Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 317

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 317 ถ้าทำชั่ว จะนำพาหายนะ! (ปลาย)

C

ก่อนที่คนเหล่านั้นจะขยับปากเอ่ยวาจาออกมาว่า “พวกเราเป็นคนแคว้นเจียงที่ถูกทหารแคว้นชูขับไล่นอกเมืองเมื่อครู่ใหญ่ขอรับ หากไม่ได้ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้นเยี่ยฉวนช่วยไว้ มีหวังพวกเราคงถูกฆ่าตายทั้งหมดที่นอกกำแพงแน่ๆ ขอบคุณเหลือเกินที่ช่วยให้เราปลอดภัย ขอรับ” พลันกลุ่มคนทางเบื้องหลังพากันทยอยลงคุกเขาทีละคน

เวลานั้นเด็กหญิงเห็นพวกผู้ใหญ่แสดงท่าทาง นางจึงเลียนแบบทำท่าทางบ้าง ทว่าร่างทั้งร่างถูกเยี่ยฉวนคว้าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นภาพที่ปรากฏ ชายวัยกลางคนหน้าถอดสีซีด “ถังถังลงมา เดี๋ยวเจ้าจะทำให้เสื้อผ้าของผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้นเยี่ยฉวนสกปรกเสียหมด!”

ทันทีที่ได้ยินผู้เป็นบิดาเอ็ด เด็กน้อยเริ่มดิ้นหนี ขณะที่เยี่ยฉวนกลับส่งเสียงหัวเราะอย่างขบขันและว่า “อย่าดิ้นซี พี่ขออุ้มหน่อยเดียวเอง!” เด็กน้อยหยุดดิ้นไปมาและหันมองตาแป๋ว “ขะ……ข้าสกปรก……”

เยี่ยฉวนก้มหน้าจิ้มปลายจมูกไปที่แก้มมอมแมม “นี่ไง ไม่เห็นสกปรกสักนิด!” เด็กหญิงกระพริบตาถี่ ก่อนหันไปแสดงท่าทางเดียวกันกลับคืน ชายหนุ่มหัวเราะลั่นกว่าเดิม เขาหันไปหาชายวัยกลางคนและพูดขึ้นว่า “ลุกขึ้นเถอะ!”

คนทั้งกลุ่มมีท่าทางลังเล ในที่สุด ก็ทยอยลุกขึ้นยืนจนหมดทุกคน แต่ยังค้อมตัวลงต่ำเมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยฉวน พวกเขาไม่ได้ทำเพราะเกรงกลัว แต่ทำเพราะนับถือคนตรงหน้ามากกว่า ภายในหัวใจของพวกเขาให้ความนับถือต่อเยี่ยฉวนอย่างลึกซึ้ง

เสียงเยี่ยฉวนเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พวกเจ้าจะไปที่ไหนกัน?” ชายวัยกลางคนสั่นศีรษะ สีหน้าหม่นหมอง “ตอนแรกพวกเราไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน แต่ตอนนี้คิดว่าจะไปเมืองหลวงขอรับ เพราะที่นั่นน่าจะปลอดภัยกว่า”

ปลอดภัยกว่า!

อีกฝ่ายเงียบงัน หลังจากนั้นชั่วอึดใจ จึงพูดกันคนทั้งกลุ่มว่า “หนทางไปยังเมืองหลวงยังอีกไกลนัก ลำพังพวกเจ้าไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ อย่างนั้นก็น่าจะอยู่เสียในเมืองนี่แหละ จะดีไหม?”

ชายวัยกลางคนฝืนยิ้มขณะแย้งเบาๆ ว่า “แต่กองทัพที่อยู่นอกกำแพงเมืองนั่น……” เยี่ยฉวนจึงว่า “ข้ารับรองว่าทหารแคว้นชูพวกนั้นจะไม่บุกเข้าเมืองมาอย่างแน่นอน พวกเจ้าพักให้สบายเถอะ ตกลงไหม?”

เมื่อได้ฟังอย่างนั้นชายวัยกลางคนและคนอื่นต่างหันมองหน้ากันไปมา ก่อนจะพร้อมใจกันคุกเข่าลงกับพื้นดิน และคนเป็นผู้นำให้คนอื่นพากันโขกหน้าผากคารวะเยี่ยฉวน “พวกเราเชื่อขอรับ ผู้เยี่ยมยุทธ์แห่งแคว้นเยี่ยฉวน!”

ชายหนุ่มเห็นเข้าก็รีบพูดว่า “ลุกขึ้นเถอะ!” ทุกคนจึงยอมลุกขึ้นยืนแต่โดยดี เยี่ยฉวนจึงปล่อยเด็กน้อยลงยืนบนพื้น ก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้ศีรษะเล็กๆ นั้น อดอมยิ้มไม่ได้จึงถามว่า “เจ้าชื่อถังถังสินะ?”

แม่หนูพยักหน้าเร็ว สีหน้าสีตามีแววลังเล “พี่ชาย ท่านว่าชื่อข้าเพราะไหมเจ้าคะ?” เยี่ยฉวนยิ้มกว้างมากขึ้น “เพราะสิ เพราะมากเลย”

หลังจากนั้น เขายื่นมือข้างขวาออกไปข้างหน้า พลันปรากฏคัมภีร์สองเล่มบนฝ่ามือ ชายหนุ่มชี้ไปที่คัมภีร์ทั้งสอง ซึ่งแปรเปลี่ยนรูปกลายเป็นลำแสงขาวนวลทันที ก่อนจะพุ่งไปที่บริเวณหน้าผากกึ่งกลางระหว่างคิ้วของเด็กหญิง ก่อนเลือนหายเข้าสู่ภายใน สองสิ่งนั้น หนึ่ง คือ คัมภีร์พลังปราณ อีกหนึ่ง คือ คัมภีร์ทักษะยุทธ์!

แม่หนูน้อยยืนตัวแข็ง จนกระทั่งพักใหญ่ต่อมา กระทั่งในที่สุด นางเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้า สายตาแสดงความข้องใจ “พี่ชาย……มันคืออะไรเจ้าคะ?”

ชายหนุ่มยิ้มอย่างใจดีก่อนตอบว่า “ข้ามอบคัมภีร์ให้สองเล่ม จากนี้เจ้าจะฝึกฝนอะไรก็ได้ แต่ควรค่อยเป็นค่อยไป อีกหน่อยจะได้มีพลังกล้าแกร่งเหมือนข้ายังไงล่ะ” ครานี้ คนฟังแววตาเป็นประกายอย่างดีใจ “จริงหรือเจ้าคะ?”

เยี่ยฉวนหัวเราะเบาๆ “จริงซี แต่เจ้าอย่าไปบอกใครเชียว เรื่องนี้เรารู้กันเพียงสองคนเท่านั้น เข้าใจไหม?” เด็กหญิงพยักหน้ารับคำทันที

ต่อมา เยี่ยฉวนผายมือออกไปอีกครั้ง ในครานี้ปรากฏถุงใส่เงินขึ้นในมือ จากนั้น จึงส่งให้ชายวัยกลางคน “เอาละพวกเจ้าพักเสียที่นี่และเลี้ยงดูถังถังให้ดี หาซื้อเสื้อผ้ากับรองเท้าคู่ใหม่ให้นางด้วย ข้ารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ ถ้าได้กลับมาไค่หยางคราวหน้า ข้าจะแวะไปเยี่ยม”

อีกฝ่ายกำถุงเงินในมือแน่นหนาสีหน้าเต็มตื้นปิติ “ขอรับ” ไม่นานต่อมา พวกคนทั้งหมดแสดงคารวะอำลาต่อเยี่ยฉวนและทำท่าพาเด็กน้อยถังถังเดินจากไป

ออกเดินกันไปเพียงไม่นาน เด็กถังถังหันกลับมามองเยี่ยฉวนที่ยืนมองอยู่ข้างหลัง “พี่ชาย ท่านจะไปหาข้าไหม?” เยี่ยฉวนตะโกนตอบ “ไปสิ!” ถังถังยิ้มกว้าง “ข้าจะคอยเจ้าค่ะ” จากนั้น ก็หันกลับออกวิ่งตื๋อตามชายวัยกลางคนและกลุ่มไปทันที

เยี่ยฉวนยืนมองตามหลังเด็กน้อยอดยิ้มกับตนเองไม่ได้ จากนั้นจึงหันไปมองแม่น้ำตามเดิม……ทันใดนั้น เขาจึงได้ประจักษ์ว่าการตัดสินใจของตนมีผลต่อความเป็นความตายของคนในเมือง ถ้าความคิดชั่วร้ายแอบแฝง ต้องมีคนหลายคนถูกฆ่าตาย และถ้าความคิดดี อาจเปลี่ยนชีวิตหรือแม้แต่โชคชะตาของคนอีกหลายคน

ขณะที่ความคิดกำลังพลุ่งพล่านนั่นเอง–

ปัง!

ปณิธานกระบี่พุ่งวาบออกจากร่างกายและทะยานสู่แม่น้ำ ฉับพลันสายน้ำที่เคยนิ่งสงบเริ่มมีแรงกระเพื่อมทว่าค่อยเป็นค่อยไปทีละน้อย เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำอย่างประหลาด เยื้องไปทางแม่น้ำฝั่งซ้ายมือ ซึ่งบัดนี้แผ่นน้ำถูกปกคลุมไว้ด้วยปณิธานกระบี่เร่าร้อนเสมือนน้ำในแม่น้ำกำลังเดือดพล่าน ทว่าทางฝั่งขวาแผ่นน้ำถูกปกคลุมด้วยปณิธานกระบี่ซึ่งสงบนิ่งกว่าด้วยแรงกระเพื่อมบนผิวน้ำเพียงบางเบา

หนึ่งสายน้ำและหนึ่งปณิธานกระบี่ แต่ลักษณะช่างห่างไกลกันเหลือประมาณ! ปรากฏการณ์ประหลาดที่บังเกิดเช่นนั้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง ปณิธานกระบี่ที่ปกคลุมแม่น้ำจึงค่อยย้อนกลับคืนสู่เยี่ยฉวน ทว่าขณะต่อมา ปณิธานกระบี่พุ่งพรวดออกมาจากร่างกายคนอีกครั้ง ในครั้งนี้ ได้แผ่กระจายออกไปทางแม่น้ำ

แม่น้ำฝั่งซ้ายเดือดพล่าน ขณะที่ฝั่งขวาซึ่งปกคลุมด้วยปณิธานกระบี่เช่นกัน กลับสงบนิ่งเยือกเย็นอย่างน่ามหัศจรรย์……ชั่วไม่กี่วินาทีต่อมา ปณิธานกระบี่เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เยี่ยฉวนยืนมองจากริมฝั่งแม่น้ำ ริมฝีปากเหยียดยิ้ม “หมายความว่า……ความคิดดีทำดีจะนำพาความสวยงามมาสู่โลก ความคิดชั่วทำชั่วจะนำพาความพินาศมาสู่โลก……” ความดีและความชั่ว!

ปณิธานแห่งความดีและความชั่ว! เส้นทางกระบี่แห่งความดีและความชั่ว! “ถ้าข้าเลือกเป็นคนดี จะนำมาซึ่งความสงบสุขสู่โลกมนุษย์ แต่ถ้าเลือกทำชั่ว จะนำหายนะมาสู่โลกได้เช่นกัน!”

เมื่อความคิดบังเกิด ณ บนยอดหอคอยแห่งเรือนจำภายในจิตสำนึก กระบี่หนึ่งในสามเล่มพลันสั่นสะท้าน……

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!