแสงวูบวาบไม่กี่ครั้งก็หมองหม่นไปอีกรอบ เห็นได้ชัดว่าไม่มีพลังชีวิต ไม่อาจกระตุ้นได้
แต่กลับมีอยู่เส้นหนึ่ง หลังจากที่กะพริบ ในนั้นก็เกิดเส้นสีขาวเส้นหนึ่งขึ้นมา
เส้นนี้ค่อยๆ ไหลไปตามการชอนไชของรากไม้รากนี้ ดึงดูดสายตาของพวกสวี่ชิงทั้ง 3 คน
ภายใต้การจับตามองของพวกเขา เส้นสีขาวก็เคลื่อนไปในระบบรากแห้งเหี่ยวมากมายที่นี่อยู่ครู่หนึ่งก็หายไป ท่าทางเหมือนก็ยังคงไม่มีพลังชีวิตแบบนั้น
แต่ชายหนุ่มแซ่เฟิงกลับสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย 2 มือประสานปางมืออีกครั้ง สำแดงวิชามรดก เสี้ยวขณะต่อมา แสงเจดีย์สูงฉายวาบขึ้นอีกครั้ง ภาพแบบเดิมปรากฏขึ้นอีก
หลังจากเกิดภาพแบบเดิมติดๆ กัน 9 ครั้ง จากจุดที่หายไปของเส้นสีขาวเหล่านี้ ชายหนุ่มแซ่เฟิงยกมือ คล้ายกำลังคำนวณ
สวี่ชิงมองภาพทุกอย่าง แอบพูดในใจว่าสิ่งที่ชายหนุ่มแซ่เฟิงพูดก่อนหน้านี้เป็นความจริง เช่นนั้นบรรพชนของเขาในตอนนั้นก็นับว่าทุ่มเทแรงกายแรงใจ อีกทั้งวางแผนได้นับว่ารอบคอบ
หากเป็นคนนอก ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้ความลับของที่นี่ก็ยากจะมองเบาะแสอะไรออก
ในตอนที่สวี่ชิงขบคิดอยู่ทางนี้ เวลาไหลไป หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ชายหนุ่มแซ่เฟิงที่กำลังคำนวณอยู่ จู่ๆ ดวงตาก็ฉายประกายวาบ มองไปทางผนังรอบๆ สายตาจับจ้องไปที่จุดหนึ่ง
“ตรงนี้แหละ!” คำพูดของชายหนุ่มแซ่เฟิงเพียงดังออกมา ร่างก็เข้าใกล้มาทันที ยกมือกดลงไป ทันใดนั้นผนังดินตรงจุดนั้นส่งเสียงเลื่อนลั่น ยุบลงไปเกิดรอยแยกเป็นทางๆ
ในนั้นไม่มีอะไรทั้งสิ้น
แต่เขาไม่รีบไม่ร้อน กัดปลายลิ้น พ่นเลือดออกมา
พอเลือดสดๆ สัมผัสเข้ากับผนังดินที่ยุบลงไป ทันใดนั้นแสงเลือดที่กะพริบวูบวาบตรงนั้น ดินก็เริ่มสลายไป แต่ไม่เร็วนัก เหมือนว่าไม่ค่อยราบรื่นเท่าใด
“สหายหลาน ข้าเป็นสายเลือดพิสดารบันลือเพียงครึ่งเดียง พลังสายเลือดไม่อาจตอบสนองต่อเงื่อนไขของบรรพชนได้ เจ้ายังไม่เอาธงเลือดที่ข้าให้เจ้ามาอีก!”
“เผ่าที่ข้าทำการสังเวยเลือดพวกนั้นล้วนแต่เป็นเผ่าชั้นล่างที่ในกายมีสายเลือดพิสดารบันลือ ร่วมกับเลือดที่ไม่สมบูรณ์ทั้ง 20 ล้านเอามาหล่อเลี้ยง ก็จะสามารถกระตุ้นสายเลือดของข้า เปิดพันธนาการนี่ได้!”
สวี่ชิงได้ยินในใจ ในที่สุดก็ได้รู้ถึงประโยชน์ของการสังเวยเลือด เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าผู้ที่อีกฝ่ายนำมาสังเวยเลือดจะเป็นเผ่าเดียวกัน
แต่เห็นได้ชัดว่าในใจของอีกฝ่าย เผ่าพันธุ์ที่ถูกทำพิธีสังเวยเลือดเล่านั้นไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน
ส่วนทางหลานเหยาทางนั้น ก็เหมือนก่อนหน้านี้จะเดาอะไรบางอย่างได้ ตอนนี้ก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไร หลังจากเอาธงเลือดออกมาก็กวาดสายตามองชายหนุ่มแซ่เฟิงผาดหนึ่ง สำแดงเวทกระตุ้นพลางเอ่ย
“สหายเฟิงไม่ใช่คนธรรดาจริงๆ ด้วย สังเวยเลือดเผ่าพันธุ์สายเลือดเดียวกับตัวเอง 20 ล้าน ลงมือได้อย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ในอนาคตจะต้องเป็นผู้ที่ก้าวขึ้นไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้แน่นอน”
หลานเหยาเห็นได้ชัดว่ายังคงไม่ค่อยพอใจกับคำว่าพูดมากเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้พูดเสียดสีขึ้น
ระหว่างพูด ธงเลือดในมือก็ส่งเสียงดังสนั่น หมอกเลือดในนั้นมาพร้อมวิญญาณนับไม่ถ้วนลอยออกมา พุ่งตรงไปยังชายหนุ่มแซ่เฟิงตรงนั้น
ชายหนุ่มแซ่เฟิงได้ยิน ในดวงตามีประกายเย็นเยือกรางๆ แต่ก็สะกดดลั้นเอาไว้ ยกมือขึ้นคว้า ทันใดนั้นหมอกเลือดและวิญญาณที่ทะลักมาก็แผ่ไปทั่วร่าง จากนั้นก็สำแดงเคล็ดวิชา ร่างสะท้านเฮือก ก็ผสานหมอกเลือดและวิญญาณทั้งหมดไปในร่าง
เสี้ยวขณะต่อมา ปีกที่หลังของเขาหายไป ตาที่ 3 ที่หว่างคิ้วก็หายไปเช่นกัน ทั้งคนดูแล้วไม่มีสัญลักษณ์อย่างเผ่าปีกมารเลย แต่ร่างกายกลับขยุกขยิก ที่คอมีศีรษะที่ 2 งอกออกมา!
สายเลือดพิสดารบันลือล้วนมี 2 ศีรษะ!
ทำเรื่องพวกนี้เสร็จ ชายหนุ่มแซ่เฟิงก็สูดลมหายใจลึก พ่นเลือดสดๆ ออกมาอีกครั้งไปบนผนังดิน การละลายที่แต่เดิมหยุดชะงักไปเล็กน้อย ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทันที
เวลาเพียง 10 กว่าอึดใจ เส้นทางขนาดจั้งกว่าๆ ก็ปรากฏออกมา
หลานเหยาเห็นเช่นนี้ สีหน้าในที่สุดก็มีความตื่นเต้น ชายหนุ่มแซ่เฟิงยิ่งเป็นเช่นนั้น ทั้ง 2 ร่างเพียงไหววูบ กำลังจะพุ่งไป แต่ในตอนนี้เอง เหตุการณ์ประหลาดก็พลันบังเกิดขึ้น!
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)


