บทที่ 327 ตบะฝ่าทะลุ!
มหาสมุทรทงเทียนคือแถบพื้นที่อันเป็นจุดศูนย์กลางของโลกใบนี้ มหาสมุทรสีทองที่กว้างขวางไร้ที่สิ้นสุดแห่งนี้ต่อให้เป็นนักพรตขั้นก่อกำเนิดเองก็ยังไม่กล้าเหยียบย่างเข้าไปในขอบเขตของมหาสมุทรแห่งนี้ง่ายๆ โดยที่ไม่มีอาวุธสำหรับพาข้ามผ่าน
และก็มีเพียงขอบเขตคนฟ้าเท่านั้นถึงจะพอฝืนข้ามผ่านมหาสมุทรใหญ่นี่ไปได้
มหาสมุทรทงเทียนแห่งนี้ ออกตกเหนือใต้สี่ทิศทางล้วนมีช่องโหว่สี่เส้นที่น้ำทะเลไหลลงสู่แม่น้ำ ก่อกลายมาเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่สี่สาย แม้จะไม่ได้ไหลทอดยาวไปจนถึงจุดสิ้นสุดของโลก ทว่าก็ยังคล้ายจะไหลยาวอย่างไร้ขีดจำกัด
สำนักต้นน้ำของแม่น้ำตอนบนทั้งสี่แห่งต่างก็ตั้งอยู่ตรงจุดตัดระหว่างทะเลและแม่น้ำทั้งสี่สายนี้ ที่ตั้งอยู่สายตะวันออก…ก็คือสำนักอันตมรรคฟ้าดารา เมื่อแม่น้ำตะวันออกไหลรินออกไปซึ่งไม่รู้ว่ากินอาณาเขตกว้างขวางมากเท่าไหร่ แม่น้ำทงเทียนตะวันออกก็ได้แบ่งออกเป็นอีกสี่สาย และแต่ละสายก็ต่างทอดยาวออกไปอีก
และจุดแบ่งของแม่น้ำทั้งสี่เส้นนี้ก็กลายมาเป็นโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนกลางของแม่น้ำตะวันออก สำนักธารอันต สำนักธารมรรคา สำนักธารฟ้า สำนักธารดารา…ก็คือสี่สำนักใหญ่ของแม่น้ำทั้งสี่เส้น!
ตลอดทั้งโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนกลางแม่น้ำตะวันออก สี่สำนักใหญ่นี้ก็คือผู้พิชิตอย่างสมฐานะ ไม่ว่าสำนักใดก็ตามล้วนมีพละกำลังที่เลิศล้ำ กวาดล้างตระกูลผู้บำเพ็ญเพียรจำนวนมากและสำนักเล็กๆ ได้ทั้งหมด
นั่นคือการกำราบอย่างสัมบูรณ์ ต่อให้สี่สำนักใหญ่ของโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่างร่วมมือกันก็ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของสำนักใดสำนักหนึ่งในแม่น้ำตอนกลาง และกุญแจสำคัญของทั้งหมดนี้ก็มีเพียงอย่างเดียว!
บุรพาจารย์ของโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่างล้วนอยู่ในขั้นก่อกำเนิด ทว่าในสี่สำนักใหญ่ของโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนกลาง บุรพาจารย์มีเพียงคนเดียว…และมีตบะคนฟ้า!
ขอบเขตคนฟ้า!
นี่คือขอบเขตที่เหนือกว่าก่อกำเนิดจนแทบจะเรียกได้ว่าแปรสภาพไปเป็นอีกสิ่งหนึ่ง บรรลุถึงระดับสูงอย่างที่ไม่อาจคาดคิดได้ ระยะห่างระหว่างก่อกำเนิดนั้นมีมากกว่าความต่างระหว่างก่อกำเนิดกับยาอายุวัฒนะด้วยซ้ำ!
คิดจะต่อกรได้อย่างเหนือชั้นกว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย!
ความกดดันเช่นนี้ ทำให้หากโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่างไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น คิดจะดับทำลายสำนักใหญ่ของตอนกลาง ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องฝืนชะตาฟ้าลิขิตที่ไม่อาจเป็นจริงได้ อีกทั้งนักพรตก่อกำเนิดของโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่าง หากคิดจะฝ่าทะลุตบะเหยียบย่างเข้าสู่ขั้นคนฟ้า ความเป็นไปได้ในแม่น้ำตอนล่างนั้นก็น้อยนิดจนเกือบจะไม่มีอยู่จริงเช่นกัน
ต่อให้เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม โอกาสก็ยังน้อยแสนน้อย เพราะว่าพลังวิญญาณของแม่น้ำทงเทียนไม่เหมือนกัน เพราะว่าทรัพยากรแตกต่างกัน เพราะว่าวิชาที่ฝึกไม่เหมือนกัน และยังมีอีกสาเหตุหนึ่งนั่นคือเมื่อด่านเคราะห์ของคนฟ้ามาเยือน ไม่มีใครพิทักษ์ปกป้องได้ โอกาสตายจึงมีมากถึงเก้าในสิบส่วน!
นอกจากนี้แล้วยังมีสาเหตุที่ลึกล้ำกว่านั้นอีกหนึ่งชั้น สำนักแม่น้ำตอนกลางมีหรือจะยอมให้แม่น้ำตอนล่างที่อยู่ในบังคับบัญชามีคนฟ้าปรากฏขึ้นเพื่อมาคุกคามตำแหน่งของตัวเอง!
ทว่าตอนนี้…ทุกอย่างนี้ ล้วนพลิกเปลี่ยนและเกิดโอกาสอันดีงามที่หาได้ยากยิ่งขึ้นในสำนักธารฟ้า!
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสำนักธารฟ้าถึงทำให้สำนักอันตมรรคฟ้าดาราโกรธเคืองจนถึงขนาดส่งคนฟ้าสองท่านมาสังหารบุรพาจารย์คนฟ้าของสำนักธารฟ้าโดยเฉพาะ อีกทั้งยังดึงเอาวิญญาณออกมาทำเป็นวิญญาณคนฟ้าร่างหนึ่งที่ล้ำค่าอย่างหาอะไรเปรียบมิได้
ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้สังหารนักพรตของสำนักธารฟ้าไปมากเกือบเจ็ดส่วน พลังแฝงก็ดี อาวุธล้ำค่าก็ช่าง ต่างก็ถูกทำลายล้างจนแทบไม่เหลือ
ถึงขั้นที่ว่าแค่ความคิดเดียวก็ทำลายให้สำนักธารฟ้าล่มสลายสิ้นชื่อไปได้เลย แต่กลับไม่ได้เลือกทำเช่นนั้น ทว่ากลับตั้งกติกาการละเล่นขึ้นมาใหม่!
โยนสำนักธารฟ้าทิ้งไว้ตรงนั้น ปล่อยให้กลายเป็นชนวนสงครามของสี่สำนักใหญ่ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่างใต้บังคับบัญชาของสำนักธารฟ้าเอง
สำนักธารฟ้าที่ได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจึงกลายมาเป็น…ความล่อลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเข้ามาแทนที่ของโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่าง เวลาเดียวกันนั้น มีหรือที่สำนักธารฟ้าจะยินยอมง่ายๆ แม้ว่าพวกเขาจะถูกลงโทษอย่างเจ็บปวด ทว่ากลับมีความมั่นใจมากพอ หากสุดท้ายแล้วยังคงยืนหยัดต่อไปได้ท่ามกลางการโจมตีจากโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่าง ถ้าเช่นนั้นในการละเล่นครั้งนี้ที่สำนักอันตมรรคฟ้าดาราเป็นผู้กำหนด บางทีก็อาจมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะได้ดำรงอยู่ต่อไป!
หากผ่านไปอีกหลายพันปี บางที…อาจจะมีคนเลื่อนขั้นขึ้นเป็นขอบเขตคนฟ้า กลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง
การร่วมมือกันของสี่สำนักใหญ่ตอนล่าง ใช่ว่าพวกเขาจะไม่รู้ แต่กลับไม่กล้ากระทำการใดๆ แม้แต่น้อย กติกาของการละเล่นครั้งนี้ สำนักอันตมรรคฟ้าดาราเป็นผู้กำหนด พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทุกอย่างที่ทำได้มีเพียงเป็นฝ่ายถูกกระทำยอมรับการลงโทษของสำนักอันตมรรคฟ้าดาราแต่โดยดี!
การเลื่อนขั้นของตอนล่างโดยพยายามให้เข้ามาแทนที่ครั้งนี้ ก็คือการลงโทษ!
ประตูของสำนักธารฟ้าสร้างขึ้นบนแม่น้ำทงเทียน เมื่อเทียบกับธารน้ำทงเทียนของตอนล่างแล้ว เรียกได้ว่ามโหฬารมากกว่าอย่างน้อยสิบเท่าขึ้นไป เมื่อมองผ่านๆ ระหว่างสองชายฝั่งจึงเห็นเป็นเพียงทิวทัศน์ที่เลือนรางเท่านั้น
มองไล่ไปยังด้านล่างของแม่น้ำทงเทียนเส้นนี้ ปลายทางที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดนั้น แม่น้ำได้แบ่งแยกออกเป็นอีกสี่สาขา กลายมาเป็นโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรแม่น้ำตะวันออกตอนล่าง
เวลานี้ ในธารน้ำสายแรกที่แยกออกไป ยักษ์ตนหนึ่งที่เรือนกายใหญ่โตเกินจะเปรียบซึ่งร่างท่อนบนอยู่เหนือน้ำกำลังก้าวขายาวๆ เดินตึงตึงเคลื่อนหน้ามาต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ก้าวออกมา น้ำในแม่น้ำล้วนกลิ้งซัดตลบ สัตว์ดุร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในแม่น้ำล้วนพากันหลีกลี้หนีห่าง
ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งบางอย่าง หลังจากที่สัมผัสถึงปราณที่แผ่ออกมาจากร่างของยักษ์ตนนี้แล้วก็ยังเลือกที่จะอยู่เฉยๆ ปล่อยให้ยักษ์ตนนี้เดินผ่านถิ่นของพวกมันไป
บนไหล่ของยักษ์บางครั้งสามารถมองเห็นเงาของกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งแฉลบผ่านไป
และห่างไปทางด้านหลังของยักษ์ตนนี้ระยะหนึ่งก็จะมองเห็นเรือรบทงเทียนขนาดหนึ่งแสนจั้งหนึ่งลำที่แล่นฉิวผ่าลูกคลื่น คำรามเคลื่อนมาด้านหน้า นักพรตมากมายล้นหลามที่อยู่บนเรือรบส่วนใหญ่ล้วนนั่งขัดสมาธิ พยายามให้ตัวเองอยู่ในสภาวะพรั่งพร้อมสูงสุดตลอดเวลา ทั้งยังมีความระมัดระวังเอาจริงเอาจังตลบอบอวลไปทั่วทั้งเรือรบ
ด้านหลังเรือลำนี้ยังมีเรือรบอีกสองลำ ลำหนึ่งขนาดเจ็ดหมื่นจั้ง อีกลำหนึ่งสามหมื่นกว่าจั้ง
ความเคร่งขรึมจริงจังแผ่ชัดไม่ต่างกัน ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ท่ามกลางการเดินทางเคลื่อนไปข้างหน้านี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนที่รวบรวมปณิธานของทุกคนเข้าด้วยกันเพื่อใช้ควบคุมบรรพบุรุษโลหิต นัยน์ตาของเขาฉายแสงคมกล้า เดินอยู่ในแม่น้ำ สัมผัสถึงความกว้างใหญ่ไพศาลของโลกใบนี้ สัมผัสถึงความอ่อนโยนของน้ำที่สาดกระทบร่าง ในใจของเขาบังเกิดความรู้สึกองอาจชาญชัย
“จะต้องมีวันนั้น…ที่ข้าไม่จำเป็นต้องควบคุมเรือนกายของบรรพบุรุษโลหิตก็สามารถสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของฟ้าดินได้อย่างตอนนี้!”
ป๋ายเสี่ยวฉุนสูดลมหายใจเข้าลึก ระหว่างที่ก้าวขาเสียงตึงตังก็ดังกึกก้อง น้ำของแม่น้ำถูกดึงขึ้นเป็นระลอกสูง หนึ่งก้าวของร่างบรรพบุรุษโลหิตกว้างหลายพันจั้ง
หลายวันหลังจากนั้น ด้วยความเร็วของร่างบรรพบุรุษโลหิต บวกกับการทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มกำลังของเรือรบทงเทียน ที่สำคัญที่สุดก็คือตลอดทางมานี้พวกเขาไม่พบเจออุปสรรคใดๆ เลย ซึ่งในที่สุด…วันนี้ พวกเขาก็มาถึงจุดตัดแบ่งธารน้ำแล้ว!
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ปลายทางของกระแสธารเชื่อมต่อกับแม่น้ำใหญ่กว้างขวางแห่งหนึ่ง แม่น้ำใหญ่นี้มีเพียงบุรพาจารย์ของสี่สายที่เคยได้เห็นในช่วงเข้าเฝ้าสำนักธารฟ้าทุกๆ หกสิบปี ส่วนนักพรตคนอื่นๆ ตลอดชีวิตนี้ล้วนไม่เคยเห็นแม่น้ำที่กว้างกว่ากระแสธาราเป็นสิบเท่าแบบนี้มาก่อน
“แม่น้ำทงเทียนตอนกลาง!!”
“นี่คือ…นี่คือแม่น้ำทงเทียนหรือ? นี่มันใหญ่เกินไปหน่อยไหม!!”
“เมื่อเทียบกับแม่น้ำเส้นนี้แล้ว ของพวกเราสมควรเรียกว่ากระแสธาราอย่างแท้จริง!” นักพรตสามสายที่อยู่บนเรือรบทงเทียนต่างพากันสูดลมหายใจเข้าลึก และบัดนี้พวกเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงปราณวิญญาณฟ้าดินที่ลอยมาปะทะใบหน้าซึ่งเข้มข้นกว่าโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรตอนล่างเกินสิบเท่า
คนไม่น้อยแค่สูดลมหายใจไม่กี่ที ร่างกายก็พลันส่งเสียงลั่นเปรี๊ยะๆ คล้ายว่าเมื่ออยู่ภายใต้ปราณวิญญาณที่เข้มข้นอย่างไม่เคยพบเคยเจอนี้ เรือนกายของพวกเขาจึงกำลังฝ่าทะลุพันธนาการแห่งชีวิตดั้งเดิมอย่างมิอาจควบคุมได้
“นี่…นี่ก็คือแม่น้ำตอนกลาง ตบะของข้า…”
“ขอแค่ชนะศึกสำนักธารฟ้าได้แล้วเข้าไปแทนที่ อยู่ที่นี่ข้าต้องสามารถฝึกได้ถึงระดับบุรพาจารย์ก่อกำเนิดอย่างแน่นอน!!”
ขณะที่คนจำนวนนับไม่ถ้วนตื่นเต้นฮึกเหิม บุรพาจารย์เหล่านั้นของสำนักสยบธารต่างก็ลมหายใจถี่กระชั้น ความรู้สึกของพวกเขาลึกล้ำเกินกว่าคนอื่นๆ มากมายหลายเท่านัก เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว คนฟ้า…ถึงจะเป็นเป้าหมายสุดท้าย!
และหากยืนหยัดอยู่บนแม่น้ำตอนกลางได้อย่างมั่นคง ภายใต้พลังวิญญาณและทรัพยากรมหาศาลเหล่านั้น คนฟ้า…จะไม่ใช่ความปรารถนาที่เพ้อฝันเกินจริงอีกต่อไป อีกทั้งในช่วงเวลาที่คับขันมากที่สุดก็จะไม่มีใครมารบกวนกลางคัน เพราะว่า…สำนักแม่น้ำตอนกลาง มีสิทธิ์ที่จะมีคนฟ้าเกิดขึ้นได้!
ป๋ายเสี่ยวฉุนที่อยู่ในร่างของบรรพบุรุษโลหิต ความรู้สึกของเขาในเวลานี้ดุเดือดยิ่งกว่าพวกบุรพาจารย์เสียอีก เรือนกายของบรรพบุรุษโลหิตที่เขาควบคุมอยู่อ้าปากสูดลมเข้ามาอย่างแรงหนึ่งคำ ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวสายฟ้าระเบิดแตกกระจาย พลังวิญญาณฟ้าดินมากมหาศาลไหลทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง คล้ายว่าปากของเขาได้กลายเป็นหลุมดำหนึ่งหลุม แค่สูดลมเพียงคำเดียวก็สูดเอาปราณวิญญาณไร้ที่สิ้นสุดเข้ามาในปาก แผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง หลังจากส่งไปให้นักพรตสำนักธาราโลหิตทุกคนที่อยู่ภายในแล้ว ส่วนใหญ่ที่หลงเหลืออยู่ก็ถูกป๋ายเสี่ยวฉุนหลอมรวมเข้าไปในร่างกาย
มหาสมุทรวิญญาณชั้นที่เก้าของเขาเดิมทีเหลืออีกแค่เส้นเดียวก็สามารถตกผลึกได้อย่างสมบูรณ์แบบ บัดนี้ เพียงแค่การสูดครั้งเดียว เสียงตูมก็ดังหนึ่งครั้ง พริบตาเดียว…ก็กลายเป็นผลึกเรียบร้อย!
วินาทีที่กลายเป็นผลึกนั้น ตลอดทั้งร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนสั่นเยือก ตบะระเบิดออก พลังอำนาจระลอกหนึ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้มากมายหลายเท่าพลันปรากฏขึ้นบนร่างของเขา
นี่คือ…สร้างฐานรากขั้นสมบูรณ์แบบ! อีกทั้งเมื่อมหาสมุทรวิญญาณทั้งเก้าชั้นกลายมาเป็นผลึกแล้วผสานรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว จึงก่อเกิดเป็นสร้างฐานรากวิถีฟ้าขั้นสมบูรณ์แบบ!
“แม่น้ำตอนกลาง…” ป๋ายเสี่ยวฉุนดีใจอย่างบ้าคลั่ง เขารู้สึกว่าตัวเองกับแม่น้ำตอนกลางช่างมีวาสนาต่อกันยิ่งนัก มิฉะนั้นตนก็คงไม่ฝ่าทะลุขั้นในทันทีที่เหยียบย่างเข้ามาแบบนี้…
นอกจากความปิติยินดีแล้ว ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ประทับใจกับปราณวิญญาณของแม่น้ำตอนกลางนี้มาก ต่อให้ถูกเขาสูดมาด้วยกำลังทั้งหมดของร่างบรรพบุรุษโลหิต แต่มันกลับไม่เกิดความเสียหายเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่า…มีมากมายไร้ที่สิ้นสุด
ดวงตาเปล่งประกายวาบ เรือนกายของบรรพบุรุษโลหิตที่ป๋ายเสี่ยวฉุนควบคุมพลันกระโดดพรวดออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เรือนกายที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินของบรรพบุรุษโลหิตก็ลอยสูงขึ้นกลางอากาศ มาร่วงลงอีกทีอยู่ใน…สายหลักของแม่น้ำทงเทียนตะวันออกตอนกลาง!
ตูม!
น้ำของแม่น้ำสาดกระเซ็นไปสี่ทิศ ลูกคลื่นกระเพื่อมซัดโถม ไม่นานเรือนรบทงเทียนทั้งสามลำก็แล่นเข้าสู่โลกแม่น้ำตอนกลางด้วยอานุภาพยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม!