บทที่ 1081 ยึดติดความเป็นตาย ยากนักที่จะปล่อยวาง

เผ่าปีกมารฝั่งบูรพา บริเวณที่เคยเป็นแท่นเต๋าในอดีตเสียงฮือฮาดังระงม

ผู้บำเพ็ญเผ่าปีกมารจำนวนมหาศาลที่อยู่รอบๆ เห็นแท่นเต๋าที่สำหรับพวกเขาแล้วมีความหมายทางสัญลักษณ์เป็นอย่างสูง เห็นกิ่งไม้แห้งเหี่ยวกิ่งนี้พุ่งขึ้นฟ้า เห็นผลไม้ที่อยู่บนนั้น

แต่ละคนในใจเกิดระลอกคลื่นแผ่ระลอกรุนแรง

โดยเฉพาะ…มหาจักรพรรดิปีกมารที่เคยนั่งอยู่เหนือแท่นเต๋าเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา เงาร่างนั้นรางเลือนไปในเสี้ยวพริบตานี้ทันที สลายเลือนหายไปตามไปด้วย

นั่นกลับเป็นเพียงแค่เงามายาร่างหนึ่งเท่านั้น

อาศัยตำแหน่งของมหาจักรพรรดิถึงทำให้คนทั้งหลายไม่อาจมองร่องรอยออกได้

ตอนนี้จากการพังทลายของแท่นเต๋า จากการโจมตีของกลิ่นอายผลเต๋า คนทั้งหลายมองเรื่องจริงเท็จออกมา

ทุกอย่างแปรเปลี่ยนเป็นลมพายุไร้รูปร่าง ขณะเดียวกับที่หอบม้วนไปทั่วทุกสารทิศ ความรู้สึกกระวนกระวายที่มาจากสัญชาตญาณของชีวิตก็พวยพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ความกระวนกระวายนี้ ด้านหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลของที่นี่ อีกด้านหนึ่งคือ…มาจากเสียงระฆังที่ดังก้องกังวานไปทั่วแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร

เสียงระฆังเก่าแก่โบราณดังก้องไปในฟ้าดิน

นั่นคือระฆังแห่งสงคราม

เพราะการพังทลายของแท่นเต๋าเหมือนเป็นสัญญาณหนึ่ง

เผ่ามนุษย์และเผ่านภาคิมหันต์ลอยขึ้นฟ้าแห่งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ในเสี้ยวขณะนี้ พุ่งตรงมายังแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 ที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้า ต่างพร้อมเปิดศึก

เพียงพริบตาฟ้าดินปั่นป่วนวุ่นวาย

โลกภายนอกวุ่นวาย โลกในผลเต๋าตอนนี้ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นเช่นกัน

จากเสียงคำรามต่ำของหมิงเหยียนในเตาหลอมกระดูก เตาหลอมใบนี้ตอนนี้ส่งเสียงเลื่อนลั่นสะท้านฟ้า สั่นคลอนอย่างรุนแรง และหนอนที่แปลงมาจากเอ้อร์หนิวนอกเตาหลอมกระดูก หลังจากที่แบกรับพลังดิ้นรนในเตาหลอมกระดูกใบนี้ก็ต่างแหลกสลายไป

ในเตาหลอม เหมือนหมิงเหยียนจะขับเคลื่อนพลังจากผลเต๋าที่ตัวเองอยู่ ทำให้ตัวเองมาอยู่ในสภาวะสมดุลอีกครั้ง สำแดงพลังทะลวงฟ้าออกมา กำลังระเบิดปะทุ

ภายใต้เสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ฝาของเตาหลอมกระดูกก็เกิดสัญญาณว่าจะถูกเปิดออก

จนกระทั่งเสี้ยวขณะต่อมา ฝาเตาหลอมกระดูกพลันสั่นสะเทือน ยกตัวขึ้นเป็นรอยแยกทางหนึ่ง แสงสีทองและแสงสีม่วงสาดส่องออกมาจากรอยแยกรอบๆ ฝา ส่องแสงพุ่งออกมา

มหาจักรพรรดิหมิงเหยียนใกล้จะหลุดจากพันธนาการแล้วเต็มที

ในช่วงเวลาสำคัญ ในมิติเศษชิ้นส่วนที่จักรพรรดินีอยู่ไกลๆ ก็พลันปะทุขึ้น

นอกเตาหลอมในเวลาเดียวกัน หนอนสีฟ้าพวกนั้นที่หลงเหลืออยู่ แต่ละตัวในดวงตาฉายความบ้าคลั่ง ดูดซับผลึกแก้วที่สวี่ชิงส่งมาก่อนหน้านี้อย่างบ้าคลั่ง ปากส่งเสียงคำรามต่ำออกมา “มารดามันสิ คิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรือไร!”

“ชาติที่ 3 !!”

ท่ามกลางเสียงคำราม ทะเลโปร่งแสงข้างล่างก็ระเบิดมาทันที น้ำทะเลมหาศาลเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่ ทำให้ทะเลโปร่งแสงทั้งผืนกลายเป็นคลื่นวนมหึมาลูกหนึ่ง

กลิ่นอายเก่าแก่โบราณกลุ่มหนึ่งปะทุพวยพุ่งมาจากในคลื่นวนลูกนี้

ก่อนหน้านี้หลังจากที่ร่างแหลกละเอียดร่วงลงสู่มหาสมุทร ความจริงเอ้อร์หนิวก็หาเศษชิ้นส่วนความทรงจำชาติที่ 3 ของตัวเองเจอแล้ว เพียงแต่ด้านหนึ่งเพราะเวลามีจำกัด อีกด้านหนึ่งคือพลังในตอนนี้ยังไม่เพียงพอ

ดังนั้นเขาจึงไม่อาจดูดซับได้อย่างสมบูรณ์ในทันที

จนกระทั่งพลังต้นกำเนิดดั้งเดิมที่สวี่ชิงส่งมา…

พลังต้นกำเนิดนี้สำหรับสวี่ชิงแล้วสามารถสร้างร่างเซียนได้ สำหรับเอ้อร์หนิวก็ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน

สามารถหล่อเลี้ยงร่างกาย ทำให้เขาสามารถปลดผนึกได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ดูดซับความทรงจำชาติที่ 3 ที่ได้มาได้อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้หลังจากดูดซับ เขาก็มีความสามารถในการอัญเชิญขั้นต้นของชาติที่ 3 ได้

ดังนั้น เสี้ยวพริบตาต่อมา ท่ามกลางการปะทุของมหาสมุทรโปร่งแสงทั้งผืน ในคลื่นวนก็หอบม้วนเปลวเพลิงน้ำแข็งออกมา ความเย็นยิ่งแผ่ปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศในเสี้ยวพริบตา

จากนั้นมือใหญ่สีดำข้างหนึ่งจากในคลื่นวนบนมหาสมุทรโปร่งแสงก็ลอยขึ้นฟ้า

มือนี้ไม่ใช่วัตถุจริง แต่เกิดขึ้นจากภาพมายา ทว่า กลิ่นอายที่แผ่ออกมาไม่เพียงแต่เก่าแก่โบราณเท่านั้นแต่ยังแฝงไว้ด้วยความเหี้ยมโหดไร้เทียมทานกลุ่มหนึ่งอีกด้วย สะท้านฟ้าสะเทือนดิน

รูปร่างของมันก็แปลกประหลาดเช่นกัน

ดูเหมือนเป็นมือ แต่ความจริงแล้วปลายนิ้วกลางมีศีรษะอยู่ศีรษะหนึ่ง ส่วนนิ้วนางและนิ้วชี้โค้งเป็นแขน

นิ้วก้อยและนิ้วโป้งงอโค้งลงข้างล่างราวขา 2 ข้าง

ส่วนที่กลางฝ่ามือแยกออกเป็นรอยแยกทางหนึ่ง นั่นเป็นปากมหึมาเลือดชุ่มโชก

บนตัวมีขนสีดำนับไม่ถ้วนปกคลุมไปทุกส่วน

ดูแล้วเหี้ยมเกรียมเป็นอย่างยิ่ง น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก

นี่ก็คือภาพสะท้อนเงาชาติที่ 3 ของเอ้อร์หนิว ซึ่งก็คือมหาบาปสุดยอดที่ถูกมหาจักรพรรดิวิชาเซียนสยบในตอนนั้น

ตอนนี้เอ้อร์หนิวอัญเชิญออกมาก็พุ่งตรงไปยังท้องฟ้า เพียงพริบตาก็มาถึงยังบริเวณเหนือเตาหลอมกระดูก แล้วพลันกดไปยังเตาหลอมกระดูกที่สั่นสะเทือนคิดจะทะลวงออกมา

“หลอมมัน!” เอ้อร์หนิวคำราม

เตาหลอมกระดูกสะเทือน เกิดความเงียบสงบไปพริบตาหนึ่ง แต่เอ้อร์หนิวก็ไม่ได้ประมาท เสี้ยวขณะต่อไป พลังปะทุที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากลุ่มหนึ่งก็พลันแผ่ออกมาจากในเตาหลอมกระดูก

เสียงครืนครั่นดังกึกก้องกัมปนาท

ภาพฉายเงาชาติที่ 3 ของเอ้อร์หนิวรางเลือนไปทันที มีสัญญาว่าจะแตกสลาย

จะอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ร่างจริงชาติที่ 3 ของเขาที่แท้จริง เป็นเพียงแค่ภาพฉายเงาเท่านั้น เผชิญหน้ากับหมิงเหยียนที่พลังบำเพ็ญน่าครั่นคร้ามในเตาหลอมกระดูก พลังสยบของเขายากจะเกิดผลได้อย่างสมบูรณ์

เห็นภาพฉายเงาชาติที่ 3 ของเอ้อร์หนิวจะแตกสลาย…

สวี่ชิงในช่วงเวลาสำคัญก็ทำการหลอมรวมสุดท้ายของโลกใบใหญ่ทั้ง 7 ในร่างกายเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้นร่างก็พลันไหววูบ

เพียงพริบตาก็มาปรากฏอยู่ข้างภาพฉายเงาชาติที่ 3 ของเอ้อร์หนิว สายตาฉายประกายวาววาม มือขวายกขึ้น กดข้ามอากาศไปยังเตาหลอมกระดูกที่สั่นสะเทือนอยู่ข้างล่าง

“ธาตุทองสุดยอด ธาตุไม้สุดยอด ธาตุน้ำสุดยอด ธาตุไฟสุดยอด ธาตุดินสุดยอด!”

ปากของเขาเปล่งเสียงสวรรค์ออกมา

เสี้ยวขณะต่อมา โลก 5 ใบจาก 7 ใบข้างหลังก็พลันลงมาเยือน ท่ามกลางความรางเลือนคล้ายก่อเป็นผลึกแก้วที่ไม่สมบูรณ์ 5 ก้อน ปะทุพลัง 5 ธาตุออกมา วนล้อมรอบเตาหลอมกระดูกทำการสะกด

จากนั้น โลกที่เหลืออีก 2 ใบก็ลงมาเยือนอย่างรวดเร็ว

มิติสุดยอด เวลาสุดยอด!

ในเตาหลอมกระดูกมีเสียงโหยหวนน่าขนลุกเสียงหนึ่งดังออกมา ทว่าเสี้ยวขณะต่อมา สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวก็หน้าเปลี่ยนสีไปพร้อมกัน แรงปะทุน่าหวาดกลัวเหนือสิ่งอื่นใดกลุ่มหนึ่งพุ่งท่วมฟ้ามาจากในเตาหลอมกระดูก

ความแข็งแกร่งของแรงปะทุนี้ทรงพลังเกินต้านทาน บดขยี้ทำลายล้างประหนึ่งว่าการต้านทานทุกอย่างล้วนไร้ความหมาย

เสี้ยวพริบตาต่อมาระเบิด!

ฝาเตาหลอมกระดูกถูกเปิดออกอย่างแรง สวี่ชิงกับเอ้อร์หนิวถอยร่นไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนภายในเตาหลอม เงาร่างของหมิงเหยียนก็กำลังลอยตัวขึ้นมา

พวกเขาแม้จะแข็งแกร่ง แต่เทียบกับหมิงเหยียนทางนี้ สุดท้ายแล้วก็ห่างชั้นกันไม่น้อยเลย

“พวกเจ้า…” เสียงแหบแห้งในยามที่ดังออกมาจากปากของเงาร่างนี้ เศษชิ้นส่วนที่จักรพรรดินีอยู่ก็พลันแตกสลาย

กลิ่นอายเทพเจ้าปะทุในนั้น

ความแรงของระลอกคลื่นพลังหอบม้วนมาในโลกใบนี้ ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี ขณะเดียวกัน เงาร่างของจักรพรรดินี เพียงก้าวออกมาจากที่นั่นเพียงก้าวเดียวก็เคลื่อนย้ายชั่วพริบตามาอยู่เหนือเตาหลอมกระดูก แล้วกดลงไปข้างล่างเต็มแรง

บิดม้วนทั่วทุกสารทิศ

พลังระดับแท่นเทวะสูงสุดพวยพุ่งขึ้นมาทุกด้านอย่างเต็มกำลัง

สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวไม่ลังเลแม้แต่น้อย ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ถอยไปจากสนามรบ

พวกเขารู้ ต่อจากนี้ ทิศทางของสถานการณ์ที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะทำอะไรได้แล้ว

และเผชิญหน้ากับการลงมือโจมตีของจักรพรรดินี หมิงเหยียนในดวงตาแดงก่ำ ยกมือสะบัด ก็จะทำลายพลังของจักรพรรดินี

แต่เสี้ยวขณะต่อมา ข้างหลังของจักรพรรดินีพลันมีดวงดาวเก่าแก่โบราณดวงหนึ่งลอยขึ้น

ทันทีที่ดาวดวงนี้ปรากฏขึ้น ลมเมฆหอบทะลัก ความลึกลับเวิ้งว้างปกคลุมฟ้าดิน

บนดวงดาวเงาร่าง 5 ร่างที่ยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่

เงาร่างทั้ง 5 ของเทพเจ้า คือจักรพรรดิมนุษย์ในทุกรุ่น

จักรพรรดิมนุษย์ตงเซิ่ง จักรพรรดิมนุษย์เซิ่งเทียน จักรพรรดิมนุษย์จิ้งอวิ๋น จักรพรรดิมนุษย์เต้าซื่อ และจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้น

พลังเทพของพวกเขาต่างปะทุขึ้นทุกด้าน โหมทะลักไปในดาวโบราณ สะกดไปข้างล่าง

ส่วนเศษชิ้นส่วนที่ระเบิดแหลกสลายเหล่านั้นตอนนี้ก็ไม่รางเลือนอีกต่อไป เผยให้เห็นสภาพเป็นรูพรุนที่เกิดจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ และร่างแยกของหมิงเหยียนที่ศีรษะกับร่างแยกไปอยู่กันคนละที่ตายอย่างน่าอเนจอนาถ

แล้วก็ยังมีมหาจักรพรรดิปีกมารที่กระอักเลือดสดๆ ออกมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส

มหาจักรพรรดิปีกมารในตอนนี้ เขามองเงาร่างของจักรพรรดินีที่จากไป มองโลกใบนี้ ใบหน้าขาวซีด เอ่ยพึมพำเสียงต่ำ “แดนเซียนแห่งนี้ แปลงมาจากผลเต๋าหมื่นอัศจรรย์กำเนิดชีวิตที่หายากเป็นอย่างยิ่งหรือนี่!”

“ผลเต๋าหมื่นอัศจรรย์กำเนิดชีวิตสามารถทำให้ตัวตนระดับเทพแท้จริงลงไปมีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นคืนชีพกลับมา ผลเต๋า 1 ลูกสามารถใช้ได้ 3 ครั้ง แต่ผู้ที่ใช้มันชั่วชีวิตนี้จะใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

“และผลเต๋าลูกนี้เหี่ยวแห้งปานนี้หมิงเหยียนน่าจะเคยใช้ไปแล้ว ตอนนี้เหลือโอกาสอีกเพียงแค่ครั้งสุดท้ายเท่านั้นก็จะสลายหายไป”

“ที่แท้นี่ถึงจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นคืนชีพของหมิงเหยียน!”

“ซึ่งก็คือเป้าหมายสูงสุดของแผนการครั้งนี้ของจักรพรรดินี!”

มหาจักรพรรดิปีกมารกระอักเลือดออกมา ในยามที่ร่างโซเซไปข้างหลัง จักรพรรดินีอยู่บนเตาหลอมกระดูกทางนั้น ก้มหน้ามองมหาจักรพรรดิหมิงเหยีนที่อยู่ข้างในเตาหลอม

หมิงเหยียนในตอนนี้ร่าง 5 ส่วนเป็นสีม่วง 3 ส่วนเป็นสีทอง และ 2 ส่วนเป็นสีเขียวคราม

ต้นกำเนิดของสีม่วงองค์ท่านมองไม่ออก ส่วนต้นกำเนิดของสีทองเป็นน้ำในแม่น้ำหยดหนึ่ง ส่วนสีเขียวคราม…มาจากผลเต๋า ซึ่งก็เป็นจุดที่จักรพรรดินีจับจ้องเป็นพิเศษ

การเดินทางครั้งนี้องค์ท่านซ่อนคมไว้ในฝักอยู่ตลอด!

ไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด

ด้านหนึ่งเพราะคู่ต่อสู้ขององค์ท่านครั้งนี้พลังบำเพ็ญแทบจะอยู่ระดับสุดยอด

อีกด้านหนึ่งคือแผนการขององค์ท่านยิ่งใหญ่เหลือเกินนัก โอกาสมีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

องค์ท่านไม่ยอมให้ตัวเองล้มเหลว

และในแผนการแต่เดิมขององค์ท่าน สวี่ชิงและเอ้อร์หนิว ตัวแปร 2 ตัวนี้ไม่อยู่ในนั้น เช่นนั้นสถานการณ์ในตอนนี้น่าจะเป็นหมิงเหยียนสิงชิงร่างมหาจักรพรรดิปีกมาร ส่วนตนก็ร่วมมือกับมหาจักรพรรดิปีกมารเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง

แม้มหาจักรพรรดิหมิงเหยียนจะแข็งแกร่ง แต่องค์ท่านก็มีแผนการรับมือของตัวเอง

แต่แผนการตามการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน การปรากฏตัวขึ้นของสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวตัวแปร 2 ตัวนี้ ทำให้สถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล หมิงเหยียนเปลี่ยนแผนการ ล้มเลิกการสิงชิงร่างมหาจักรพรรดิปีกมาร แต่มาร่วมมือกับเขาแทน

เป้าหมายการสิงชิงร่างของเขาเปลี่ยนมาเป็นสวี่ชิง

ดังนั้น มหาจักรพรรดินีจึงกำลังมอง กำลังรอคอยโอกาส

และเหตุการเปลี่ยนแปลง ในเหตุการณ์ภายหลัง จักรพรรดินีก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องที่แย่

ไม่ว่าจะเป็นชาติที่ 3 ของเอ้อร์หนิว หรือจะเป็นความแปลกประหลาดของกายเนื้อสวี่ชิงร่างนั้น ล้วนทำให้ความมั่นใจขององค์ท่านมากกว่าแผนการในทีแรกเล็กน้อย

ด้วยเหตุนี้ องค์ท่านจึงรอต่อไป

จนกระทั่งหมิงเหยียนเพื่อที่จะสลัดให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ก็สำแดงพลังของผลเต๋าหมื่นอัศจรรย์กำเนิดชีวิต จักรพรรดินี…ในที่สุดโอกาสที่รอก็มาถึง!

สิ่งที่องค์ท่านต้องการก็คือหมิงเหยียนเป็นฝ่ายลงมือสำแดงผลเต๋าออกมาเอง

ดังนั้นในขณะที่ลงมือ จักรพรรดินีก็ลงมือปฏิบัติตามแผนการรับมือที่เตรียมเอาไว้สำหรับการเดินทางครั้งนี้ออกมาอย่างไม่ลังเล

แผนรับมือขององค์ท่านก็คือดาวจักรพรรดิโบราณเผ่ามนุษย์

ซึ่งก็เป็นของวิเศษล้ำค่าอันดับ 1 ในด้านตำแหน่งคุณสมบัติสายเลือดของเผ่ามนุษย์ในตอนนี้แล้ว

อีกทั้้งมีการเพิ่มพลังจากเทพมนุษย์ทั้ง 5 ก็สามารถทำให้ของล้ำค่าสุดยอดชิ้นนี้สำแดงพลังน่าตื่นตะลึงสะท้านฟ้าออกมาได้

ตอนนี้ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ดาวจักรพรรดิโบราณสะกดลงไป

เสียงคำรามของหมิงเหยียนดังสะท้อนก้องเลื่อนลั่น

เขาอยากจะฝ่าทะลวงออกไป แต่จักรพรรดินีกัดปลายลิ้นเลือดออก พ่นเลือดเทพของตัวเองออกมาทำการเพิ่มพลังอีกครั้ง และภายใต้การปะทุพลังอย่างไม่เสียดายค่าตอบแทนใดๆ ของพลังระดับแท่นเทวะในร่าง ก็ขัดขวางพลังการดิ้นรนของหมิงเหยียน

จากนั้น ดวงดาวจักรพรรดิโบราณที่ลอยต่ำลงมา ภายในนั้นเกิดคลื่นวน

พุ่งลงมา

ด้วยพลังของดาวดวงนี้ ด้วยพลังของจักรพรรดิมนุษย์ทั้ง 5 ด้วยพลานุภาพอำนาจระดับแท่นเทวะของจักรพรรดินีเอง ก็กลืนกินเตาหลอมกระดูกที่หมิงเหยียนอยู่ไปในดาวจักรพรรดิโบราณ!

ทำการผนึกหมิงเหยียน

ทำทุกอย่างเรียบร้อย ในดวงตาของจักรพรรดินีในเสี้ยวขณะนี้ก็ฉายแววเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นที่เป็นของมนุษย์ออกมา

องค์ท่าน กลายเป็นนาง

เป้าหมายของนางนับแต่ต้นจนถึงตอนนี้ล้วนไม่ใช่การทุ่มสุดกำลังเพื่อสังหารหมิงเหยียน และไม่ใช่เพื่อวิญญาณของหมิงเหยียนด้วยเช่นกัน

สิ่งที่นางรอคอยมาตลอดคือ หลังจากอีกฝ่ายเอาผลเต๋าออกมาแล้ว ตัวเองอาศัยดาวจักรพรรดิโบราณสกัดกั้นอีกฝ่ายกับโลกภายนอกออกจากกัน!

ทำให้ผลเต๋าหมื่นอัศจรรย์กำเนิดชีวิตผลนี้ขาดสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับหมิงเหยียน

ในเวลาสั้นๆ กลายเป็นวัตถุที่ไร้ผลกรรมเวรกับโลกภายนอก

มีเพียงเช่นนี้เท่านั้นถึงจะทำให้นางมีโอกาสเปิดฉากลงมือปฏิบัติตามเป้าหมายในท้ายที่สุดของการเดินทางครั้งนี้ของตัวเอง!

“มหาจักรพรรดิ…” จักรพรรดินีพึมพำ เพียงยกมือ รูปสลักมหึมารูปหนึ่งก็พุ่งมาอย่างรวดเร็วจากในร่างของนาง ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลอยต่ำลงสู่มหาสมุทรเบื้องล่าง

น้ำทะเลสะเทือน

รูปสลักนั้นคือมหาจักรพรรดิครองกระบี่!

สวี่ชิงจ้องมองภาพฉากนี้ จิตใจแผ่ระลอกคลื่นอารมณ์ ลมหายใจหอบถี่ เกิดความตื่นเต้นขึ้นมา

เขาเดาเป้าหมายของจักรพรรดินีได้แล้ว

ส่วนจักรพรรดินีทางนั้น ดวงตาทั้ง 2 ที่สงบนิ่งมาโดยตลอดนับจากที่สำเร็จเทพมา ตอนนี้จ้องมองรูปสลักก็ฉายความคิดถึงและเคารพรักที่มีต่อผู้อาวุโสอย่างเข้มข้น

เอ่ยเสียงแผ่วเบา “กลับมาเถิดเจ้าค่ะ…”

นางคิดจะฟื้นคืนชีพมหาจักรพรรดิครองกระบี่ที่นี่!

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)