บทที่ 599 ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้! (ปลาย)
หลินฉงอวิ่นและชินเจิ้นหันไปมองหน้ากันทำนองหารือ เป็นชายวัยกลางคนพูดว่า “ได้ แต่ว่าเรื่องตามหาคน……”
อีกฝ่ายมีสีหน้าเคร่งเครียดทันที “อย่าห่วงเลย สำนักผู้ตรวจการเขตแดนจะใช้สรรพกำลังที่มีออกตามหาคนผู้นี้เอง ถ้าเขาอยู่ในดินแดนจักรวาลดวงดาวสำนักผู้ตรวจการเขตแดนสามารถหาจนพบได้อย่างแน่นอน!”
หลินฉงอวิ่นหัวเราะเสียงดัง “ขอบใจมาก!”
จากนั้นฝ่ายเจ้าถิ่นยิ้มน้อยๆ “เชิญตามข้ามา!”
พูดแล้วจึงหันหลังกลับทันที
ด้วยรอยยิ้มยังเปื้อนอยู่บนใบหน้า
ประจักษ์แจ้งแก่ตาแล้วว่าชายวัยกลางคนชื่อหลินฉงอวิ้นและชายชราชินเจิ้นหาใช่ยอดฝีมือทั่วไป ถ้าได้คนทั้งสองมาร่วมทำศึก สำนักชางเจี้ยนจะต้องถูกถล่มจนพินาศไปในไม่ช้าอย่างแน่นอน!
ยิ่งคิดแล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของชายชรายิ่งเผยกว้างกระจ่างชัด จึงแสดงการต้อนรับขับสู้หลิงฉงอวิ่นและชินเจิ้นด้วยความนอบน้อมเป็นพิเศษ
ณ โลกชิงฉาง
เยี่ยฉวนเดินเตร็ดเตร่ไปโน่นมานี่เป็นประจำทุกวัน และที่สุดก็มาถึงยังสุสานกระบี่
เมื่อชายชราผู้พิทักษ์สุสานกระบี่เห็นชายหนุ่มเท่านั้น หน้าตื่นนัยน์ตาเบิกตาโพลง ถลันออกมาขวางทางเยี่ยฉวนทันทีอย่างระแวดระวัง “เจ้ามาทำอะไรที่นี่!”
เขาไม่เคยลืมคราวก่อนเมื่อเยี่ยฉวนมาที่นี่ ชายหนุ่มสูบกลืนกระบี่ไปเป็นจำนวนมาก ในจำนวนกระบี่เหล่านั้นบางเล่มเป็นกระบี่ชั้นสวรรค์อีกต่างหาก!
เจ้าหนุ่มคนนี้สามารถกลืนกระบี่!
เยี่ยฉวนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “ข้าแค่มาเดินเล่น!”
ชายชราเหลือบมองด้วยสายตาหวาดระแวง น้ำเสียงค่อนข้างห้วน “ที่นี่ไม่มีอะไรให้ดู! กลับไปเสีย!”
อีกฝ่ายชักสีหน้าขึงขัง “ข้าแค่จะเข้าไปเดินเล่น ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย!”
ชายชราจ้องหน้าเยี่ยฉวนสีหน้าเฉยเมยไม่แสดงอารมณ์ “ไม่ได้!”
เยี่ยฉวนถอนหายใจโชคไม่ดีเสียแล้ว จำต้องทำตามโดยยินยอมกลับออกไปแต่โดยดี
อันที่จริงเขาจะแอบลักลอบเข้าไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยก็ทำได้ ทว่าทำเช่นนั้นออกจะน่าเบื่อ
กระบี่สวรรค์!
ตอนนี้เยี่ยฉวนต้องการกระบี่สวรรค์มากที่สุด ด้วยตราบใดที่มีกระบี่สวรรค์เขาสามารถพัฒนาขั้นพลังเป็นควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริงได้ทุกเมื่อ!
เมื่อใดที่เขาสำเร็จขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพ ความแกร่งกล้าคงจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล อีกอย่างเขายังไม่สามารถกลั่นกระบี่แห่งสุญญากาศได้!
ในเวลานี้ด้วยความแข็งแกร่งพุ่งถึงขีดสุดของตน แม้ไม่ใช้หอคอยแห่งเรือนจำ หากก็ยังกระตุ้นกระบี่แห่งปฐพีได้!
และถ้าเขาสามารถกลั่นกระบี่แห่งสุญญากาศได้สำเร็จเมื่อไร ตนเองมีความมั่นใจเกือบเต็มร้อยว่าสามารถใช้หนึ่งทักษะกระบี่ชี้ชะตาสังหารยอดฝีมือขั้นควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริงได้
กฎเต๋าแห่งสุญญากาศนั้นเหนือกว่ากฎเต๋าแห่งปฐพี ดังนั้นถ้ากลั่นกระบี่แห่งสุญญากาศออกมาได้พลังต้องเพิ่มมากขึ้นด้วย!
ทว่าตอนนี้เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะสามารถกลั่นตัวกระบี่แห่งสุญญากาศได้สำเร็จ!
ด้วยขั้นพลังของตนยังไม่สูงพอนั่นเอง!
เขาต้องบรรลุขั้นพลังควบยุทธ์สะท้านภพระดับแท้จริงให้จงได้!
และต้องใช้กระบี่!
จะไปหากระบี่ได้ที่ไหน?
สุสานกระบี่นั้นเลิกคิดไปได้เลย!
ด้วยเป็นสถานที่ที่สำนักชางเจี้ยนใช้เก็บสะสมกระบี่มาช้านาน กระบี่เหล่านั้นทิ้งไว้สำหรับศิษย์สำนักชางเจี้ยนใช้เพื่อพัฒนาขั้นพลังเต๋าแห่งกระบี่
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเยี่ยฉวนไม่ได้รับอนุญาตให้ดูดกลืนกระบี่อีก!
เขาอาจต้องหาทางอื่น!
จะหาได้จากใคร?
ชายหนุ่มนิ่งตรึกตรองอยู่พักใหญ่และในที่สุดจึงตัดสินใจขึ้นไปยังยอดเขาจูชี เมื่อเห็นหน้าเยี่ยฉวนอาจารย์จ้านเถี่ยถึงกับหน้ามุ่ย “มาที่นี่อีกทำไม?”
เยี่ยฉวนฉีกยิ้มเอาใจ “ข้ามาเยี่ยมอาจารย์จ้านขอรับ!”
“ไปให้พ้น!”
จ้านเถี่ยถึงกับโบกไม้โบกมือไล่ตะเพิด “ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้เลย ข้าไม่ทำอะไรทั้งนั้น”
จากนั้นคนก็หันหลังขวับและหายวับไปทันที
เยี่ยฉวน “……”
หลังจากยืนงงงันเป็นครู่เขาจึงเปลี่ยนจุดหมายขึ้นยังยอดเขาเจิ้นต่าว ชายหนุ่มเดินเข้าไปภายในหอโถงและไปหยุดตรงหน้าอาจารย์กู่ จากนั้นจึงคารวะทักทายตามธรรมเนียม “คารวะอาจารย์กู่ขอรับ!”
อาจารย์กู่เงยหน้ามอง “มีอะไร?”
เยี่ยฉวนอึกอักเล็กน้อยก่อนจะโพล่งออกไปว่า “ข้ามีบางอย่างแต่ไม่รู้จะพูดกับท่านอย่างไรดีขอรับ”
สตรีตรงหน้าตอบหน้าตาย “ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูด!”
อีกฝ่ายถึงกับหน้าเจื่อน เขารู้สึกแปลกว่าเหตุใดอาจารย์กู่ไม่ปฏิบัติกับเขาอย่างที่แล้วมา?
หลังจากลังเลชั่วครู่ จึงพูดออกไปว่า “ข้าอยากได้กระบี่สวรรค์ขอรับ!”
อาจารย์กู่เงยหน้ามองคนอีกฝ่ายตรงๆ “ข้ามีอยู่เล่มเดียว! ซึ่งเป็นกระบี่ประจำตัวอยากได้ไหมล่ะ?”
เยี่ยฉวนจึงได้แต่ยิ้มแห้ง เขาจะอยากได้ได้อย่างไรกัน จึงได้แต่คารวะอำลาก่อนจะถอยกลับออกมาอย่างเงียบเชียบ
ทันใดนั้นมีเสียงอาจารย์กู่ดังมาจากด้านหลังว่า “ลองไปหาอาจารย์เจ้าสิ นางมีหนทางช่วยได้!”
ชายหนุ่มหันกลับไปมองคนพูดด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็รีบรุดออกจากหอโถงแห่งนั้นทันที
ไม่นานต่อมาเยี่ยฉวนก็กลับถึงยังยอดเขาอวิ๋นเจี้ยน
ภายในหอโถงเยว่ฉีนิ่งเงียบไปสักพัก จากนั้นสตรีจึงหันหลังเดินกลับเข้าไปยังหอโถงชั้นใน ครู่หนึ่งถึงเดินกลับออกมาอีกครั้ง และครั้งนี้นางสะบัดมือข้างขวาครั้งหนึ่ง พลันกระบี่สองเล่มทะยานมาปักลงบนพื้นต่อหน้าคนศิษย์
กระบี่สวรรค์!
ชายหนุ่มเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นสีหน้ากระดากใจก่อนจะพูดอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงนัก “คือว่ายังไม่……”
“ไม่พออีกหรือ?” เยว่ฉีถาม
เยี่ยฉวนพยักหน้าหงึกหงัก
ต่อหน้าคนอื่นเขาอาจหน้าด้านหน้าทนโดยไม่สนใจใคร ทว่าต่อหน้าอาจารย์เยว่ฉีเขากลับไม่กล้าประพฤติตนเช่นนั้น!
คนเป็นอาจารย์เม้มปากเงียบไปเป็นครู่ จากนั้น “ตามข้ามา!”
นางเดินนำโดยเยี่ยฉวนเดินตามไปยังสุสานกระบี่
เมื่อเห็นชายหนุ่มคนที่เดินตามหลังชายชราผู้พิทักษ์สุสานกระบี่สีหน้าแสดงความประหลาดใจ ทว่าเขามิได้ใส่ใจแต่หันไปถามเยว่ฉีอย่างมีไมตรี “ศิษย์น้องเล็กเจ้ามาที่นี่มีธุระอะไร?”
เยว่ฉีตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่แตกต่าง “ข้าอยากได้กระบี่สวรรค์หลายเล่ม!”
พลันสายตาของชายชราเหลือบมองไปทางเยี่ยฉวนแวบหนึ่ง
“มีปัญหาหรือ?” เยว่ฉีเอ่ยด้วยความข้องใจ
อีกฝ่ายรีบส่ายศีรษะปฏิเสธ “ไม่มีปัญหา เดี๋ยวข้าจะนำมาให้!”
ว่าแล้วคนรีบกระวีกระวาดไปในทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เยี่ยฉวนตะลึงจนพูดไม่ออก



