บทที่ 1257 เจ้ากล้าด่าข้า?
ความน่ากลัวของคัมภีร์แห่งอนาคตกาลแดนนิพพานก็คือการเชื่อมโยงชะตาชีวิตไว้ด้วยกัน ทั้งสองฝ่ายจึงได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน เดิมทีนี่ก็คงไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อป๋ายเสี่ยวฉุนมีการฟื้นพลังของบทมิวางวาย เมื่อพลังของเนื้อหนังมังสาเขาน่าตะลึง ทั้งหมดนี้จึงแตกต่างไปจากเดิม…
อาการบาดเจ็บสิบส่วน ป๋ายเสี่ยวฉุนแบกรับไว้มากสุดแค่หกเจ็ดส่วนเท่านั้น และเมื่อมีพลังการฟื้นตัวเช่นนี้อยู่ บาดแผลที่ฉกรรจ์ที่สุดก็กลายมาเป็นบาดแผลที่เบาบาง ส่วนบาดแผลที่ไม่หนักหนาก็กลายมาเป็นไม่มีบาดแผลเลย ทว่าหากศัตรูของเขาไม่มีพลังการฟื้นตัวและพลังกล้ามเนื้อเช่นนี้ อาการบาดเจ็บที่ได้รับจากศึกของสองฝ่ายก็ไม่อาจเทียบเคียงกันได้เลย
และตอนนี้จักรพรรดิแสก็เป็นอย่างที่ว่านี้ เขากระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง เมื่อสังเกตเห็นก้อนหินที่อยู่ในมือของป๋ายเสี่ยวฉุน ดวงตาของเขาก็มีแววของความลนลานวูบผ่านไป เตรียมจะลงมือต่อ ทว่าเขาดูถูกความไร้ยางอายของป๋ายเสี่ยวฉุนมากเกินไป…แทบจะวินาทีเดียวกับที่จักรพรรดิแสเตรียมจะลงมือ ป๋ายเสี่ยวฉุนพลันยกมือขวาขึ้นแล้วทุบลงไปที่หน้าอกของตัวเองอย่างแรง
เสียงตูมดังสนั่น แรงทุบนั้นรุนแรงจนเลือดสดทะลักออกจากปากป๋ายเสี่ยวฉุน ร่างของเขาถอยกรูดไปข้างหลัง แต่เขามีบทมิวางวาย พริบตาเดียวจึงฟื้นตัวกลับมาได้ไม่น้อย ขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมที่จะกรีดร้องออกมา
“โอ๊ย เจ้าทุบโดนข้า เจ็บจังเลย…”
จักรพรรดิแสเบิกตากว้าง แทบจะวินาทีเดียวกันกับที่เขาปรี่ขึ้นหน้าเตรียมลงมือ หลังจากที่ป๋ายเสี่ยวฉุนทำร้ายตัวเอง จักรพรรดิแสก็กระอักเลือดคำใหญ่ออกมาดังพรูด เส้นผมของเขาปลิวสยายยุ่งเหยิง ร่างก็ส่ายโอนเอน สภาพกระเซอะกระเซิงอย่างถึงที่สุด
“ป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้ามันไร้ยางอาย!!” จักรพรรดิแสเหมือนจะเป็นบ้า เขาอัดอั้นตันใจและคลุ้มคลั่งอย่างมาก เขายังถึงขั้นรู้สึกเสียใจที่คิดจะหยั่งเชิงป๋ายเสี่ยวฉุนแล้วด้วยซ้ำ เพราะป๋ายเสี่ยวฉุนที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ช่างรับมือได้ยากยิ่งนัก
ผลึกจักรพรรดิแสของเขาแตกละเอียดไปแล้ว มังกรกระดูกของเขาก็ถูกปิดผนึก ดวงอาทิตย์ของเขาพังทลาย อุตส่าห์ร่ายท่าไม้ตายออกมาติดต่อกัน แต่ผลกลับกลายเป็นว่าอาการบาดเจ็บของตนสาหัสยิ่งกว่าอีกฝ่าย หากเพียงเท่านี้ก็ยังว่าไปอย่าง แต่นี่ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับยังทำร้ายตัวเองเพื่อแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บของเขา…
นี่ทำให้จักรพรรดิแสคลุ้มคลั่งเจียนบ้า ไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำใดมาบรรยายความรู้สึกได้อีกแล้ว ภายใต้เสียงร้องคำรามอย่างเดือดดาลของเขา การเข่นฆ่าที่เดิมทีควรเคร่งเครียดและโหดเหี้ยมอำมหิตกลับมาถูกป๋ายเสี่ยวฉุนเปลี่ยนแปลงบรรยากาศโดยไม่ได้ตั้งใจ…
“ไอ้แก่ เจ้ากล้าด่าข้ารึ? เจ้าด่าข้าแบบนี้ หัวใจข้าเจ็บปวดมากเลยนะ!” ป๋ายเสี่ยวฉุนถลึงตาแล้วยกมือขวาต่อยลงไปตรงตำแหน่งหัวใจตัวเองเสียงดังตูม จักรพรรดิแสกระอักเลือดอีกครั้ง เขาโกรธจนปากคอสั่นไปหมด หลังจากแหงนหน้าแผดเสียงคำรามก็เตรียมจะกระโจนออกมาอีกรอบ แต่กลับไม่อาจทนรับการทุบตีตัวเองเจ็ดแปดหมัดรัวติดกันของป๋ายเสี่ยวฉุนได้
มาถึงท้ายที่สุด จักรพรรดิแสก็โมโหแทบระเบิด เพื่อตัดขาดความเชื่อมโยงระหว่างตัวเองกับป๋ายเสี่ยวฉุน ตอนที่เขายกตรีศูลในมือขึ้นโบก ดวงตาของเขาก็ฉายแววบ้าคลั่ง ครั้นแล้วจึงบีบตรีศูลในมืออย่างแรง
“จงระเบิดให้ข้า!!” ตามหลังเสียงคำรามของจักรพรรดิแส ตรีศูลในมือของเขาก็ระเบิดแตกกระจาย นี่คือสมบัติอาคมของนี่ฝาน ดังนั้นพอระเบิดแหลกจึงก่อตัวกลายมาเป็นพายุสีดำลูกหนึ่ง พายุลูกนี้ทะลุทะลวงท้องฟ้า ลอดผ่านพื้นดินมาระเบิดอยู่ตรงกลางระหว่างป๋ายเสี่ยวฉุนกับจักรพรรดิแสอย่างเหี้ยมหาญ!
เสียงตูมตามดังกึกก้อง ป๋ายเสี่ยวฉุนและจักรพรรดิแสต่างก็กระอักเลือด ต่างฝ่ายต่างถอยร่น พายุประหลาดลูกนี้เข้าไปรบกวนกฎเกณฑ์บางอย่าง ส่งผลกระทบต่อวัฏจักร ปัดกวาดความว่างเปล่า แล้วก็ตัดขาด…สายใยเชื่อมโยงชะตาชีวิตที่มองไม่เห็นซึ่งเกิดจากคัมภีร์แห่งอนาคตกาลแดนนิพพานของป๋ายเสี่ยวฉุน!!
ทว่าวินาทีที่สายใยแห่งชะตาชีวิตจะถูกตัดขาดนั้นเอง ดวงตาของป๋ายเสี่ยวฉุนที่มีการฟื้นตัวของบทมิวางวายช่วยประสานอาการบาดเจ็บพลันฉายแสงเยียบเย็น ความเร็วของร่างกายถูกร่ายออกมา ตบะทั้งหมดระเบิดครบทุกด้านอย่างไม่คิดจะอำพรางหรือระงับเอาไว้อีกต่อไป พลังอำนาจของบุพกาลทะยานท่วมเทียมฟ้า ขณะเดียวกันความเร็วของเขาที่เหนือกว่าสายฟ้าก็พุ่งปลาบเข้าหาจักรพรรดิแส!
แต่ดูเหมือนว่าป๋ายเสี่ยวฉุนจะรู้สึกว่าความเร็วของตัวเองช้าเกินไป เขาจึงถึงขั้นร่ายผนึกมิวางวาย ความเร็วจึงเพิ่มระดับขึ้นอีกครั้ง และวินาทีที่เขาขยับเข้ามาใกล้จักรพรรดิแสซึ่งหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรงและเตรียมจะถอยหนีนั้นเอง ป๋ายเสี่ยวฉุนก็พลันร่ายใช้ชนาเขย่าภูเขาซ้ำเข้าไปอีก!
ท่ามกลางเสียงเกริกก้อง ความเร็วสุดขีดที่เดิมทีก็น่าตะลึงอยู่แล้วของเขา มาบัดนี้กลับเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น จนมาโผล่พรวดอยู่เบื้องหน้าจักรพรรดิแส ครั้นจึงยกมือขวาขึ้นร่ายตรวนสลายลำคอ แล้วยื่นพรวดไปตรงหน้าของอีกฝ่าย!
ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป จักรพรรดิแสใจสั่นพรั่นพรึง หากเปลี่ยนมาเป็นในอดีต เขาคงสามารถหลีกเลี่ยงได้ ทว่าตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสเกินไป ต่อให้พยายามหลีกเลี่ยงอย่างเต็มกำลังก็ยังได้แค่บิดคอเบี่ยงหลบไปเท่านั้น ไม่สามารถหลบพ้นการจู่โจมจากตรวนสลายลำคอของป๋ายเสี่ยวฉุนได้อย่างแท้จริง เป็นเหตุให้ถึงแม้มือของป๋ายเสี่ยวฉุนจะไม่ได้คว้ามาที่ใบหน้าของเขา แต่กลับคว้าไหล่ของเขาเอาไว้ได้!
“จงคืนสภาพเดิมให้ข้าเดี๋ยวนี้!!” ดวงตาป๋ายเสี่ยวฉุนเปล่งแสงลุกเรือง ร้องคำรามพลางส่งแรงกระชากไปที่มือขวา เสียงตูมดังสนั่น มือของเขาที่คว้าไหล่จักรพรรดิแสเอาไว้ก็เตรียมที่จะ…ฉีกกระชากหนังทั่วร่างของอีกฝ่ายออกมา!!
เมื่อหนังของจักรพรรดิแสถูกกระชาก จักรพรรดิแสพลันแผดเสียงร้องโหยหวน รีบถอยหนีไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว และภายใต้ผิวหนังที่ถูกป๋ายเสี่ยวฉุนดึงทึ้งออกไป…บัดนี้ก็เผยให้เห็นเลือดเนื้อที่เต้นกระตุกกระดุบกระดิบไม่หยุด และพอเลือดเนื้อเหล่านี้สูญเสียหนังห่อหุ้มก็ถูกกฎเกณฑ์ของดินแดนเซียนนิรันดร์กาลจับได้ รอบด้านจึงบิดเบือนทันควัน และร่างของเขาก็ไม่อาจคงสภาพความเป็นคนได้อีกต่อไป เมื่อโดนแรงบิดเบือนรอบด้านบีบคั้นจึงค่อยๆ กลายมาเป็นกิ้งก่าใหญ่สีเลือดตัวหนึ่ง!!
ทว่าเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดกลับยังคงดังออกมาจากปากของเขา เห็นได้ชัดว่าเมื่อไม่มีผิวหนังห่อหุ้ม แล้วก็ไม่มีใยแมงมุมปิดทับ เขาที่เผยกายอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของดินแดนเซียนนิรันดร์กาลจึงถูกการลดทอนอำนาจซึ่งมาจากดินแดนเซียนนิรันดร์กาลปลิดชีพอย่างเชื่องช้า!
การปรากฎตัวของกิ้งก่ายักษ์ทำให้คนของนครจักรพรรดิแสทุกคนที่ยังหลงเหลืออยู่อึ้งตะลึงกันไปหมด โดยเฉพาะเหล่าเทียนจุนหลายคนที่เคยเข้าร่วมการกวาดล้างใยแมงมุมในปีนั้นที่ยิ่งไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ในสมองของแต่ละคนมีคลื่นลูกยักษ์ซัดกระหน่ำเสียงดังอื้ออึง
“ร่างจำแลงของผู้บงการ!!”
“นี่…นี่มันเรื่องอะไรกัน!!”
“เป็นไปไม่ได้ ทั้งหมดนี้มันไม่ใช่ความจริง จักรพรรดิแส…ก็คือร่างจำแลงของผู้บงการหรือนี่!!”
เสียงฮือฮาฟังไม่ได้ศัพท์ดังอึงคะนึงไปทั่วฟ้าดินอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เรื่องนี้น่าตะลึงพรึงเพริดเกินไป นาทีก่อนอีกฝ่ายยังคงเป็นจักรพรรดิแส ทว่าวินาทีถัดมากลับกลายมาเป็นสัตว์ประหลาดดุร้าย!
ต่อให้จะไม่ใช่ทุกคนที่รู้ที่มาของกิ้งก่าตัวนี้ แต่เมื่อเห็นเหล่าเทียนจุนของราชวงศ์จักรพรรดิแสร้องอุทานเสียงหลง จิตใจของพวกนักพรตในบริเวณใกล้เคียงที่ยังรักษาชีวิตรอดไว้ได้ก็พลันโอนเอนอย่างรุนแรงอีกครั้ง
และป๋ายเสี่ยวฉุนก็ย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ หลังจากที่เขากระชากหนังของจักรพรรดิแสมาได้แล้ว ท่ามกลางเสียงร้องคำรามของกิ้งก่ายักษ์ เขาก็เอ่ยเสียงดังกังวานไปสี่ทิศ
“สหายนักพรตแห่งดินแดนเซียนนิรันดร์กาลทุกท่าน จักรพรรดิแสถูกร่างจำแลงของศัตรูนอกโลกตนนี้สังหารไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว อีกทั้งมันยังเลาะหนังของเขามาหุ้มร่างหลอกให้ผู้คนเข้าใจผิด สัตว์ร้ายเบื้องหน้าตัวนี้ก็คือร่างจำแลงของศัตรูร้ายนอกโลก!” จบคำพูดของป๋ายเสี่ยวฉุน เสียงสูดลมหายใจจากผู้คนที่อยู่รอบด้านก็ดังระงม และข่าวนี้ก็ได้แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงเวลาไม่นานจึงแพร่ไปทั่วดินแดนเซียนนิรันดร์กาล
และเวลานี้เองที่บนท้องฟ้ามีริ้วคลื่นกระเพื่อมขึ้นมา ก่อนที่เงาร่างของจักรพรรดิเซิ่งจะเผยกาย พอเห็นกิ้งก่ายักษ์ที่จำแลงมาจากร่างของจักรพรรดิแส เขาก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง ลมหายใจหอบหนัก เพราะต่อให้เป็นเขาเองก็ยังไม่เคยคิดว่า แท้จริงแล้วจักรพรรดิแสก็คือ…ร่างจำแลงของศัตรูตัวฉกาจ!!
“มิน่าเล่าปีนั้นที่ซากพัดขยับเข้ามาใกล้แล้วก้อนหินเลือดเนื้อร่วงลงมา เจ้าถึงปล่อยสัตว์ประหลาดที่อยู่ในนั้นให้หนีไป!”
“มิน่าเล่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ทุกครั้งที่จะหารือเรื่องการปิดผนึกร่างผู้บงการ เจ้าถึงได้เอ่ยปฏิเสธไปเสียทุกครั้ง!” จักรพรรดิเซิ่งจ้องจักรพรรดิแสที่กลายร่างมาเป็นกิ้งก่ายักษ์เขม็ง น้ำเสียงที่พูดยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ
และขณะที่ทุกคนยังตะลึงพรึงเพริดพร้อมกับการมาถึงของจักรพรรดิเซิ่ง ทันใดนั้นจักรพรรดิแสที่กำลังแผดเสียงร้องคำรามก็พลันเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ ในดวงตาของมันไม่มีใครอื่น มีเพียงป๋ายเสี่ยวฉุนคนเดียวเท่านั้น!
“ป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้าทำลายเรื่องดีๆ ของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!!” จักรพรรดิแสคำรามเกรี้ยวกราด ปราณบนร่างระเบิดปะทุขึ้นอีกครั้งราวกับจะฝืนชะตาฟ้า อีกทั้งวินาทีที่ปราณของเขาแผ่ออกมา ศีรษะใหญ่โตของผู้บงการนี่ฝานที่อยู่บนท้องฟ้าก็เหมือนจะแผ่แสงสีดำออกมาชั้นหนึ่ง และเมื่อแสงที่ว่านี้เปล่งวูบวาบ อาการบาดเจ็บของจักรพรรดิก็ไม่เพียงแต่หายดีทั้งหมด แม้แต่ตบะของเขาก็ยังทะยานสูงขึ้นอีกครั้ง พลังการต่อสู้ตลอดทั้งร่างเหนือล้ำเกินกว่าที่เคยเป็น ไต่ไปสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนกับตัวเขาเอง
ซ้ำด้านหลังของเขายังมีเงามายาเงาหนึ่งก่อตัวขึ้นมา เงามายานี้ทำให้ทุกคนที่มองไปใจสั่นสะท้านรุนแรง นั่นก็คือ…เงาของยักษ์ผู้บงการบนท้องฟ้าที่ย่อส่วนลงมาจากเดิมหลายเท่า!!
วินาทีที่จักรพรรดิเซิ่งหน้าเปลี่ยนสี ดวงตาจักรพรรดิแสก็ฉายความบ้าคลั่งและดุร้าย คำรามเสียงกร้าว
“ป๋ายเสี่ยวฉุน ไม่มีใครที่จะขัดขวางการฟื้นตื่นของตัวข้าได้!” ขณะที่เอ่ยประโยคนี้ ร่างทั้งร่างของจักรพรรดิแสก็พลันสั่นเทิ้ม ก่อนที่ในร่างของเขาจะมีตั๊กแตนสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกมา!!
เพียงแค่ชั่วพริบตาตั๊กแตนเหล่านี้ก็แผ่ปกคลุมมืดฟ้ามัวดิน แน่นขนัดยั้วเยี้ย จำนวนมากมหาศาลเกินจะนับ ก่อกลายมาเป็นเมฆทะมึนผืนแล้วผืนเล่าที่คล้ายจะปิดท้องฟ้าไว้จนมิด พวกมันแผดเสียงร้องหวีดแหลมแสบแก้วหู ส่วนหนึ่งบินเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุน ทว่าส่วนที่มากกว่านั้น…กลับแผ่กระจายออกไป เป้าหมายก็คือนักพรตทั้งหลายที่อยู่รอบด้าน เห็นได้ชัดว่ากำลังจะร่ายเวทแห่งการแพะพิงเป็นกาฝากในร่างของคนเหล่านั้น!
ตั๊กแตนเหล่านี้ไม่มีใครรู้จัก ทว่าชั่วขณะที่ป๋ายเสี่ยวฉุนมองเห็นมัน จิตวิญญาณของเขากลับพลันสั่นไหว ลมหายใจของเขาหอบกระชั้นรุนแรง นี่คือ…วิชาอภินิหารของนี่ฝาน…ที่เขาเคยเห็นในความทรงจำของเต้าเฉิน!
เขารู้อย่างชัดเจนดีว่าหากตั๊กแตนพวกนี้ฝังเข้ามาในร่างได้ ถ้าเช่นนั้นมันก็จะสามารถดูดเอาตบะและเลือดเนื้อทั้งร่างของนักพรตคนหนึ่งไปได้ในเสี้ยววินาที จากนั้นก็จะแพร่พันธ์ตั๊กแตนออกมามากยิ่งกว่าเดิม!