Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 362

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 362 ฆ่าผู้ชาย ปล่อยผู้หญิง! (ปลาย)

C

……

เจียงจิ่วหันขวับไปเอ่ยถามคนพูด “ท่านจะพาพวกเขาไปฝึกถึงเขตแดนต้าอวิ๋นอย่างนั้นหรือ?” ……

……

ลู่จิ้วเก๋อส่ายหน้าเชิงปฏิเสธคำถามพลางตอบยิ้มๆ “เขตแดนต้าอวิ๋นไม่ใช่เป้าหมาย สาเหตุที่พวกเราจะไปที่นั่นหลังจากอาจารย์ใหญ่เข้าไปก่อนหน้า เพราะหลังจากนั้นเขตแดนต้าอวิ๋นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พวกเราต้องเตรียมความพร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือเขาได้ทุกเมื่อ!” ……

..

ไม่เหมือนเดิม!

ประโยคนั้นส่งผลให้ภายในหอโถงกลับเงียบลงอีกครั้ง

เยี่ยฉวนไปที่เขตแดนต้าอวิ๋น ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่นอย่างนั้นหรือ?

แน่ละ ไม่!

ภายหลังจากเหตุการณ์ในห้องโถงราวหนึ่งชั่วยาม ลู่จิ้วเก๋อพร้อมด้วยกองกำลังขุนศึกเต๋าพากันออกไปจากสถานศึกษาฉางหลาน ทว่าไม่มีใครรู้ว่าจุดหมายปลายทางคือที่ใด โดยมีไป่เจ๋อและโม่อวิ๋นฉีอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น

.

บนเรือเหาะ ภายในหอคอยแห่งเรือนจำ

เยี่ยฉวนยืนจังก้าหันหน้าเข้ามุมห้องในชั้นที่หนึ่งของหอคอย เบื้องหน้าคือกระบี่เล่มนั้นพร้อมฝักกระบี่ เห็นได้ด้วยสายตาว่ากระบี่สั่นน้อยๆ แสดงว่ายังมีความหวาดกลัวอยู่มากทีเดียว

กระบี่สวรรค์!

ชายหนุ่มยืนนิ่งขณะสีหน้าเคร่งขรึม หากมิใช่เพราะกระบี่แต่เป็นเพราะหอคอย

นับตั้งแต่เยี่ยฉวนได้หอคอยมาเป็นส่วนหนึ่งในกาย ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ต่างๆ มากมาย

หอคอยนี้มันอย่างไรแน่? สตรีลึกลับผู้เป็นเซียนกระบี่คือใคร? กระบี่สามเล่มบนยอดหอคอยเล่าเป็นของผู้ใด?

เหล่านี้เป็นคำถามที่เขานึกตั้งคำถามกับตนเองหลายครั้งหลายครา แต่โชคร้ายที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับคำตอบ

เยี่ยฉวนสะกดความคิดให้หยุดเตลิดและหันมาสนใจกระบี่ที่อยู่เบื้องหน้า ครู่หนึ่งเขาจึงหันหลังให้และกลับออกไป

ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ดูดกลืนกระบี่!

ด้วยเหตุที่ขั้นพลังของเขาขณะนี้ เป็นข้อจำกัดจึงไม่อาจดูดกลืนกระบี่สวรรค์ ถ้าทำดูเหมือนว่าเขาอาจต้องเผชิญกับภาวะธาตุไฟย้อนกลับจากกระบี่เล่มนั้นก็ได้ ไม่สิ มันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะขั้นพลังที่เป็นอยู่ ไม่อาจทนต่ออาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น นอกจากนั้น กระบี่หลิงซิ่วเป็นเพียงกระบี่แท้จริงระดับต้น ถ้าเขาฝืนกลืนกระบี่เล่มนั้น กระบี่หลิงซิ่วคงไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป

เขาทำไม่ได้!

เยี่ยฉวนออกมาจากหอคอยแล้วจึงเดินเลยไปทางดาดฟ้าเรือเหาะที่ขณะนั้นมีคนอยู่บ้างประปราย การเดินทางครั้งนี้เขาปกปิดสถานะที่แท้จริงของตนเอง ด้วยหวังว่าจะสร้างความประหลาดให้แก่สถานศึกษาฉางมู่บ้าง

ชายหนุ่มเดินเรื่อยไปจนถึงด้านหัวเรือ จากจุดที่ยืนอยู่เขาสัมผัสได้ถึงแผ่นฟ้าที่กว้างไกล ความยิ่งใหญ่แห่งขุนเขา และผืนแผ่นดินกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา

ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวล ทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มค่อยสงบเยือกเย็นลงทีละน้อยๆ

ผู้ฝึกปราณกระบี่มิใช่เพียงวิชากระบี่หากฝึกในด้านจิตใจด้วย กล่าวได้ว่าผู้ฝึกพลังปราณทุกคนต้องฝึกทางด้านจิตใจไปควบคู่กัน

มีทั้งจิตใฝ่ดีและจิตใฝ่เลว

ความดีและความเลว……

อะไรคือความดี? อะไรคือความเลว?

เยี่ยฉวนไม่รู้เหมือนกันและไม่ต้องการรู้ เขารู้แต่เพียงว่าใครดีมาเขาก็ดีตอบ ถ้าใครร้ายมา เขาจะตอบกลับชนิดที่ตาต่อตาฟันต่อฟัน!

“พี่ชายท่านนี้ ช่วยหลีกทางหน่อย!”

กำลังยืนคิดเพลินๆ ทันใดนั้นเอง เสียงของใครสักคนดังเข้าหูของเยี่ยฉวน

เยี่ยฉวนรู้สึกเหมือนตื่นจากภวังค์พลันหันขวับไปตามที่มาของเสียง เขาจึงเผชิญหน้ากับสตรีสวมชุดดำนางหนึ่ง เส้นผมดำเป็นมันสยายยาวเคลียบ่า ท่วงท่ากรีดกรายทั้งสง่างดงาม

ทันทีที่สตรีตรงหน้าเห็นใบหน้าคนที่หันมาถนัดตา นางชะงักนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นเสียงนุ่มนวลพึมพำแผ่วเบา “นัยน์ตาของท่าน?”

พอเอ่ยออกไปแล้ว นางจึงนึกขึ้นได้ว่าคำพูดออกจะแสดงความดูแคลนไปบ้างจึงเอ่ยเสียงเบา “ขอโทษด้วย”

เยี่ยฉวนก้มหน้าลงนิดหนึ่ง “ไม่เป็นไร!”

จากนั้นจึงขยับออกห่างไปอีกด้าน ด้วยในตอนนั้นตนเองยืนเกะกะตรงบริเวณทางแยกพอดี!

สตรีผงกศีรษะและกล่าวว่า “ขอบใจ!”

จากนั้นร่างงามในชุดดำได้ก้าวขึ้นไปยืนตรงบริเวณส่วนหัวเรือของเรือเหาะ

จากที่ยืนนางมองลงไปยังแผ่นดินกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาเบื้องล่าง ก่อนจะพูดว่า “ดินแดนแห่งนี้ช่างสวยงาม เต็มไปด้วยแม่น้ำและภูเขา!”

สายตาของหญิงสาวเบนมาทางเยี่ยฉวนซึ่งยืนถัดไปทางด้านข้างไม่ไกลกันนัก “สหายท่านนี้กำลังจะไปเขตแดนต้าอวิ๋น อย่างนั้นหรือ?”

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ “ทุกคนที่มาบนเรือเหาะลำนี้ กำลังมุ่งหน้าไปเขตแดนต้าอวิ๋นทั้งนั้นมิใช่หรือ?”

อีกฝ่ายอมยิ้มอ่อนเบา “เขตแดนต้าอวิ๋นนับว่าเป็นดินแดนที่ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องมากที่สุดของแผ่นดินชิง! ได้มาเห็นด้วยตาสักครั้งก็ไม่เลว”

เยี่ยฉวนยิ้มบางๆ และนิ่งเงียบ

เวลานั้นมีเสียงคนพูดคุยดังมาจากทางเบื้องหลัง สตรีนางนั้นหันหน้าไปมอง ไม่ไกลจากที่นั่นคนจำนวนหนึ่งกำลังจับกลุ่มพูดคุยกันด้วยท่าทางตื่นเต้น

พวกเขากำลังพูดถึงเยี่ยฉวน!

แผ่นดินชิงยามนี้ไม่ต้องแปลกใจว่าเยี่ยฉวนมักถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ชายหนุ่มจ้าวกระบี่อายุน้อยซึ่งไม่เคยปรากฏบนแผ่นดินชิงมานานหลายร้อยปี!

หญิงสาวชุดดำสั่นศีรษะสีหน้าบ่งชัดว่าอิดหนาระอาใจ เมื่อนางหันกลับไปทางเดิม ขณะนั้นได้เอื้อมมือจับเสาและชะโงกตัวก้มลงมองพื้นดินเบื้องล่าง เส้นผมปลิวสยายดั่งกำลังล้อเล่นกับกระแสลม ท่าทีสงบเยือกเย็นและสง่างาม

เยี่ยฉวนขยับไปยืนใกล้หัวเรือ ทำท่าสงบสติอารมณ์เพราะช่วยให้เขารู้สึกจิตใจสงบเยือกเย็นลง

ขณะนั้นเองที่ขอบฟ้าไกลออกไปปรากฏเรือเหาะสามลำกำลังมุ่งตรงมาทางนี้ ดูเหมือนว่าทั้งสามเรือเหาะจะเร่งความเร็วสูงสุดขณะพุ่งเข้าหาเรือเหาะลำนี้

ในตอนนั้นหลายคนบนเรือเหาะเริ่มสังเกตเห็น จากนั้นผู้คนทยอยกันหันมาจับตามองเรือเหาะแปลกหน้าทีละคนสองคน

ชายชราผู้หนึ่งท่าทางเร่งรีบขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือเหาะ คนผู้นี้คือหัวหน้าผู้คุมเรือเหาะลำนี้นั่นเอง

ทันทีที่สายตาปะทะเข้ากับเรือเหาะสามลำที่กำลังแล่นตรงมาทางนี้ สีหน้าเปลี่ยนซีดเผือดด้วยความตกใจ “กองกำลังจิ้งจอกปีศาจ! ยามรักษาการณ์เตรียมตัว!”

พลันที่สิ้นเสียงสั่งการ ยามรักษาการณ์หลายคนตรงเข้าประจำที่รอบๆ บริเวณทันที เมื่อเห็นเรือเหาะทั้งสามลำทุกคนหน้าตาเครียดขรึมจริงจัง

ผู้คนที่กำลังยืนชมวิวบนดาดฟ้า เริ่มมีท่าทางสับสนด้วยไม่กระจ่างชัดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า

ไม่นานนักเรือเหาะแปลกหน้าทะยานเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีๆ ในที่สุดก็กระจายกันล้อมเรือเหาะลำที่เยี่ยฉวนโดยสารไว้ทั้งสามด้าน

ทันใดนั้นเอง ชายผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้นที่ส่วนหัวเรือ สายตาคนกวาดมองเยี่ยฉวนและคนที่อยู่บนดาดฟ้าในขณะนั้นพลางแสยะแยกเขี้ยว “ดูท่าว่าหนนี้จะมีผลพลอยได้ไม่น้อยทีเดียว”

เยี่ยฉวนชะงัก กลุ่มโจรงั้นหรือ?

ชายคนที่ยืนหัวเรือ พลันกระโจนพรวดลงมาบนเรือเหาะเป้าหมายทันที

คนกระชากมีดปังตอออกมาควงและเดินดุ่มตรงมาทางเยี่ยฉวนพอดี ทว่าความจริงเขาตั้งใจจะเข้ามาหาสตรีที่ยืนใกล้เยี่ยฉวนต่างหาก และเมื่อมาหยุดต่อหน้าสตรีชุดดำ คนผู้นั้นพลันทรุดเข่าลง “คารวะนายใหญ่!”

สตรีคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ฆ่าผู้ชายให้หมด ปล่อยผู้หญิงไป!” เยี่ยฉวนนิ่งอึ้ง “……”

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!