Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1045

ตอนที่ 1045

สั่นสะเทือน

ทุกๆ หนึ่งลมหายใจที่ผ่านไป เมิ่งฮ่าวได้ผ่านขีดจำกัดของเวลาที่ใช้ผลเนี่ยผานมานานแล้ว แต่หลังจากที่เวลาชั่วธูปหนึ่งดอกไหม้หมดไป

เขาก็ยังคงนั่งอยู่ที่นั่น ทำการดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไปได้โดยสมบูรณ์ เขาลืมตาขึ้นมา คว้าจับไปที่ขวดหยก และกำลังจะเปิดมันออกมา แต่จากนั้นก็รู้สึกลังเล

เส้นใยนับแสนที่อยู่ภายในร่างกายเขากำลังเริ่มเลือนรางลงไป และจะหายไปอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่ผลเนี่ยผานยังไม่ได้หลอมรวมเข้ากับเขาโดยสมบูรณ์ ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ ในแง่ของสัดส่วนแล้วในตอนนี้ ดูเหมือนว่าผลเนี่ยผานจะหลอมรวมเข้าไปได้แค่หนึ่งในร้อยส่วนเท่านั้น

“ต่อให้ข้าดูดซับโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่นี้ไปจนหมดสิ้น อย่างมากที่สุด ข้าก็จะดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไปได้แค่สี่ในร้อยส่วนเท่านั้น…” เมิ่งฮ่าวคิด

“ไม่ใช่ว่าโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ หรือว่าเป็นของปลอม แต่…หยดโลหิตนี้เจือจางมากเกินไป ไม่รู้ว่าความเข้มข้นของหยดโลหิตนี้หายไปกี่ส่วนกันแน่” เมิ่งฮ่าวแอบถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าถ้าสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่มีหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่แต่เพียงเท่านี้ พวกมันก็คงจะขาดแคลนอย่างน่าเหลือเชื่อนัก

ไม่มีทางที่พวกมันจะนำหยดโลหิตที่สมบูรณ์มาให้เขา เป็นความจริงที่เขาอยู่ในลำดับขั้น แต่เมื่อมองในมุมกว้างแล้ว ก็ไม่อาจจะบอกได้ว่าสมาชิกในลำดับขั้นคนอื่นๆ อาจจะมาแทนที่เขาในวันข้างหน้าได้หรือไม่ ถ้าสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่มองเห็นคุณค่าในตัวเขาจริงๆ พวกมันก็คงจะมอบหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้การเจือปนใดๆ ต่อเขาแล้ว

แม้แต่หยดโลหิตที่เจือจางนี้ ก็ยังคงถือได้ว่าเป็นของวิเศษอันล้ำค่า! ตั้งแต่ตอนแรกเป็นต้นมา พวกมันได้ตกลงว่าจะมอบหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่บางส่วนให้กับเขา แต่พวกมันไม่เคยบอกว่าจะเป็นหยดโลหิตที่สมบูรณ์

“ถ้าข้าได้รับหยดโลหิตที่สมบูรณ์ ก็คงจะมั่นใจได้ว่าหลังจากที่ดูดซับมันเข้าไปแล้ว ข้าก็สามารถจะหลอมรวมเข้ากับผลเนี่ยผานได้โดยสมบูรณ์ และข้าก็จะกลายเป็นจักรพรรดิเซียนที่แท้จริง!”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความแน่วแน่เด็ดเดี่ยว เมื่อคิดไปถึงการที่จะรักษาให้พื้นฐานฝึกตนคงอยู่เกินไปกว่าการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรเซียนอย่างถาวร

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า

“ไม่สมบูรณ์…ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะต้องสร้างหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ที่สมบูรณ์ขึ้นมาเอง!” เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่น ค่อยๆ หยิบเอากระจกทองแดงออกมาจากถุงสมบัติอย่างช้าๆ เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปมากมายเท่าใด จริงๆ แล้วเขาก็ไม่มั่นใจว่ากระจกทองแดงจะมีพลังเพียงพอที่จะทำการคัดลอกหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่

แต่สีหน้าเมิ่งฮ่าวก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ขณะที่มองไปยังกระจกทองแดงอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็นำขวดหยกที่เก็บหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ไปวางไว้บนพื้นผิวของมัน ทันใดนั้น ขวดหยกก็เริ่มจมลงไปในกระจก

จากนั้นจู่ๆ กระจกก็เริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันสั่นไปมาอย่างรุนแรง ลอยออกไปจากมือของเมิ่งฮ่าว สูงขึ้นไปในอากาศ เกิดเป็นลำแสงเจิดจ้าพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง ตามมาด้วยกลิ่นอายอันน่าตกใจ

ในชั่วพริบตาห้องพักทั้งหมดก็จมอยู่ในกลิ่นอายอันน่ากลัวนั้น และเริ่มกระจายไกลออกไปมากขึ้น

ถ้าไม่มีอะไรมาหยุดการกระจายไปของกลิ่นอายนี้ มันก็คงจะเต็มไปทั่วทั้งอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า และกระจายออกไปทั่วทั้งทะเลที่เก้า จากนั้นก็จะกระจายเต็มไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้า และในที่สุด…ก็ทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล!

ที่ด้านนอกห้องพัก นกแก้วกำลังบินผ่านอากาศอย่างเย่อหยิ่ง ดูท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ต่อโอกาสที่จะมีความสุขในชีวิต หลังจากที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนไห่เซียนเหล่านี้ทั้งหมดกับสัตว์อสูรที่มีขน

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ จู่ๆ มันก็หันหน้ามองไปยังกลุ่มผู้ฝึกตนอสูรทั้งหมด และแผดร้องขึ้น “ทั้งหมดรับฟังอู่เหยียให้ดี พวกเจ้า…”

แต่ก่อนที่มันจะทันได้พูดจบ ฉับพลันนั้นก็มีแรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง ราวกับว่ามีพลังอันน่าเหลือเชื่อบางอย่าง จู่ๆ ก็ดูดมันให้เหี่ยวแห้งลงไป มันแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องอ้าปากค้างขึ้นด้วยความตกใจ ทันใดนั้นมันก็หันหน้ามองตรงไปยังเมิ่งฮ่าวและห้องพัก เห็นได้ชัดว่ารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นก็ส่งเสียงแผดร้องแหลมเล็กออกมา เป็นเสียงร้องที่กระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นเสียงที่มันไม่เคยร้องออกมาก่อน ตั้งแต่เริ่มติดตามเมิ่งฮ่าวเป็นต้นมา

มันมักจะเป็นผู้ที่สงบเยือกเย็น ไม่เคยจะมีปฏิกิริยารุนแรงใดๆ เช่นนี้ ไม่แม้แต่ตอนที่มันได้เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่มีขนอันสวยงามมากที่สุด ดูเหมือนว่ามันกำลังกังวลว่าอาจจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ ราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะตกลงมา หรือว่าโลกแห่งนี้กำลังจะระเบิดออกไป

“มันยังมีชีวิตอยู่!!” นกแก้วแผดร้องเป็นเสียงแหลมเล็กออกมา จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังห้องพักด้วยความรวดเร็วสูงสุด มีท่าทางตื่นเต้นโดยสิ้นเชิง มันพุ่งไปเร็วมากจนทำให้ขนของมันล่วงหล่นลงไปบนพื้นเป็นจำนวนมาก ร่างกายมันสั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ภายในห้องพัก ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น มองไปยังกลิ่นอายอันเข้มข้นนั้น ดูเหมือนว่ากลิ่นอายนั้นจะไม่สนใจ หรือสามารถจะเหยียบย่ำกฎธรรมชาติได้ทั้งหมด มันมีความหยิ่งทระนงเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าสวรรค์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว จะต้องถูกบดขยี้ลงไปด้วยพลังอันน่ากลัวของมัน

ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ได้ยินเสียงพึมพำดังออกมาจากภายในกระจกเป็นช่วงๆ เป็นเสียงที่เก่าแก่โบราณ จนดูเหมือนว่าจะดังลอยออกมาจากในสมัยโบราณ ทำให้จิตใจต้องหมุนคว้าง ทันใดนั้นเองที่ภาพมากมายนับไม่ถ้วนได้แวบขึ้นมาในจิตใจ

จากภาพต่างๆ เหล่านั้นทั้งหมด มีเพียงสามภาพเท่านั้นที่เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ภาพที่เหลือกำลังเปล่งประกายอย่างเลือนราง แต่ภาพทั้งสามที่เขาสามารถมองเห็นนั้นทำให้หนังศีรษะต้องด้านชาขึ้น สีหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่อยาก

จะเชื่อและต้องร้องอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

ภาพแรกเป็นสวรรค์และท้องฟ้าที่ไร้ดวงดาว เป็นภาพของความปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่มีดวงตะวันหรือจันทราใดๆ มีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น ต่อมาลำแสงก็ได้ปรากฏขึ้น พุ่งมาด้วยความรวดเร็วสูงสุด ภายในลำแสงนั้น น่าตกใจยิ่งที่มันเป็น…กระจกทองแดง!!

ขณะที่มันพุ่งตรงมา พื้นผิวของกระจกก็สาดประกายขึ้น ทันใดนั้นดวงตะวันก็ปรากฏขึ้นอยู่ห่างออกไปที่ด้านข้าง ขณะที่มันพุ่งตรงมาเรื่อยๆ ดวงดาวดวงแล้วดวงเล่าก็ปรากฏขึ้นโดยที่ไม่มีการหยุดชะงักลงแม้แต่น้อย

เมื่อมันแวบแสงสุดท้ายออกมา…ก็ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวปรากฏขึ้น ราวกับว่ามันกำลังสร้างโลกทั้งหมดอยู่!!

มันเคลื่อนที่ต่อไปโดยไม่มีการหยุดพัก ราวกับว่ามันได้ทำการเคลื่อนที่ไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด แต่ในที่สุดมันก็หายจากไป หลังจากที่ได้สร้างท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวที่ยืดยาวออกไปเป็นจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน เพื่อก่อตัวเป็นโลกที่ไร้จุดสิ้นสุดขึ้นมา!

จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้างด้วยความตกตะลึง

ภาพที่สองที่เมิ่งฮ่าวเห็นเป็นเงาร่างมากมายนับไม่ถ้วน ที่อาศัยอยู่บนดวงดาวต่างๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมานั้น พวกมันไม่ใช่ผู้ฝึกตน แต่เป็นฝูงสิ่งมีชีวิตจำนวนมากอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้

บ้างก็มีหน้าตาคล้ายกับสัตว์ป่า บ้างก็เป็นของเหลว บ้างก็ถูกสร้างขึ้นมาจากกลุ่มควัน บ้างก็ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะหรือศิลา ดูเหมือนว่าจะมีความแตกต่างกันออกไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด และพวกมันทั้งหมดในตอนนี้ก็กำลังทำสงครามกันอย่างวุ่นวาย!

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเหล่านี้ มีความแข็งแกร่งกว่าเมิ่งฮ่าวเป็นอย่างมาก พวกมันต่างก็อยู่ในอาณาจักรเต๋า!

เมิ่งฮ่าวแทบจะไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงได้มีผู้ที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าอย่างมากมายเช่นนี้ พวกมันมีเป็นจำนวนมาก และทั้งหมดกำลังต่อสู้กัน ต่อสู้เพื่อที่จะได้ครอบครองของสิ่งหนึ่ง…

ของสิ่งนั้นไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็น…กระจกทองแดง!

การต่อสู้ของพวกมันทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้เป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วน

ทันใดนั้นเอง กระจกทองแดงก็สั่นสะท้าน และมีไข่มุกสองลูกพุ่งออกมาจากมัน หนึ่งเป็นสีดำ อีกหนึ่งเป็นสีขาว ไข่มุกแต่ละลูกพุ่งออกไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวสามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไข่มุกทั้งสองลูกนั้น เคยถูกฝังอยู่ที่สองข้างซึ่งอยู่ตรงข้ามกันของกระจกมาก่อน

ไข่มุกนั้นไม่ใช่ชิ้นส่วนหลักของมัน แต่…เป็นแค่ของประดับตกแต่งของกระจกทองแดงนี้เท่านั้น!

ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่พวกมันก็ยังได้กระจายกลิ่นอายที่ทำให้เมิ่งฮ่าวแทบจะหายใจไม่ออกออกมา เมื่อคิดว่าไข่มุกทั้งสองลูกนั้นได้ประกอบไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้!

แต่…ถึงแม้ว่าจะเป็นพลังอันน่าเหลือเชื่อนั้น พวกมันก็ยังคงเป็น…ของประดับสำหรับกระจกเท่านั้น!

พวกมันเป็นแค่สิ่งประดับตกแต่งเท่านั้น!

ในภาพที่สาม เมิ่งฮ่าวมองเห็นโลกอีกแห่งหนึ่ง เป็นโลกที่เต็มไปด้วยซากศพ เป็นซากศพที่นอนทอดร่างอยู่ในสถานที่แห่งนั้นมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน ทั่วทั้งโลกแห่งนั้นให้ความรู้สึกคล้ายกับเป็นสุสาน

ลำแสงเจิดจ้าสายหนึ่งพุ่งมา ภายในลำแสงเป็นกระจกทองแดง กระจกกำลังจะพุ่งผ่านไป แต่ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นจนทำให้หนังศีรษะเมิ่งฮ่าวต้องด้านชา เขามองเห็นซากศพ…กำลังลุกขึ้นมาทีละซาก เลือดเนื้อของพวกมันเริ่มปรากฏขึ้นมาใหม่ และในชั่วพริบตาพวกมันก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และที่มากไปกว่านั้นก็คือความหวัง ราวกับว่าสิ่งที่พวกมันเฝ้ารอคอยมาหลายชั่วคนก็เพื่อช่วงเวลานี้เท่านั้น

ทันใดนั้น ก็มีมือหนึ่งข้างได้พุ่งขึ้นไป เป็นมือที่แทบจะเป็นกระดูกสีขาวทั้งหมด จากนั้นเลือดเนื้อก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น โลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของเมิ่งฮ่าว และจิตใจก็เริ่มเต้นรัว ความรู้สึกที่เขาได้รับมาจากมือข้างนั้น เป็นความรู้สึกเดียวกับที่เขาเคยได้รับมาจากผู้ฝึกตนอีกคนหนึ่งมาก่อน

และคนผู้นั้นก็คือ…ไห่เมิ่งจื้อจุนในชุดขาว! ยกเว้นว่าจากสิ่งที่เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้ พลังของมือนั้นเกินกว่าของไห่เมิ่งจื้อจุนมากนัก!

มือนั้นยื่นตรงไปยังกระจกทองแดง และทำท่าคว้าจับไป ท่าคว้าจับนั้นทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องถูกบดขยี้ลงไป ราวกับว่ามือนั้นสามารถจะย่อดวงดาวและสวรรค์ จนกระทั่งพวกมันกลายเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ลอยมาอยู่บนมือข้างนั้นได้

ในตอนนี้เอง ที่ภาพนั้นได้จบลง เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมากองโต และภาพทั้งหมดก็จางหายไป

“กระจกทองแดงนี้…มันมาจากที่ไหนกัน…?” เมิ่งฮ่าวคิด รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งหมดได้กลับตาลปัตรไป เขามองลงไปยังกระจกทองแดง และขวดหยกที่เก็บหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งยังคงจมเข้าไปในกระจก

เมิ่งฮ่าวเกิดความรู้สึกตกใจมากที่สุดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมองเห็นว่าพื้นผิวของกระจกทองแดง…ไม่ได้สมบูรณ์!! มันแตกกระจายออกไปเหลืออยู่เพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น เมิ่งฮ่าวจะลืมไปได้อย่างไรว่า เขาช่วยให้กระจกได้ชิ้นส่วนนั้นมาจากในสำนักเซียนอสูรโบราณ?

ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาในการอธิบาย แต่จริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นในชั่วงพริบตา

ในตอนนี้เองที่จู่ๆ นกแก้วได้ปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในกระจกด้วยตัวของมันเอง กระจกทองแดงสั่นไปมา และแสงที่สาดประกายออกมา ก็ยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น ในตอนนี้ขวดหยกโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ในที่สุดก็หายเข้าไปด้านใน

กลิ่นอายอันน่ากลัวได้หยุดกระจายออกมา แต่ก็ยังคงมีอยู่ภายในห้องพักแห่งนี้เท่านั้น หลังจากผ่านไปสิบลมหายใจ มันก็จางหายไปโดยสิ้นเชิง กลับคืนเข้าไปในกระจกทองแดง หลังจากนั้นก็ไม่อาจจะตรวจพบร่องรอยใดๆ ได้อีก

หลังจากที่กลิ่นอายนั้นจางหายไป นกแก้วก็โผล่ออกมา ราวกับว่ามันเพิ่งจะพบเจอกับความทุกข์ทรมานที่สิ้นหวังจนไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ มันยิ้มอย่างแห้งแล้งออกมาขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็ตกลงไปบนพื้นอย่างเงียบๆ

หลังจากผ่านไปชั่วขณะ มันก็ดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมาและบินออกไป แต่ทำได้เพียงแค่นอนหอบหายใจอยู่ที่นั่นเท่านั้น

เมื่อได้เห็นนกแก้วตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องคิดไปถึงภาพที่เขาเพิ่งจะมองเห็นเมื่อครู่นี้ จึงต้องถามขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า

“ถ้าข้าไม่ได้วางขวดหยกโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ลงไปบนกระจก…?”

นกแก้วหอบหายใจอยู่ชั่วขณะ กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง “มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า? ข้าแค่ไม่ระวังและไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนกำลังใช้เวทบางอย่างไปบนกระจกบานนี้ ถ้ากระจกทองแดงไม่ได้ถูกใช้ ก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ที่มันถูกใช้ ไม่ว่าเจ้าจะทำการคัดลอกอะไรก็ตามที มันจะ…หือ?”

นกแก้วพูดไปได้ครึ่งทาง แต่จู่ๆ ก็ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ กลอกกลิ้งดวงตาไปมาและร้องตะโกนขึ้น “ไม่ถูกต้อง บัดซบ! เจ้านั่นเอง! ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้า! ตอนนี้เจ้าเป็นหนี้ข้าแล้ว!”

ในเวลาเดียวกับที่นกแก้วกำลังด่าว่าเมิ่งฮ่าว ก็มีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ที่ด้านนอกของอาณาจักรขุนเขาทะเล ที่ด้านนอกของสามสิบสามสวรรค์ ไกลออกไปในความว่างเปล่าของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ในท่ามกลางโลกภาพสะท้อน พร้อมกับโลงศพขนาดใหญ่ เสียงเก่าแก่โบราณซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและมุ่งมั่น จู่ๆ ก็ดังก้องเต็มไปทั่วทั้งโลกแห่งนั้น

“ข้าพบมันแล้ว! มันอยู่ที่นั่น…อยู่ที่นั่นนั่นเอง!!”

“หลังจากตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ในที่สุดความหวังก็ได้ปรากฏขึ้น ตระกูลแห่งเทพ เตรียมส่งคำสั่งลงไป!!”

“ถึงเวลาที่จะทำสงครามแล้ว! เพื่อที่จะปลุกให้เทพอเวจีของตระกูลพวกเราตื่นขึ้นมา พวกเราจะต้อง…ไปทำสงครามกับผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียนอีกครั้ง!!”

ขณะที่เสียงเก่าแก่โบราณนั้นดังก้องออกมา โลกแห่งนั้นก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้น

ในเวลาเดียวกันนั้น สามหญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้กับโลงศพ ต่างก็สบตากันไปมา จากนั้นก็พยักหน้ากันอย่างเงียบๆ

ทันใดนั้นเอง ทั่วทั้งโลกแห่งนั้นก็เริ่มเลือนรางลงไป ในชั่วพริบตามันก็หายไปจากภายในความว่างเปล่าของสวรรค์

“ปลดปล่อยพลังของโลกแห่งนี้ ใช้ความรวดเร็วสูงสุดของรูปแบบที่แท้จริงของอาณาจักรเทพ เพื่อเดินทางไปยังที่นั่น เพื่อปล่อยให้โลกที่แท้จริงของพวกเราตกลงมา!” เสียงของหญิงสาวทั้งสามดังก้องออกไปในความว่างเปล่า เต็มไปด้วยความแน่วแน่เด็ดเดี่ยว ที่สามารถตัดตะปูเฉือนเหล็กกล้าได้

หมายเหตุ :

  1. 1. ไข่มุกดำขาวอยู่ในตอนของสำนักเซียนอสูรโบราณ ตอนที่ 613 : อาณาจักรที่สี่!
  2. 2. เมิ่งฮ่าวนำชิ้นส่วนของกระจกใส่เข้าไปในตอนที่ 618 : กระจกซานไห่!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!