Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1576

ตอนที่ 1576

สิ่งมีชีวิตทั้งปวงน้อมคำนับ

เจ็ดก้าวเทพ

นี่คือวิชาเวทที่สามารถสร้างเป็นพลังระเบิดขึ้นมาได้หลายเท่าตัว และจริงๆ แล้วก็เป็นวิชาเวทดั้งเดิมจากอาณาจักรมาร ตอนนี้เมิ่งฮ่าวกำลังเกื้อหนุนวิชาเวทนี้ด้วยพลังเหนือสูงสุด ทำให้บรรลุถึงระดับอันน่ากลัวอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้

ถ้าใช้คำว่าสวรรค์พังทลายปฐพีแตกกระจายมาอธิบาย ก็คงจะไม่เกินเลยไปแม้แต่น้อย เพราะว่าในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวกำลังทำให้สวรรค์พังทลายและปฐพีก็แตกกระจายออกไปจริงๆ

ตูมมมมมมม!

เมื่อก้าวที่เจ็ดเหยียบย่างลงไป ยักษ์ที่ก่อตัวขึ้นมาจากอาณาจักรมาร ซึ่งเป็นการปรากฏตัวของเจตจำนงแห่งหลัวเทียน ก็สั่นไปทั้งร่างอย่างรุนแรง

จากนั้นศีรษะก็แตกกระจายไป กลายเป็นเศษซากปรักหักพังนับไม่ถ้วน พุ่งระเบิดออกไปทั่วทุกทิศทาง

จากนั้นเป็นส่วนลำคอ ลำตัว ท่อนแขน และสองขา…เสียงกระหึ่มดังก้องออกมา ขณะที่ยักษ์ตนนี้ซึ่งสามารถจะทำให้แม้แต่ผู้แข็งแกร่งเก้าแก่นแท้ก็ยังต้องสั่นสะท้าน ระเบิดขึ้น ส่งผลให้เกิดเป็นระลอกคลื่นพุ่งกระจายออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

“หลัวเทียน ออกมาต่อสู้กับข้า!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น โบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ทำให้ลมพายุขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมา

คำพูดเหล่านี้ไม่ได้ดังก้องมากนัก แต่ก็ประกอบไปด้วยกฎธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ กลายเป็นระลอกคลื่นที่ม้วนกวาดออกไปด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อ สิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่โจมตีมาต่างก็ถูกม้วนกวาดออกไปด้วยระลอกคลื่นนี้ กระอักโลหิตออกมาและจากนั้นก็ฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ กลายเป็นเถ้าธุลีไปในทันที

 

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือนไปทั่ว ดวงดาวนับไม่ถ้วนสั่นสะท้าน ดินแดนกว้างใหญ่แตกกระจาย ดาวเคราะห์กลายเป็นเถ้าธุลี อาณาจักรที่อยู่ตรงด้านนอกทั้งหมด กระแสน้ำวนทั้งปวง โลกนับไม่ถ้วนต่างก็สั่นไหวไปมาภายใต้เสียงของเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวกลายเป็นผู้แข็งแกร่งมากที่สุดภายในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตนี้ และกำลังท้าทายเจตจำนงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนี้ ซึ่งก็คือ…หลัวเทียน!

ด้วยระลอกคลื่นนี้ กระอักโลหิตออกมาและจากนั้นก็ฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ กลายเป็นเถ้าธุลีไปในทันที

 

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือนไปทั่ว ดวงดาวนับไม่ถ้วนสั่นสะท้าน ดินแดนกว้างใหญ่แตกกระจาย ดาวเคราะห์กลายเป็นเถ้าธุลี อาณาจักรที่อยู่ตรงด้านนอกทั้งหมด กระแสน้ำวนทั้งปวง โลกนับไม่ถ้วนต่างก็สั่นไหวไปมาภายใต้เสียงของเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวกลายเป็นผู้แข็งแกร่งมากที่สุดภายในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตนี้ และกำลังท้าทายเจตจำนงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนี้ ซึ่งก็คือ…หลัวเทียน!

แต่ดูเหมือนว่าเจตจำนงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจะไม่ยอมตอบรับเมิ่งฮ่าวแม้แต่น้อย ผู้ที่ตอบรับคำพูดของเขามาจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ภายในจิตใจของพวกมันจู่ๆ ก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า

ฆ่า! ฆ่าให้หมด! ไม่ต้องลังเลใดๆ!

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวถูกแปดเปื้อนไปด้วยสีแดงของโลหิต ถึงแม้ว่าจะไร้สิ่งมีชีวิตเหลืออยู่ เจ้าก็ต้องสังหาร!

สำหรับหลัวเทียนแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งปวงในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตไม่มีความสำคัญแม้แต่น้อย สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวก็คือภัยคุกคามจากเมิ่งฮ่าวเท่านั้น หลัวเทียนต้องตอบรับอย่างไร้ทางเลือก และรู้สึกหวาดกลัวอย่างน่าเหลือเชื่อด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะมาเผชิญหน้าต่อสู้กับเมิ่งฮ่าว ถ้าความตายของสิ่งมีชีวิตในความว่างเปล่าไร้ขอบเขตสามารถจะเปิดเผยจุดอ่อนของเขาได้ ทั้งหมดนั้นก็น่าจะคุ้มค่า หลัวเทียนต้องการสังเกตดูแก่นแท้ของเมิ่งฮ่าว ต้องการเข้าใจเต๋าของเมิ่งฮ่าว ต้องการจดจำวิชาเวทของเขา ต้องการเข้าใจเมิ่งฮ่าว เพื่อให้มีความมั่นใจมากขึ้น ก่อนที่จะมาต่อสู้กับเขาโดยตรง!

 

เสียงต่อสู้ดังก้องขึ้นไปในทันที ขณะที่สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนโจมตีมาด้วยดวงตาสีแดงก่ำอย่างบ้าคลั่ง ผู้ฝึกตนจากชางหมางพ่ายไม่อาจจะต่อต้านกับพลังโจมตีมาเช่นนี้ได้ ทำให้ต้องถอยร่นไปทางด้านหลังอย่างช้าๆ กองกำลังศัตรู…มีจำนวนมากจนเกินไป

มีมากมายจนยากที่จะอธิบายได้ ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่ง

ความว่างเปล่าไร้ขอบเขต ต่างก็มาเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้

มองเห็นผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนั้นกำลังโจมตีมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเองแม้แต่น้อย และยังได้ทำการระเบิดตัวเองไปอีกด้วย

เมิ่งฮ่าวมองไปยังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ และจากนั้นก็หลับตาลง แต่ก็เพียงแค่หนึ่งอึดใจเท่านั้น จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง และดวงตาทั้งคู่ก็สาดประกายอันเย็นชาดุร้ายขึ้นมา เดินตรงไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ปรากฏกายขึ้นตรงทิศตะวันตกของสนามรบ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่มองเห็นเมิ่งฮ่าวพุ่งลงมา ต่างก็เริ่มสั่นสะท้านจากภายในส่วนลึกของจิตใจ

“ในนามของข้า, เมิ่งฮ่าว จงผนึกสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในบริเวณนี้ไว้!” ด้วยเช่นนั้นเขาก็ยกมือขวาขึ้นมา จากนั้นก็ฟาดลงไป บางสิ่งที่คล้ายกับเสียงกู่ร้องได้ยินขึ้นมา กฎธรรมชาติถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลงไป สิ่งมีชีวิตทั้งปวงเริ่มสั่นสะท้าน ขณะที่พื้นฐานฝึกตนและพลังชีวิตของพวกมันถูกเปลี่ยนไป จากการเปลี่ยนแปลงของกฎธรรมชาติ พื้นฐานฝึกตนของพวกมันเริ่มพังทลายลงไป และพลังชีวิตก็ลดน้อยลง ในชั่วพริบตาสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนก็กลายเป็นซากศพไป

ซากศพจำนวนมากลอยอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่เพียงคนเดียว ลอยตัวอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน แต่ก็ไร้วี่แววความเสียใจ ขณะที่มองไปยังกลุ่มสิ่งมีชีวิตอีกสามทิศทางด้วยสายตาที่เย็นชา

เสียงหอบหายใจดังก้องออกมา แต่เจตจำนงแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต ก็คอยย้ำเตือนพวก

ขึ้นมา จากนั้นก็ฟาดลงไป บางสิ่งที่คล้ายกับเสียงกู่ร้องได้ยินขึ้นมา กฎธรรมชาติถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลงไป สิ่งมีชีวิตทั้งปวงเริ่มสั่นสะท้าน ขณะที่พื้นฐานฝึกตนและพลังชีวิตของพวกมันถูกเปลี่ยนไป จากการเปลี่ยนแปลงของกฎธรรมชาติ พื้นฐานฝึกตนของพวกมันเริ่มพังทลายลงไป และพลังชีวิตก็ลดน้อยลง ในชั่วพริบตาสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนก็กลายเป็นซากศพไป

ซากศพจำนวนมากลอยอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่เพียงคนเดียว ลอยตัวอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน แต่ก็ไร้วี่แววความเสียใจ ขณะที่มองไปยังกลุ่มสิ่งมีชีวิตอีกสามทิศทางด้วยสายตาที่เย็นชา

เสียงหอบหายใจดังก้องออกมา แต่เจตจำนงแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต ก็คอยย้ำเตือนพวกมันด้วยความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อคิดว่าพวกมันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับเมิ่งฮ่าว ซึ่งมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อจนคาดไม่ถึง ก็แทบไม่อาจจะรวบรวมพลังเพื่อขยับร่างเคลื่อนไหวได้ และจิตใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวโดยสิ้นเชิง

“ใครก็ตามที่โขกศีรษะ ขานชื่อข้าออกมา เพื่อยอมจำนน ก็สามารถจะคงอยู่ภายในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งนี้ได้ต่อไป”

“ใครที่ต่อต้านก็จะตายไปพร้อมกับหลัวเทียน” ภาพที่เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น ถูกห้อมล้อมด้วยซากศพนับไม่ถ้วน ทำให้คำพูดเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะยิ่งดังกระหึ่มไปมากกว่าเดิม

ขณะที่ความรู้สึกหวาดกลัวเติมเต็มอยู่ในจิตใจของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง เจตจำนงแห่งหลัวเทียนก็บดขยี้ลงไปยังพวกมัน ด้วยพลังที่รุนแรงมากขึ้น คล้ายกับเป็นเสียงแผดร้องคำรามจนทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องสั่นสะท้าน ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ เริ่มโจมตีไปอีกครั้ง เวลาเดียวกันนั้นสิ่งมีชีวิตอีกมากมายก็ปรากฏขึ้นในที่ห่างไกล

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้วแค่นเสียงเย็นชา ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร ขณะที่เดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว เวลาเดียวกันนั้นก็กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาราวน้ำแข็ง

“ข้าขอตัดสิทธิ์ในการฝึกตนของพวกเจ้า และดับเปลวไฟแห่งพลังชีวิตของพวกเจ้าไปด้วยเช่นกัน” ในทันทีที่พูดจบ ความว่างเปล่าก็สั่นสะท้าน และเริ่มพังทลายลงไป โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ขณะที่คุณสมบัติในการฝึกตนซึ่งอยู่ในสายโลหิตพวกมันหลอมละลายไปในทันที

เปลวไฟพลังชีวิตของพวกมันก็ดับลงไปด้วยเช่นกัน โลหิตพ่นกระจายออกมาทั่วทุกทิศทางมากยิ่งขึ้น และในที่สุดก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกเลยนอกจากแนวซากศพเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น มองไปรอบๆ ยังสิ่งมีชีวิตแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต ไม่พูดจาใดๆ ตัดสินใจยกมือขวาขึ้นมา เท่าที่เห็นสิ่งที่เขาต้องทำทั้งหมดก็คือลดมือข้างนั้นลงมา และสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็จะถูกกำจัดไปทั้งหมด

นี่คือระดับพลังอันน่าเหลือเชื่อของเหนือสูงสุด จิตใจของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในที่แห่งนั้นพังทลายลงไป พวกมันกำลังสั่นสะท้าน หวาดกลัวจนไม่อาจจะขยับร่างเคลื่อนไหวได้ และถึงแม้ว่าเจตจำนงแห่งหลัวเทียนจะฟาดโบยลงมา แต่พวกมันก็ยังไม่ลืมภาพอันน่ากลัวที่เพิ่งจะเกิดขึ้นมานี้ ทำให้เจตจำนงแห่งหลัวเทียนต้องเริ่มพังทลายลงไป

ยากที่จะบอกได้ว่าใครเริ่มต้นก่อนเป็นคนแรก สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันของความว่างเปล่าไร้ขอบเขตคุกเข่าลงไป ด้วยจิตใจที่งุนงง เต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวายโดยสิ้นเชิง

“ข้ายอมจำนน…”

“ข้ายอมจำนน!”

“พวกเรายอมจำนน…” เสียงนับไม่ถ้วนดังก้องออกมาทั่วทั้งบริเวณนั้น รวมทั้งสิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่ใกล้เข้ามาจากที่ห่างไกลก็เต็มไปด้วยเสียงที่หวาดกลัว

ในช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งมีชีวิตทั้งปวงต่างก็ยอมจำนนกันทั้งหมด!

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่นในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว มองออกไปยังที่ห่างไกล ดวงตาสาด

ประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร

“หลัวเทียน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!” เมิ่งฮ่าวตวาดออกไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!