Skip to content

Boss and secretary 1

Boss & secretary

เลขาปากร้ายกับเจ้านายตัวดำ

ตอนที่ 1

เช้าวันนี้ก็คงเหมือนเช้าอีกหลายๆ วันที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อหน่ายกับอาชีพการงานที่แสน จะเคร่งเครียดของผม ตำแหน่งผู้บริหารเป็นงานที่ให้รายได้ดีแต่ก็ได้พรากเอาความมีชีวิตชีวาของผมไปด้วย ผมขับรถเข้าไปบริษัทพร้อมกับวางแผนการทำงานในวันนี้ไปด้วย ในจังหวะที่ผมหันไปเปลี่ยนซีดี เพลงจึงไม่ทันเห็นร่างของสาวน้อยคนนึงที่พรวดพราดเข้ามากลางทาง  ดีแต่ว่าผมเหยียบเบรกทัน  รถ จึงแค่เกือบจะชนเจ้าหล่อน

หล่อนไม่พูดแค่ทำหน้าตกใจสุดขีดที่จู่ ๆก็เกือบเอาชีวิตไปถวายยมบาล แล้วหล่อนก็ชูนิ้วกลางให้ผมเป็นสัญลักษณ์การด่าที่เป็นสากลแล้วก็วิ่งจากไป

“อ่ะโห โดนด่าแต่เช้าเลยกู”  วันที่แค่เซ็งอยู่แล้วก็ยิ่งเซ็งหนัก ยัง ยังไม่พอ พอเดินเข้าไปในตึก เจอแม่สาวคนเดิมเข้า เธอเดินรี่เข้าหาผม ด้วยท่าทางเอาเรื่อง

“นี่คุณ ขับรถก็แพง มีตามองชาวบ้านเค้ามั้งไม๊” ปากอวบอิ่มขยับด่าแบบหาเรื่องทันที

“อ้าว…คุณนั่นแหล่ะ เดินยังไงให้มาขวางรถผม แล้วยังมาด่าผมอีก”

ตอนแรกก็เซ็งอยู่หรอกที่โดนด่า แต่พอเพ่งพิศดูดี ๆ เธอเป็นคนสวยมากทีเดียว ผิวขาว ละเอียด ตายาวรี จมูกโด่งสวย และปากที่อวบอิ่ม รูปร่างสูงโปร่งแต่อวบอัดไปด้วยเนื้อสาว ดูเป็นคนสวยเปรี้ยว ขนาดโกรธก็ยังดูสวย เลยอยากจะต่อปากต่อคำกับเธอเล่น

“โห นี่คุณ ผิดแล้วยังไม่ยอมรับอีกน่ะ ถ้าชั้นไม่ติดธุระน่ะ จะด่าให้ขาวเลย คอยดู”

ผมถึงกับยืนสะดุ้งก็ผมน่ะแค่ผิวคล้ำแดดจากการเล่นกีฬาแค่นั้นแหล่ะ ไม่ได้ดำซะหน่อย พออ้าปากจะด่าตอบมั้งเจ้าหล่อนก็เดินจากไปซะแล้ว ทิ้งให้ผมยืนมองรูปร่างอวบอัดของหล่อนตามหลัง

“เอาว่ะ ถือว่าโดน ด่าล้างซวย เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น”

………………………………………………………..

“คุณเทพค่ะ เลขาใหม่ของคุณมาถึงแล้วน่ะค่ะ วันนี้ศรีก็ขอลาเลยน่ะค่ะ”

“อ้าว…คุณศรี ไม่อยู่ฝึกงานเลขาใหม่ให้ผมก่อนเหรอ พอจะลาไปมีสามี ก็ไปเลยไม่อยู่ช่วยผมก่อนเลยน่ะ”

“แหม…ผู้จัดการค่ะ ของแบบนี้รอกันไม่ได้ เดี๋ยว ศรีเรียกเลขาให้น่ะค่ะ แล้วก็ทำความรู้จักกันเองน่ะคะ ศรีขอบคุณสำหรับทุกอย่างน่ะคะ”

“ครับ โชคดีน่ะครับคุณศรี แล้วมีอะไรก็ติดต่อผมได้เสมอน่ะครับ”

ผมตอบพร้อมลุกขึ้นยืนรับไหว้เธอ คุณศรีช่วยผมไว้เยอะตอนผมเข้ามารับตำแหน่งนี้ใหม่ๆ โดนเขม่นมากจากผู้บริหารรุ่นเก่า แถมสาวๆที่จ้องจะจับผมก็เยอะ ก็ได้เลขามหาประลัยอย่างเธอนี่แหล่ะช่วยไว้ ทั้งช่วยงานทั้งกันสาวๆ ผมนับถือเธอเหมือนเป็นพี่สาวคนนึงที่เดียว  หลังจากส่งเธอแล้วผมก็นั่งก้มหน้าก้มตาเช็คเอกสารบนโต๊ะไปเรื่อยจนได้ยินเสียงประตูเปิดก็เงยหน้าขึ้นดู

……………………………………………………………

“โอ้ย ตาย แล้ว ตายแน่ๆ ช้าน ตรีช่วยชั้นหน่อยซิ ”

สาวน้อยคนนึงนั่งฟูมฟายอยู่กับเพื่อนสาวในร้านอาหาร

“นี่เป็นอะไรยัยปรางค์ ทำงานวันแรกก็มานั่งโวยวายเสียจริตอยู่เนี่ย”

ตรีงงงวยกับอาการของเพื่อนสาวตัวเองมาก ปกติปรางค์ ป็นผู้หญิงมั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ด ด้วยรูปร่างหน้าตาและความสามารถต่างๆ ที่เก่งไม่แพ้ใคร ทำให้เธอไม่กลัวใคร จนถึงขั้นย้ายงานมาแล้วหลายที่ เพราะไปงัดข้อ ม่ายช่ายงัดข้ออย่างงั้น คือไปขัดใจหัวหน้างาน ไม่พอใจก็ลาออกซะงั้น บ้านยัยปรางค์ก็ฐานะดีอยู่แล้ว ที่ทำงานก็เพราะอยากทำมากกว่า

“แก ชั้นไปทำงานวันแรก ก็ดันไปด่าเจ้านายเข้าให้แล้วอ่ะซิ ทำไงดีว่ะ”

คิ้วเรียวบางขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด ทุกทีก็ทำได้นานนะกว่าเจ้านายจะลายออกให้เธอด่า แต่นี่เธอด่าซะตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า โอ้ย ตายๆๆ ชีวิตการทำงานจะมีความสุขไม๊เนี่ย

“อ้าวไหนบอกอยากทำงานนี้ไง แล้วเห็นว่าเจ้านายแกอ่ะทั้งหล่อทั้งดังน่ะ ลงหนังสือตั้งหลายเล่ม”

“เออ คงมีแต่ชั้นล่ะมั้งที่ไม่รู้จักเค้าอ่ะ”

หญิงสาว นั่งหน้าตูม ก็ไม่รู้จริงๆนี่หน่าว่าไอ้บ้าคนที่เกือบจะชนเรามันจะกลายมาเป็นเจ้านายเราเชอะ ไอ้หล่ออ่ะมันก็หล่อแหล่ะนะ อายุ 30 ผิวคล้ำ หน้าคมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกดี หล่อเนี้ยบ ดวงตาดุเข้มแต่ก็แฝงแววขี้เล่น ถ้าไม่นับว่าด่ากันไปแล้วก็เป็นผู้ชายแบบที่เธอชอบนั้นแหล่ะ

“เอาน่าแก เครียดไปก็ไม่ได้ประโยชน์ ไปเที่ยวกับชั้นดีกว่า เป็นบาร์โฮสต์นะ รับรอง สนุกได้เต็มที่ งานนะถ้าไม่อยากทำก็ไปลาออกซะ ไม่ต้องทำก็ได้”

“เออ ก็ดี เที่ยวไหนล่ะจ๊ะ”

“เอาน่าเดี๋ยวก็รู้”

เพื่อนสาวอุบไว้ อมยิ้มแบบมีเลศนัย

หน้าบาร์โฮสต์ของเพื่อนสาวเธอ และแล้วเธอก็รู้

“โห ยัยตรี บาร์โฮสต์แก”

ปรางค์แก้วถึงจะเป็นหญิงสาวสมัยใหม่ เปรี้ยวปรี้ด แต่ก็ไม่เคยเที่ยวอะไรอย่างงี้มาก่อน  มันเป็นคลับเปลื้องผ้า พนักงานทั้งชาย หญิง สวมแต่บิกินี่ตัวจิ๋วๆ ปิดนมปิดจิ๋มแทบไม่มิด บนเคาน์เตอร์มี เหล่าแดนเซอร์ทั้งชายหญิง เต้นกันอยู่ด้วยลีลายั่วยวนโยกย้ายส่ายสะโพกเคล้าคลึงกันอย่างเร่าร้อน ยิ่งดึก ลีลาบนเวทีก็ยิ่งดุเดือด นักเต้นเริ่มเปลื้องผ้ากันโชว์ลีลาเล้าโลมกันอย่างโจ๋งครึ๋ม นักเต้นชายลูบไล้ไปตามเรือนกายของนักเต้นสาว บีบเคล้นหน้าอกดูดเลีย อีกหลายคู่ก็เริ่มเล้าโลมโชว์กันอย่างกระตุ้นราคะผู้ดู บางคู่ผู้ชาย ลงไปดูดเลียจิ๋มนักเต้นสาว ต่างคนต่างก็ร่ายลีลากระตุ้นอารมณ์เงี่ยนของผู้ดู เพราะคู่ไหนที่ลีลาดีก็ได้ทิปเยอะ เลยโชว์กันสุดเหวี่ยง

สาวปรางค์ ก็ดูไปหน้าแดงซ่านไป แค่เที่ยวยังไม่ค่อยได้เที่ยวเลย แล้ว มาครั้งนี้ ก็มาเจออะไรที่มัน กระตุ้นเลือดสาวขนาดนี้ อาย ก็ อาย อยากดู ก็ อยากดู ยิ่งดู ความรู้สึกแปลกๆก็ยิ่งเกิดขึ้นแก่ร่างกายหล่อน ยิ่งดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ เข้าไป เลือดในกายก็ยิ่ง สูบฉีด

“เอาล่ะครับ ถึงช่วงเวลาพิเศษ ของเราแล้ว ผู้โชคดี ที่นั่งอยู่ บนที่นั่งที่ 118 จะได้ เป็นผู้ขึ้นมาร่วนสนุก บนเวทีกับเรา”

และแล้ว สปอร์ตไลท์ ก็ฉายมาที่ ปรางค์แก้ว เอาล่ะซิ เอาว่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ลองดูก็ได้
บนเวที ปรางค์แก้ว ขึ้นไปยืน เก้ๆกังๆ แต่ความสวย ของเธอ ตรึงสายตาของคนในคลับได้ทั้งหมด เหล่าแดนเซอร์ ชาย หนุ่มทั้งหลายก็เข้ามารุมล้อมร่างกายเธอ พลางเต้นยั่วยวนเธอ

คือถ้าเป็นผู้ชาย ขึ้นไป หรือเป็นผู้หญิงที่ กล้าๆ หน่อยขึ้นไป คงมีความสุข เพราะ คนที่ได้ขึ้น บนเวที จะสามารถ จับ ลูบ คลำ ล้วง ควัก คลึง เคล้า เหล่าแดนเซอร์เหล่านั้นได้ อย่างมันส์ มือ เป็นเวลา 1 เพลง แต่พอดีเป็น ปรางค์แก้ว ที่ยังอ่อนเชิงต่อเรื่องนี้อยู่ เธอจึงได้แต่ยืน ตัว นิ่งๆเกร็งๆ จนจบเพลง แต่ ร่างกาย กลิ่นสาบเหงื่อ ของบุรุษ เพศ และ แก่นกาย ที่แกร่งกำยำ เหล่านั้น ก็กระตุ้น ความรู้สึกเธอ ให้หวามไหวมากมาย

“ โหย ยัย ปรางค์ ยืนทำไมเฉยๆย่ะ เป็นชั้นน่ะ จะคลึงจะล้วงให้มันส์มือเลย ใหญ่ๆทั้งนั้นน่ะแก”

“เอ๊อ เอาเถอะย่ะ แค่พวกนั้นจับมือชั้นไปล้วงของมัน ชั้นก็จะแย่แล้วแก อึ๋ย วันนี้ต้องล้างมือซักสิบรอบ” ปากก็พูดไปแต่ใจ กระตุก ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่เคยจับของใครอันใหญ่ๆมาก่อน แฟนเธอที่เลิกร้างกันไป และเป็นผู้ชายคนเดียวที่ได้ตัวเธอ ก็ไม่ได้มีแก่นกาย และรูปร่างที่เร้าใจ เช่น หนุ่มๆบนเวที

“ เออ แล้วแกเอาไง จะลาออกป่ะ  งานน่ะเดี๋ยวชั้นจะช่วยฝากงานใหม่ให้ ” เพื่อนสาวถามด้วยความเป็นห่วง

“อืมห์ คงต้องหางานใหม่ แล้วแฮะ ทำไปท่าทางจะไม่รุ่ง” ปรางค์แก้ว พูดพลางถอนหายใจ

“เอาเถอะน่า โชคดีน่ะจ๊ะ เพื่อนสาว”

เมื่อ เธอกลับถึงบ้านด้วยอาการมึนเมาเล็กน้อย นัยย์ตาหรี่ปรือ เลือดในกายฉีดพล่านจากฤทธิ์สุรา เดินโซเซเข้าบ้าน ที่พ่อแม่ ซื้อไว้ให้เธออยู่เมื่อครั้งมาเรียนที่กรุงเทพ

“โอ้ย มึนจัง รีบอาบน้ำนอนดีกว่าพรุ่งนี้จะได้ไปลาออกจากงานแต่เช้า ไม่ไหวแฮะ” สาวสวยคิด ในขณะเดินเข้าห้องน้ำ

พลางปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากเรือนกาย อวบอิ่ม ทีล่ะชิ้น เสื้อสูท สีครีมถูกถอดออก ตามด้วยเสื้อเชิ้ต และ กระโปรง ตอนนี้เธออยู่ในชุดชั้นในราคาแพง โชว์สัดส่วนสมบูรณ์แห่งหญิงสาว อกอวบ เอวคอด สะโพก ผาย ก้นโค้งงอน ในขณะที่เธอรอน้ำอุ่นในอ่าง ให้เต็ม สมอง คิดกระหวัดไปถึงตอนกลางคืนที่ถูกนำมือไปจับแก่นกายแห่งชายหนุ่มที่แข็งชันอย่างเต็มที่ ทำให้เธอเกิดความหวามไหวอย่างรุนแรง เสื้อชั้นในถูกปลดออก ตามด้วยกางเกงชั้นใน ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลน อยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัว ก่อนจะหย่อนร่างลงในอ่างอาบน้ำ เริ่มต้นลูบไล้ทำความสะอาดร่างกาย อย่างเชื้องช้า ทุกสัมผัสที่โดนผิวกายก่อให้เกิดความกระสันต์ขึ้นมาอย่างเร่าร้อน หน้าอก อวบ ถูกบีบคลึงบดบี้ ปลายถันอย่างไม่รู้ตัว

เธอจินตนาการถึง เหล่าผู้ชายพวกนั้นที่เข้ามารุมล้อม สัมผัสเรือนร่างเธออย่างหื่นกระหาย ดูดดึงหัวนม เธอ บีบคลึงอย่างนุ่มนวลแต่เร่าร้อน ทุกสัดส่วนเรือนกายถูกจับจูบลูบคลำ ด้วยมือชายหนุ่ม เนินหน้าท้อง น่าคลุกเคล้าถูกชายหนุ่มไล้เลีย ลากลิ้นเรื่อยลงไปจนถึง โหนกHeeของเธอ เมื่อเธอคิดถึงตอนนี้ มือเรียวสวย ก็เลื่อนลงไปบดขยี้กลีบสาวอย่างลืมตัว สาวสวย หลับตาพริ้ม คิดว่ากลีบHeeกำลังถูกไล้เลียด้วยลิ้นหยาบหนา ไปทุกซอกทุกมุม ชายหนุ่มในจินตนาการของเธอลากลิ้นเลียตลอดความยาวกลีบHee ดูดเม้มดึง เม็ดเสียวเธออย่างนุ่มนวล นิ้วยาวใหญ่ของเค้า แหย่แยงเข้าไปใน รูHeeอันคับแน่น ดึงเข้าออก ช้าๆ สร้างความรัญจวนใจ

ก่อนจะ เพิ่มความหนักหน่วงรุนแรงปลายลิ้นก็ยังคงดูดดุนเม็ดเสียวเธออย่างต่อเนื่องเมื่อ เค้าลุกขึ้นทาบทับตัวเธอ แล้วดันท่อนค….. อวบหนาเข้ามาในร่องเสียว ของเธอ ก็เป็นช่วงเวลาที่เธอถึงจุดสุดยอด จากปลายนิ้วของเธอ พอดี ปรางค์แก้ว หอบหายใจยาวอย่างแสนสุข ปลายถันชูชัน ร่องHeeกระตุกตอดรัดนิ้วเธอ

“โอ้ย อู้ว คุณเทพค่ะ เสียวจังค่ะ” เธอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะ ชายหนุ่มที่อยู่ในความคำนึงเธอกลับเป็น ผู้จัดการ ตัวดำของเธอ นั่นเอง

“อ่ะห่ะ นี่ชั้นคิดถึงตานั่นหรอเนี่ยะ ไม่น่ะ ไม่จริ้ง” ปรางค์รีบปัดความคิดแปลกๆออกไป รีบอาบน้ำ อย่างเร็ว ก่อนจะ ลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าห้องนอน นอนหลับอย่างสุขสม ตลอดคืน
……………………………………………………………..

เช้านี้ ช่างเป็นเช้าที่สดใส ต่างจากเช้าที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ผมคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ไอ้ที่เค้าบอกว่าโลกมันกลมน่ะ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง ฮึฮึ ปรางค์แก้ว เลขาใหม่ของผม กับแม่สาวปากร้าย นั้นน่ะเป็นคนเดียวกัน หน้าตอนคุณเธอเห็นว่าเจ้านายคนใหม่ของเธอเป็นใครน่ะ เหวอ น่าดู ตาโต ปากค้าง หน้าซีดเผือด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน เมื่อเห็นว่าผมน่ะ อมยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า เอาล่ะ วันนี้ จะแกล้งให้งานหนักๆ ให้สาแก่ใจเลย เอาให้ร้องไม่ออก เลย เมื่อวานผมเลยเตรียมเอกสาร มาตั้งใหญ่ กะว่าให้วันนี้ พิมพ์ให้มือหักกันไป

“คุณเทพาดิเทพค่ะ” อ่ะฮ้า มาแล้วเสร็จแน่ๆ แม่สาวน้อย ผมคิดในใจ

“ว่าไง คุณ……….” อ้าว ไม่ใช่แฮะ ใครล่ะนี่ “ ทำไมครับ มีอะไร” ผมถามงงๆ

“ดิชั้นมาจากฝ่ายบุคคล น่ะค่ะ คุณปรางค์แก้วเลขา ของคุณ มาแจ้งลาออก ไม่ทราบว่า เธอไปแจ้ง กับคุณรึเปล่าค่ะ”

“ยังไม่มีการแจ้ง เลยน่ะครับ แล้วคุณอนุมัติไปรึเปล่า” ผมถามด้วยสียงเคร่งเครียด อะไรว่ะมาวันเดียว แล้วก็จะหายไป

“ไม่ค่ะ ดิชั้นแจ้งเธอไปว่า ต้องได้รับการอนุมัติ จาก หัวหน้างานก่อน จึงจะ ออกได้ แล้วยิ่งเพิ่งมาทำงานอย่างงี้ยิ่งไม่ได้ใหญ่ ต้องรอให้มีคนมาแทนก่อน”

“ครับ เดี๋ยว ผมจะแจ้งเธอเอง”

คิ้วคมเข้ม ขมวดเข้าหากกันอย่างไม่พอใจ เรื่องอะไร จะปล่อยให้ไปง่ายๆ ยังไม่ทันได้แกล้งที่มาด่าเราเลย ไม่มีทาง

……………………………………………………………………………

“ไม่ ไม่มีทาง ยังไง ดิชั้นก็จะลาออก” หน้าสวย บูดบึ้งด้วยความขุ่นเคืองใจ วันนี้เธออยู่ในชุดสูทสีดำ กระโปรงสั้นเหนือเข่า เปิดเปลือยช่วงขาเรียวงาม ผมรวบหางม้า เน้นหน้าผากโหนกนูน ชนิดที่ทำให้มองคิดไปถึงไหนถึงไหน (ถึงอันนั้นไงล่ะ)

“เอ๊ะ คุณปรางค์แก้ว ผมบอกคุณแล้วน่ะว่าคุณยังลาออกไม่ได้ อะไรกัน เพิ่งจะมาทำงานแค่วันเดียว ก็จะลาออก ไม่มีความรับผิดชอบเอาซ่ะเลย” ผมดุเธอกลับไปบ้าง หลังจาก แจ้งดีๆก็แล้ว ขู่ก็แล้ว เธอก็จะลาออกอย่างเดียว โอ้ย อะไรนักหนา ว่ะ แม้ผมจะอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวแต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ผู้หญิงอะไร สวยเหลือเกิน เธอไม่ได้สวยเรียบร้อย แต่สวยแบบ มาดมั่นปราดเปรียว แบบ ที่ผมชอบ อย่างงี้ยิ่งไม่ยอมให้ไปไหนเด็ดขาด จะปราบให้เชื่องเลยคอยดู

“เอ้า ก็ในเมื่อดิชั้นไม่มีความรับผิดชอบก็ไล่ดิชั้นออกซิค่ะ” เอ๊อ เอาเข้าไป

“ไม่ได้ นี่คุณ สัญญา ที่คุณเซ็นไว้น่ะ มันต่อปีน่ะครับ แล้วคุณรู้ไม๊ นี้บริษัทใหญ่น่ะคุณ ไม่ใช่ร้านขายของชำ ที่นึกจะเข้าจะ ออกก็ได้ ถ้าคุณ ออกตอนนี้ ประวัติของคุณ จะถูกส่งไปที่บริษัทลูกในเครือ และบริษัทอื่นๆอีก คุณคิดว่าจะมีที่ไหน รับคุณเข้าทำงาน”

“ก็ช่างซิค่ะ ดิชั้นไม่สนใจ ให้ทำงานกับคุณ น่ะ ดิชั้นกลับไปเลี้ยงแมวที่บ้านดีกว่า น่ารักกว่ากันเยอะ ดิชั้นขอลาค่ะ” โอ้ย อีตานี่พูดไม่รู้ เรื่อง ไม่อยู่แล้ว ไอ้………. ปรางค์แก้วพูดจบก็หันหลังเดินจะออกจากห้องทันที

แต่ก็ช้าไปกว่า ผู้จัดการหนุ่ม ที่เดิน คว้าแขนหล่อนไว้ ร่างเธอจึงเซเข้าประทะ แผงอก ใหญ่ของเค้า

“คุณปรางค์แก้ว คุณมีปัญหาอะไรกับผมนักหนา” หน้าหล่อเข้มของเค้าอยู่ ห่างจากปลายจมูกเธอไม่ถึงนิ้ว กลิ่นน้ำหอมของเธอ ลอยอวลเข้าจมูกชายหนุ่ม ดวงตาสวย มองเค้าอย่างถือดี หน้าเชิดท้าทาย แต่ทรวงอกอวบอิ่ม สะท้อนขึ้นลงด้วยความตกใจ

“ มีสองข้อ นี่ข้อแรกน่ะ คุณขับรถเกือบ ชนชั้น แถมไม่ขอโทษ ข้อสอง คุณ น่ะ ดำ” คือความจริง คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะ เอาอะไรมาอ้าง เลยอ้างมั่วไป รู้ทั้งรู้ว่าฟังไม่ขึ้น ก็ร่างสูงใหญ่ มือแกร่ง หน้าคมเข้ม ริมฝีปากหยักโค้งสวย กลิ่นโคโลจญ์ แบบผู้ชายที่เข้าจมูกหล่อน มันทำให้ ปรางค์แก้วคิดอะไรไม่ออก

“ยิ่ง ฟังไม่ขึ้นเลย เหตุผลอะไรของคุณ” ชายหนุ่มเริ่มโมโห ขึ้นมาบ้าง อยู่มาตั้ง 30 ปี ผู้หญิงล้วนแต่ สยบให้กับความหล่อแบบ คมเข้ม ของเค้า มีแม่สาวน้อยคนสวย นี่แหล่ะ ที่มองข้ามความหล่อ เห็นแต่ความดำ ในเมื่อเป็นอย่างงี้ ก็ด้าย…

“คุณไม่มีทางลาออกได้ ถ้าคุณลาออก คนทั้งบริษัท นี้และ บริษัทลูก ได้เห็นภาพนี้ของคุณแน่ๆ”

“ภาพอะไร” สาวสวย ทำหน้างง ชีวิตนี้ไม่เคยทำเรื่อง น่าอาย จะมีก็แต่ เมื่อคืน หรือว่า

ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ เอาโทรศัพท์ มือถือ ของเค้าออกมากดเลือก โหมดภาพถ่าย มันเป็นภาพเธอในคลับเมื่อคืน ทุกอิริยาบถ โดยเฉพาะ ตอนที่มือของเธอ ถูกจับไปล้วงแก่นกาย ชายหนุ่ม ในคลับ

“เฮ้ย คุณ”สาวสวยร้องออกมาอย่างแตกตื่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!