Skip to content

A Will Eternal 1296

บทที่ 1296 ห้วงจักรวาลคือเตาหลอม

ท่ามกลางการควบคุมนี้ ร่างแห่งเต๋าหลายแสนร่างบินออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน พกพาเอาแสงสว่างประจำตัวของใครของมัน สำแดงความเร็วอันน่าตกตะลึง พุ่งจากหลากหลายทิศทางตรงเข้ามารวมตัวกัน… ยังห้วงจักรวาลอีกครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ถูกจุดแสงสว่าง และเวลานี้ยังเป็นเพียงความว่างเปล่าที่มืดมิด!

นี่ก็คือแผนการของป๋ายเสี่ยวฉุน เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนี่ฝาน ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องผนึกร่างของนี่ฝานเอาไว้ ต่อให้จะเป็นการผนึกในช่วงสั้นๆ แต่ก็ต้องช่วงชิงเวลาและโอกาสนี้มาให้ตัวเองให้ได้!

“หกส่วน ขอแค่ได้ยึดครองห้วงจักรวาลหกส่วน… ข้าก็จะมีพลังในการต่อสู้กับนี่ฝานอย่างแท้จริง!”

ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามเบาๆ ขณะเดียวกันเงาร่างแห่งเต๋าหลายแสนเงาของเขาก็แผดเสียงคำรามทุ้มต่ำออกมาเช่นเดียวกัน!

แทบจะชั่วขณะเดียวกันกับที่ป๋ายเสี่ยวฉุนควบคุมร่างแห่งเต๋าเพื่อย้ายสมรภูมิรบไปที่ห้วงจักรวาลนั้นเอง นี่ฝานที่ต่อให้จะถูกกำราบเอาไว้ก็ยังสัมผัสได้ในทันที เขามองป๋ายเสี่ยวฉุนด้วยสายตาลึกล้ำครู่หนึ่งแล้วก็พลันหัวเราะ

“ทีแรกก็เป็นวิชาอภินิหารของต้นกำเนิดแห่งเวลา แล้วต่อมาก็เป็นสมบัติล้ำค่าของอาจารย์ข้า จากนั้นก็ยังย้ายสมรภูมิรบไปอีก คู่ต่อสู้เช่นนี้ ไม่เลวเลยจริงๆ”

พอนี่ฝานเอ่ยประโยคนี้จบ ปราณทั่วร่างของเขาก็พลันแตกต่างไปจากเดิม ดวงตาของเขาฉายแสงคมกริบ แล้วทันใดนั้นควันดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็แผ่อบอวลออกมาจากร่างของเขา!

ปริมาณของควันดำพวกนี้มีมากพอหลายแสนกลุ่ม พอเผยตัวก็ผลุบหายเข้าไปในห้วงจักรวาลทันที ส่วนร่างของเขาที่เมื่อมีไอดำแผ่กำจายไปอย่างต่อเนื่องก็ได้ค่อยๆ หดเล็กลง สุดท้ายเปลี่ยนจากเรือนกายใหญ่โตมโหฬารมามีขนาดเท่าคนธรรมดาทั่วไป!

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่มืดมิดห้าส่วนของห้วงจักรวาล ในซากปรักหักพังดำมืดหลายแสนแห่ง พอควันดำที่แผ่ออกมาจากร่างของนี่ฝานลอยมาถึง ก็เหมือนกลายมาเป็นเมล็ดพันธ์อย่างหนึ่งที่ดูดเอาปราณแห่งความตายและความดับสูญทั้งหมดที่อยู่รอบๆ มาจนสิ้น และเพียงชั่วพริบตาก็ก่อตัวกลายมาเป็น… ร่างแห่งเต๋าของนี่ฝาน!

ร่างแห่งเต๋าพวกนี้มีลักษณะเหมือนกับนี่ฝานอย่างไม่มีผิดเพี้ยน หลังจากที่ทยอยกันปรากฏตัว ร่างแห่งเต๋าหลายแสนร่างนี้ก็ลืมตาขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ดวงตาของพวกเขาต่างก็เผยความเยียบเย็น แล้วก็พากันบินพรวดออกมาด้วยความเร็วสูงสุด ครู่เดียวก็มารวมตัวกันแล้วบุกเข้าไปสังหารในพื้นที่ที่ร่างแห่งเต๋าของป๋ายเสี่ยวฉุนมุ่งหน้ามาทันที!

เหตุการณ์ทั้งหมดนับตั้งแต่ที่ป๋ายเสี่ยวฉุนทำตามแผนการ จนมาถึงการรับมือของนี่ฝานล้วนเกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววินาที และดูเหมือนว่าศึกของร่างแห่งเต๋าจะเต็มแน่นอยู่ทุกห้วงเทศะ

แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างแห่งเต๋าหลายแสนร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนพุ่งเข้ามาในห้วงจักรวาลอันมืดมิด ร่างแห่งเต๋าของนี่ฝานก็เยื้องกรายมาถึง ร่างแห่งเต๋าของทั้งสองฝ่ายจึงเปิดศึกแห่งห้วงจักรวาล… ท่ามกลางเอกภพแห่งนี้ทันที!

จำนวนร่างแห่งเต๋าของทั้งสองฝ่ายแทบจะไม่ต่างกัน

พอเปิดศึกต่อกัน เสียงกัมปนาทที่ดังเกริกก้องมาจากร่างแห่งเต๋านับล้านร่าง ก็ทำให้ห้วงจักรวาลของโลกนิรันดร์กาลสั่นสะเทือน เสียงของการพังถล่มแตกทลายก้องสะท้อนไม่ขาดสาย

มองไปไกลๆ ภาพเหตุการณ์นี้ก็ชวนอกสั่นขวัญผวายิ่งนัก มากพอจะทำให้ทุกคนที่ได้เห็นตะลึงพรึงเพริดถึงขีดสุด นั่นเป็นเพราะว่าภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนี้แปลกประหลาดมากเกินไป ร่างแห่งเต๋านับล้านร่างที่มีหน้าตาลักษณะเพียงสองรูปแบบ เปิดศึกระหว่างผู้บงการต่อกันเช่นนี้ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ราวกับว่าสงครามระหว่างพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหรือฝีมือก็ล้วนไม่ใช่สิ่งที่นักพรตคนอื่นๆ จะจินตนาการได้ถึง

ยกตัวอย่างเช่นในเวลานี้ที่เมื่อศึกแห่งห้วงจักรวาลระเบิดปะทุ ตรงตำแหน่งที่ตั้งเดิมของดินแดนนิรันดร์กาล เมื่อร่างของนี่ฝานหดเล็กลงก็พลันซัดพลังจู่โจมเข้าใส่การกดกำราบของนาฬิกาทราย ร่างของเขาเคลื่อนที่รวดเร็วฉับไว พริบตาเดียวก็หายวับไป พอปรากฏตัวอีกครั้งก็มาโผล่พรวดอยู่ตรงหน้าของป๋ายเสี่ยวฉุน แล้วยกมือขวาขึ้นเหวี่ยงหมัดออกมาแล้ว

ป๋ายเสี่ยวฉุนหน้าเปลี่ยนสี รีบสกัดกั้นป้องกันทันที ท่ามกลางเสียงอึกทึก เขากระอักเลือดพุ่งเป็นสาย ร่างก็เซกรูดไปด้านหลัง นี่ฝานส่ายหัว สีหน้าเย็นชา ยังคงขยับเข้ามาใกล้แล้วเหวี่ยงหมัดเข้าใส่อีกครั้ง!

เสียงตูมตามดังสะเทือนฟ้า เวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้ป๋ายเสี่ยวฉุนก็โดนนี่ฝานอัดหมัดใส่ติดกันมากพอร้อยหมัด เขากระอักเลือดอย่างบ้าคลั่งรุนแรง ดวงตาถูกอาบย้อมไปด้วยเส้นเลือดฝอยแดงฉาน พอนี่ฝานขยับเข้ามาใกล้อีกครั้ง ป๋ายเสี่ยวฉุนก็แผดเสียงคำรามแล้วหยิบเอายาจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาจากในถุงเก็บของโดยตรง

ป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็ถูกบีบบังคับจนร้อนใจ เขาค้นพบว่าระดับความแข็งแกร่งของเรือนกายตนยังไม่ใช่ตู่ต่อสู้ของนี่ฝาน ก่อนหน้านี้ตอนที่นี่ฝานยังมีร่างใหญ่โตมโหฬาร แม้ป๋ายเสี่ยวฉุนจะสัมผัสได้อย่างลึกล้ำอยู่แล้ว แต่พอตอนนี้อีกฝ่ายหดร่างเล็กเหมือนคนปกติทั่วไป เขากลับสัมผัสได้อย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ป๋ายเสี่ยวฉุนก็รู้สึกว่าต่อให้ตนจะมีการฟื้นตัวจากบทมิวางวายก็ยังยากที่จะประคับประคองตัวเองเอาไว้ได้ เพราะเขารู้ดีอยู่แก่ใจตัวเองว่า พลังการฟื้นตัวของนี่ฝานก็ไม่ด้อยไปกว่าเขาเหมือนกัน!

“ไม่มีวิธีอื่นแล้ว คงได้แต่ใช้ยาเท่านั้น!”

ป๋ายเสี่ยวฉุนกดดันอย่างยิ่ง สำหรับยาส่วนใหญ่ที่ตัวเองโยนออกไป เขาไม่รู้เลยว่าพวกมันมีประสิทธิผลในทางไหนกันแน่

ในบรรดานั้นมียาประหลาดหายากที่แม้แต่ตัวเขาเองในอดีตก็ไม่เคยกล้ากิน แล้วก็ยังมียากระสันซ่าน ยารวมวิญญาณ ยาประสาทหลอน เป็นต้น

ภายใต้วิกฤตคับขันในเวลานี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่มัวมาคิดอะไรให้มากความอีกแล้ว เขาจึงโยนยาทั้งหมดที่ตัวเองเก็บไว้ในถุงเก็บของออกมาทันที

“ระเบิด!”

“ระเบิด!!”

“ระเบิด!!!” ป๋ายเสี่ยวฉุนโยนยาพลางแผดเสียงคำรามไปด้วย ทันใดนั้นยาพวกนี้ก็ระเบิดพร้อมกันหมด จนกลายมาเป็นควันห้าแสงหกสีที่โชยแผ่เข้าหาผู้บงการนี่ฝาน

ผู้บงการนี่ฝานที่แข็งแกร่ง แค่สัมผัสโดนควันพวกนั้นเพียงเสี้ยวเดียวก็พลันหน้าเปลี่ยนสี รีบชักเท้าถอยร่นไปด้านหลัง

“นี่มันอะไรกัน!!”

นี่ฝานรีบแผ่ปราณของตัวเองมาสกัดกั้นอย่างเต็มกำลัง แล้วก็พยายามจะขับไล่ควันเสี้ยวหนึ่งที่แทรกซอนเข้ามาในร่างของตัวเองออกไป แต่ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงได้รู้ร้อนรุ่มขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ความร้อนระอุนี้ทำให้เขาขมวดคิ้ว สายตายามที่มองป๋ายเสี่ยวฉุนก็ถึงกับฉายประกายแปลกประหลาด ก่อนหน้านี้เขามองว่าความแข็งแกร่งของป๋ายเสี่ยวฉุน ทำให้อีกฝ่ายกลายมาเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา แม้จะเป็นช่วงก่อนถูกผนึกร่างก็ตาม คู่ต่อสู้เช่นนี้ทำให้ปณิธานในการต่อสู้ของเขาเดือดพล่านขึ้นมาไม่น้อย แต่ตอนนี้…เขากลับรู้สึกว่าตัวเองอาจจะวิเคราะห์อะไรผิดไป

เมื่อเห็นว่านี่ฝานถอยร่นไปแล้ว ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ถอนหายใจโล่งอก แล้วก็รีบถอยออกห่างเหมือนกัน เพราะเขาเองก็ไม่กล้าสัมผัสโดนควันที่เกิดจากยาเหล่านั้นของตัวเอง ท่ามกลางการถอยครั้งนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนรู้ดีว่า.. วิธีการต่อสู้กับนี่ฝานมีเพียงผนึกร่างของอีกฝ่ายไว้เพื่อถ่วงเวลา และตอนนี้ก็ยิ่งเข้าใจว่ายาของเขาเหลืออยู่แค่เท่านี้แล้ว หากไม่คว้าโอกาสเอาไว้ รอจนอีกฝ่ายบุกเข้ามาสังหารอีกครั้ง ตนก็ต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกแน่นอน

“ตะเกียงอมตะ!” หน้าสิ่วหน้าขวาน ป๋ายเสี่ยวฉุนพลันคำรามดังลั่น มือทั้งคู่ยกขึ้นทำมุทรา ทันใดนั้นกลางห้วงจักรวาลก็มีตะเกียงอมตะจำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา โดยเฉพาะรอบกายของนี่ฝาน

“ดับ!” ชั่วขณะที่ตะเกียงอมตะปรากฏขึ้น ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่มีเวลาเหลือให้ใช้ฟุ่มเฟือย เขารีบตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้นตะเกียงอมตะทั้งหมดก็ดับแสงลง และนาทีที่พวกมันถูกดับไฟ ริ้วคลื่นเป็นระลอกๆ ก็ระเบิดตูมออกมาแล้วกลายมาเป็นพลังที่สามารถพลิกภูเขาคว่ำมหาสมุทร ไม่ได้จู่โจมนี่ฝาน แต่มาก่อตัวเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ยักษ์อยู่นอกกายของอีกฝ่าย

น้ำวนลูกหนึ่งหมุนโคจรเสียงดังครืนครั่น ต้นกำเนิดแห่งเวลาเยื้องกรายลงมาเยือนเพราะป๋ายเสี่ยวฉุนคิดจะกักตัวนี่ฝานไว้อีกครั้ง ขณะเดียวกันมือทั้งคู่ของเขาก็กางออกแล้วโบกสะบัดไปยังห้วงจักรวาล

“จักรวาลคือเตา!” ปราณผู้บงการของป๋ายเสี่ยวฉุนระเบิดออกมาอย่างครบถ้วน แล้วก็ทำให้ห้วงจักรวาลที่อยู่ใกล้เคียงบิดเบือน จนเหมือนกลายมาเป็นเตาหลอมยาขนาดใหญ่ยักษ์ใบหนึ่ง!

ส่วนนี่ฝานที่อยู่ในน้ำวนก็คือ.. อยู่ด้านในของเตาหลอมยาใบนี้!

นี่คือวิธีการปิดผนึกนี่ฝานอีกครั้งที่ป๋ายเสี่ยวฉุนคิดออก เขาต้องการผนึกนี่ฝานโดยใช้วิธีที่เหมือนกับการหลอมยา!

ทว่าชั่วขณะที่เตาหลอมแห่งจักรวาลเผยกายนั้นเอง นี่ฝานกลับขมวดคิ้ว แค่นเสียงในลำคอพลางเดินก้าวหนึ่งไปยังน้ำวนตะเกียงอมตะที่อยู่รอบด้านจนเกิดเสียงดังครืนครั่น และดูท่าอีกไม่นานเขาก็คงเดินฝ่าออกมาได้สำเร็จ

ทว่าเวลานี้เอง ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับแผดเสียงคำรามขึ้นมา

“มารดาแห่งนิรันดร์กาล!!”

แทบจะเวลาเดียวกันกับที่เสียงตะโกนของป๋ายเสี่ยวฉุนดังออกมา ในระฆังใหญ่ปลายทางแม่น้ำแห่งนิรันดร์กาลที่อยู่ในจุดลึกใต้ดินของดินแดนนิรันดร์กาลที่ลอยห่างไปไกลแล้ว เดิมทีกลุ่มแสงพร่างพราวได้หม่นแสงลงไปไม่น้อย แต่บัดนี้เมื่อได้ยินการเรียกขานของป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยังระเบิดประกายเจิดจ้าสว่างโชติช่วง

แสงนี้ลอดทะลวงดินแดนนิรันดร์กาล ลอดทะลวงความว่างเปล่า เมื่อปรากฏตัวอีกครั้งก็มาอยู่นอกร่างผู้บงการนี่ฝาน แล้วพลันผสานรวมเข้าไปในน้ำวนรอบด้าน ทันใดนั้นน้ำวนลูกนี้ก็ระเบิดแสงสว่างเจิดจ้านับหมื่นจั้ง เป็นเหตุให้การโจมตีของนี่ฝานเกิดอุปสรรคขัดขวางจึงยากลำบากขึ้นไม่น้อย

“มารดาแห่งนิรันดร์กาล หากไม่ใช่เพื่อชุบหลอมเจ้า ข้าคงฆ่าเจ้าไปนานแล้ว เจ้ากลับยังกล้ามารนหาที่ตายอีกรึ!”

นี่ฝานแค่นเสียงเย็น ยกมือขวาขึ้นกำเป็นหมัดแล้วต่อยออกไปอย่างแรง

น้ำวนสั่นสะเทือนในทันที ราวกับว่าต่อให้บวกกับปณิธานของมารดาแห่งนิรันดร์กาลเข้าไปแล้วก็ยังใกล้จะแหลกสลายอยู่ดี วิกฤตคับขัน ทุกชีวิตบนดินแดนนิรันดร์กาล… รวมถึงจักรพรรดิเซิ่ง ซ่งเชวีย ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่… บัดนี้ข้างหูของพวกเขาล้วนมีเสียงของมารดาแห่งนิรันดร์กาลก้องสะท้อนขึ้นมา

“ลูกๆ ทั้งหลาย ข้าต้องการ… พลังของพวกเจ้า…”

เสียงนี้เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนอย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้ พอดังกึกก้องขึ้นในสมองของทุกคน ทุกชีวิตที่อยู่บนดินแดนนิรันดร์กาล ต่อให้จะเป็นพวกสัตว์ร้ายก็ล้วนตัวสั่นสะท้าน ครั้นแล้วจึงส่งพลังชีวิต จิตวิญญาณและทุกสิ่งทุกอย่างของตน…ไปยังความว่างเปล่าภายใต้การชี้นำของเสียงสะท้อนนี้อย่างไม่มีกักเก็บไว้!

มองไปไกลๆ จะเห็นได้ว่าบนนี้บนดินแดนนิรันดร์กาลมีแสงสว่างจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกมา แสงเหล่านี้พากันล่องลอยเข้าหาน้ำวนที่กักตัวนี่ฝาน พริบตาเดียวก็หลอมรวมเข้าไป เป็นเหตุให้แสงสว่างบนน้ำวนที่กักตัวนี่ฝานยิ่งเจิดจ้า สาดสะท้อนแสงสว่างไปแปดทิศ ขับไล่ความมืดมิดให้ถอยร่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!