Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1139

ตอนที่ 1139

กระแสปราณพิษ?

นั่นคือแผนการของจักรพรรดิ!

ถึงแม้ไม่อาจจะบอกได้ว่ามันมีเจตนาดี หรือมีแผนการแอบซ่อนอยู่ แต่อย่างน้อยก็อาจจะกล่าวได้ว่ามันได้หงายไพ่และวางเหยื่อล่อไว้แล้ว!

เหมือนกับมันกำลังบอกว่า “เหยื่ออยู่นี่แล้ว พวกเจ้าจะกินหรือไม่?!”

ใครก็ตามที่มีสามัญสำนึกก็จะมองเห็นสิ่งบางอย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และอันตราย ที่สำคัญมากที่สุดคือหายนะอันร้ายแรงกำลังเกิดขึ้นอยู่ในอาณาจักรสายลม การกระทำของจักรพรรดิทำให้เกิดเป็นความวุ่นวายขึ้นอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม…ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะรู้ว่ากำลังมีบางสิ่งเกิดขึ้นอยู่ แต่ก็ไม่มีผู้ฝึกตนลำดับขั้นแม้แต่คนเดียวจะสามารถต่อต้านเหยื่อล่อเช่นนั้นได้ เต้าเทียนไม่สามารถ เช่นเดียวกับเมิ่งฮ่าว เป้าหมายหลักของคนทั้งหมดที่มายังอาณาจักรสายลมก็คือ การได้รับความรู้แจ้งของกฎธรรมชาติและแก่นแท้

ซึ่งไม่ได้บ่งบอกว่าพวกมันจะได้ครอบครองแก่นแท้ได้ในทันทีหลังจากที่ได้รับความรู้แจ้งเหล่านั้น อย่างไรก็ตามแก่นแท้ก็จะปรากฏขึ้นในจิตใจพวกมัน คล้ายกับเป็นเปลวไฟที่ส่องประกายขึ้นมา เมื่อพวกมันกลับไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำให้เส้นทางที่มุ่งตรงไปยังอาณาจักรเต๋าของพวกมันมีความสับสนน้อยลง และทำให้ขั้นตอนนั้นราบเรียบมากยิ่งขึ้น

คำพังเพยโบราณกล่าวไว้ว่าก่อนที่จะวาดต้นไผ่ ต้องมีต้นไผ่อยู่ในจิตใจก่อน ก็เช่นเดียวกับเรื่องของแก่นแท้ เมื่อถึงเวลาที่จะได้ครอบครองแก่นแท้จริงๆ พวกมันก็จะมีภาพของเส้นทางที่จะมุ่งตรงไปเด่นชัดมากขึ้น

ที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การมีต้นไผ่อยู่ในจิตใจ ก็จะมีโอกาสในพื้นฐานธรรมชาติของแต่ละคน!

ยิ่งได้รับความรู้แจ้งมากเท่าใด จำนวนภาพที่เกิดขึ้นอยู่ในจิตใจก็จะมีมากขึ้น ถ้าสามารถได้รับความรู้แจ้งถึงสามพันเต๋าอันยิ่งใหญ่ ภาพเต๋าในจิตใจก็จะมีถึงสามพันภาพ จากนั้นเมื่อพวกมันผ่านเข้าไปในอาณาจักรเต๋าได้ในที่สุด ก็สามารถจะใช้พลังอย่างที่ไม่อาจจะจินตนาการออกมาได้

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวม้วนตัวออกไป ขณะที่เริ่มได้รับความรู้แจ้งของสามร้อยแก่นแท้ ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากวิหาร

ผู้ฝึกตนลำดับขั้นทั้งหมดกำลังได้รับความรู้แจ้งอยู่ เช่นเดียวกับผู้ฝึกตนอื่นๆ จากอาณาจักรขุนเขาทะเล เขตพื้นที่วิหารกลางปราศจากเสียงใดๆ โดยสิ้นเชิง นอกจากเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของจักรพรรดิเท่านั้น

จิตใจมันเต็มไปด้วยความมุ่งหวัง ขณะที่รอคอยให้ผู้ฝึกตนลำดับขั้นได้รับความรู้แจ้งจากกฎธรรมชาติและแก่นแท้โดยสมบูรณ์

จ้งอู๋หยายืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความซับซ้อน ขณะที่มองไปยังผู้ฝึกตนลำดับขั้น ในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาออกมา

“แก่นแท้! กฎธรรมชาติ! เต๋าอันยิ่งใหญ่!”

ร่างเต้าเทียนสั่นสะท้าน เริ่มหัวเราะออกมาขณะที่พลังของมันพุ่งทะยานขึ้น ทำให้เกิดเป็นลมพายุพุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว เนื่องจากตราประทับ ทำให้มันได้รับความรู้แจ้งมาทั้งหมดเก้าร้อยแก่นแท้ ด้วยความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากจักรพรรดิ และกระแสปราณของอาณาจักรสายลม ทำให้ตอนนี้มันได้รับความรู้แจ้งทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยแก่นแท้ ความหวังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาอยู่ในจิตใจอย่างช้าๆ และมันก็สามารถจะมองเห็นตนเองกำลังก้าวเดินไปบนเส้นทางของอาณาจักรโบราณเป็นครั้งที่สิบ

“ใครจะไปสนใจถ้ามันเป็นเหยื่อล่อ? ไม่ว่าเจ้าจะส่งมามากมายเท่าใด ข้าก็จะรับมันไว้ทั้งหมด!” เต้าเทียนร้องตะโกนออกมา ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ มันอาจจะหวาดกลัวเมิ่งฮ่าว แต่การที่มันเป็นผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในลำดับขั้น

ก็เป็นการบ่งชี้ว่าพลังและสติปัญญาของมันไม่ธรรมดา ถ้าไม่ใช่เช่นนั้น มันก็คงไม่หลีกเลี่ยงชนเผ่าที่สามครั้งแล้วครั้งเล่า

หลินชงกำลังสั่นสะท้าน เช่นเดียวกับหานชิงเหลย มันไม่มีตราประทับอยู่ในครอบครองแม้แต่ชิ้นเดียว และมีแก่นแท้ดั้งเดิมจากภูเขากั๋วยิ่นในชนเผ่าของมันเพียงแค่สามร้อยแก่นแท้เท่านั้น มันถอดใจต่อสถานการณ์ที่สิ้นหวังของตนเองมานานแล้ว แต่ตอนนี้มันกำลังสั่นสะท้านขณะที่การรู้แจ้งของมัน บรรลุถึงหกร้อยแก่นแท้และยังคงพุ่งสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง

มันไม่สนใจว่าจะเป็นเหยื่อล่อหรือกับดักใดๆ มันไร้ทางเลือกนอกจากต้องทำในสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้ ผู้ฝึกตนมีชีวิตอยู่เพื่อกลายเป็นผู้แข็งแกร่งมากขึ้น และการกระทำเช่นนั้น ทำให้พวกมันไม่สนใจต่ออันตรายใดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นทั้งหมดคุ้นเคยดีอยู่แล้ว

แทนที่จะกล่าวว่านี่คือจุดแข็งของหลินชง สามารถจะกล่าวได้ว่ามันคือ…ตัวแทนของความทะเยอทะยานมากกว่า!

ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับหานชิงเหลย

อวี่เหวินเจียนกำลังหอบหายใจออกมา มันมีแก่นแท้มากกว่าหานชิงเหลยและหลินชงอยู่สามร้อยแก่นแท้ และตอนนี้ก็เริ่มรู้แจ้งได้มากกว่าหนึ่งพันแก่นแท้แล้ว ไม่ใช่ว่ามันไม่เห็นการกระทำของเมิ่งฮ่าว แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ก็ไม่มีอะไรที่จะสำคัญหรือน่าหลงใหลมากไปกว่าแก่นแท้และกฎธรรมชาติ

จากนั้นก็ยังมีผู้ฝึกตนลำดับขั้นเยาว์วัยจากขุนเขาที่ห้า มันกำลังอยู่ในที่ห่างไกลด้วยความระมัดระวังตัว แต่ตอนนี้มันมีท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง และส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปในทั่วทุกทิศทางอย่างฉับพลัน

คนทั้งหมดกำลังเพ่งสมาธิไปที่การได้รับความรู้แจ้ง ทั้งผู้ฝึกตนลำดับขั้นรวมทั้งฝานตงเอ๋อร์และคนอื่นๆ

เมิ่งฮ่าวก็ถูกห่อหุ้มอยู่ในความรู้แจ้งด้วยเช่นกัน เขาได้เปรียบมากที่สุดในคนทั้งหมด และขณะที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาพุ่งกระจายออกไป เนื่องจากความได้เปรียบของเขา ทำให้การได้รับความรู้แจ้งพุ่งทะลวงขึ้นไปในทันที

สองพันแปดร้อยแก่นแท้!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้นขณะที่พลังของเมิ่งฮ่าวปะทุขึ้นมา ก่อตัวเป็นลมพายุที่มองไม่เห็นหมุนวนอยู่รอบๆ ตัว เขาแตกต่างไปจากคนอื่นๆในแง่ของความรู้แจ้ง และกำลังพบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจอย่างฉับพลัน ราวกับว่าเขาเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เขายืนอยู่ที่นั่นจนดูเหมือนว่าจะอยู่เหนือกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด

การเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่กำลังเกิดขึ้นมาอยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว ด้วยการดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไป หลังจากที่ได้รับความรู้แจ้งสองพันแปดร้อยแก่นแท้ มันก็แทบจะแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกันกับเขา

ราวกับว่าถ้าเมิ่งฮ่าวได้รับความรู้แจ้งอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้เกิดเป็นภาพแห่งเต๋าเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้เขาสามารถจะควบคุมผลเนี่ยผานและหลอมรวมกับมันได้!

ด้วยการเข้าใจโลกที่อยู่รอบๆ ตัว ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องทำการหลอมรวมกับผลเนี่ยผาน แต่มันเริ่มหลอมรวมกับเขาเอง!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และดวงตาเมิ่งฮ่าวก็คล้ายกับว่าจะประกอบไปด้วยดวงดาว หรือแม้แต่โลกของเขาเอง

ทันใดนั้นเสียงของจักรพรรดิก็ดังก้องออกมา จนคล้ายกับเป็นการสะกดจิต ทำให้ผู้ฝึกตนลำดับขั้นต่างก็ได้ยินกันทั้งหมด

“เมิ่งฮ่าวได้รับความรู้แจ้งสองพันแปดร้อยแก่นแท้ไปแล้ว ผู้ฝึกตนลำดับขั้นคนอื่นๆ น่าจะเร่งความเร็วมากกว่านี้ มิเช่นนั้น…แก่นแท้โลกอันล้ำค่าที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นวิหารนานหลายปีมาแล้วก็จะกลายเป็นของมัน”

“ในฐานะของจักรพรรดิ ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าได้ และยังจะให้พวกเจ้ายืมกระแสปราณได้มากขึ้น แค่ร้องขอมาที่ข้า กระแสปราณก็จะเป็นของพวกเจ้า!”

เต้าเทียนสั่นสะท้าน เมื่อมันลืมตาขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่ก็กลายเป็นสีแดงก่ำไป ทันใดนั้นก็ฟาดฝ่ามือไปบนศีรษะของตัวเอง ทำให้ทั่วทั้งร่างของมันสั่นไปมา จากนั้นเครื่องหมายลำดับขั้นก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผาก และทันใดนั้นเวทผู้ยิ่งใหญ่ของมันก็ปรากฏขึ้น ไม่ได้โจมตีไปยังเมิ่งฮ่าว แต่ใช้กระตุ้นพลังของมันเอง โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา มันต้องการให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น

“ให้กระแสปราณนั้นแก่ข้า!” มันแผดร้องออกมา ขณะที่เสียงของมันดังก้องออกไป สวรรค์ก็ส่งเสียงดังกระหึ่ม และลำแสงอันเข้มข้นก็พุ่งลงมาบนร่างเต้าเทียน ปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวมัน ทำให้ฝุ่นละอองในบริเวณนั้นลอยขึ้นไปในอากาศ และกลายเป็นลมพายุ เต้าเทียนสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง แต่ดวงตากลับสาดประกายขึ้นมา

ภายใต้แรงกดดันนั้น มันรับรู้ได้ว่าความรวดเร็วในการรู้แจ้งของตนเองได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า!

หนึ่งพันหกร้อย! หนึ่งพันแปดร้อย! สองพันแก่นแท้!

ในตอนที่เต้าเทียนบรรลุถึงสองพันแก่นแท้ มันก็เริ่มหอบหายใจออกมา และประกายแห่งความหลงใหลก็ปรากฏขึ้นในแววตา ราวกับว่าจู่ๆ มันก็มองเห็นเต๋าของตนเอง!

เต๋านั้นดูคลุมเครือ แต่เนื่องจากการช่วยเหลือของสองพันแก่นแท้ ทำให้ตอนนี้สามารถจะกล่าวได้ว่ามันได้ค้นพบเส้นทางของตนเองอย่างแท้จริง!

“มันเป็นเช่นนี้นี่เอง” เต้าเทียนพึมพำ ร่างกายสั่นสะท้าน ดวงตาลุกโชนขึ้นด้วยความปรารถนา “ข้าไม่เคยคิดเลยว่า…ต้องตรวจสอบมันให้มากขึ้นกว่าเดิม!”

หลังจากที่เต้าเทียนร้องขอกระแสปราณ หลินชงและคนอื่นๆ กัดฟันแน่น และจากนั้นก็กระทำตาม พวกมันปลดปล่อยพื้นฐานฝึกตนและใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปอย่างบ้าคลั่ง เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ลำแสงจำนวนมากตกลงมาบนร่างพวกมัน ผู้ฝึกตนลำดับขั้นทั้งหมดกำลังสั่นสะท้าน สีหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย ขณะที่พลังกระแสปราณเหล่านั้น ช่วยให้พวกมันได้รับความรู้แจ้งอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้

พวกมันมีความรวดเร็วเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินชง มันแทบจะบ้าคลั่งไปจากการพ่ายแพ้ให้แก่เมิ่งฮ่าว เป็นสิ่งที่คนเย่อหยิ่งเช่นมันไม่อาจจะยอมรับได้ ในตอนนี้มันกำลังแผดร้องคำรามขึ้น ทุ่มออกมาจนสุดตัวร้องขอกระแสปราณมากกว่าเต้าเทียน

มันถูกปกคลุมด้วยลำแสงที่มีความกว้างหนึ่งร้อยจ้าง และความรวดเร็วในการรู้แจ้งของมันก็แทบจะน่าเหลือเชื่อ ในชั่วพริบตามันก็รู้แจ้งได้มากกว่าหนึ่งพันแก่นแท้ หลังจากนั้นก็เป็นหนึ่งพันสองร้อย, หนึ่งพันห้าร้อย, หนึ่งพันแปดร้อย ในที่สุดก็เป็นสองพันแก่นแท้ ตอนนี้มันอยู่ในอันดับสามในท่ามกลางลำดับขั้นทั้งหมด ตามหลังแค่เมิ่งฮ่าวและเต้าเทียนเท่านั้น

“เมิ่งฮ่าวข้าจะไม่อ่อนด้อยไปกว่าเจ้า!” มันแผดร้องออกมาใบหน้าบิดเบี้ยวขึ้นอย่างดุร้าย ทั่วทั้งร่างกำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ราวกับว่าฌานแห่งความรู้แจ้งของมัน กำลังถูกบังคับให้ยืดยาวออกไปและเป็นวงกว้างมากขึ้น สติสัมปชัญญะของมันมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม และดวงตาก็สาดประกายเจิดจ้าออกมา

“เส้นทางของข้าไม่ถูกต้อง และการเดินไปตามเส้นทางนั้น ก็ไม่เคยทำให้ข้าไปสู่จุดสูงสุดมาก่อน นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น กลายเป็นว่าการเป็นเซียน…เป็นเช่นนี้นี่เอง!” ไม่ชัดเจนว่าสิ่งที่มันเห็นคืออะไรกันแน่ แต่ก็เริ่มหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา

หานชิงเหลยกัดฟันแน่น เมื่อได้เห็นหลินชงและเต้าเทียนกระทำในสิ่งที่พวกมันทำอยู่ ก็ทำให้เกิดเป็นความรู้สึกของการแข่งขันพุ่งขึ้นมาในจิตใจ มันตัดสินใจโยนความระมัดระวังตัวทิ้งไปในสายลม และถึงแม้มันจะคิดว่าการร้องขอกระแสปราณเพิ่มขึ้นจากจักรพรรดิ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ยังคงทำอยู่ดี

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่การรู้แจ้งของมันพุ่งทะยานขึ้นไป ถึงแม้ว่าจะยังไม่บรรลุถึงสองพันแก่นแท้ แต่มันก็สามารถจะทำในสิ่งที่เต้าเทียนและหลินชงเคยทำได้มาก่อน และมองเห็นเป็นเส้นทางของตนเอง

อวี่เหวินเจียนยังคงลังเล ไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไรดี เช่นเดียวกับผู้ฝึกตนลำดับขั้นเยาว์วัยจากขุนเขาที่ห้า

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวจู่ๆ ก็สั่นสะท้านขึ้นมา กลิ่นอายของเขาทำให้เกิดเป็นสีสันแวบขึ้นไป และสายลมขนาดใหญ่ก็พุ่งขึ้นมา แววตาแปลกๆ ปรากฏขึ้น ขณะที่ได้รับความรู้แจ้งของ…สองพันเก้าร้อยแก่นแท้!

ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากสามพันแก่นแท้เพียงแค่หนึ่งร้อยแก่นแท้เท่านั้น!

กลิ่นอายของเขากำลังเปลี่ยนแปลงไป เริ่มมีความแตกต่างกันออกไป ราวกับว่าเขากำลังละทิ้งความเป็นมนุษย์ทั้งหมดไป และกลายเป็นผู้ที่ไม่ธรรมดาไปโดยสิ้นเชิง!

กลิ่นอายเซียนอันเข้มข้นหมุนวนอยู่รอบๆ ตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้ใครก็ตามที่มองมาก็จะเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ต้องการจะก้มศีรษะลงเพื่อกราบกรานเขาในทันที!

แม้แต่สมาชิกลำดับขั้นและผู้ฝึกตนอื่นๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบนี้ด้วยกันทั้งหมด ภายใต้เท้าของเมิ่งฮ่าว หญ้าเขียวและบุปผาเซียนงอกเงยและเบ่งบานขึ้นมา กระจายกลิ่นหอมอันละเอียดอ่อนออกไปในทั่วทุกทิศทาง ในท่ามกลางบุปผาเหล่านั้นยังมีดอกบัวสีน้ำเงินปรากฏขึ้นมาอีกด้วย ส่ายไหวไปมาอย่างอ่อนโยน

“เมื่อมีใครบางคนบรรลุเต๋า คนผู้นั้นก็จะปูทางให้กับคนอื่นๆ ทั้งหมด! เมื่อใครบางคนบรรลุเต๋า ดอกบัวสีน้ำเงินก็จะเบ่งบานขึ้นมา!!”

ฝานตงเอ๋อร์พูดขึ้นมาอย่างกระหืดกระหอบ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่สั่นสะท้านขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ๋าว

ถ้ามีผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าใดๆ มองดูอยู่ พวกมันคงต้องประหลาดใจขึ้นอย่างแน่นอน นั่นเป็นเพราะว่านี่คือนิมิตซึ่งมีเพียงไม่กี่คนในอาณาจักรเต๋าเท่านั้นที่จะเคยพบเจอมา!

ในตอนนี้ ผลเนี่ยผานได้บรรลุถึงขั้นตอนการดูดซับเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าวเป็นครั้งสุดท้าย เขาไม่เคยพบเจอกับสิ่งใดๆ เช่นนี้มาก่อน นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ร้องขอกระแสปราณใดๆ ของอาณาจักรสายลมจากจักรพรรดิ นี่คือความรู้แจ้งแห่งเต๋าที่แท้จริงของเขาเอง!

บางทีอาจจะเป็นเพราะมีหัวใจลำดับขั้นอยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว ทำให้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงที่กำลังเพิ่มขึ้นมาของอาณาจักรสายลมแห่งนี้

อันที่จริงถึงแม้ว่าความรู้แจ้งของเมิ่งฮ่าวกำลังจะลดช้าลงไป แต่เขาก็ยังไม่ยอมร้องขอกระแสปราณ

เสียงของจักรพรรดิดังก้องออกมา เต็มไปด้วยพลังที่แปลกๆ ผ่านเข้าไปในจิตใจของคนทั้งหมดที่ได้ยินเสียงของมัน “เมิ่งฮ่าวได้รับความรู้แจ้งสองพันเก้าร้อยแก่นแท้แล้ว มันเหลืออีกเพียงแค่หนึ่งร้อยแก่นแท้เท่านั้น พวกเจ้าทั้งหลาย…ควรจะเร่งให้เร็วกว่านี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!