ตอนที่ 1514
ผนึก
ในทันทีที่ปราณอสูรเริ่มตอบรับซึ่งกันและกัน ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันลึกล้ำ เขาเคยคาดคิดไว้แล้วว่าจากเสาทั้งห้าต้นเหล่านั้น มีอยู่หนึ่งต้นสำหรับปีศาจ, เทพ, เซียน, มาร และในที่สุดก็เป็น…
อสูร!
เมิ่งฮ่าวเร่งความเร็วขึ้น และในที่สุดก็มาถึงยังเสาขนาดใหญ่ต้นสุดท้ายที่กำลังส่ายไหวไปมา ซึ่งยืดยาวขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก็ยื่นมือออกไปแตะสัมผัส จากนั้นก็ขมวดคิ้ว
ในที่สุดก็ดึงมือกลับมา และดวงตาก็สาดประกายขึ้น
“เสาต้นอื่นๆ ดูเหมือนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้ามากนัก แต่เสาต้นนี้…เป็นตัวแทนของอสูร มีความสอดคล้องกับข้า แต่เมื่อแตะสัมผัสมัน ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น…” เมิ่งฮ่าวไม่แน่ใจว่านั่นหมายความว่าอย่างไร แต่ก็บอกได้ว่าความสอดคล้องนี้เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงเริ่มก่อตัวขึ้นมาอยู่ภายในจิตใจอย่างช้าๆ
ดวงตาสาดประกายขึ้น รีบพุ่งร่างหมุนคว้างออกไป แทนที่จะเสียเวลากับเสาต้นสุดท้ายนี้ เขาตัดสินใจจากไป
ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็ห่างออกไปสิบจ้าง จากนั้นก็หนึ่งร้อยจ้าง เสายังคงสูงตระหง่านอยู่ที่นั่น ยิ่งเมิ่งฮ่าวห่างออกไปไกลมากเท่าใด ความสอดคล้องนั้นก็ยิ่งอ่อนแอลงไปมากขึ้นเท่านั้น
ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะไม่มีปฏิกิริยามากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ภายในใจกำลังตรวจสอบตนเองอยู่ เมื่อบรรลุถึงเขตพื้นที่หนึ่งพันจ้าง ก็ลังเลอยู่เล็กน้อย ถ้าไม่ใช่ว่าไม่ต้องการอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเสาต้นนี้ ก็คงยากที่จะต่อต้านแรงกระตุ้นให้รีบพุ่งกลับไปแตะสัมผัสมันแล้ว
ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็เริ่มเข้าใจถึงอันตรายที่ซุ่มซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
หลังจากที่ผ่านเขตพื้นที่หนึ่งพันจ้างออกไป ดวงตาก็สาดประกายขึ้น และผลักดันตนเองให้พุ่งไปข้างหน้าเร็วมากขึ้น เมื่ออยู่ห่างออกไปไกลหลายพันจ้าง ก็เร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง
แม้ในขณะที่อยู่ห่างออกไปไกลหนึ่งหมื่นจ้าง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็หยุดคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็กัดฟันแน่นและมุ่งหน้ากลับไปยังเสาต้นนั้นอีกครั้ง ไม่นานก็มาถึงจากนั้นก็ยื่นมือออกไปแตะสัมผัสมัน
เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในจิตใจ และขณะที่ปราณอสูรหลอมรวมเข้ากับกลิ่นอายของเสาต้นนั้น ความสอดคล้องก็เริ่มเข้มข้นมากขึ้น และทันใดนั้นก็ตระหนักว่ามีโลกภาพลวงตาอยู่ภายในเสาต้นนี้
ดูคล้ายกับเป็นกลุ่มหมอกแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต ตอนแรกดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรนอกจากกลุ่มหมอก แต่ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็ตระหนักว่าภายในจุดศูนย์กลางของโลกแห่งนี้มีเส้นใยสีแดงอันเจิดจ้าอยู่สายหนึ่ง
เป็นเส้นใยที่ดูคล้ายกับเป็นเส้นโลหิต แต่ก็มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก ในที่สุดก็ตระหนักว่าเส้นใยนี้บิดเบี้ยวไปมาและหมุนวนอยู่รอบๆ ตัวเองเพื่อก่อตัวเป็นรูปร่างของคนผู้หนึ่ง!
มองเห็นแขนขาทั้งสี่ข้าง รวมทั้งศีรษะๆ หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเส้นใยนี้จริงๆ แล้วก็คือเส้นโลหิต และมันกำลังก่อตัวเป็นคนผู้หนึ่งอยู่จริงๆ
ไม่มีผิวหนังหรือโลหิต และไม่มีกระดูกด้วยเช่นกัน มีแต่ระบบของหลอดโลหิตเท่านั้น
อย่างน่าตกใจยิ่ง ปรากฏเป็นผลไม้กำลังเติบโตขึ้นมาจากเส้นโลหิตนี้!
มีทั้งหมดเก้าสิบแปดผล
บ้างก็มีขนาดใหญ่ บ้างก็มีขนาดเล็ก และพวกมันก็มีรูปร่างขึ้นมาจากการก่อตัวของเส้นโลหิต ผลไม้ทั้งหมดแห้งเหี่ยว ราวกับว่าชีวิตและแกนกลางของพวกมันถูกดูดซับไป เพื่อสร้างเป็นรูปร่างของคนผู้หนึ่ง
เมื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียดมากขึ้น ก็เห็นได้ชัดว่าผลไม้เหล่านั้นมีใบหน้าที่แตกต่างกันออกไป ดวงตาของใบหน้าเหล่านั้นปิดอยู่ทั้งหมด สงบนิ่งไม่ไหวติงโดยสิ้นเชิง
ขณะที่เมิ่งฮ่าวตรวจสอบดูทั้งหมด จิตใจก็เริ่มเต้นรัวขึ้นมา ในที่สุดสายตาก็ตกกระทบไปบนผลที่เก้าสิบแปดและใบหน้าที่อยู่บนนั้น อย่างน่าตกใจยิ่งที่ใบหน้านั้น…เป็นใบหน้าเดียวกันกับผู้ที่พยายามจะมาขัดขวางเมิ่งฮ่าวในขั้นตอนการเรียกกระจกทองแดง ซึ่งก็คือหลัวเทียนสือเจ่อ
ซงเต้าจื่อนั่นเอง!
“ใบหน้าเหล่านี้…” เมิ่งฮ่าวหอบหายใจออกมา ขณะที่จู่ๆ ก็มีความคิดผุดขึ้นมา เป็นความคิดที่น่ากลัวจนทำให้จิตใจต้องหมุนคว้างไปโดยสิ้นเชิง
“ใบหน้าเหล่านี้ทั้งหมดคือบุคคลที่เปลี่ยนจากเซียนกลายเป็นอสูร…จากสมัยโบราณเป็นต้นมาจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ มีผู้คนที่เหมือนกับซงเต้าจื่ออยู่มากมาย ทั้งหมดนั้นได้กลายเป็น…อสูร! ไม่ถูกต้อง อสูรที่แท้จริงยังไม่ปรากฏขึ้นมา มิเช่นนั้นเสาต้นนี้ก็จะดูแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง!”
“คนเหล่านี้ทั้งหมด…กลายเป็นอาหารให้โครงร่างของคนผู้นี้ ในตอนที่พวกมันกำลังจะกลายเป็นอสูรที่แท้จริง!” จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้างยังภาพของใบหน้าทั้งหมดบนผลไม้เหล่านั้น รวมทั้งเส้นโลหิตที่ก่อตัวกันเป็นรูปเป็นร่างของคนผู้หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าร่างนั้น…ไม่สมบูรณ์ ยังขาดผลไม้ผลสุดท้ายอยู่
ตำแหน่งที่ว่างเปล่านั้นน่าจะเป็นหัวใจ ถ้ามีผลไม้อยู่ที่นั่น เค้าโครงร่างของคนผู้นี้ก็จะสมบูรณ์แบบ
แทบจะในทันทีที่สายตาเมิ่งฮ่าวตกกระทบไปยังตำแหน่งที่ว่างเปล่าของหัวใจ ดวงตาของใบหน้าทั้งเก้าสิบแปดหน้าจู่ๆ ก็ลืมขึ้นมา และมองมายังเมิ่งฮ่าวในทันที
จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้างไปมา หนังศีรษะลุกขึ้นตั้งชี้ชัน ใบหน้าทั้งเก้าสิบแปดที่กำลังจ้องมองมานี้ ทำให้ต้องนึกย้อนไปถึงหลัวเทียนจื่อทั้งเก้าสิบแปดคนเหล่านั้น
แม้ในขณะที่เมิ่งฮ่าวเริ่มดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมา ใบหน้าทั้งเก้าสิบแปดต่างก็ยิ้มออกมากันทั้งหมด
เป็นรอยยิ้มที่ดูน่ากลัว ลี้ลับอย่างถึงที่สุด และในทันทีที่ปรากฏขึ้น ใบหน้าเหล่านั้นก็พูดขึ้นมา
“เจ้าคือชิ้นส่วนที่หายไป…อย่าได้จากไป…อย่าได้จากไป…”
เสียงแปลกๆ เหล่านั้นดังก้องไปมาในโลกแห่งนี้ และจิตใจเมิ่งฮ่าวก็หมุนคว้าง ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่าปราณอสูรแทบจะปะทุขึ้นมา
เวลาเดียวกันนั้นใบหน้าเหล่านี้ก็เริ่มกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวทีละสาย
เมิ่งฮ่าวไม่มีเวลาที่จะทำอะไรนอกจากตัดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป ตรงด้านนอกเสาต้นนั้นเมิ่งฮ่าวรีบดึงมือกลับมา และถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว
แทบจะในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เสาก็เริ่มสั่นสะเทือน และใบหน้าทั้งเก้าสิบแปดก็พุ่งออกมาจากเสาต้นนั้น เข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงด้านนอกความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตในทันที โดยไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย พวกมันเริ่มพุ่งตรงมายังทิศทางเมิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว
ขณะที่พวกมันใกล้เข้ามา เมิ่งฮ่าวก็ขยับสองมือร่ายเวท และปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกไป ภูเขาจำนวนมากตกลงมาเพื่อปิดกั้นเส้นทางของใบหน้าเหล่านั้น แต่ใบหน้าแปลกๆ เหล่านั้นก็พุ่งผ่านภูเขาตรงมายังเมิ่งฮ่าวได้อย่างง่ายดาย
สีหน้าเมิ่งฮ่าวสลดลง และต่อยหมัดออกไปด้วยมือขวา หมัดพิฆาตมารทำให้เกิดเป็นลมพายุขนาดใหญ่ แต่ใบหน้าเหล่านั้นก็ไม่สนใจโดยสิ้นเชิง และในที่สุดก็มาอยู่ตรงเบื้องหน้า ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะใช้วิชาเวทอะไรออกไป ก็ไม่อาจจะสกัดกั้นพวกมันไว้ได้
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร แค่นเสียงเย็นชา ทันใดนั้นชุดเกราะกระจกทองแดงก็ปรากฏขึ้น และอาวุธสงครามก็กรีดเฉือนลงไป แยกความว่างเปล่าออกเป็นสองส่วน ทำให้เกิดเป็นรอยแตกขนาดใหญ่ แยกเมิ่งฮ่าวออกไปจากใบหน้าเหล่านั้น
ครั้งนี้ดูเหมือนว่าใบหน้าเหล่านั้นยากที่จะพุ่งไปข้างหน้าได้ อันที่จริงใบหน้านับสิบถูกแยกออกเป็นสองส่วนด้วยเช่นกัน แต่พวกมันก็ไม่ได้กระจัดกระจายหาย พยายามพุ่งตรงมาเหมือนเช่นเคย
เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่องด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง ไม่ว่าเขาจะคิดอะไรออกมาเพื่อจัดการกับสถานการณ์ในตอนนี้ ก็ไม่มีความคิดใดที่ได้ผล เขาส่งปราณอสูรออกไป ได้แต่มองดูขณะที่ใบหน้าเหล่านั้นกลืนกินลงไป เห็นได้ชัดว่าปราณอสูรเหมือนกับเป็นเชื้อเพลิงสำหรับพวกมัน
สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป พร้อมกับเคลื่อนที่ต่อไป ติดตามมาด้วยฝูงใบหน้า พวกมันไล่ตามมาทันอย่างรวดเร็ว และเริ่มห้อมล้อมอยู่รอบๆ ปิดกั้นเส้นทางไว้ จากนั้นก็ยิ้มอย่างแปลกๆ และพุ่งตรงมาพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง
พวกมันกัดลงไปบนเนื้อของเมิ่งฮ่าว ด้วยความตั้งใจที่จะขบเคี้ยวร่างกายและกลืนกินเขาลงไป
“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวร้องตวาด ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชา พลังการฝึกตนปะทุออกไป และอาวุธสงครามก็แวบขึ้นขณะที่กรีดเฉือนลงไป เกิดเป็นสายลมอันรุนแรงม้วนกวาดออกไปในทั่วทุกทิศทาง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลกระทบต่อใบหน้าเหล่านั้นแม้แต่น้อย
เส้นเลือดเขียวปะทุขึ้นมาอยู่บนใบหน้าเมิ่งฮ่าว พร้อมกับกัดฟันแน่นอย่างรุนแรง ในตอนนี้เองที่ตะเกียงสัมฤทธิ์เปล่งแสงอันเจิดจ้าออกมาทั่วทุกทิศทาง และใบหน้าเหล่านั้นก็สั่นสะท้าน กรีดร้องออกมาขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง
ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และฉวยโอกาสหลบหนีจากไป
อย่างไรก็ตาม แทบจะในทันทีที่เขาหลบหนีออกมาจากใบหน้าเหล่านั้น
พวกมันก็พุ่งตรงมาอีกครั้ง แสงของตะเกียงสัมฤทธิ์ยังคงทำให้พวกมันต้องกรีดร้องออกมา แต่ก็ไม่ยอมแพ้ พวกมันกล้ำกลืนความเจ็บปวด และพยายามที่จะกัดกินร่างกายของเมิ่งฮ่าวอีกครั้ง
แสงอันเข้มข้นจากตะเกียงสัมฤทธิ์ทำให้พวกมันสั่นสะท้านจนแทบละลายไป แต่กลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวก็เป็นสิ่งที่พวกมันต้องการ เป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นอาหารสำหรับพวกมัน…ปราณอสูร
ปราณอสูรของเมิ่งฮ่าวเองถูกใบหน้าเหล่านั้นดูดกลืนลงไป เพื่อหล่อเลี้ยงพวกมัน ทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้น สามารถจะต่อต้านแสงของตะเกียงสัมฤทธิ์ได้
เมิ่งฮ่าวทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ดวงตาแดงก่ำโดยสิ้นเชิง ตอนที่ถูกหานเป้ยส่งออกมาอยู่ด้านนอกความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต เขาได้พบเห็นความลับมาอย่างมากมาย และสามารถจะขจัดความสงสัยได้หลายอย่าง แต่ก็ทำให้ต้องตกอยู่ในอันตรายอันน่ากลัวอย่างน่าเหลือเชื่อ
ไม่ว่าจะเป็นภาพลวงตาที่มีเฉินฝานเป็นส่วนประกอบ หรือว่าการมาถึงของคนที่เป็นเจตจำนงแห่งหลัวเทียน หรือใบหน้าเหล่านี้ ถ้าเกิดผิดพลาดเพียงเล็กน้อยต่อสถานการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ ก็จะนำไปสู่ความตายตราบชั่วนิรันดร์!
เมิ่งฮ่าวสามารถจะคาดเดาได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ฝึกตนทั้งเก้าสิบแปดคนที่คล้ายกับซงเต้าจื่อซึ่งเป็นตัวแทนของใบหน้าเหล่านี้
พวกมันเป็นบุคคลที่บรรลุถึงจุดๆ เดียวกัน และไม่มีใครสามารถจะหลบหนีจากไปได้ ในที่สุดพวกมันก็ถูกกำจัดไปทั้งหมด กลายเป็นส่วนประกอบของโครงร่างคนผู้นั้นที่เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะพบเห็นมา
สำหรับเมิ่งฮ่าว เขาเพิ่งจะขจัดภาพลวงตาและขับไล่เจตจำนงแห่งหลัวเทียนจากไปได้ แต่ก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับใบหน้าเหล่านี้ ไม่ว่าจะต้องการอย่างไรก็ตาม
ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงเข้ม เริ่มรู้สึกว่ากำลังพ่ายแพ้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ร่างจำแลงของตนเองแทบจะทำภารกิจได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ซึ่งก็หมายความว่าเวทรุ่นเก้าก็ใกล้จะสมบูรณ์แบบมากขึ้น เข้าไปใกล้จุดเหนือสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แต่ในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างแทบจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ฉับพลันนั้นความรู้สึกเกลียดชังหานเป้ยก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจอย่างลึกล้ำ
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อใบหน้าเหล่านั้นเริ่มกัดกินร่างกายของเมิ่งฮ่าวลงไป เขมือบพลังชีวิต ปราณอสูร วิญญาณ ทุกสรรพสิ่งของเขาไป
เพียงชั่วขณะร่างเมิ่งฮ่าวก็แห้งเหี่ยวลงไปอย่างถึงที่สุด ราวกับว่าเป็นโชคชะตาที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็ไม่ยอมที่จะเชื่อเช่นนั้น ยกมือขวาขึ้นมา เตรียมตัวที่จะเรียกไพ่ไม้ตายใบสุดท้ายออกมา เป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เคยใช้มาก่อน จนกว่าจะไร้ทางเลือกใดๆ เหลืออยู่ ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไปในการใช้มันสูงลิ่วจนยากจะคาดคิดได้
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงกรีดร้องแหลมเล็กก็ดังก้องออกมาจากภายในชุดเกราะ ฉับพลันนั้นนกแก้วก็บินออกมา!
สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว!