บทที่ 926 เบื้องหลังที่แท้จริง
ร่างของหมิงเฟยน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ม้วนหมอกดำ พิษกระจายทั่วทิศ
เสียงควบคุมออกจากปากสวี่ชิง ทั้งส่งออกจากปากหมิงเฟย
สิ่งแปดเปื้อนที่ 1 เพลิงเทวะเกิดควันผสม
ในปากทางผ่าน ชายหนุ่มแซ่เฟิงที่ทำลายสิ่งกีดขวางและกำลังจะห้อตะบึง ร่างกายพลันสั่น สีหน้าเปลี่ยนในพริบตา เห็นได้ว่ามีจุดดำแฝงสิ่งแปดเปื้อนนับไม่ถ้วนขยายทั่วตัวทั่วหน้าเขา
สิ่งแปดเปื้อนที่ 2 จิตเทพเกิดความอยากปะปน
ครู่ต่อมา การรับรู้ทั้งหมดบนกายชายหนุ่มแซ่เฟิงล้วนถูกช่วงชิง
สิ่งแปดเปื้อนที่ 3 กายเทพเกิดความเสื่อมถอย
จุดดำทั้งหมดบนตัวชายหนุ่มแซ่เฟิงเน่าเปื่อยทุกจุด เลือดเนื้อหลุดร่วง กระดูกผุกร่อน
สิ่งแปดเปื้อนที่ 4 ศาลเจ้าเกิดธุลีสิ้นความรุ่งเรือง
ชายหนุ่มแซ่เฟิงส่งเสียงโอดครวญน่าสังเวช เขาสัมผัสได้ว่าฐานวิถีที่เคยสั่นสะเทือนเพราะตนระเบิดตัวเองยามนี้ถึงกับพังทลาย
แต่คำสาปยังไม่สิ้นสุด
สิ่งแปดเปื้อนที่ 5 ความเป็นเทพแปดเปื้อนไร้สติปัญญา
สิ่งแปดเปื้อนที่ 6 ดวงชีพเทพเกิดคำสาปชะตาขาด
พลังดับสลายจิตวิญญาณเริ่มทำลายล้าง ชายหนุ่มแซ่เฟิงเหมือนผีร้าย เลือดเนื้อเน่าเปื่อยจนดูไม่ออก พร้อมกันนั้นร่างกายยังส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง
แต่ในตอนนี้เอง เขาพลันยกมือตบทรวงอก ทันใดนั้นเลือดปนเปื้อนจำนวนมากรวมถึงวิญญาณโอดครวญนับไม่ถ้วนพากันแย่งทะลุออกมาจากกายเขา
นั่นคือโลหิตและวิญญาณสายเลือดร่วมเผ่านับ 20 ล้านของเขา ก่อนหน้านี้ถูกเขาผสานในกาย ทำให้ตัวเขามีสายเลือดพิสดารบันลือโดยสมบูรณ์ บัดนี้ไม่มีทางเลือก เขาได้เพียงสละเหล่านี้
และหลังจากทะเลโลหิตกับเหล่าวิญญาณกระจายออกมา สายเลือดของเขาลดลง ด้านหลังปรากฏปีกอีกครั้ง หว่างคิ้วยังเกิดเป็นดวงตาที่ 3
ส่วนคำสาปที่ตกถึงตัวเขาย่อมกระจายออกเช่นกัน ถึงกับถูกเขาใช้สิ่งนี้ฝืนต้านไว้ทั้งอย่างนั้น ปีกด้านหลังพลันกระพือ ระเบิดความเร็วพุ่งออกไปนอกทางผ่าน
คำสาปของสวี่ชิงแม้ถูกเขาข่มไว้ด้วยวิชาทำลายล้างเช่นนี้ แต่ขั้นตอนก่อนหน้าส่งผลต่อความเร็วของเขาไม่น้อย ดังนั้นแทบในชั่วพริบตาที่เขาพุ่งไป เยวี่ยตงที่อยู่ใกล้เขาที่สุดกระพือปีกด้านหลังเช่นกัน ไล่ตามไปในพริบตานั้น
ขณะเดียวกัน 2 มือทำมุทรา ทางผ่านเส้นนี้ถึงกับปรากฏผนึกต้องห้ามหลายสิบสายในยามนี้
ผนึกต้องห้ามเหล่านี้ชัดว่านางเป็นคนวางไว้ตามทางตอนย่องเข้ามาเป็นคนสุดท้าย บัดนี้พากันระเบิดขัดขวางชายหนุ่มแซ่เฟิง
ดังนั้นด้วยการขัดขวางของผนึกต้องห้ามหลายสิบสายนี้ ถึงชายหนุ่มแซ่เฟิงฉวยโอกาสได้ก่อน ทั้งความเร็วยังลดลงต่อเนื่อง และแม้สุดท้ายพุ่งออกจากทางผ่านที่บรรพบุรุษของเขาทิ้งไว้ แต่ว่า…
พริบตาที่เขาพุ่งออกไป เงาร่างเยวี่ยตงบินออกมาก่อนด้วยความเร็วเหนือกว่า ทั้งยังเคลื่อนลงก่อนหนูทองปรากฏ ทำให้แผนของชายหนุ่มแซ่เฟิงไม่อาจดำเนิน
เขากำลังจะหนีโดยไม่คิด แต่เงาร่างของหลานเหยาก็ไล่ตามมาขวางอยู่ด้านบนเช่นกัน
พริบตาต่อมา สวี่ชิงกับนายกองก็โผล่มาอยู่ข้างนอก แต่พวกเขาไม่ได้มุ่งสังหารชายหนุ่มแซ่เฟิง กลับพุ่งไปทางออกถ้ำใต้ดินด้านบนโดยไม่ได้นัดหมาย!
สำหรับพวกสวี่ชิง นี่คือโอกาสออกไปจากที่นี่
พวกหลานเหยากำลังโรมรันพันตู ได้โอกาสพอดี
แต่ความจริงโอกาสนี้เขากับนายกองก็แอบสร้างไว้ในทางผ่าน
ไม่อย่างนั้นสวี่ชิงคงไม่ใช้สิ่งแปดเปื้อนทั้ง 6 ของเทพเจ้าก่อนหน้านี้
เป้าหมายของเขาย่อมไม่ใช่สังหารชายหนุ่มแซ่เฟิง อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่จึงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ดังนั้นเขาแค่ถ่วงเวลา ใช้สิ่งนี้หยุดความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะปลดปล่อยหนูทอง
ส่วนต่อไป 3 คนนี้จะสู้กันอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาแล้ว
สวี่ชิงกับนายกองรู้ว่าสิ่งที่ได้มานั้นเต็มเปี่ยม ตอนนี้ต้องออกไป ชักช้าจะเกิดความเปลี่ยนแปลง
แต่ในตอนที่เงาร่างสวี่ชิงกับนายกองมาอยู่กลางอากาศและใกล้ถึงทางออก สิ่งกีดขวางสายหนึ่งพลันปรากฏกลางอากาศโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
นั่นเป็นตาข่ายยักษ์สีเงิน เกิดจากไหมขาวแวววาว แผ่คลุมทั่วโลกเบื้องล่าง
ในนั้นมีพลังกดดันน่าหวาดกลัว แฝงไว้ด้วยผนึกชวนตื่นตะลึง ดูท่าทางแข็งแกร่งกว่าพลังโลกาที่ชายหนุ่มแซ่เฟิงระเบิดก่อนหน้านี้
หากมีแค่นี้ก็ช่างเถิด สวี่ชิงกับนายกองผสานกายเข้าศพจักรพรรดิ ตอนควบคุมก็ใช่ว่าระเบิดพลังด้วยราคาที่ต้องจ่ายไม่ได้ เพียงแต่…บนผนึกถึงกับมีกระดาษยันต์แผ่นหนึ่ง
กระดาษนี้สีเงิน แม้รอยตัวอักษรบนนั้นชัดเจน กลับยากวิเคราะห์ความหมาย แต่ความศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่จากในนั้นเข้มข้นยิ่ง
ไม่เหมือนกลิ่นอายเทพเจ้า นั่นคือ…กลิ่นอายของมหาจักรพรรดิ!
สวี่ชิงกับนายกองสีหน้าพลันเปลี่ยน
ผนึกนี้ไม่จำเป็นต้องไปคิดวิเคราะห์ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นสิ่งที่เยวี่ยตงแอบซุ่มวางไว้ตลอดทางแล้วค่อยเข้าทางผ่าน
สตรีผู้นี้กับหลานเหยา คนหนึ่งอยู่นอก คนหนึ่งอยู่ใน ต่างฝ่ายร่วมมือกันเรียกได้ว่าไร้ที่ติ
เพียงแต่การวางระดับนี้ ถึงขั้นใช้ของเช่นนี้ เหตุผลของพวกนางคงไม่ได้เกิดจากการล่าของวิเศษแค่นั้นเป็นแน่
อย่างไรยันต์แผ่นนี้ก็มีค่าสูงยิ่ง
“สหายทั้ง 2 ไม่ต้องกังวล ผนึกนี้ไม่ได้เอาไว้จัดการพวกเจ้า แต่เอาไว้ขัดขวางไม่ให้เฟิงหลินเทาหนีไป พอเรา 2 คนสังหารเฟิงหลินเทาแล้วย่อมเปิดผนึกปล่อยพวกเจ้าไป”
“อีกอย่าง หากทั้ง 2 ยอมช่วยออกมือลดเวลาสังหารย่อมดีที่สุด อย่างไรหนูทองนั่น…ก็ใกล้จะหลุดออกมาแล้ว”
เยวี่ยตงกล่าวราบเรียบ หนูทองข้างหลังนางยามนี้ชัดว่าเริ่มดิ้นแรง แม้การที่หลานเหยาบอกว่าขังไว้ได้ 1 ก้านธูปเหมือนจะมีความเท็จ แต่กระจกนั่นก็ไม่อาจอยู่ได้นานนักอย่างแท้จริง
ใจสวี่ชิงกับนายกองจึงหม่นลง
พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าผู้บำเพ็ญทั้ง 3 ที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้า นอกจากพลังบำเพ็ญแข็งกล้า ของวิเศษเวทมากมาย ความคิดสติปัญญาก็ไม่ธรรมดา ครั้งนี้แทบทุกคนล้วนมีแผนสกปรก ต่างฝ่ายมีทางหนีทีไล่
เพียงไม่ระวังตัวระหว่างนั้น เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่
ด้านชายหนุ่มแซ่เฟิงก็กวาดสายตา สีหน้าพลันซีดเผือดกว่าเดิม นัยน์ตาถึงกับเผยความสิ้นหวัง หัวเราะน่าเวทนา
“ยันต์ผนึกบรรพจารย์ศักดิ์สิทธิ์ ในเผ่ายันต์นี้ต้องใช้กำลังรบมหาศาลถึงจะแลกได้แผ่นหนึ่ง…ไม่นึกว่าสหายเยวี่ยตงถึงกับใช้วิธีเช่นนี้เพื่อผู้แซ่เฟิง”
“เจ้ากับข้ามีความขัดแย้งชั่วคราวเพราะผลประโยชน์ ของพวกเจ้าก็เอาไปแล้ว แต่วางผนึกนี้ไว้ล่วงหน้า ทำท่าจะสังหารผู้แซ่เฟิงให้ได้ เรื่องนี้ผู้แซ่เฟิงนึกไม่ถึงโดยแท้”
“ระหว่างเรามีความแค้นฝังลึกอันใดหรืออย่างไร!!”
ชายหนุ่มแซ่เฟิงตาแดงฉาน หลังความสิ้นหวังเป็นท่าทางเสียสติ เสียงมาถึงตอนท้ายแทบจะคำราม
“ความแค้นฝังลึก? เจ้าคิดว่าไงล่ะ!” จิตสังหารในตาเยวี่ยตงเด่นชัด ความอ่อนหวานบนหน้านางหายไปหมดสิ้น แทนที่ด้วยความเคียดแค้นรุนแรง คล้ายอยากจะกลืนเนื้ออีกฝ่ายทั้งเป็น
“สหายเฟิง สายเลือดปีกมารของเจ้าแท้จริงได้มาอย่างไร เรา 2 คนพี่น้องตามสืบมาหลายปี!”
“เจ้าคิดว่าคนไม่รู้ผีไม่รู้ ไม่มีใครรู้ แต่นาง…มีพี่สาวคนหนึ่ง นางแค่ไม่ได้บอกเจ้าเท่านั้น และการลงมือของพวกเราครั้งนี้ ของวิเศษอะไรนั่นล้วนเป็นเรื่องรอง เป้าหมายที่แท้จริงก็คือเจ้า”
หลังหลานเหยากัดฟันกล่าวอยู่ด้านข้าง กายนางพลันมุ่งตรงไปหาชายหนุ่มแซ่เฟิง ด้านเยวี่ยตงก็พุ่งเข้าไปด้วยความแค้น
เสียงอึกทึกกึกก้อง ทั้ง 3 โรมรันอยู่ด้วยกัน
แต่ตอนนี้ชายหนุ่มแซ่เฟิงบาดเจ็บสาหัส ได้เพียงฝืนป้องกัน เลือดสดพ่นออกมาคำแล้วคำเล่า
ขณะเดียวกัน ภายใต้ตาข่ายผนึกขนาดยักษ์กลางอากาศ สวี่ชิงกับนายกองสีหน้าอึมครึม พวกเขาไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ เพียงแต่บัดนี้หนูทองนั่นดิ้นรุนแรงกว่าเดิม
หากหลุดออกมา…
สวี่ชิงกับนายกองสบตา ต่างดูออกว่าไม่มั่นใจ พวกเขาถือไข่อยู่คนละใบ กลัวว่าหนูทองดิ้นหลุดออกมาแล้วจะจัดการพวกเขาเป็นอย่างแรก
ถ้าอยากออกไป วิธีเดียวในตอนนี้คล้ายจะเป็นช่วยเยวี่ยตงกับหลานเหยา
และ…บทสนทนาของพวกนางกับชายหนุ่มแซ่เฟิงก็เผยเหตุผลออกมา แม้ไม่รู้ภาพรวม แต่คิดง่ายๆ พวกนางแก้แค้นเพื่อพี่น้องเช่นนี้ก็ดูนิสัยใจคอได้หลายส่วน
ดังนั้นเมื่อสวี่ชิงกับนายกองสบตากันอีกครั้ง ต่างคนคล้ายกะพริบตาปกติ จากนั้นเผยความเด็ดขาดออกมา
“คนต่ำกว่าเดรัจฉานเช่นนี้ ย่อมสมควรตาย!” นายกองคำรามเสียงต่ำ จากนั้นกล่าวอีก “เซียนทั้ง 2 พวกเรายืนรออยู่ตรงนี้แล้วกัน!”
เห็นเป็นเช่นนี้ ชายหนุ่มแซ่เฟิงสีหน้าซีดเผือด เขาบำเพ็ญถึงวันนี้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาหลายครั้ง แต่สถานการณ์อันตรายเช่นวันนี้ยังคงพบน้อยนัก
โดยเฉพาะนิสัยของเขายังทำให้เขาเป็นผู้ล่าเสมอ ไม่ใช่ถูกล่าอย่างเช่นวันนี้
และทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพราะเถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์ถูกกลืน…
พอนึกถึงตรงนี้ เส้นเลือดดำบนหน้าผากเขาก็จะปูดขึ้น แรงกดดันในกะโหลกก็จะเพิ่มขึ้น แต่กลับถูกเขาฝืนข่มเอาไว้ ไม่ไปคิดเรื่องที่อาจทำให้เขาเสียสติ
เขาพลางออกมือต่อต้านสุดแรง แต่แพ้ถอยร่นต่อเนื่อง ขณะกระอักเลือดหลายครั้ง เขาดูเหมือนสิ้นหวัง แต่ในใจกลับวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้อย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าหากคิดจะปลดปล่อยหนูทองตัวนั้นทันที จำต้องระเบิดโลกมาใช้อีกครั้ง
เพียงแต่ บัดนี้ระเบิด 2 ใบแล้ว หากระเบิดใบที่ 3…พลังบำเพ็ญของเขาก็จะเป็นเตรียมสู่เทวะ 2 เขตขั้นอย่างแท้จริง
แม้เผชิญความเป็นความตายใช่ว่ารับไม่ได้ แต่ต่อให้ระเบิดตัวเองแล้วปล่อยหนูทองน่าสะพรึงกลัวตัวนั้นออกมาได้ ตนในตอนนั้นจะอ่อนแอยิ่งกว่าตอนนี้
เมื่อเป็นเช่นนั้นความเป็นไปได้ที่จะจับปลาในน้ำขุ่นก็น้อยอย่างยิ่ง
ความเป็นไปได้ที่มากกว่าคือตนเป็นรังไหมพันตัวเอง กลับเป็นฝ่ายถูกหนูทองกำจัด
และการระเบิดตัวเองต้องคุ้มค่า
แน่นอนว่าหากหมดหนทางจริงๆ เขาก็จะทำเช่นนี้โดยไม่คิดมาก อย่างน้อยลากสักคนสองคนมาฝังร่วมกับตนได้
กระทั่งระเบิดโลกความเป็นจริงพร้อมใช้หนูทองทำให้ทุกคนดับสิ้นไปพร้อมกันโดยไม่เสียดาย ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
‘แต่ว่า เผ่ามนุษย์ 2 คนนั้นน่าสนใจ…หรือว่ามองอะไรออก แล้วยังมีประโยคเมื่อครู่…’
‘จะบอกว่า พวกเขารู้ว่าข้ามีวิธีทำลายผนึกนี้?!’
นัยน์ตาชายหนุ่มแซ่เฟิงฉายวาบ อ้าปากพ่นไข่มุกเม็ดหนึ่งออกมา นี่คือของวิเศษเวทแห่งชีวิตของเขา ปรากฏแล้วเคลื่อนหมุนไปยังหลานเหยากับเยวี่ยตงอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันเขาพลันหมุนกาย ถึงกับมุ่งตรงไปทางสวี่ชิงกับนายกอง
ระหว่างเกิดเสียงครึกโครมจากการออกมือของเยวี่ยตงกับหลานเหยา ของวิเศษเวทแห่งชีวิตของชายหนุ่มแซ่เฟิงก็เสียหายทันที แต่อย่างไรสิ่งนั้นก็ขัดขวางพวกนางได้ครู่หนึ่ง
เห็นชายหนุ่มแซ่เฟิงกระอักเลือดสดรุนแรง เหาะไปทางพวกสวี่ชิงด้วยลมหายใจอ่อนแรง เยวี่ยตงสีหน้าเจ็บแค้น เอ่ยคำทันที
“สหายทั้ง 2 โปรดช่วยข้าด้วย ไม่ขอให้สังหาร ขวางไว้สักครู่ก็พอ!”
พูดไปนางกับหลานเหยาพุ่งมาเร็วรี่
ยามนี้สวี่ชิงกับนายกองมองฉากนี้ จิตสังหารพลันปรากฏในตา คล้ายตัดสินใจช่วยพวกเยวี่ยตงถล่มชายหนุ่มแซ่เฟิง
ส่วนชายหนุ่มแซ่เฟิง นัยน์ตาเขาฉายความบ้าคลั่ง ในใจกำลังเดิมพัน!
บางคำเขาไม่อาจเอ่ยออกมา พูดแล้วจะแฉโพยไม้ตายตัวเอง
เขาจึงพนันว่า 2 คนตรงหน้ามองเห็นแก่นแท้ของเขา อย่างไรช่วยนาง 2 คนนั้นสังหารตนก็ไม่มีประโยชน์อันใดกับพวกเขา กลับจะต้องเผชิญหน้ากับพวกนางโดยตรงเพราะการตายของตน
ในสถานการณ์ที่ออกไปไม่ได้ด้วยถูกผนึกไว้ที่นี่ ยังมีหนูทองตัวนั้นที่จะทำให้ตกในสภาพถูกต้อนถึงที่สุด
แต่ถ้าตนไม่ตายและหนีไปได้ เช่นนั้นต้องดึงให้พวกนางไล่สังหาร และยังทำให้พวกนางต้องแบ่งจิตออกมาระวังหน้าหลัง
นี่เป็นวิธีแก้สถานการณ์หนึ่งเดียว!
ครู่ต่อมา หลังจากชายหนุ่มแซ่เฟิงกับพวกสวี่ชิงปะทะเข้าหากัน พริบตานั้น สวี่ชิงกับนายกองพลันเคลื่อนกาย ถึงกับแหวกทางให้
พวกเยวี่ยตงสีหน้าเปลี่ยน
ชายหนุ่มแซ่เฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย พุ่งออกไปทันที พริบตาที่เข้าใกล้ผนึก เขาพลันระเบิดโลกมายาใบที่ 3 พลังทั้งหมดระเบิดใส่ผนึก
ขณะยกมือระหว่างนั้น ถึงกับหยิบยันต์มหาจักรพรรดิที่เหมือนยันต์ผนึกทุกกระเบียดออกมาใบหนึ่ง
ใช้ร่วมกับโลกที่ระเบิดของตน เกิดเป็นแสงเงินพุ่งขึ้นฟ้า มุ่งทะลวงผนึก ทะลวงชั้นดิน เชื่อมกับฟ้าดินในโลกภายนอก!
พริบตาต่อมา เงาร่างเขาก้าวออกไปทันที
สวี่ชิงกับนายกองก็ไม่ลังเลเช่นกัน ฉวยตอนผนึกเสียหาย กลายเป็นรุ้ง 2 สายพุ่งออกไป
ชั่วพริบตา ทั้ง 3 คนต่างพ้นสถานการณ์ เงาร่างไกลออกไปยังขอบฟ้า
แต่หลังจากพวกเขาห้อตะบึงออกไปไกล เงาร่างเยวี่ยตงกับหลานเหยาก็ปรากฏนอกผนึก ขึงตาจ้องทิศทางที่ทั้ง 3 จากไป สีหน้าย่ำแย่
“เมื่อครู่คำพูดข้าดูจงใจหรือเพราะไม่มีน้องสาวอะไรแต่แรก เลยทำให้มิตรภาพไม่จริงแท้”
“หรือว่าพลังพรสวรรค์ของข้าถูกพบเห็น?”
เยวี่ยตงกล่าวอึมครึม
“ขอเพียงเขา 2 คนเชื่อสักนิด ด้วยพรสวรรค์ของข้าก็จะคิดว่าข้าสนใจการแก้แค้นจริงๆ และไม่ได้มีแผนอะไรกับพวกเขา จากนั้นจะถูกข้าควบคุมอารมณ์ด้วยการเพาะความคิดนี้ลงไป และก่อนหน้านี้พรสวรรค์ของข้าก็รับรู้ว่าควบคุมอารมณ์ของพวกเขาได้แล้วจริงๆ”
“ส่วนเฟิงหลินเทาจิตวิญญาณเขามีของวิเศษลับเกี่ยวกับการสืบทอดบรรพจารย์ศักดิ์สิทธิ์พิสดารบันลือ ข้าจึงใช้พรสวรรค์กับเขาได้เพียงครึ่ง ทำให้เขาเชื่อว่ามีสตรีถูกเขาช่วงชิงโลหิตจริง หากมากเกินไปกลัวจะดึงให้เขาสงสัย”
“และนอกจากนั้น นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ข้าเจอผู้บำเพ็ญเขตขั้นต่ำกว่าข้า แต่กลับใช้พรสวรรค์ล้มเหลว…”
“เสียดาย เดิมเป็นหุ่นเชิดมีชีวิตที่ดีเยี่ยม อีกอย่างวารีศักดิ์สิทธิ์พิสดารบันลือจำนวนน้อยปานนั้น 8 ถึง 9 ใน 10 ส่วนต้องเกี่ยวกับพวกเขา! เสียดาย เสียดาย เสียดาย…”
เยวี่ยตงพึมพำ เหลียวมองหลานเหยาผาดหนึ่งด้วยสายตาเย็นชา คล้ายที่มองไม่ใช่คน หากเป็นหุ่นเชิดมีชีวิตที่ถูกควบคุมความรู้สึก
หลานเหยาไม่สนใจคำพูดของนาง บัดนี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จ้องทิศทางกลางอากาศที่เฟิงหลินเทาหนีไปด้วยโกรธเกรี้ยวหาใดเปรียบ
“เผ่ามนุษย์ 2 คนนี้สมควรตาย เฟิงหลินเทานั่นยิ่งสมควรตาย ดีที่เราเจอหลักฐานของเขาก่อนมา ครั้งนี้ต้องสังหารเขาแก้แค้นให้น้องเล็กให้ได้!”
นัยน์ตานางแดงฉาน สีหน้าโหดเหี้ยม เคียดแค้นถึงขีดสุด
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)



