Skip to content

A Will Eternal 1301

บทที่ 1301 สิ้นสุดแล้ว?

สำหรับนี่ฝานแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้ร่างจำแลงของเขาที่กลายมาเป็นจักรพรรดิแสจะเคยประมือกับเขตแดนธาราของป๋ายเสี่ยวฉุนมาก่อน ทว่าตอนนั้นร่างจริงของเขายังหลับสนิท จึงไม่สามารถรับรู้รายละเอียดทั้งหมดของการสู้รบได้

ดังนั้นเมื่อเขตแดนธาราปรากฏตัวในครั้งนี้ สำหรับนี่ฝานแล้วจึงถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเองกับตาตามความหมายที่แท้จริง!

จิตใจของเขาสั่นสะท้าน และเมื่อเต่าจระเข้แสดงความดุร้ายเกรี้ยวกราด รวมไปถึงปราณน่าครั่นคร้ามบนร่างของมันที่ยิ่งนานก็ยิ่งแข็งแกร่ง หากนี่ฝานไม่ได้เห็นภาพประวัติการณ์ในน้ำวนก่อนหน้านี้ก็ยังว่าไปอย่าง แต่นี่เขาได้เห็นเต่าจระเข้ตัวนี้จากในน้ำวนมากับตาของตัวเอง จึงรู้ได้ว่ามันถูกส่งมาจากนอกห้วงจักรวาลเพื่อให้ทำภารกิจบางอย่าง

สัตว์ที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์เช่นนี้กลับถูกป๋ายเสี่ยวฉุนเรียกออกมาได้ นี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้นี่ฝานใจสั่น แต่ว่าเพียงแค่ชั่วพริบตาเขาก็เข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ได้

ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาครุ่นคิดอะไรอย่างละเอียด ชั่วขณะที่เต่าจระเข้ตัวนั้นกระโจนออกมา ร่างของนี่ฝานก็ถอยกรูดไปด้านหลังอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามจะหลบเลี่ยงรัศมีอันเฉียบคมของพลังอีกฝ่าย รวมไปถึงยังต้องควบคุมนิ้วดับชีวาเพื่อให้พุ่งเข้าไปโจมตี

เมื่อเขาโจมตีกลับไป เต่าจระเข้ก็แหงนหน้าร้องคำราม เรือนกายที่ใหญ่โตของมันมองเมินนิ้วดับชีวาไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งยังระเบิดความเหี้ยมหาญออกมาจากทั่วร่าง พอพุ่งเข้าชนกับนิ้วดับชีวา เรือนกายของมันก็ไม่แม้แต่จะถอยร่น ยังคงฝืนที่จะบุกตะลุยออกไป จนกระทั่งนิ้วดับชีวาแหลกสลายไปพร้อมเสียงดังอึงคะนึง

พลังอำนาจของเต่าจระเข้ตัวนี้ก็ยิ่งแกร่งกร้าวมากกว่าเดิม ปากของมันแผดเสียงร้องคำรามเดือดดาลเขย่าคลอนห้วงจักรวาล ขณะเดียวกันก็พกพาเอาความเผด็จการไร้ที่สิ้นสุดให้พุ่งเข้าชนนี่ฝาน

นี่ฝานหน้าเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง เขาถอยร่นออกห่างพลางยกมือทั้งคู่ขึ้นทำมุทรา ทันใดนั้นนอกร่างเขาก็มีควันดำจำนวนมากระเบิดครืนครั่น ควันดำนี้ซัดตลบปั่นป่วนรุนแรง และเพียงแค่ชั่วพริบตาก็ก่อตัวขึ้นเป็นใบหน้าขนาดใหญ่ยักษ์อยู่กลางห้วงจักรวาล บนใบหน้านี้มีอักขระจำนวนมากลอยขึ้นเต็มไปหมด ทั้งน่าสะพรึงกลัวและดูประหลาดพิสดาร พอก่อตัวขึ้นเสร็จก็อ้าปากกว้างหมายเขมือบกลืนเต่าจระเข้ที่พุ่งเข้ามา

ทว่าเวลานี้เอง ดวงตาของเต่าจระเข้พลันฉายแสงมืดดำ วินาทีที่ใบหน้านั้นพุ่งเข้ามาเขมือบกลืนตน มันก็อ้าปากแผดเสียงร้องคำรามเช่นกัน ปากสีแดงฉานน่าพรั่นพรึงซึ่งพออ้าออกแล้วก็ใหญ่กว่าใบหน้านั้นหลายเท่า จนถึงขนาดที่ว่ามองไกลๆ ปากใหญ่ของใบหน้าที่อ้าออกกลับกลายเป็นว่าเล็กจ้อยจนไม่มีค่าพอให้พูดถึง ซึ่งปากนั้นยังไม่ทันอ้ากลืนก็ถูกเต่าจระเข้ตัวนี้ฮุบกัดเข้าไปแทนแล้ว!

ยังไม่สิ้นสุด เต่าจระเข้ตัวนี้ยังคงโจมตีต่อไป คราวนี้มันหมายหัวนี่ฝานไว้อย่างมาดร้าย!

ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ห้วงจักรวาลสั่นสะเทือน แม้แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยังหายใจหอบกระชั้น เมื่อเทียบกับนี่ฝานแล้ว ป๋ายเสี่ยวฉุนรู้จักสัตว์แห่งชะตาชีวิตในเขตแดนธาราของตัวเองดียิ่งนัก เพราะอย่างไรซะนี่ก็คือเวทอภินิหารที่เขาได้ครอบครองมาตั้งแต่ตอนที่เพิ่งเริ่มฝึกตน และเมื่อตบะกับขอบเขตเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเดินทีละก้าวจนมาถึงวันนี้ อีกทั้งยังเข้าใจความเป็นมาของอีกฝ่ายจากภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ เขาจึงฉุกคิดได้ว่าควรหยิบเอาหม้อกระดองเต่าออกมาเป็นตัวตั้งต้น แล้วใช้ตบะผู้บงการของตัวเองร่ายใช้มันอย่างเต็มกำลัง

เหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ทับซ้อนเข้าด้วยกันจึงเป็นเหตุให้เขตแดนธาราในครั้งนี้แตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง ความใหญ่โตมโหฬารของเต่าจระเข้ตัวนั้น แสงสีทองรวมไปถึงพลังอำนาจเหี้ยมหาญของมันต่างก็เหนือเกินกว่าในอดีต แม้แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนเองที่มองดูอยู่ก็ยังอกสั่นขวัญผวา

ส่วนข้อที่ว่าเหตุใดเต่าจระเข้ลึกลับที่มาจากนอกจักรวาลตัวนี้ถึงถูกตนเรียกออกมาได้ เรื่องนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนก็คิดจนกระจ่างแจ้งแล้ว

เขาถือกำเนิดบนบุปผาแห่งนิรันดร์กาล ซึ่งหากว่ากันในบางระดับแล้วก็คือบุตรแห่งนิรันดร์กาล ส่วนเต่าจระเข้ตัวนี้หลังจากถูกบุปผาแห่งนิรันดร์กาลจับมาจึงกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เคียงกายมัน

ดังนั้นจึงถูกผู้ที่มีสายเลือดของดินแดนเซียนนิรันดร์กาลเรียกตัวมาได้ เพียงแต่ว่าเงื่อนไขค่อนข้างจะเข้มงวดหน่อยก็เท่านั้น และที่เขาเรียกมันออกมาได้ ก็เห็นได้ชัดว่าต้องเกี่ยวข้องกับหม้อกระดองเต่า!

“หรือว่า…ศึกสุดท้ายนี้จะถูกคลี่คลายด้วยปากของสัตว์แห่งชะตาชีวิตข้า?”

ป๋ายเสี่ยวฉุนพลันตื่นเต้น มองเต่าจระเข้แล้วเขาก็รู้สึกว่าหากสามารถกำจัดนี่ฝานได้ด้วยวิธีการนี้ ตนก็คงไม่ต้องปวดหัวอีกต่อไป

และขณะที่ป๋ายเสี่ยวฉุนกำลังฮึกเหิมนั้นเอง ดวงตาของนี่ฝานก็พลันกลายมาเป็นความดำมืด มือทั้งคู่ของเขายกขึ้น และทันใดนั้นก็มีแสงสีดำแผ่ออกมาจากมือของเขา ซ้ำตรงหว่างคิ้วของเขายังมีน้ำวนปรากฏ ซึ่งด้านในน้ำวนพอจะมองเห็นตราประทับอย่างหนึ่งลอยขึ้นมา!

ตราประทับนี้ ก็คือเรือรบลำหนึ่ง!

ชั่วขณะที่เรือรบลำนี้เผยตัว ปากของนี่ฝานก็เปล่งเสียงบริกรรมที่ป๋ายเสี่ยวฉุนฟังไม่เข้าใจออกมา เสียงนี้แฝงเร้นไว้ด้วยกาลเวลาอันไร้ที่สิ้นสุด มีทั้งความเก่าแก่และความเน่าเปื่อยเสื่อมโทรม พอดังก้องไปทั่วห้วงจักรวาลก็ส่งผลกระทบต่อมิติรอบด้านทันที

ราวกับว่าบัดนี้เวลาได้เคลื่อนช้าลง หัวใจของป๋ายเสี่ยวฉุนยิ่งเต้นกระหน่ำรัวแรง เพราะเขามองเห็นว่าห้วงจักรวาลใต้ฝ่าเท้าของนี่ฝานเป็นเหมือนกระจกบานหนึ่งที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ!

เสียงตูมดังลั่น เรือรบเก่าแก่ลำหนึ่งที่อยู่ในห้วงจักรวาลพังทลายพลันแผ่ปราณแห่งความตายท่วมเทียมฟ้าแล้วพุ่งกระโจนออกมา!!

“เจ้าสัตว์เดรัจฉาน เจ้ามันรนหาที่ตายเอง!”

พอเรือรบเผยตัว ห้วงจักรวาลก็สั่นสะเทือน แปดทิศอึงอลไปด้วยเสียงกัมปนาท พลังอำนาจไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออกอย่างน่าพรั่นพรึง ทั้งยังมีลมพายุก่อตัวแล้วหมุนคว้างซัดครืนครั่นไปสี่ทิศ ต่อให้เป็นป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็ยังตัวสั่นรุนแรง ถอยร่นไปข้างหลังอย่างต่อเนื่อง

เพียงแต่ว่า…นี่ฝานยังดูถูกเต่าจระเข้มากเกินไป เต่าจระเข้ตัวนี้นอกจากจะดุร้ายแล้ว มันยังตะกละตะกลามอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ก็คือสมองของมันเหมือนจะไม่สมประกอบสักเท่าไหร่…นี่เป็นสิ่งที่ป๋ายเสี่ยวฉุนสรุปได้จากประสบการณ์ที่เจอกับตัวเองมาก่อน ดังนั้นต่อให้เรือรบจะปรากฏตัวด้วยพลังอำนาจที่น่าสะเทือนขวัญแค่ไหน ทว่าเต่าจระเข้ตัวนั้นกลับไม่แม้แต่จะคิดถอยหลบ กลับกันคือดวงตายิ่งฉายความบ้าคลั่ง มันอ้าปากกว้างแล้วกระโจนเข้าไปใกล้นี่ฝานเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ราวกับว่ามองเมินการดำรงอยู่ของเรือรบ มองเมินปราณด้านในเรือรบที่มากพอจะสร้างภัยคุกคามถึงชีวิตให้แก่มัน เพราะมันยังคงร้องคำรามแล้วอ้าปาก…

เขมือบกลืนนี่ฝานและเรือรบที่จำแลงอยู่ใต้ร่างเขาเข้าไปในปากจนหมด!!

ต่อให้ป๋ายเสี่ยวฉุนจะเข้าใจเจ้าเต่าจระเข้ได้ดีแค่ไหน แต่ตอนนี้ลูกตาของเขาก็ยังแทบจะถลนออกมาจากเบ้า ความรู้สึกเช่นนี้ราวกับว่ามองเห็นคนธรรมดากลืนสายฟ้าเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

“ทำ…ทำไมเจ้าถึงกินทุกอย่างไม่เลือกอย่างนั้นเล่า!” ป๋ายเสี่ยวฉุนร้องอุทานเสียงหลง ในสีหน้าของเต่าจระเข้มีความเย่อหยิ่งและลำพองใจ ทั้งยังแหงนหน้าร้องคำรามราวกับรู้สึกว่าการที่ตัวเองกลืนอีกฝ่ายลงไปเป็นเรื่องที่น่าโอ้อวดอย่างยิ่ง ทั้งยังไม่สนใจเสียงร้องอุทานของป๋ายเสี่ยวฉุน เพียงสะบัดกายมาโผล่อยู่ตรงหน้าป๋ายเสี่ยวฉุน…แล้วมุดลอดหายเข้าไปในบึงน้ำที่อยู่รอบกาย ไม่นาน…ก็หายไปพร้อมกับเขตแดนธาราต่อหน้าต่อตาของป๋ายเสี่ยวฉุน

ป๋ายเสี่ยวฉุนมองตาค้าง

“นี่มัน…สิ้นสุดแล้วรึ? หม้อของข้าล่ะ…” ป๋ายเสี่ยวฉุนลังเล แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าสัตว์แห่งชะตาชีวิตของตัวเองเชื่อถือไม่ค่อยได้นัก โดยเฉพาะที่เขาพอจะสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่าห้วงมิติที่เขตแดนธาราอยู่ ตอนนี้คล้ายจะมีริ้วคลื่นที่เดือดพล่านระเบิดปะทุอย่างรุนแรง

ป๋ายเสี่ยวฉุนถึงกับสะดุ้งโหยง รีบยกมือทั้งคู่ขึ้นโบกอย่างไร้ซึ่งความลังเล ทันใดนั้นรอบกายเขาก็มีน้ำวนของกาลเวลาที่หมุนย้อนกลับ คราวนี้น้ำวนไม่ได้หวนเวลากลับคืนไปในอดีต แต่หวนคืนกลับมาสู่ปัจจุบัน!

“นี่ฝานต้องฝ่าออกมาได้แน่นอน ต้องรีบทำเวลา!” ร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนเป็นดั่งสายฟ้าที่ผลุบหายเข้าไปในน้ำวน พอปรากฏตัวอีกครั้ง…ก็เข้ามาอยู่ในปัจจุบันกาล ครั้นแล้วจึงขยับกายวูบหายตัวไปอีกครา คราวนี้พอปรากฎตัวก็ได้มาอยู่ตรงโลกของซากปรักหักพังอันเคยเป็นที่ตั้งของโลกแห่งเซียน!

เมื่อเทียบกับโลกหนึ่งแสนแปดหมื่นแห่งในห้วงจักรวาลนี้ นอกจากดินแดนเซียนนิรันดร์กาลแล้ว ที่นี่ก็คือสถานที่ที่ป๋ายเสี่ยวฉุนมีความรู้สึกผูกพันมากที่สุด เพราะก็คือโลกแห่งเซียนใบนี้…ที่มอบโชคชะตาเสี้ยวสุดท้ายให้แก่เขา ทำให้เขาเลื่อนขั้นจากเทียนจุนเป็นบุพกาลได้สำเร็จ!

บัดนี้ร่างจริงของเขาพลันเผยกายอยู่กลางซากปรักหักพังของโลกแห่งเซียน เขาต้องทำเวลา ในขณะที่นี่ฝานถูกกักตัวชั่วระยะเวลาสั้นๆ ด้านหนึ่งคือเขาต้องจุดแสงสว่างให้แก่ซากปรักหักพังของโลกแห่งเซียนใบนี้ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องแผ่อำนาจจิตออกไป ฉวยโอกาสตอนที่ร่างแห่งเต๋าของนี่ฝานเสียความปราดเปรียวเพราะไม่มีการบังคับควบคุมจากร่างจริงไปบังคับให้ร่างแห่งเต๋าของตัวเองใช้พลังเต็มความสามารถเพื่อสังหารร่างแห่งเต๋าของนี่ฝานที่อยู่ในโลกหนึ่งแสนแปดหมื่นใบ หวังช่วงชิงโลกทุกใบในห้วงจักรวาลมาครอบครอง!

พริบตานั้นศึกระหว่างร่างแห่งเต๋าของป๋ายเสี่ยวฉุนกับร่างแห่งเต๋าของนี่ฝานที่กำลังปะทุดุเดือดอยู่ในโลกหนึ่งแสนแปดหมื่นแห่งก็พลันเกิดภาพเหตุการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ก่อนหน้านี้ร่างแห่งเต๋าของป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่ในสภาวะตกเป็นรอง แต่ตอนนี้เมื่อป๋ายเสี่ยวฉุนล่วงหน้ากลับมาก่อน ร่างแห่งเต๋าของเขาก็พลันแผ่ประกายแสงเจิดจ้า ภายใต้การเข่นฆ่าที่ดุเดือดครั้งนี้ ร่างแห่งเต๋าของนี่ฝานกลับเริ่มปราชัย และดูเหมือนว่านาทีนั้นทั่วทั้งห้วงจักรวาลจะมีแสงสว่างมากกว่าความมืดมิด!

ยิ่งไปกว่าในนั้นซากปรักหักพังของโลกแห่งเซียนยังมีร่างจริงของป๋ายเสี่ยวฉุนนั่งเข้าฌานแผ่อำนาจจิตไปผสานรวมกับทั่วทั้งซากปรักหักพัง ใช้พลังของร่างจริง ใช้เต๋า ใช้ปราณผู้บงการของตัวเองมาค่อยๆ จุดแสงสว่างให้กับซากปรักหักพังโลกแห่งเซียน ปลุกความมีชีวิตชีวาให้ฟื้นคืนกลับมา!

ขณะเดียวกันอำนาจจิตส่วนหนึ่งของเขาก็คอยจับตามองห้วงมิติของเขตแดนธาราอยู่ตลอดเวลา หากนี่ฝานที่อยู่ข้างในนั้นหลุดออกมาได้ เขาก็จะสัมผัสได้และตรงเข้าไปขัดขวางอีกฝ่ายในทันที!

เวลาแต่ละชั่วลมหายใจล่วงเลยผ่านไป ในโลกหนึ่งแสนแปดหมื่นแห่ง ร่างแห่งเต๋าของนี่ฝานพ่ายแพ้ถอยร่นไม่เป็นท่า แสงสว่างยิ่งเจิดจ้าเรืองรอง และในที่สุดอำนาจจิตของป๋ายเสี่ยวฉุนที่อยู่ในซากปรักหักพังโลกแห่งเซียนก็ได้ขับไล่ความมืดมิดของแผ่นดินใต้ฝ่าเท้าส่วนหนึ่งออกไปได้ จากนั้นก็จุดไฟให้กับเมล็ดพันธ์แห่งแสงสว่าง เป็นเหตุให้แสงสว่างขยายแผ่ลาม มองไปไกลๆ ซากปรักหักพังโลกแห่งเซียนที่แต่เดิมมืดมัว บัดนี้ก็เหมือนมีตะเกียงดวงหนึ่งปรากฏขึ้นมา!!

และการปรากฏของแสงตะเกียงนี้ก็ยิ่งทำให้ป๋ายเสี่ยวฉุนตัวสั่นสะท้าน เพราะเขาสัมผัสได้ถึง…การเยื้องกรายลงมาเยือนของปราณที่ลี้ลับมหัศจรรย์นั้นอีกครั้ง!

ราวกับว่ายิ่งเขาจุดแสงสว่างให้กับซากปรักหักพังโลกแห่งเซียนได้มากเท่าไหร่ ปราณแห่งความลี้ลับมหัศจรรย์นี้ก็จะยิ่งแจ่มชัดมากขึ้นเท่านั้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!