Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1126

ตอนที่ 1126

หนึ่งคนรักษาด่าน

ในเวลาเดียวกันนั้น หลุมโลหิตอื่นๆ ก็เริ่มเดือดพล่านขึ้นมา ราวกับว่าพวกมันกำลังถูกผนึกไว้ กลุ่มหมอกโลหิตลอยขึ้นไปในอากาศ กลายร่างเป็นกระบี่สีโลหิต และจากนั้นก็ลอยอยู่ที่ด้านบน กระจายกลิ่นอายอันน่ากลัวออกมา

มีเพียงหลุมเดียวเท่านั้นที่ไม่มีกระบี่โลหิต คือหลุมที่เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะหายตัวเข้าไป พร้อมกับบุรุษชุดดำทั้งหมดที่กำลังพุ่งตรงไป

เมิ่งฮ่าวเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อเขาโผล่ออกมาจากหลุมโลหิต ก็พบว่าตนเองกำลังอยู่ในอุโมงค์ที่ยาวและแคบ ลาดลงไปยังห้องลับที่อยู่ด้านล่าง เมื่อเขาโผล่เข้าไปในห้องลับนั้น แสงสีโลหิตก็เสียดแทงเข้ามาในดวงตา

ภายในใจ เขารู้สึกตกตะลึงต่อกลิ่นอายปีศาจอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ซึ่งพุ่งมาปะทะกับใบหน้า ราวกับว่ามีเสียงกรีดร้องนับไม่ถ้วนกำลังดังก้องอยู่ภายในหู ซึ่งเสียงเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงที่คุ้นเคย ราวกับว่าแต่ละเสียงเหล่านั้นเป็นของคนที่เขาเคยรู้จักมา

ผลกระทบนั้นไม่ได้มีขีดจำกัดอยู่ที่เสียงเท่านั้น ภาพมากมายได้ปรากฏขึ้นคล้ายกับเป็นอาการประสาทหลอน และในเวลาเดียวกันนั้น ร่างกายก็รู้สึกว่ากำลังจะพังทลายลงไป ราวกับว่าเขากำลังอยู่ในส่วนลึกมากที่สุดของนรกอเวจี

จิตใจเมิ่งฮ่าวเริ่มเต้นรัว โลหิตเริ่มไหลย้อนกลับ สีหน้าสลดลง และพื้นฐานฝึกตนก็แทบจะตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย จนถึงจุดที่เขาแทบจะสูญเสียการควบคุมมันไป เขารีบกัดลงไปที่ปลายลิ้นอย่างรวดเร็ว ใช้ความเจ็บปวดที่พุ่งขึ้นมารักษาความแจ่มใสไว้ ถอยหลังตรงไปยังอุโมงค์ในทันทีด้วยใบหน้าที่ซีดขาว เมื่อเขาบรรลุถึงปากอุโมงค์ก็เริ่มมีสติกลับคืนมา

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีลางสังหรณ์อย่างรุนแรงด้วยว่า แม้จะอยู่ที่ปากทางเข้าอุโมงค์เป็นเวลานานไป ก็จะทำให้กลิ่นอายปีศาจมีผลกระทบต่อตนเองโดยสิ้นเชิง และอาจจะต้องสูญเสียพื้นฐานฝึกตนไปด้วย!

ความรู้สึกจากสัญชาตญาณนี้ทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวต้องเบิกกว้างขึ้น เขารีบมองไปรอบๆ บริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว และมองเห็นรูปปั้นเป็นเต่าเสวียนอู่หนึ่งตัว, นกกระเรียนหนึ่งตัว และแม้แต่กวางอีกหนึ่งตัว…

“พวกมันทั้งหมดเป็น…วิญญาณผู้ทรยศ?!” เมิ่งฮ่าวคิดพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง สายตาไปหยุดอยู่ที่แท่งน้ำแข็งสีโลหิต และมองเห็นสิ่งที่ถูกผนึกไว้ด้านใน ค้างคาวสีโลหิต

กลิ่นอายปีศาจทั้งหมดกำลังกระจายออกมาจากแท่งน้ำแข็งสีโลหิตนั้น และมาจากร่างของค้างคาวสีโลหิตที่อยู่ด้านใน มันคือ…ต้นกำเนิดของปีศาจในบริเวณนี้!

นกแก้วและผีโต้งมองไปรอบๆ สีหน้าพวกมันเปลี่ยนไป

ในตอนนี้เองที่เสียงแผดร้องคำรามดังก้องออกมาจากภายในถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าว หน้ากากสีโลหิตลอยออกมาอยู่ในกลางอากาศ เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นและกระจายเป็นแสงสีโลหิตออกมา แสงสีโลหิตนั้นบ่งบอกให้รู้ว่า…ในที่สุดอ๋าวเฉี่ยนก็ตื่นขึ้นมาแล้ว

ทันใดนั้นมันก็ลอยออกมา หันหน้ามองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาที่รักใคร่อย่างลึกล้ำ เป็นสายตาเดียวกันกับตอนที่มันมองมายังเขาตอนที่ยังเล็กอยู่ ในโลกของมัน เมิ่งฮ่าวคือเจ้านายของมัน, ครอบครัวของมัน และเป้าหมายในชีวิตทั้งหมดของมัน

หลังจากที่มองมายังเขา ดวงตาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และแผดร้องคำรามออกมา จากนั้นก็หันหลัง กลายเป็นลำแสงสีโลหิตพุ่งเข้าไปในแท่งน้ำแข็ง ขณะที่เริ่มพยายามจะครอบครองวิญญาณผู้ทรยศเพื่อ…แทนที่วิญญาณผู้ทรยศนั้น!!

ถ้ามันล้มเหลว ก็จะต้องตายไป!

แต่ถ้ามันทำได้สำเร็จ…นับจากนี้ไป มันก็จะกลายเป็นวิญญาณผู้ทรยศ!

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าวิญญาณผู้ทรยศนี้อ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง และบางทีอาจจะตายไปเมื่อนานมาแล้ว คงจะเป็นเรื่องธรรมดาที่อ๋าวเฉี่ยนไม่อาจจะทำได้สำเร็จ หรือแม้แต่จะอยู่ในสถานะนี้ ก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันจะมีโอกาสหรือไม่

โชคดีที่มันคือวิญญาณซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาจากโลหิต ดังนั้นจึงมีต้นกำเนิดเช่นเดียวกันกับค้างคาวโลหิตตัวนี้ ทำให้โอกาสที่มันจะทำได้สำเร็จมีเพิ่มขึ้น

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไป และแท่งน้ำแข็งสีโลหิตก็สั่นสะท้าน เสียงแผดร้องแปลกๆ ดังก้องขึ้น ตามมาด้วยเสียงของการต่อสู้กันอย่างดุร้าย ดังเต็มไปทั่วทั้งห้องลับแห่งนี้ โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของเมิ่งฮ่าว และเขาก็ถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว เขาไม่อาจจะช่วยอ๋าวเฉี่ยนในการครอบครองวิญญาณผู้ทรยศนี้ได้ ดังนั้นมีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถจะทำได้ก็คือคอยพิทักษ์ปกป้องมันในช่วงของวิกฤตนี้

มันจะมีโชควาสนาที่จะทำได้สำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับอ๋าวเฉี่ยนโดยสิ้นเชิง ไม่ได้ขึ้นกับเมิ่งฮ่าว

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่อาจจะอยู่ในที่แห่งนี้ได้นานนัก เขาต้องจากไป ถ้าเขาอยู่นานมากเกินไป เขาก็จะได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายปีศาจ และพื้นฐานฝึกตนก็จะเริ่มสูญสลายไป

นอกจากนี้เขายังได้ยินเสียงของผู้ฝึกตนชุดดำ กำลังแหวกฝ่าอากาศผ่านอุโมงค์เข้ามาทางด้านหลังอีกด้วย

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ มองไปยังนกแก้วและผีโต้ง นกแก้วเข้าใจสายตาของเขาในทันที

มันลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ส่งเสียงร้องแหลมเล็กออกมา

“ถึงเวลาที่ต้องเสี่ยงชีวิตแล้ว! ท่านย่ามันเถอะ! อู่เหยียจะจัดการให้เอง! เมิ่งฮ่าว เจ้าเป็นหนี้ข้าครั้งใหญ่! เหล่าซาน มาช่วยข้าด้วย!”

นกแก้วกระพือปีกขึ้นลง ทำให้ลำแสงหลากสีจำนวนมากพุ่งออกไป และปกคลุมไปทั่วทั้งแท่งน้ำแข็งสีโลหิตนั้น

ผีโต้งมีท่าทางไม่พอใจต่อสถานการณ์นี้ แต่ก็บินตรงไปและปล่อยให้นกแก้วคว้าจับมันไว้ พวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน และจากนั้นก็ปลดปล่อยเวทแห่งเต๋าที่แปลกประหลาดออกมา พวกมันกำลังช่วยอ๋าวเฉี่ยนให้มีโอกาสที่จะทำได้สำเร็จเพิ่มมากขึ้น

“ถึงแม้ว่าอู่เหยียจะช่วย แต่ความสำเร็จขั้นสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับโชควาสนาของมันเอง!” นกแก้วแผดร้องขึ้น

“ขอบคุณมาก เจ้าทำเท่าที่จะทำได้ ที่เหลือก็ขึ้นกับมัน…สำหรับข้า ข้าไม่อาจจะช่วยได้มากนัก แต่ข้าจะหยุดผู้ที่รุกรานเข้ามา และขัดขวางพวกมันไว้!”

เมิ่งฮ่าวกล่าว มองไปยังแท่งน้ำแข็งที่อ๋าวเฉี่ยนหายตัวเข้าไปเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็หันหลัง บินออกไปจากห้องลับเข้าไปที่ด้านในอุโมงค์

ถึงแม้ว่ากลิ่นอายปีศาจจะยังคงมีผลกระทบต่อเมิ่งฮ่าวอย่างชัดเจน แต่เขายังสามารถจะต่อต้านได้ในช่วงเวลานี้ แน่นอนว่าถ้าเขาสามารถทำได้เช่นนี้ ผู้ฝึกตนชุดดำก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

เขาไม่ยอมเสี่ยงที่จะปล่อยให้พวกมันเข้ามาในห้องลับนี้ได้ นอกจากนั้นเขาไม่รู้ว่าพวกมันจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่ออ๋าวเฉี่ยน และอาจจะทำให้อ๋าวเฉี่ยนล้มเหลวได้

เมิ่งฮ่าวให้ความใส่ใจต่ออ๋าวเฉี่ยนเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่อาจจะตัดสินใจแบบฉาบฉวยได้ มีทางเลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็คือ คอยสกัดกั้นศัตรูอยู่ภายในอุโมงค์นี้เท่านั้น!

โครงสร้างทั้งหมดของสุสานโลหิตแห่งนี้ประกอบไปด้วยสองส่วน ที่ด้านบนเป็นสุสานขนาดใหญ่ และตรงด้านล่างก็มีห้องลับขนาดเล็กกว่าอยู่ มีการเชื่อมต่อกันด้วยอุโมงค์ ซึ่งก็คือตำแหน่งที่เมิ่งฮ่าวอยู่ในตอนนี้ เขามองเห็นผู้ฝึกตนชุดดำกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว

ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยก่อนที่จะพุ่งเข้าไปโจมตี

“อ๋าวเฉี่ยน เจ้าเคยปกป้องข้ามาหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้…ถึงเวลาที่ข้าจะต้องคุ้มครองเจ้าบ้างแล้ว!” เมิ่งฮ่าวพึมพำ โคจรหมุนเวียนพื้นฐานฝึกตน และรังสีสังหารก็ม้วนตัวออกไป เขาไม่มั่นใจว่าอ๋าวเฉี่ยนจะครอบครองวิญญาณผู้ทรยศได้สำเร็จหรือไม่ และไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลาทำเช่นนั้นนานเท่าใด แต่เขาก็รู้ว่าในตอนนี้ ไม่มีสถานที่ให้ล่าถอยหลบหนีอีกต่อไป และเขาไม่ต้องการจะหลบหนีไปอีกด้วย

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ทำให้พื้นฐานฝึกตนและชีพจรเซียนพุ่งเป็นพลังขึ้นไป เขาคล้ายกับเป็นใบมีดที่แหลมคม กรีดเฉือนโจมตีไปยังผู้ฝึกตนชุดดำในทันที

อุโมงค์นี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก ทำให้ยากที่จะปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทออกมา ถ้าเมิ่งฮ่าวอยู่ในขั้นสูงสุดของพลัง การสังหารบุคคลเหล่านี้ไม่กี่สิบคน ก็ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามพื้นฐานฝึกตนของเขาในตอนนี้ มีเพียงแค่หกในสิบส่วนของระดับปกติเท่านั้น ทำให้ยากที่จะต่อสู้ได้

มันคืองานที่ยุ่งยากลำบาก แต่เขาคือผู้ฝึกตนลำดับขั้น และอยู่ในอาณาจักรแห่งจักรพรรดิเซียน เขาเป็นคนที่อาณาจักรโบราณทั่วไปไม่อาจจะมาต่อสู้ด้วยได้อย่างง่ายดาย เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นขณะที่เขาโจมตีไป ศีรษะอสูรโลหิตเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งออกไปในทั่วทุกทิศทาง

“พวกเจ้าไม่ใช่ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรสายลม!”

เขาร้องตะโกน พุ่งออกไปอยู่ในท่ามกลางของผู้ฝึกตนชุดดำราวกับเป็นสายฟ้า มือขวาตะปบไปที่ศีรษะของพวกมันหนึ่งคนอย่างแนบแน่น และปลดปล่อยเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตออกมา อย่างไรก็ตามพลังที่ดูดซับไม่อาจจะทำอะไรกับบุรุษผู้นั้นได้

ผ้าคลุมสีดำของมันถูกบดขยี้จนกระจายออกไปเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เผยให้เห็นเป็นบุรุษหนุ่มที่ด้านบนศีรษะของมันเต็มไปด้วยโลหิต ใบหน้ามันซีดขาวขณะที่ร้องตะโกนออกมา “เต๋าของพวกข้าแตกต่างกันออกไป! เต๋าของเจ้าเป็นของปลอม และของพวกข้าคือของจริง! เจ้าไม่อาจจะทำอะไรกับพวกข้าได้! พวกข้ามีชีวิตอยู่และตายไป…เพื่อเต๋าเดิมแท้!”

พร้อมกับเสียงหัวเราะ มันก็ตกตายไป

จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน จากนั้นบุรุษชุดดำอีกคนได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า และเขาก็ต่อยหมัดทำลายล้างชีวิตออกไป เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นขณะที่คู่ต่อสู้สั่นสะท้านและกระอักโลหิตออกมา

ผ้าคลุมศีรษะของมันถูกทำลายไป เผยให้เห็นเป็นใบหน้าของบุรุษวัยกลางคน อย่างน่าตกใจยิ่งที่มันมีเกล็ดปลาอยู่บนหน้าผาก! มันคือผู้ฝึกตนอสูร!

“เพื่อเต๋าเดิมแท้!” มันร้องตะโกนขึ้นมา และจากนั้นก็เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนที่จะระเบิดกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป

สีหน้าของผู้ฝึกตนชุดดำคนอื่นๆ ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย และพวกมันก็ไม่พูดอะไรออกมาด้วยเช่นกัน แต่พวกมันกลับโจมตีมาด้วยความดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม ปลดปล่อยสายลมให้ม้วนกวาดออกไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างรุนแรง ทันใดนั้นมังกรทะเลเก้าตัวก็แผดร้องคำรามพุ่งตรงมาที่เขาพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง

ยิ่งเมิ่งฮ่าวต่อสู้ไปมากเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกตกใจมากขึ้นเท่านั้น เขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่งต่อศัตรูในชุดสีดำเหล่านี้

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้วเรียกสุดยอดสะพานออกมา ทำให้เกิดเป็นแรงกดดันบดขยี้ออกไปในทันที บังคับให้ผู้ฝึกตนชุดดำต้องพุ่งถอยไปทางด้านหลัง เมิ่งฮ่าวทำท่าคว้าจับ และหอกยาวซึ่งมีคมหอกเป็นกระดูกได้ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ เขาแทงตรงไปยังหน้าผากของผู้ฝึกตนชุดดำผู้หนึ่ง ผ้าคลุมศีรษะปลิวไปทางด้านหลัง เผยให้เห็นเป็นหญิงสาว ถึงแม้ว่านางกำลังจะตกตายไป แต่ก็ไม่แสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย

“เพื่อเต๋าเดิมแท้!” นางกล่าวเสียงราบเรียบก่อนที่จะระเบิดออกไป

เส้นผมเมิ่งฮ่าวเริ่มลุกขึ้นตั้งชี้ชัน ถ้าถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าบุคคลเหล่านี้คือใครแล้วละก็ เขาคงไม่คู่ควรที่จะเป็นนายน้อยที่ฉลาดเจ้าเล่ห์แห่งตระกูลฟาง ในทันทีที่เขาเห็นพื้นฐานฝึกตนของพวกมัน ฉับพลันนั้นก็ทำให้เขาต้องคิดย้อนกลับไปยัง ‘คำเตือน’ ของเจี้ยนเต้าจื่อ ในตอนที่มาถึงชนเผ่าที่เก้าเป็นครั้งแรก

ย้อนกลับไปยังน้ำตก หลังจากที่ได้เห็นมนต์อสูรสะท้อนกลับถูกใช้ออกมา เขาก็ใช้วิชาม่านตาเซียนเพื่อสังเกตดูเงาร่างที่หลบซ่อนอยู่ตรงด้านหลังของน้ำตก

ในตอนนั้นเมิ่งฮ่าวเริ่มคาดเดาได้แล้ว ต่อมาเขาได้เห็นผู้ฝึกตนอื่นๆ ทั้งหมดจมอยู่ในความปรารถนาของตนเอง ทำให้ต้องเริ่มตระหนักขึ้นมาในทันทีว่า อาจจะต้องพ่ายแพ้อยู่ภายในอาณาจักรสายลมแห่งนี้ แต่จากนั้นเขาก็คิดได้ว่า…น่าจะอยู่ในที่แห่งนี้ดีกว่า ถ้าเขาเลือกออกไปจากอาณาจักรสายลม ก็คงต้องพ่ายแพ้ไปตลอดกาล

นับจากนั้นมาเขาก็ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ในตอนนี้เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนชุดดำ เมิ่งฮ่าวก็สามารถจะยืนยันข้อสงสัยของตนเองได้

“พวกเจ้าคือ…ผู้ฝึกตนจากอาณาจักรขุนเขาทะเล! พวกเจ้าคือคนที่มายังอาณาจักรสายลมจากคนรุ่นก่อนหน้านี้ และจากนั้นก็สูญเสียสติไปให้กับความปรารถนาของตนเอง! สุดท้าย พวกเจ้าก็ไม่ยอมจากไป!!”

บุรุษชุดดำไม่ยอมตอบข้อกล่าวหาของเขา กลับมองมาอย่างเรียบง่ายและกล่าวว่า “เพื่อเต๋าเดิมแท้!”

เสียงของพวกมันเยือกเย็น จนดูเหมือนว่าจะประกอบไปด้วยพลังที่แปลกประหลาดจนทำให้เมิ่งฮ่าวต้องตกตะลึง จากนั้นผู้ฝึกตนชุดดำก็พุ่งตรงมาโจมตี

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงก่ำ และเสื้อผ้าก็เปียกชุ่มไปด้วยโลหิตของศัตรู ในเวลาเดียวกันนั้น ตรงสุสานที่ด้านบน อากาศกระจายออกเป็นระลอกคลื่นขณะที่เงาร่างสิบเจ็ดสายปรากฏขึ้นในทันที บุคคลเหล่านี้คือกลุ่มคนที่ถูกส่งมาจากบุรุษในชุดจักรพรรดิ มีผ้าคลุมศีรษะสีดำปกปิดใบหน้าของพวกมันไว้ และจากระลอกคลื่นที่กระจายออกมาจากพื้นฐานฝึกตนของบุรุษที่อยู่ด้านหน้าสุด ก็เห็นได้ชัดว่าตะเกียงวิญญาณของมันถูกดับลงไปแล้วสิบดวง

เมื่อบุรุษผู้นั้นพูดขึ้น เสียงของมันก็เก่าแก่โบราณเป็นอย่างยิ่ง

“จงฟังคำสั่งจากองค์จักรพรรดิ ให้สังหารเมิ่งฮ่าวผู้ชั่วร้าย กลับไปยังตำแหน่งเดิมของพวกเจ้า เริ่มทำการกลั่นสกัดโลหิตขึ้นอีกครั้ง!”

ทันใดนั้นหลุมโลหิตทั้งหมดก็เริ่มเดือดพล่านขึ้นอย่างบ้าคลั่ง กระบี่โลหิตที่ลอยอยู่ด้านบน พุ่งตรงไปยังบุรุษในชุดดำ หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวมัน และจากนั้นก็เรียงรายกันเป็นค่ายกล ต่อมาพวกมันก็พุ่งเข้าไปในอุโมงค์ตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!