ตอนที่ 1105
เจ้าพูดว่าอะไร?!
การแตกกระจายออกไปของท้องฟ้า ยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เกิดเป็นรอยแตกร้าวก่อตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อกันไปมา ที่เหลืออยู่เบื้องหลังคือสิ่งที่ดูคล้ายกับรอยแผลเป็น และเมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นเป้าสายตาของคนทั้งหมด ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็มีรูปร่างที่สูงใหญ่ คล้ายกับเป็นยักษ์ที่อยู่ภายใต้สวรรค์และปฐพีแห่งนี้
กลิ่นอายอันน่ากลัวพุ่งขึ้นมาจากร่าง ขณะที่เขาเดินไปเป็นก้าวที่หก และต่อยหมัดที่หกออกไป!
มันคือหมัดแปลงเป็นปีศาจอีกครั้ง เป็นโจมตีไปด้วยการเผาไหม้ตนเอง อย่างไรก็ตามการโจมตีนี้ก็ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม และพลังสะกดข่มของเมิ่งฮ่าวก็ดูเหมือนว่าจะหลอมรวมเข้ากับสวรรค์และปฐพี
เมื่อการโจมตีกระแทกลงไป หลินชงก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา มันกัดปลายลิ้นเล็กน้อยและพ่นโลหิตออกมาจากปากหนึ่งคำ กลายเป็นน้ำพุเหลืองอันน่าเกรงขามม้วนกวาดออกไปในทั่วทุกทิศทาง
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ได้ยินมา ขณะที่น้ำพุเหลืองถูกทำลายไป เมิ่งฮ่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่รังสีสังหารในดวงตาของเขาไม่ได้ลดน้อยลงไปแม้แต่น้อย
“ก้าวสุดท้าย!” เขากล่าว เดินไปเป็นก้าวที่เจ็ดในเวลาเดียวกับที่น้ำพุเหลืองถูกทำลายไป
ราวกับว่าพื้นดินแห่งนั้นหยุดชะงักนิ่งไป และถูกแทนที่ด้วยเมิ่งฮ่าว พร้อมกับความช่วยเหลือของกระแสลมปราณสองในสิบส่วนของอาณาจักรสายลม ทำให้เมิ่งฮ่าวสามารถจะหลอมรวมเข้ากับพื้นดิน ราวกับว่า…เขาคือร่างแปลงของเจตจำนงแห่งสวรรค์!
ทั่วทั้งบริเวณนั้นเริ่มระเบิดออกไป เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นตัวแทนของเจตจำนงแห่งสวรรค์ กลายเป็นร่างแปลงของมันขณะที่เขาหลอมรวมเข้ากับสวรรค์และปฐพี!
เมื่อเท้าของเขาเหยียบย่างลงไป ก็ราวกับว่าสวรรค์กำลังบดขยี้ลงไปยังพื้นดินที่ด้านล่าง หมัดของเขาคล้ายกับเป็นสวรรค์และปฐพี ที่กำลังทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงไป ราวกับว่าเมิ่งฮ่าวคือสิ่งที่น่าเคารพนับถือมากที่สุดในสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
นั่นเป็นเพราะว่านี่คือ…
หมัดสังหารเทพ!
เมื่อหมัดสังหารเทพถูกต่อยออกไป ผู้ฝึกตนลำดับขั้นซึ่งอยู่ในชนเผ่าอื่นๆ ที่กำลังเฝ้ามองดูการต่อสู้นี้ ต่างก็หอบหายใจออกมา พวกมันมองเห็นพลังอันน่ากลัวของเมิ่งฮ่าวเพิ่มขึ้นไปในทุกฝีก้าว ได้เห็นพลังของปีศาจอันบ้าคลั่งถูกสร้างขึ้นมา เป็นสักขีพยานในรูปแบบการต่อสู้ที่สะกดข่มอย่างรุนแรงของเขา ทำให้เกิดเป็นความทรงจำอย่างลึกล้ำอยู่ในจิตใจของคนทั้งหมดในทันที และทำให้พวกมันต้องสั่นสะท้านขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ผู้ฝึกตนลำดับขั้นจากขุนเขาแรก ซึ่งเป็นบุรุษหนุ่มชุดขาว รู้สึกว่าดวงตาของตนเองกำลังเบิกกว้างขึ้น ขณะที่สีหน้าตกใจเต็มอยู่บนใบหน้าของมัน วิธีการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวทำให้แม้แต่มันยังต้องประหลาดใจ เมิ่งฮ่าวฉวยโอกาสลงมือก่อนและสร้างเป็นแรงกดดันไปอย่างต่อเนื่อง บดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มาขวางหน้าราวกับเป็นหญ้าแห้ง
ผู้ฝึกตนลำดับขั้นทั้งหมดต่างก็รู้สึกประหลาดใจต่อการโจมตีไปด้วยหมัดนี้ของเขา
“หมัดที่โจมตีไปนั้นคืออะไรกัน?!”
“ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้…ถ้ามันจะสังหารหลินชงภายในเจ็ดก้าวจริงๆ!!”
“เมิ่งฮ่าวผู้นี้ช่างแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อนัก! หานชิงเหลยไม่อาจจะสู้กับมันได้ และดูเหมือนว่าหลินชงกำลังจะพ่ายแพ้ไปด้วยเช่นกัน…มันคู่ควรที่จะไปต่อสู้กับผู้ฝึกตนอันดับหนึ่งในลำดับขั้นที่แข็งแกร่งมากที่สุด!!”
ในตอนนี้หลินชงรีบขยับสองมือร่ายเวท จากนั้นก็ผลักออกไปที่เบื้องหน้า
“กะโหลกศักดิ์สิทธิ์เศร้าเสียใจ!!”
มันแผดร้องออกมา เวทผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้น กลายเป็นกะโหลกสีทองขนาดใหญ่อย่างน่าตกใจยิ่ง!
พื้นผิวของหัวกะโหลกปกคลุมเต็มไปด้วยสัญลักษณ์เวทนับไม่ถ้วน เรียงรายกันอย่างแน่นหนาจนดูเหมือนว่าจะปิดผนึกเจตจำนงแห่งความตาย ที่รู้สึกโศกเศร้าเสียใจต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
กะโหลกศักดิ์สิทธิ์เศร้าเสียใจคือเวทผู้ยิ่งใหญ่ของหลินชง ด้วยการได้รับความรู้แจ้งจากหัวกะโหลกนี้ ทำให้มันสามารถจะสร้างเป็นเวทผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ และผ่านเข้ามาอยู่ในลำดับขั้นของไห่เมิ่งจื้อจุน!
การกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของลำดับขั้น ได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของมันไปโดยสิ้นเชิง ช่วยให้มันมีชื่อเสียงขึ้นมาในขุนเขาที่สี่ ด้วยการช่วยเหลืออย่างลับๆ จากตี้จ้างต้าจุน ทำให้มันมีชีวิตรอดจากการทดสอบที่อันตรายมามากมายหลายครั้ง และสามารถจะปกป้องตำแหน่งในลำดับขั้นของมันได้
การต่อสู้มาอย่างมากมายเหล่านั้น ทำให้มันสามารถจะควบคุมเวทผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นพลังที่ช่วยให้มันสามารถก้าวไปข้างหน้ายังการต่อสู้ในอนาคต!
มันสามารถจะพบเห็นความอ่อนแอของเวทแห่งเต๋าอื่นๆ ทั้งหมด สามารถจะทำนายการกระทำของคู่ต่อสู้ได้ล่วงหน้าอีกด้วย จากนั้นมันจะใช้ข้อมูลทั้งหมดเหล่านั้นมาทำให้ตนเองได้เปรียบ ที่ยิ่งน่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือว่า มันสามารถจะมองเห็นภาพในอนาคตของคู่ต่อสู้ได้
เนื่องจากเช่นนั้น และการช่วยเหลือชี้แนะจากตี้จ้างต้าจุน ทำให้วิถีแห่งเซียนของมันคล้ายคลึงกับของตี้จ้างต้าจุนเป็นอย่างยิ่ง!
เป็นวิถีทางแห่งเซียนที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งคล้ายกับเป็นการก้าวออกไปจากความตาย เข้าไปสู่การมีชีวิตขึ้นมาใหม่!
อย่างไรก็ตามเวทผู้ยิ่งใหญ่ของมัน จำเป็นต้องใช้พลังจิตอย่างมากมาย ดังนั้นมันจึงแทบจะไม่ค่อยใช้เวทนี้ออกมา แต่เมื่อถูกต้อนให้เข้าสู่มุมอับด้วยวิธีการสะกดข่มของเมิ่งฮ่าว ทำให้มันไร้ทางเลือกนอกจากต้องใช้เวทผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรงพลังมากที่สุดนี้ออกมาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในทันทีที่มันปลดปล่อยเวทกะโหลกศักดิ์สิทธิ์เศร้าเสียใจออกมา สีหน้าของหลินชงก็สลดลงไปโดยสิ้นเชิง มีเพียงสิ่งเดียวที่มันมองเห็นก็คือ มันไม่มีทางที่จะหลบหนีไปจากพลังหมัดที่เมิ่งฮ่าวต่อยออกมาได้
ไม่มีช่องโหว่ใดๆ!
ไม่มีทางจะหลบรอดหนีพ้น!
มันยังรับรู้ได้อีกด้วยว่า หลังจากที่หมัดของเมิ่งฮ่าวกระแทกเข้ามา เขาไม่มีความคิดที่จะใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์หรือวิชาเวทใดๆ โจมตีติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่า…เมิ่งฮ่าวมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าหมัดนี้และก้าวย่างนี้จะกำจัดหลินชงไปได้โดยสิ้นเชิง!
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!?” มันคิด สั่นสะท้านอยู่ภายในใจ พยายามจะล่าถอยออกไป แต่รังสีสังหารของเมิ่งฮ่าวก็ระเบิดออกมา ราวกับว่าหมัดสังหารเทพสามารถจะกำจัดสิ่งมีชีวิตในสวรรค์และปฐพีแห่งนี้ได้ทั้งหมด!
หมัดนี้จะกระแทกลงไปบนร่างของหลินชง และมันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้!
น้ำตาโลหิตไหลซึมออกมาจากดวงตาของหลินชง หลังจากที่มันใช้พลังจิตหมดไปอย่างบ้าคลั่งเพื่อปลดปล่อยเวทผู้ยิ่งใหญ่ออกมาในช่วงวิกฤตนี้ มันก็มองเห็นอนาคตได้อีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ภาพที่แวบขึ้นมาเพียงวูบเดียวนี้ทำให้สีหน้าของหลินชงต้องสลดลง
มันไม่มีเวลาจะขบคิด ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ ส่งกะโหลกศักดิ์สิทธิ์สีทองพุ่งตรงไปพร้อมกับเสียงกระหึ่ม พยายามจะขัดขวางหมัดที่โจมตีมาของเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่น้อย เขาได้รับการสนับสนุนจากเจตจำนงแห่งสวรรค์และปฐพี ดังนั้นไม่ว่าจะมีอะไรมากีดขวางเส้นทางของเขา มันก็จะถูกปัดออกไปทางด้านข้างได้อย่างง่ายดาย ไม่มีอะไรจะสามารถมายืนอยู่ในเส้นทางพลังที่กำลังพุ่งขึ้นมาของเขาได้
นั่นเป็นเพราะว่าหมัดสังหารเทพของเมิ่งฮ่าว ถูกหนุนหลังโดยกระแสลมปราณของอาณาจักรสายลม เจตจำนงแห่งสวรรค์ช่วยให้มันอยู่ในจุดสูงสุดของพลังโดยสิ้นเชิง!
สิ่งใดๆ ก็ตาม จะต้องถูกบดขยี้จนกลายเป็นเสี่ยงๆ ไป เมื่อมาเผชิญหน้ากับหมัดนี้!
ตูมมมมมมม!
หมัดสังหารเทพของเมิ่งฮ่าวกระแทกเข้าไปยังหัวกะโหลกสีทอง ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังก้องออกไป หัวกะโหลกสั่นสะท้านและจากนั้นก็ระเบิดกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปล่อยให้หมัดของเมิ่งฮ่าวกระแทกเข้าไปที่หน้าอกของหลินชง
เกิดเป็นเสียงแตกร้าวดังก้องขึ้น และหลินชงก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ร่างกายมันลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง
คล้ายกับเป็นว่าวที่ถูกตัดสายป่าน กระดูกทั้งหมดในร่างของมันแตกละเอียดไป และในชั่วพริบตาร่างมันก็ระเบิดออก หน้าอกของมันกลายเป็นน้ำพุโลหิตปะทุขึ้นมา กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง จนกระทั่งร่างกายทั้งหมดของมันถูกทำลายไป ยกเว้นแต่ศีรษะของมันเท่านั้น!
ตอนนี้เหล่าผู้ชมทั้งหมดในอาณาจักรสายลมต่างตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เต็มไปด้วยคลื่นแห่งความประหลาดใจ การที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ด้วยสองตาของตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ ทำให้เกิดเป็นความงุนงงอย่างไร้ที่เปรียบ
ในชนเผ่าแรก ผู้ฝึกตนลำดับขั้นจากขุนเขาแรก ซึ่งเป็นบุรุษหนุ่มในชุดสีขาว กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่นเมื่อครู่นี้ แต่ในตอนนี้มันกำลังยืนอยู่ จ้องมองไปยังจอภาพพร้อมกับผู้ติดตามทั้งหมดของมัน ซึ่งมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง
พวกมันทั้งหมดรู้จักหลินชงเป็นอย่างดี และเนื่องจากเช่นนั้น ภาพที่กำลังแสดงออกมาอยู่ที่เบื้องหน้านี้ทำให้ต้องประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง
“มัน…มันทำได้จริงๆ!!” ผู้ติดตามหอบหายใจออกมา
ผู้ฝึกตนลำดับขั้นจากขุนเขาแรก มองไปยังจอภาพและทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่เย็นชาเป็นอย่างยิ่ง ดวงตามันแวบขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้าพร้อมกับพูดว่า “คนผู้นี้คู่ควรที่จะต่อสู้กับข้า”
ในชนเผ่าที่สอง บนภูเขากั๋วยิ่น ทุกสิ่งทุกอย่างถูกแช่แข็งไปด้วยความหนาวเย็น เกล็ดหิมะนับไม่ถ้วนหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ร่างบุรุษหนุ่มที่นั่งอยู่บนยอดเขา มันสวมใส่ชุดยาวสีน้ำเงิน และเป็นผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาที่สอง ใบหน้ามันเย็นชา แต่ดวงตาหดเล็กลง ขณะที่มองไปยังจอภาพน้ำแข็งและภาพของเมิ่งฮ่าวที่อยู่ตรงหน้ามัน
ภายนอกดูเหมือนว่ามันจะสงบนิ่งเยือกเย็น แต่ภายในใจ มันกำลังสั่นสะท้านขึ้นด้วยคลื่นแห่งความตกใจ
ในชนเผ่าที่สาม ภาพแปลกๆ กำลังปรากฏขึ้น ผู้ฝึกตนหนึ่งร้อยคนนั่งขัดสมาธิอยู่บนภูเขากั๋วยิ่น ที่ด้านบนของพวกมันคือบุรุษวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดจักรพรรดิ ใบหน้ามันหมองคล้ำลงและดูน่ากลัวอย่างถึงที่สุด
“เมิ่งฮ่าวผู้นี้ได้รับการสนับสนุนจากราชันจักรพรรดิสายลม…?”
ผู้ฝึกตนลำดับขั้นที่อ้วนเตี้ยในชนเผ่าที่ห้า, เด็กชายในชนเผ่าที่หก และเด็กหนุ่มที่น่ากลัวในชนเผ่าที่เจ็ด ทั้งหมดต่างก็มองดูด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปและจิตใจที่สั่นสะท้าน
ก่อนหน้านี้พวกมันไม่คิดว่าเมิ่งฮ่าวจะสามารถสังหารหลินชงได้ภายในเจ็ดก้าว
แต่ตอนนี้พวกมันได้เห็นการต่อสู้นี้ด้วยสองตาของตนเอง ได้เห็นพลังและวิธีการต่อสู้ที่สะกดข่มของเมิ่งฮ่าว ทำให้เกิดเป็นแรงกดดันขนาดใหญ่กดทับลงไปบนจิตใจของพวกมันในทันที
ตอนนี้ไม่มีแม้แต่คนเดียวในกลุ่มพวกมัน จะกล้าดูถูกเยาะเย้ยเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่าพวกมันจะอยากได้ตราประทับทั้งสองของเขา แต่ในตอนนี้พวกมันก็ถูกบังคับให้ต้องชั่งน้ำหนักของความเสี่ยงที่จะพยายามไปนำตราประทับนั้นมา
สามารถจะกล่าวได้ว่าการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ ทำให้ผู้ฝึกตนลำดับขั้นในอาณาจักรสายลมตกใจไปโดยสิ้นเชิง
ในเวลาเดียวกับที่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นทั้งหมดกำลังสั่นสะท้านใจโดยเมิ่งฮ่าว ร่างของหลินชงที่ระเบิดขึ้นในอากาศที่ด้านบนของชนเผ่าที่แปด เมื่อศีรษะของมันดูเหมือนว่าแทบจะระเบิดออกไป ทำให้มันต้องถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ จู่ๆ แสงสีทองก็เริ่มสาดประกายขึ้นมาจากหัวกะโหลกสีทองที่แตกกระจายออกไป กลายเป็นกระแสน้ำวนสีทองหมุนวนอยู่รอบๆ ศีรษะของหลินชง ราวกับว่าจะทำการเคลื่อนย้ายทางไกลศีรษะนั้นจากไป
ยังคงมีพลังชีวิตเหลืออยู่ในศีรษะของหลินชงเล็กน้อย โชคดีที่มันทำการฝึกตนด้วยวิธีที่พิเศษเฉพาะ ตราบเท่าที่ยังคงมีศีรษะนี้อยู่ ก็สามารถจะฟื้นคืนกลับมาได้ ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างมากมายก็ตามที รวมทั้งพื้นฐานฝึกตนที่ตกลงไปของมันด้วย
ในตอนที่มันกำลังจะเคลื่อนย้ายทางไกลจากไป พลังของเมิ่งฮ่าวฉับพลันนั้นก็พุ่งสูงขึ้นไปมากกว่าเดิม และกล่าวขึ้นว่า “เจ้าคิดว่าจะจากไปได้? ทำลายสิ้น!”
เป็นคำพูดที่กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา แต่ในตอนนั้นเอง ที่เท้าขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นอย่างน่าตกใจยิ่ง!
เท้านั้นดูเหมือนว่าจะดูเลือนรางเต็มไปทั่วทั้งท้องฟ้า และเมื่อมันปรากฏขึ้น ก็เริ่มบดขยี้ลงไปบนศีรษะของหลินชง ทำให้กฎธรรมชาติแตกกระจายไป แก่นแท้ถูกทำลายสิ้น!
นี่คือพลังอันสูงสุดของเจ็ดก้าวเทพ!
เจ็ดก้าวก่อนหน้านี้เป็นแค่การสะสมพลังขึ้นมาเท่านั้น นำไปสู่การระเบิดออกมาเช่นนี้ โจมตีไปด้วยพลังที่ทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง
ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงเต็มอยู่ในจิตใจของหลินชง ในชีวิตของมันเคยพบเจอกับความรู้สึกนี้มาก่อน แต่นี่เป็นความรู้สึกที่รุนแรงมากที่สุดเท่าที่มันเคยพบเจอมา แม้แต่การต่อสู้กับผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาแรก ก็ยังไม่น่าตกใจและน่าหวาดกลัวเท่านี้
มันไม่มีทางจะคาดคิดได้ว่าเมิ่งฮ่าว…จะแข็งแกร่งได้เช่นนี้!!
เมื่อมันมองเห็นเท้ากำลังเหยียบย่ำลงมา ก็ตระหนักว่าไม่มีเวลาที่จะเคลื่อนย้ายทางไกลไปได้ทัน มันรู้ว่าตนเองกำลังจะตกตายไป ดังนั้นจึงส่งเสียงแผดร้องออกมา จนดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง
“เมิ่งฮ่าว ถ้าข้าตกตาย สวี่ชิงก็ต้องตายไปด้วย!”
คำพูดเหล่านี้ผ่านเข้าไปในหูของเมิ่งฮ่าว ราวกับเป็นเสียงที่ฟาดลงมาของสายฟ้านับไม่ถ้วน ทั่วทั้งร่างของเขาเริ่มสั่นสะท้าน
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!?” จิตใจเมิ่งฮ่าวเริ่มเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์เริ่มไม่คงที่ เท้าขนาดใหญ่บนท้องฟ้าสั่นสะท้าน และเนื่องจากพลังจิตของเขาไม่มั่นคง ทำให้พลังเริ่มสะดุด และถดถอยลงไป
ในตอนที่ออกมาจากดาวหนานเทียน เขาเคยถามบิดาเกี่ยวกับสวี่ชิง ฟางซิ่วเฟิงได้บอกกับเขาว่าท่านได้ทิ้งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์บางส่วนไว้บนร่างของสวี่ชิง เพื่อคอยปกป้องนางในช่วงของการถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ การไปค้นหานางยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายที่นางถือกำเนิดขึ้นมา เป็นเรื่องของโชคชะตาและเวลา แต่ฟางซิ่วเฟิงก็ให้คำมั่นกับเขาว่าไม่จำเป็นต้องกังวลใจไป
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น หลังจากที่ผ่านไปแล้วหลายปี เมิ่งฮ่าวก็ยังคงกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นระยะ แผนการเดิมของเขาคือเฝ้ารอคอยจนกระทั่งเขาออกไปจากอาณาจักรขุนเขาทะเลที่เก้า และจากนั้นก็กลับไปยังดาวหนานเทียน เพื่อค้นหาเหตุการณ์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้นางยังเป็นภรรยาของเขา เป็นคู่ชีวิตของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยครั้งนัก แต่เมื่อได้ยินหลินชงพูดออกมาเช่นนี้ ก็ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องเต็มไปด้วยระลอกคลื่นแห่งความตกใจบดขยี้ไปมา
หมายเหตุ : หลินชงเคยพูดกับสวี่ชิงในตอนที่ 1058 ปฏิกิริยาของลำดับขั้น!