Skip to content

Outside Of Time 994

Outside of Time
H

บทที่ 994 หลอมฝูเสีย

ใต้ทะเล เงาร่างของฝูเสียสะบักสะบอมน่าอนาถยิ่งนัก สีหน้าของเขาขาวซีด ข้างหน้ารางเลือนเล็กน้อย

น่าสมเพชเวทนายิ่งนัก

ขาข้างหนึ่งของเขาขาดไปแล้ว

ก่อนหน้านี้เสี้ยวพริบตาที่เขาสำแดงวิชาเซียนในขณะที่กำลังหล่อหลอมเพื่อหลบหนี อำนาจแห่งเสียงของสวี่ชิงร่วมกับพลังสะท้อนกัดกินของวิชาเซียนในร่างเขา ก็ได้ตัดขาข้างหนึ่งของเขาในวิญญาณ ส่งผลให้เกิดกับกายเนื้อ

ความเจ็บปวดแสนสาหัสราวคลื่นผุดขึ้นในใจของเขา ปกคลุมทั่วทั้งร่าง และสำหรับเขาแล้ว ในความทรงจำ ความเจ็บปวดเช่นนี้เคยเผชิญแค่ในยามที่มีพลังบำเพ็ญขั้นต่ำเท่านั้น

หลังจากเป็นระดับหวนสู่อนัตตาแล้ว เขาไม่เคยต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้อีก

แต่ตอนนี้ต่อให้เขาอาศัยขาข้างหนึ่งที่เสียไปสำแดงวิชาเซียน แต่วิกฤตชีวิตเป็นตายไม่เพียงแต่ไม่ลดลง กลับเหมือนฝังลึกลงไปในกระดูก ยังคงมีอยู่ อีกทั้งยิ่งรุนแรงขึ้น

เพราะขาที่เหลือเป็นข้างสุดท้าย ไม่รู้ว่าเริ่มเน่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร!

การเน่าเปื่อยนี้มาจากพิษร้ายแรง มาจากคำสาป

นั่นคืออำนาจเทพพิษต้องห้ามของสวี่ชิง!

มันรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง กำลังปะทุ กำลังแผ่ลามไปอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้มาถึงต้นขาแล้ว คล้ายว่าจะปกคลุมไปทั่วทั้งร่างเขา ไม่ว่าจะเป็นพลังบำเพ็ญหรือกายเนื้อ ต่อให้เป็นวิญญาณก็ไม่เว้น

ทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้าน ทำได้แต่ทุ่มเททุกอย่างที่มี ใช้พลังดั้งเดิมไปชะลอพิษ เพิ่มพลังอำนาจลบล้าง คิดจะกำจัดพิษนี้ไป

แต่เขาในตอนนี้ พลังบำเพ็ญลดฮวบฮาบ อีกทั้งสภาวะย่ำแย่เป็นอย่างมาก ยิ่งอยู่ในสภาวะถูกไล่ล่าเขาไม่มีเวลาไปบำเพ็ญ ไม่มีกำลังไปจัดการ

“สมควรตายๆๆ!”

ฝูเสียผมกระเซอะกระเซิง ในใจมีเสียงคำรามเจ็บใจไม่ยอมจำนนดังออกมา ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง

เขารู้ดี ตัวเองไม่มีเวลาไปแก้สถานการณ์แล้ว เช่นนั้นตัวเลือกที่วางอยู่ข้างหน้าเขามีเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้น

พลังต้นกำเนิดของเขาปะทุขึ้นทันที ก่อเป็นพลังสะบั้นวิญญาณ แล้วทำการตัดกายท่อนล่างทั้งหมดของตัวเองจากในวิญญาณทันที!

สิ่งที่สูญเสียไปพร้อมกันย่อมมีกายเนื้อด้วย

เพียงพริบตา กายท่อนล่างของเขาก็ระเบิดทันที กลายเป็นเลือดพิษกะจายไปทั่ว เขาที่เหลือเพียงกายท่อนบนยิ่งอ่อนแอขึ้นไปอีก ภาพข้างหน้าบิดเบี้ยว

ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดของกายเนื้อหรือความเจ็บปวดจากวิญญาณที่ฉีกขาด ล้วนแต่ทำให้เขาอยู่ในความทุกข์ทนทรมานไม่สิ้นสุด

เขาทำได้เพียงแค่กัดฟัน ทำให้ตัวเองฝืนได้สติ หนีไปข้างหน้าต่อ

แต่ข้างหน้าไม่มีความหวัง ในใจเขาก็ไร้ซึ่งทิศทาง

เขากระทั่งว่าไม่รู้ว่าตัวเองจะหนีไปที่ไหน

ความโศกเศร้า ความขมขื่น อารมณ์ด้านลบนับไม่ถ้วน ล้วนหล่อเลี้ยงขึ้นมาในใจของเขาอย่างเงียบงัน นานไปเรื่อยๆ จิตใจของฝูเสียก็พลันสะท้านเฮือก เขาสัมผัสได้ว่าสภาวะของตัวเองตอนนี้ไม่ถูกต้อง

แต่ก็ช้าไปแล้ว

อารมณ์ด้านลบเหล่านี้กลายเป็นช่องโหว่ของเขา แปรเปลี่ยนเป็นความคิดที่ควบคุมไม่ได้มากมายปะทุขึ้นมาพร้อมกัน เหนี่ยวนำเลือดทั่วทั้งร่างของเขา ดึงแสงจันทร์สีม่วงจากทั่วสารทิศมา

แสงเหล่านี้มองเผินๆ ยังอยู่ที่ไกล แต่เสี้ยวขณะต่อมา…กลับลอยออกมาจากในเลือดของฝูเสีย อยู่ในร่างของเขา…และพลันระเบิด!

เสียงหวีดแหลมเย็นเยือกดังออกมาจากปากของฝูเสีย แล้วแปรเปลี่ยนเป็นอำนาจแห่งเสียง ทำการโจมตีสังหารอีกครั้ง

กระทั่งว่าพิษต้องห้ามก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งเช่นกัน

ร่วมกันผลัดเปลี่ยน เกิดเป็นวัฏจักร สร้างความทรมานอย่างสุดซึ้ง ทำให้เงาร่างที่หลบหนีของฝูเสียอเนจอนาถน่าสังเวชเป็นที่สุด

เขาทำได้เพียงแต่ตัดวิญญาณไม่หยุด ประทุเมล็ดพันธุ์วิชาเซียนที่ยังหล่อหลอมได้ไม่สมบูรณ์อยู่ตลอด เคลื่อนย้ายครั้งแล้วครั้งเล่า แหลกสลายไม่รู้ต่อกี่หน

จนกระทั่งเสียแขนซ้าย เสียแขนขวา เสียร่างกาย จนสุดท้าย…เหลือเพียงแค่ศีรษะ!

ราวถูกชะตาเคราะห์ร้ายวนเวียน

และชะตาเคราะห์ร้ายในเสี้ยวขณะนี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นผง ปกคลุมไปยังดวงใจวิถีของเขา

ในฝุ่น เสียงของสวี่ชิงดังสะท้อนก้อง

“บรรพจารย์ของเจ้าแตกดับแล้ว”

“ผู้คนในเผ่าเจ้าตายแล้ว”

“ร่างของเจ้าถูกข้าหลอม”

“เผ่าพันธุ์ของเจ้าไม่มีอยู่อีกแล้ว”

“เจ้าในตอนนี้เป็นคนเผ่าบ่อกำเนิดกาลกิณีเพียงคนเดียวในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์”

“และเจ้าหลอมข้าไม่สำเร็จ สูญเสียวาสนาเซียนคิมหันต์…”

“ต่อจากนี้ข้าจะหลอมเจ้า อำนาจลบเลือนของเจ้า…จะหายไป”

เสียงนี้แฝงไว้ด้วยอำนาจเทพจันทร์สีม่วง ใช้อำนาจแห่งเสียงส่งออกไป ร่วมกับการโจมตีของพิษต้องห้าม แปรเปลี่ยนเป็นการแผ่ลามจากชะตาเคราะห์ร้าย ปกคลุมดวงใจวิถีของฝูเสียโดยสมบูรณ์ ปกคลุม ห้อมล้อม

เปรี๊ยะดังในสมองของฝูเสีย

“หุบปาก!” ฝูเสียเนื้อตัวสั่นเทา ส่งเสียงคำรามต่ำทุ้มอย่างบ้าคลั่ง

ดวงใจวิถีของเขาแตกร้าว!

“เวลามาถึงแล้ว” สวี่ชิงเอ่ยขึ้นเบาๆ ร่างเดินออกมาจากในน้ำทะเล มายืนอยู่เหนือฝูเสีย

ราวเทพลงมาเยือน

แสงมหาศาลแผ่ออกมาจากในร่างของเขา แปรเปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์มหึมากลางทะเลเจิดจ้าพร่างพรายดวงหนึ่ง

แสงสาดไปทั่วทั้ง 4 ทิศ ความร้อนแผ่ออกไป

สวี่ชิงที่ร่างแปลงเป็นดวงอาทิตย์ ในยามที่ใต้ทะเลกะพริบวาบ แสงเซียนที่มาจากอาทิตย์ทมิฬมาพร้อมด้วยพลังน่ากลัว มาพร้อมด้วยพลังมหาศาล แล้วพลันปกคลุมฝูเสียที่เหลือเพียงศีรษะ อีกทั้งถูกสวี่ชิงใช้อำนาจเทพทั้งหมดโจมตี

ใต้ทะเลที่แต่เดิมมืดมิด ในเสี้ยวขณะนี้ถูกจุดสว่างขึ้นมา!

เสียงร้องครวญคราง เสียงเยือกเย็นหวีดแหลมในขณะที่ดังออกมาจากปากของฝูเสียที่ถูกประกายแสงปกคลุม ในดวงอาทิตย์ก็มีเสียงหวีดร้องคำรามดังออกมา

เสียงนี้สยบความเย็นเยือกน่าขนลุกทุกอย่าง กลายเป็นเสียงเดียว

เงาร่างดำสนิทของวิหคทองพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์ดวงใหญ่

ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายหลังจากที่เขย่าทะเลผืนนี้ทั้งผืน จินอูก็อ้าปากกว้าง พ่นเพลิงหลอมวิญญาณออกมา

ไฟกับแสงเซียนสอดประสาน ปกคลุมไปยังเหนือศีรษะของฝูเสียที่กำลังร้องโหยหวนอยู่ หอบม้วนเขา ภายใต้การดูดเพียงครั้งเดียว…

ก็กลืนลงไป!

สวี่ชิงจะหลอมอำนาจของฝูเสีย

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เหตุผลมี 2 ประการ

1 คือฝูเสียที่เขาหลอมก่อนหน้านี้ไม่สมบูรณ์

2 คืออีกฝ่ายเป็นระดับเจ้าเหนือหัว หลอมอำนาจระดับเจ้าเหนือหัวความยากย่อมมหาศาล

แต่ตอนนี้ จากประทับสลักความทรงจำของฝูเสียและศีรษะของอำนาจมาเยือน ไฟหลอมไร้สิ้นสุด ก็ปะทุมาในร่างของวิหคทองโดยสมบูรณ์

ลุกไหม้อย่างรุนแรง

ความยากข้อแรกจัดการเรียบร้อย

ส่วนความยากข้อที่ 2 พลังบำเพ็ญของงอีกฝ่ายลดลงมาอย่างมหาศาลแล้ว

นอกจากนี้ ในร่างของวิหคทอง สิ่งที่ถูกเผาไหม้ตามฝูเสียไปด้วย ยังมีพายุหมอกเลือด 5 กลุ่ม นั่นคือเลือดที่ก่อขึ้นจากสมาชิกทั้งเผ่าที่ตายไปของฝูเสีย

หลอมทั้งเผ่า!

ถึงจะเป็นวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณ

ทะเลเพลิงคำรามลั่น ท้องฟ้าโลกภายนอกเปลี่ยนสี เมฆหมอกเดือดพล่าน

สายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดผ่าในม่านฟ้า มีเงาวิถีสวรรค์ปรากฏวับวาม

กลิ่นอายอำนาจที่มีเฉพาะผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่ง ปะทุมาจากในทะเลต้องห้าม จากในตัววิหคทอง

เสี้ยวขณะต่อมา วิหคทองส่งเสียงก้องกังวาน ตรงมาหาสวี่ชิง ผสานเข้าไปในดวงตาขวาของเขา

สวี่ชิงหลับตา

หลายอึดใจหลังจากนั้น ทันทีที่ดวงตาทั้ง 2 ของเขาลืมขึ้นมา ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมเมฆหอบทะลัก ทะเลคำรามกึกก้อง

ดวงตาขวาของเขากะพริบพลังต้นกำเนิด เกิดเป็นรอยวิถีทางหนึ่ง!

รอยนี้เมื่อปรากฏขึ้นฟ้าดินคำรามเลื่อนลั่น

นั่นคืออำนาจลบเลือน!

อำนาจนี้เป็นของผู้บำเพ็ญระบบนี้โดยเฉพาะ ซึ่งก็เป็นรอยเพียงรอยเดียวในตัวสวี่ชิงตอนนี้

ในพริบตาที่ปรากฏขึ้นมา ทั่วทั้งร่างสวี่ชิงสะท้านเฮือก ปรอทเซียนนับไม่ถ้วนไหลออกมาจากร่าง แปรเปลี่ยนเป็นปรอทเป็นกลุ่มๆ ลอยออกมาทั้งหมด

ส่วนรอยแห่งอำนาจก็ปกคลุมตามมา!

ร่างของเขาก่อนหน้านี้ถูกฝูเสียไล่ฆ่า แตกสลายไปหลายครั้ง สูญเสียปรอทเซียนไปมหาศาล

แม้หลังจากนั้นร่างจะฟื้นฟู แต่การลดลงของปรอทเซียนทำให้ความไม่สมดุลของกายเนื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน

แต่ในเสี้ยวขณะนี้ การปรากฏขึ้นของอำนาจแผ่ลามจากดวงตาขวาไปทั่วทั้งกาย

อำนาจมาจากเจ้าเหนือหัวในระบบผู้บำเพ็ญ ปรอทเซียนแปรเปลี่ยนมาจากพลังระบบผู้บำเพ็ญเช่นกัน ในมุมหนึ่งแล้วก็นับว่ามีต้นกำเนิดเดียวกัน

แต่อย่างหลังจะอย่างไรก็มีผลผสานเชื่อมติดเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น สวี่ชิงต้องรีบฝึกฝนให้เกิดแสงเซียนมากขึ้น ถึงจะทำให้ร่างนี้สมบูรณ์แบบ

เพราะปรอทเซียนจะอย่างไรก็เป็นวัตถุภายนอก ไม่ได้หลอมผสานเชื่อมต่อกับเขา

ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว

อำนาจแทนที่ปรอทเซียน!

ทำให้ร่างของเขาร่างนี้ มีเลือดเนื้อของซ่างฮวงเป็นพื้นฐาน อำนาจเป็นรอย แสงเซียนอาบชำระ!

ยิ่งมั่นคงขึ้น!

จากความรู้สึกที่แทบจะสมบูรณ์แบบผุดขึ้นมาในใจ ในดวงตาสวี่ชิงก็ฉายประกาย เขารู้ว่าเส้นทางของตัวเองมั่นคงขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว

เส้นทางข้างหลังไร้ที่ติ ส่วนเส้นทางข้างหน้าต่อให้มีขวากหนาม เขาก็มีความมั่นใจว่าใช้ความสามารถทุกอย่างที่เขามี ก็สามารถเดินไปถึงปลายทางได้

ขณะเดียวกัน บนท้องฟ้านอกทะเลต้องห้าม เหตุการณ์ประหลาดพลันปรากฏขึ้น!

วิถีสวรรค์แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ปรากฏร่างขึ้นบนทะเลต้องห้ามทีละร่างๆ ทะเลต้องห้ามส่งเสียงสะท้านกึกก้อง ฟ้าดินแผ่ระลอกทันที

พูดได้ว่าแสงนิมิตมงคลพันสาย ประกายแสงหมื่นจั้ง

นั่นคือคำอวยพรแห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์!

ภาพนี้ดึงการจับจ้องจากฝ่ายต่างๆ บนทะเลต้องห้ามทันที ทำให้จิตใจของคนนับไม่ถ้วนเกิดระลอกคลื่นรุนแรง

ในนี้มีคนมากมายที่ไม่รู้ความหมายของภาพนี้ แต่ในใจของรัฐทายาทและคนอื่นๆ กลับเกิดระลอกคลื่นซัดโหม

“คำอวยพรแห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์”

“ในตำนาน คนที่ทำให้เกิดคำอวยพรแห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์มีเพียงผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนแบบนั้นเท่านั้น!”

ในยามที่พวกรัฐทายาทหวั่นไหว จักรพรรดินีอยู่บนท้องฟ้า ทอดสายตามองภาพนี้ ดวงตาก็ฉายประกายประหลาดเช่นกัน

“สวี่ชิงครอบครองอำนาจด้วยระดับหวนสู่อนัตตา!”

“ท่าทางนี่ก็คือเป้าหมายที่แท้จริงของอาจารย์เขาคนนั้นแล้ว!”

จักรพรรดินีคล้ายครุ่นคิด ทอดสายตามองไปทางทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ

และตอนนี้ ในทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ ในสำนัก 7 เนตรโลหิต ณ ห้องลับยอดเขาที่ 7  นายท่านเจ็ดที่หลังจากหลอมร่างสวี่ชิงก็ปิดด่านมาโดยตลอด ก็ลืมตาทั้ง 2 ขึ้นในห้องที่ตนปิดด่าน

“เจ้าสี่ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ด้วย ชิงอำนาจได้สำเร็จ ใช้พลังแห่งอำนาจเปลี่ยนปรอทเซียน…”

“อำนาจลบล้างนี้เหมาะกับกายเนื้อของเขาในสภาวะตอนนี้ที่สุด”

“เช่นนี้แล้ว ในใจของข้าก็ลดความกังวลไปชั้นหนึ่งได้สักที ต่อจากนี้…”

นายท่านเจ็ดเงยหน้า สายตาเหมือนมองทะลุท้องฟ้า ขณะที่ทอดสายตามองท้องฟ้าดารา มองไปยังรูปสลักที่แผ่กลิ่นอายน่ากลัวรูปหนึ่ง หลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายลงมาเยือนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์อย่างรวดเร็ว

สีหน้าของนายท่านเจ็ดเคร่งเครียด

“ช่างเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยเหลือเกิน…ท่านอาจารย์…”

“ผู้ที่คืนกลับมายังคงเป็นท่านหรือไม่”

นายท่านเจ็ดขมขื่น

เวลาไหลไป

หลังจากนั้นหลายวัน ข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่แแดนศักดิ์สิทธิ์บ่อกำเนิดหายนะล่มสลายพัดหอบไปทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ในขณะที่ทำให้ฝ่ายต่างๆ เกิดระลอกคลื่นอารมณ์ แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาเยือนทั้งหมด ต่างสั่นสะท้านเพราะข่าวนี้

และจากนั้น โองการที่ส่งออกมาเขย่าทั่วทุกสารทิศให้สั่นคลอน ก็ส่งออกมาจากเผ่ามนุษย์ และส่งออกมาจากเผ่านภาคิมหันต์เช่นกัน หลังจากรวมเข้าด้วยกัน ก็ก่อเป็นเจตจำนงสูงสุดของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์

“แดนศักดิ์สิทธิ์บ่อกำเนิดกาลกิณีความคิดชั่วร้ายไม่หยุดหย่อน!”

“ความผิดมี 2 ประการ”

“ประการที่ 1 ใช้ข้ออ้างในนามหวังดี แอบแฝงในเผ่าพันธุ์มากมายในทะเลต้องห้าม ความประสงค์ร้ายที่จะเกาะกินทำลาย เลวทรามไร้มนุษยธรรม ชวนให้ผู้คนโกรธเดือดดาลนัก หลักฐานมีประจักษ์ชัด!”

“ประการที่ 2 พยายามลอบสังหารอาจารย์แห่งเผ่าเรา มหาขุนพลฟ้าทมิฬแห่งเผ่านภาคิมหันต์ การกระทำเลวร้าย ชั่วช้ายิ่งนัก ทั้งเผ่าพันธุ์ตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่าง ต่างร่วมกันปกป้อง ไร้ความสำนึกผิดใดๆ อีกทั้งยังเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่อาจารย์ต้องเผชิญกับหายนะอันใหญ่หลวง การกระทำนี้สมควรสังหาร เผ่าพันธุ์นี้สมควรถูกล้างเผ่าพันธุ์!”

“นับแต่แดนศักดิ์สิทธิ์ลงมาเยือน โลกแดนตะวันออกแห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์เดิมยึดมั่นในหลักแห่งความสงบ ไม่ได้ตั้งใจจะก่อสงครามใดๆ”

“ทว่า การกระทำเช่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์ วางอำนาจบาตรใหญ่ กำเริบเหิมเกริมไร้ความเกรงกลัว เห็นได้ถึงจุดประสงค์จากเรื่องเล็กๆ !”

“เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องประเภทนี้เกิดขึ้นอีก ประกาศแจ้งแก่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ลงมาเยือนทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ จงออกไปจากแดนตะวันออกภายใน 3 วัน”

“3 วันจากนั้น หากยังมีใครหลงเหลืออยู่ จะถือว่าเป็นศัตรูร่วมกันของดินแดนตะวันออก!”

โองการนี้ประกาศออกมา โลกแดนตะวันออกแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์สั่นสะเทือนโดยสมบูรณ์

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!