บทที่ 1205 เขย่าคลอนจักรพรรดิแส
เสียงของป๋ายเสี่ยวฉุนดังไปทั่วฟ้าดิน นักพรตของราชวงศ์จักรพรรดิแสที่อยู่รอบด้านยังไม่มีใครฟื้นคืนสติจากความสะท้านสะเทือนก่อนหน้านี้ ส่วนนักพรตของโลกทงเทียนที่ซ่อนตัวปะปนอยู่ในกลุ่มคนก็ตะลึงลานไปกับความน่ายินดีที่มาเยือนอย่างกะทันหันเช่นกัน…ประโยคนี้ของป๋ายเสี่ยวฉุนจึงเป็นเหมือนอสนีบาตที่ผ่าเปรี้ยงลงมากลางใจของทุกผู้ทุกคน!
“จักรพรรดิแส?!!”
“สวรรค์ หรือว่าจักรพรรดิแสมาเอง!!”
“ฮ่าๆ เจ้าป๋ายเสี่ยวฉุนผู้นี้ตายแน่ หากองค์จักรพรรดิแสลงมือ ตลอดทั้งดินแดนเซียนนิรันดร์กาลแห่งนี้นอกจากจักรพรรดิเซิ่งแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีทางรองรับไฟโทสะของเขาได้!”
นักพรตของราชวงศ์จักรพรรดิแสทั้งหมดที่อยู่รอบด้านเหมือนหาความมั่นใจกลับคืนมาได้อีกครั้ง เวลานี้น้ำเสียงแห่งความฮึกเหิมของพวกเขาจึงดังก้องไปทั่ว ขณะเดียวกันบนท้องฟ้า จุดที่ป๋ายเสี่ยวฉุนเพ่งสายตามองไป ความว่างเปล่าตรงนั้นก็พลันบินเบือน ก่อนที่เงาร่างหนึ่งจะเดินออกมาจากด้านในช้าๆ
เมื่อเผยกาย เมื่อร่างปรากฏเด่นชัด ชุดคลุมจักรพรรดิสีทองอร่ามและมงกุฎจักรพรรดิทำให้คนที่เดินออกมาผู้นี้ มองดูแล้วเรือนกายสูงเพรียว ขณะเดียวกันก็มีเสน่ห์และความเผด็จการที่ไม่จำเป็นต้องจงใจแสดงออกก็ยังสามารถเขย่าคลอนได้แปดทิศ!
ทั้งยังมีริ้วคลื่นขุมหนึ่งที่เป็นของบุพกาลแผ่ซ่าน ประดุจผู้สูงส่งแห่งใต้หล้าที่พอปรากฏกายก็เหมือนกลายมาเป็นเจ้าของบ้านที่เดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง พลังอำนาจเช่นนี้ ต่อให้เป็นป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยังต้องหรี่ตาลงน้อยๆ
เขาก็คือ จักรพรรดิแส!
“ถวายบังคมฝ่าบาท!”
“ฝ่าบาท!!”
“องค์จักรพรรดิแส!!” เสียงเรียกขานมากมายดังกระหึ่มขึ้นมาจากนอกนครหินยักษ์ วินาทีนี้คนแทบทุกคนต่างก็พร้อมใจกันหันไปคารวะกราบกรานจักรพรรดิแสที่เผยกายบนท้องฟ้า
จักรพรรดิแสมีสีหน้านิ่งเฉย ดวงตาเป็นประกายเยียบเย็น ต่อให้ไม่แสดงความโกรธก็เต็มไปด้วยบารมีน่าเกรงขาม เขาหันไปพยักหน้าน้อยๆ ให้กับกลุ่มคนที่อยู่บนพื้นก่อน จากนั้นถึงได้กวาดตามาที่ป๋ายเสี่ยวฉุน
“ป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้ารู้ความผิดของตัวเองหรือไม่” จักรพรรดิแสเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย
ป๋ายเสี่ยวฉุนสูดลมหายใจเข้าลึก บัดนี้ในดวงตาเขาเปี่ยมล้นไปด้วยปณิธานแห่งการต่อสู้ ที่เขารออยู่ก็คือเวลานี้นี่แหละ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะเอ่ยคำใด เพียงยกเท้าก้าวเดินมาข้างหน้า ตรงดิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
จักรพรรดิแสแค่นเสียงเย็นในลำคอ ยกมือขวาขึ้นโบกหนึ่งครั้ง การโบกครั้งนี้มองดูเหมือนธรรมดา แต่กลับมีลมพายุหมุนคว้างเทียมฟ้าระเบิดซัดครืนครั่นไปรอบด้าน
อีกทั้งในลมพายุนี้ยังมีริ้วคลื่นและอำนาจจิตขุมหนึ่งที่มีเฉพาะในบุพกาลเท่านั้น ซึ่งมันได้เยื้องกรายลงมาสยบป๋ายเสี่ยวฉุนแบบไร้รูปลักษณ์!
เสียงตูมตามดังสะเทือนไปทั้งฟ้าดิน ป๋ายเสี่ยวฉุนเพิ่งจะเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว รอบกายก็ถูกล้อมวนไปด้วยพายุลูกนี้ ซ้ำยังถูกอำนาจจิตที่ดิ่งลงมาจากท้องฟ้าตรงเข้ากดกำราบ!
อำนาจจิตนี้ซุกซ่อนปณิธานแห่งบุพกาล ทั้งยังแฝงเร้นไว้ด้วยความคิดจำนวนนับไม่ถ้วน สำหรับบุพกาลแล้ว การควบคุมพลังแห่งความคิดสามารถทำได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ยกฝ่ามือเท่านั้น
แล้วก็เพราะความเหนือกว่าในด้านของพลังความคิดนี้ เทียนจุนจึงไม่สามารถประมือกับบุพกาลในสถานการณ์ทั่วไปได้เลย เพราะแค่บุพกาลแผ่คลื่นพลังความคิดออกมาก็สามารถกำราบเทียนจุนได้อย่างอยู่หมัดแล้ว!
ที่ครั้งนั้นจักรพรรดิแสไม่ได้ใช้พลังแห่งความคิดก็เพราะต้องการล่อให้ป๋ายเสี่ยวฉุนเปิดใช้การนำส่ง เพื่อที่ตัวเองจะได้ฉวยโอกาสติดตามเข้าไปในซากพัด ทว่าตอนนี้…เขารู้ดีว่าตนไม่มีความหวังกับซากพัดอีกแล้ว ซ้ำปราณผู้บงการเสี้ยวหนึ่งที่แฝงอยู่ในหมัดของป๋ายเสี่ยวฉุนก่อนหน้านี้ก็ทำให้เขาตะลึงไปเช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุให้เขาร่ายใช้พลังแห่งความคิดออกมาสยบอีกฝ่ายในเวลานี้!
ป๋ายเสี่ยวฉุนรู้สึกเพียงว่าฟ้าดินรอบด้านเหมือนจะแข็งตัว แรงขับไล่ที่รุนแรงขุมหนึ่งส่งมาจากฟากฟ้า ส่งมาจากพื้นดิน ระเบิดมาจากความว่างเปล่ารอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นโลกใบนี้หรือคนที่อยู่ในโลกใบนี้ก็เหมือนจะพากันขับไล่ไสส่งตนออกไปอย่างรุนแรง!
แรงแห่งการขับไล่นี้ก่อกลายมาเป็นอานุภาพสยบ ซึ่งพริบตาเดียวก็จำแลงมาเป็นพละกำลังมหาศาลไร้ที่สิ้นสุดขุมหนึ่งซึ่งกระแทกลงมากดทับบนร่างของป๋ายเสี่ยวฉุน เป็นเหตุให้ร่างของเขาดิ่งฮวบลงสู่พื้นดินท่ามกลางลมหายใจที่หอบกระชั้น!
นี่ก็คือการควบคุมที่บุพกาลมีต่อพลังแห่งความคิด แล้วก็เป็นผลลัพธ์ที่เทียนจุนซึ่งอยู่ต่อหน้าบุพกาลไม่สามารถโต้ตอบกลับคืนได้!
อีกทั้งตอนที่ป๋ายเสี่ยวฉุนต่อสู้กับทาสบุพกาลบนพัดวิเศษก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เพราะถึงแม้ว่าทาสบุพกาลจะเป็นบุพกาล แต่ก็ไม่มีที่ดินและประชากรให้ดึงเอาพลังแห่งความคิดมาใช้ได้เฉกเช่นจักรพรรดิแส!
เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิแสเพียงแค่โบกมือก็สามารถกดกำราบป๋ายเสี่ยวฉุนให้ร่วงดิ่งลงมาได้ เสียงไชโยโห่ร้องก็พลันดังกระหึ่มจากรอบด้าน ทว่าเสียงนี้เพิ่งจะดังสะท้อนออกไปก็พลันถูกกลบทับด้วยเสียงแผดคำรามที่ดังออกมาจากปากป๋ายเสี่ยวฉุน
ป๋ายเสี่ยวฉุนร้องคำราม ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ เมื่อเงยหน้าขึ้น บนร่างของเขาก็พลันระเบิด…ปราณแห่งผู้บงการ!!
ปราณนี้ล้วนระเบิดมาจากมือขวาของเขาทั้งหมด คนนอกสัมผัสได้ไม่ชัดเจนนัก ทว่าจักรพรรดิแสกลับม่านตาหดตัว สีหน้าก็เปลี่ยนมาเป็นเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด ประกายเยียบเย็นเปล่งวาบขึ้นในดวงตา
ยกมือขวาขึ้นทำมุทราแล้วตบใส่ป๋ายเสี่ยวฉุน!
วินาทีที่ฝ่ามือนี้ตบลงมา ท้องฟ้าก็เหมือนถูกกรีดออกมาส่วนหนึ่ง ก่อนจะกลายมาเป็นเค้าโครงของฝ่ามือข้างหนึ่ง ขณะเดียวกันพื้นดินก็เหมือนจะหายไปหนึ่งส่วน ซึ่งส่วนที่หายไปนี้ได้มาปรากฏบนท้องฟ้า ประกอบภาพเค้าโครงนี้ให้สมบูรณ์แบบ!
ตามมาติดๆ ด้วยลม ฝน พายุ สายฟ้า…แม้แต่น้ำทะเลในมหาสมุทรหย่งเหิงก็ยังรวมอยู่ในนี้ด้วย สามารถพูดได้ว่าหมื่นสรรพสิ่งล้วนถูกจักรพรรดิแสจำแลงออกมาเพื่อให้ผสานรวมเข้ากับฝ่ามือข้างนั้น สุดท้ายภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาก็คือฝ่ามือใหญ่มหึมาข้างหนึ่ง!
ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นฝ่ามือที่จักรพรรดิแสอาศัยพลังแห่งความคิดของตัวเองมาหล่อหลอมขึ้นมา ฝ่ามือนี้ใหญ่โอฬารอย่างถึงที่สุด ขนาดพอพันจั้ง และเวลานี้ก็เคลื่อนเสียงดังครืนครั่นตรงเข้าตบป๋ายเสี่ยวฉุน!
ป๋ายเสี่ยวฉุนกลั้นลมหายใจ เมื่อปราณของผู้บงการแผ่ลามออกไป พลังแห่งความคิดที่กดกำราบอยู่บนกายเขาก็เหมือนก้อนเมฆที่ถูกลมพายุพัดกระโชกให้แหลกลาญและจางหาย พอแรงกดดันบนร่างคลายลง ปณิธานแห่งการต่อสู้ในดวงตาทั้งคู่บนศีรษะของป๋ายเสี่ยวฉุนที่เงยขึ้นมาก็ยิ่งเดือดพล่านรุนแรง
“มาเลย!!” ป๋ายเสี่ยวฉุนแผดเสียงคำรามแล้วกระโจนเข้าหาจักรพรรดิแส ระหว่างที่โผนเข้าใส่นี้ มือขวาของเขาก็กำเข้าเป็นหมัด ภายใต้เสียงกัมปนาทดังอื้ออึง ด้านหลังเรือนกายของเขาก็ได้มีเงาจักรพรรดิเงาหนึ่งจำแลงขึ้นมา
สวมชุดคลุมจักรพรรดิ สวมมุงกฎจักรพรรดิ หน้าตาเหมือนกับป๋ายเสี่ยวฉุน มีเพียงแขนข้างขวาของเงานี้เท่านั้น…ที่เป็นแขนของผู้บงการ!!
“หมัด…”
“ผู้บงการ…”
“มิดับสูญ!!”
มาจนถึงวันนี้ หมัดผู้บงการมิดับสูญก็คือวิชาอภินิหารที่แข็งแกร่งที่สุดของป๋ายเสี่ยวฉุน ซ้ำเขายังมีท่าไม้ตายที่เขย่าคลอนบุพกาลได้! ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบกลางห้วงอวกาศหรือระหว่างการต่อสู้กับทาสบุพกาลก็ล้วนทำให้การร่ายใช้หมัดผู้บงการมิดับสูญของป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่ในระดับที่เป็นไปตามใจปรารถนา!
ขณะเดียวกันปราณของผู้บงการก็เพิ่งจะมาระเบิดปะทุถึงขีดสุดก็ต่อเมื่อร่ายหมัดนี้!
เมื่อหมัดผู้บงการมิดับสูญของป๋ายเสี่ยวฉุนถูกต่อยออกมา มือขวาของเขาก็เหมือนรวบรวมพลังนับแสนชั่งเอาไว้ ซึ่งหมัดนี้ได้โจนทะยานขึ้นไปปะทะกับฝ่ามือของบุพกาลที่ลดดิ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างจัง!
เงาจักรพรรดิด้านหลังของเขาก็ยกแขนของผู้บงการขึ้นมาผสานรวมเป็นหนึ่งกับแขนของป๋ายเสี่ยวฉุน แล้วจึงกำเป็นหมัดที่ระเบิดพลังท่วมทะยานเทียมฟ้าในเวลาเดียวกัน!
ฟ้าสนั่นดินสะเทือน เสียงเกริกก้องดังไปแปดทิศ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าหรือพื้นดินต่างก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พลังอำนาจที่เหนือกว่าเทียนจุนไปไกลโขก็ยิ่งสร้างแรงกระเทือนให้กับทั้งนภากาศและพื้นปฐพี!
ตลอดทั้งดินแดนเซียนแห่งที่สองโยกไหวไปหมด แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังเกิดการเปลี่ยนแปลง ริ้วคลื่นซัดแผ่ไปทั่วทั้งโลก ขนาดเทียนจุนคนอื่นๆ ที่อยู่ในจักรพรรดิแสก็ยังสัมผัสได้ จิตวิญญาณของแต่ละคนถึงกับเกิดคลื่นลูกยักษ์ถาโถม
ขณะเดียวกันบนท้องฟ้าของนครหินยักษ์ เมื่อมองไปไกลๆ หมัดผู้บงการมิดับสูญของป๋ายเสี่ยวฉุนที่ผสานรวมเข้ากับเงาจักรพรรดิด้านหลังก็เหมือนกลายมาเป็นยักษ์ตนหนึ่งที่พุ่งชนเข้ากับฝ่ามือบุพกาลขนาดมหึมา…ดั่งดวงอาทิตย์พุ่งชนกับดวงจันทร์!
ครืนๆๆ!!
ท่ามกลางการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นทั่วดินแดนเซียนแห่งที่สอง นครหินยักษ์แห่งนี้ก็ยังโยกโอนเอน สิ่งปลูกสร้างหลายแห่งพังครืนลงมา ส่วนพื้นดินที่พอถูกริ้วคลื่นซัดตะลุยออกไปก็มียอดเขาจำนวนไม่น้อยระเบิดพังทลาย พื้นที่หลายแห่งบนพื้นดินก็ยิ่งเกิดรอยปริร้าว!
ต่อให้เป็นมหาสมุทรหย่งเหิงเอง บัดนี้ก็ยังเกิดคลื่นลูกยักษ์โถมตัวขึ้นสูง รวมไปถึงดินแดนเซียนอันเป็นที่ตั้งของนครจักรพรรดิแสที่ได้รับผลกระทบจนโยกคลอนเบาๆ ทำเอาคนจำนวนนับไม่ถ้วนร้องอุทานแตกตื่น
ส่วนบนท้องฟ้าเหนือนครหินยักษ์ที่หลังจากเสียงกัมปนาทรุนแรงจนไร้คำบรรยายดังก้องกังวานไปถึงครึ่งหนึ่งของดินแดนเซียนนิรันดร์กาล หมัดผู้บงการมิดับสูญของป๋ายเสี่ยวฉุนก็แหลกสลายไปพร้อมกับเงาจักรพรรดิด้านหลัง!!
ส่วนตัวป๋ายเสี่ยวฉุนเองนั้นกระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง ร่างปลิวกระเด็นไปด้านหลังประหนึ่งว่าวที่หลุดขาดจากสายป่าน ทว่าการฟื้นฟูของบทมิวางวายเขาก็ได้ระเบิดออกมาอย่างบ้าระห่ำในนาทีนี้เหมือนกัน ดังนั้นแม้อาการบาดเจ็บของเขาจะสาหัสมาก ทว่าระหว่างที่ถอยลิ่วออกไปนี้ เขากลับยังฝืนหยัดยืนได้อย่างมั่นคง!
เมื่อยืนได้มั่นคงแล้ว ป๋ายเสี่ยวฉุนก็พลันแหงนหน้าแผดเสียงหัวเราะสาสมใจ!
“จักรพรรดิแสผู้เป็นบุพกาล แล้วจะอย่างไร!!”
ที่เขาพูดเช่นนี้ก็เพราะว่า ฝ่ามือบุพกาลที่ไม่อาจดับทำลาย บัดนี้ก็ได้ระเบิดแตกแล้วพังทลายเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกัน!!
ภายใต้พลังที่ดีดสะท้อนกลับ จักรพรรดิแสผู้แข็งแกร่งก็ยังยืนโอนเอน สีหน้าซีดขาว ซ้ำมุมปากยังมีเลือดสดไหลซึมออกมา!