Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1232

ตอนที่ 1232

แก่นแท้พลุ่งพล่านจากพื้นฐานเต๋า

ในทันทีที่เสวียนเต้าจื่อมองเห็นเมิ่งฮ่าวเดินไปเช่นนั้น แก่นแท้แห่งกาลเวลาของมันเองก็เริ่มเดือดพล่านด้วยความกระหายขึ้นมาในทันที เป็นความรู้สึกที่มันไม่เคยพบเจอมาก่อน!

“นี่…” ในตอนที่ปฏิกิริยาจากแก่นแท้มีความรุนแรงมากขึ้น ก็ทำให้มันเริ่มสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตื่นเต้น!

“แก่นแท้ของข้ากำลังมีปฏิกิริยาขึ้นมาด้วยความกระหาย…นี่…นี่…เรื่องนี้เคยมีเอ่ยถึงในตำนาน!!”

“สวรรค์! ข้า…ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมาพบเจอกับสิ่งที่มีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น วิธีการเดินของเมิ่งฮ่าวผู้นี้มาจากที่ไหนกัน? จนทำให้แก่นแท้ของข้าพลุ่งพล่านขึ้นมาได้ และทำให้มันต้องแสดงออกมาอย่างกระหายเช่นนี้!!”

“แก่นแท้ของข้าปรารถนาจะดูดกลืนเต๋าแห่งกาลเวลาจากวิธีการเดินนั้น!”

“ถ้าข้าได้รับความรู้แจ้งจากมัน แก่นแท้แห่งกาลเวลาของข้าก็จะ…ก้าวหน้าไปอีกขั้น และก่อตัวเป็นพื้นฐานเต๋า! จากตำนานที่ถูกบอกเล่าต่อๆ กันมา แก่นแท้จะปั่นป่วนก็เนื่องมาจากพื้นฐานเต๋าเท่านั้น!”

“พื้นฐานเต๋า…คือสิ่งที่ลึกลับซึ่งมีแต่จักรพรรดิเต๋าเท่านั้นที่สามารถจะเข้าใจมันได้…มีแต่ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานเท่านั้นที่จะปรารถนาในสิ่งที่สูงส่งเช่นนั้นได้!” ดวงตาเสวียนเต้าจื่อเบิกกว้างขึ้น และจิตใจกำลังเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น

สำหรับผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า แก่นแท้คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น! เป็นเป้าหมายปลายทางของพวกมัน แต่ก็คือจุดเริ่มต้นไปยังปลายทางอื่นด้วยเช่นกัน!

จุดเริ่มต้นนั้นจริงๆ แล้วก็คือสถานที่ที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าติดอยู่ไปชั่วชีวิต พวกมันพยายามค้นหาความรู้แจ้งอื่นๆ เพื่อที่จะได้ครอบครองแก่นแท้อื่นอีก เพื่อให้บรรลุถึงจุดสูงสุด!

จุดสูงสุดแรกคือราชันเต๋าสามแก่นแท้ เหนือจากนั้นเป็นจักรพรรดิเต๋า และใครก็ตามที่ได้ครอบครองเจ็ดแก่นแท้ก็จะมีสิทธิ์เป็นผู้ยิ่งใหญ่!

แต่ความเป็นจริงแล้ว ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถเข้าใจได้ มีแต่ราชันเต๋าและจักรพรรดิเต๋าเท่านั้นที่จะเคยได้ยินว่า…

การกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่จุดสูงสุดของการฝึกตนอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น จิ่วเฟิงจื้อจุนมีเก้าแก่นแท้อันยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่าท่านจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ในที่สุดก็ต้องตายไป

เหนือผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ ยังมีอาณาจักรพื้นฐานเต๋า!

จริงๆ แล้ว…ไม่มีใครรู้ว่าอาณาจักรพื้นฐานเต๋าจะมีจริงหรือไม่ นอกจากนี้จากสมัยโบราณมาจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ก็อยู่ในช่วงเวลาของอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ หรืออาณาจักรขุนเขาทะเลในตอนนี้ โลกแห่งเซียนทั้งหมด…ไม่เคยมีผู้ฝึกตนอาณาจักรพื้นฐานเต๋าแม้แต่คนเดียว!

มีเพียงเรื่องเล่าหรือตำนานได้กล่าวไว้เท่านั้นว่ากุญแจสำคัญที่เข้าไปในอาณาจักรพื้นฐานเต๋านั้นก็คือ…แก่นแท้ที่พลุ่งพล่านขึ้นมาอันเนื่องมาจากพื้นฐานเต๋าเท่านั้น!

“พื้นฐานเต๋า! นี่ต้องเป็นพื้นฐานเต๋าในตำนานอย่างแน่นอน! นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาในอาณาจักรเต๋าแล้วหนึ่งในแก่นแท้ของข้าพลุ่งพล่านขึ้นมา!!”

เสวียนเต้าจื่อมองไปยังเมิ่งฮ่าวอยู่ชั่วขณะ และทันใดนั้นก็พุ่งไล่ตามไป การกระทำของมันนี้ไม่ได้ทำเพื่อสำนักที่จะรับปรมาจารย์เฮยหุนเข้ามา แต่…กำลังกระทำเพื่อตัวเอง!

เมื่อมันคิดไปถึงความจริงที่ว่าแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานก็ยังไม่อาจจะสัมผัสได้ถึงพื้นฐานเต๋า ทำให้เสวียนเต้าจื่อต้องยินดีจนแทบคลุ้มคลั่ง

แต่ก็มีอีกคนที่มีปฏิกิริยารวดเร็วยิ่งกว่า แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวใช้วิธีการเดินทางข้ามกาลเวลาแบบพิเศษเฉพาะออกมา หงเฉินก็หัวเราะขึ้น เป็นเสียงหัวเราะที่แหบแห้ง ทันใดนั้นนางก็ชี้นิ้วออกไป ทำให้หนองบนใบหน้านางเจ็ดแห่งปะทุขึ้น จากนั้นตะขาบสีขาวน้ำนมเจ็ดตัวก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

“เทพมังกร จงปรากฏขึ้น!” ดวงตาหงเฉินสาดประกายด้วยความเย็นชา และในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากนาง ตะขาบเจ็ดตัวก็หมุนวนไปรอบๆ ซึ่งกันและกัน ราวกับว่าพวกมันกำลังก่อตัวเป็นค่ายกลเวทที่แปลกประหลาดบางอย่าง กลิ่นอายอันน่าตกใจเริ่มกระจายออกมาจากพวกมัน และเวลาเดียวกันนั้นเงาร่างภาพลวงตาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น ปกคลุมอยู่รอบๆ ตะขาบเหล่านั้น

เงาร่างนั้นไม่ใช่มังกรแต่เป็นตะขาบขนาดใหญ่ที่มีความยาวหนึ่งพันจ้าง ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็แตกกระจายไป เทพมังกรแผดร้องคำรามและจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังเต้นรัว เทพมังกรกำลังพุ่งตรงมา และเสวียนเต้าจื่อก็ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ในช่วงวิกฤตนี้เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้ เขาขยับร่ายเวทพร้อมกันทั้งสองมือ ทำให้สุดยอดสะพานปรากฏขึ้น ขณะที่เขาเดินต่อไปด้วยการใช้วิธีการเดินข้ามกาลเวลา ภูเขาเซียนตกลงมา โดยมีดวงตะวันและจันทราโคจรหมุนวนอยู่รอบๆ พลังแห่งเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าระเบิดออกไปอย่างเต็มกำลัง

ผีโต้งปรากฏกายขึ้น ก่อตัวเป็นชุดเกราะ กระจกทองแดงกลายเป็นอาวุธสงคราม อ๋าวเฉี่ยนกลายเป็นผ้าคลุม ผลเนี่ยผานลูกที่สี่ปรากฏขึ้น จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็กดลงไปบนหน้าผาก

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา ทำให้พลังของเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไปเป็นหลายเท่าตัว เขาฟาดฝ่ามือออกไปอย่างดุร้าย ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน แม้แต่เรือของตระกูลเมิ่งก็ยังเริ่มสั่นไปมา และเกราะป้องกันของตัวเรือก็แตกกระจายไป ศิษย์ตระกูลเมิ่งจำนวนมากกระอักโลหิตออกมา

เทพมังกรส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนขณะที่พังทลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป เสวียนเต้าจื่อหยุดการไล่ตามมาและโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ทำให้พื้นฐานฝึกตนของมันปะทุขึ้นเป็นพลังการโจมตี ปรมาจารย์เฮยหุนก็แผดร้องออกมาด้วยเช่นกัน ขณะที่มันพุ่งเข้ามาด้วยความไม่พอใจ

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ขณะที่สุดยอดสะพานลอยละลิ่วออกไป ภูเขาพังทลาย ดวงตะวันและจันทราแตกกระจายไป ชุดเกราะผีโต้งกลายเป็นเสี่ยงๆ อาวุธสงครามจางหายไป และผ้าคลุมก็กลับมาเป็นอ๋าวเฉี่ยนเหมือนเดิม ซึ่งกำลังกระอักโลหิตออกมา

ผลเนี่ยผานลูกที่สี่ของเมิ่งฮ่าวถูกบังคับให้โผล่ออกมาจากหน้าผาก และเมิ่งฮ่าวก็ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกโลหิตของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว เขาได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส และขณะที่หลบหนีต่อไป ก็มองเห็นกระดูกที่แตกละเอียดอยู่ในก้อนเนื้อตรงหน้าอก

“ตาย!” หงเฉินร้องตวาดขึ้น รังสีสังหารสาดประกายอยู่ในดวงตา ขณะที่นางก้าวตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ปรมาจารย์เฮยหุนปลดปล่อยเวทแก่นแท้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดออกมา โจมตีไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความดีใจ

สีหน้าของเสวียนเต้าจื่อเปลี่ยนไปในทันที

“อย่าได้สังหารมัน!” มันร้องตะโกนขึ้น ก้าวตรงไปขัดขวาง เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่มันปิดกั้นการโจมตีมาของทั้งหงเฉินและปรมาจารย์เฮยหุน คนทั้งสองจ้องมองมายังมันด้วยโทสะในทันที

“เสวียนเต้าจื่อ ท่านกำลังทำอะไร?”

“สหายเต๋าเสวียนเต้าจื่อ ท่านมาขัดขวางข้า? นี่หมายความว่าอย่างไร!?” หงเฉินและปรมาจารย์เฮยหุนต่างก็จ้องมองไปยังเสวียนเต้าจื่อ ดวงตาลุกโชนขึ้นด้วยโทสะ

“ปล่อยให้คนผู้นี้มีชีวิตรอดไปก่อน หลังจากนั้นค่อยสังหารมันไป ถือว่าเหล่าฟูเป็นหนี้ท่านทั้งสองแล้ว!” เสวียนเต้าจื่อรีบอธิบายขึ้นมาในทันที ทำให้สีหน้าของปรมาจารย์เฮยหุนและหงเฉินอ่อนโยนลง

เมิ่งฮ่าวฉวยโอกาสในชั่วขณะนี้ถอยไปทางด้านหลังในทันที พร้อมกับใบหน้าที่ซีดขาวและพื้นฐานฝึกตนก็จมดิ่งลงไป ในตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขา สาหัสกว่าตอนที่ไปโจมตีเฮยหุนเต้าซะอีก

เขาเพียงคนเดียวกำลังเผชิญหน้าอยู่กับสามราชันเต๋า และตนเองก็ไม่ได้อยู่ในอาณาจักรเต๋าที่แท้จริงอีกด้วย ทำให้ไม่อาจจะเทียบกับพวกมันได้ และตอนนี้เขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะหลบหนีเข้าไปในรอยแตกสามสิบสามแห่งที่กำลังเรืองแสงอยู่เหล่านั้น

ที่ห่างไกลออกไป กลุ่มคนบนเรือตระกูลเมิ่งฮ่าวต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันทั้งหมด สำหรับเส้าเหยียผู้นั้น มันกวาดเช็ดโลหิตออกมาจากมุมปาก และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยความโลภ

“ข้าต้องการตำแหน่งลำดับขั้นของมัน! ไป! ทั้งหมดออกไปสังหารมัน!!”

บุรุษหนุ่มแผดร้องออกมา แต่ศิษย์ตระกูลเมิ่งไม่มีใครทำอะไรแม้แต่คนเดียว…

มองเห็นแสงแปลกๆ สาดประกายอยู่ในดวงตาของพวกมันขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว ราวกับว่าพวกมันคือฝูงสุนัขป่าที่กำลังจ้องมองไปยังพยัคฆ์โดดเดี่ยวที่บาดเจ็บอยู่ตัวหนึ่ง

มีเพียงบุรุษหนุ่มหน้ารอยแผลเป็นเท่านั้น ที่ไม่อาจจะปกปิดความห่วงใยที่มันรู้สึกอยู่ได้ และมีท่าทางวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวกำลังหลบหนีออกไปอย่างสุดกำลัง เสวียนเต้าจื่อและผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าอีกสองคนบรรลุถึงข้อตกลงร่วมกันได้แล้ว และมองไปยังเขาพร้อมกับรังสีสังหารที่พุ่งขึ้นมา พวกมันเข้ามาใกล้ ไม่สนใจว่าจะกลายเป็นผู้เข้มแข็งรังแกคนที่อ่อนแอกว่า หรือกลายเป็นหมาหมู่ใดๆ โดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวหัวเราะหึๆ อย่างขมขื่น เขาไม่มีเวทแห่งเต๋าที่สามารถจะขัดขวางการโจมตีมาของพวกมันได้ เขาพยายามใช้โลหิตผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ภายในร่าง เพื่อเรียกแสงจากดวงตะวันและจันทราจากอาณาจักรขุนเขาทะเลมา แต่ก็ไร้ประโยชน์ใดๆ

“ข้าคงชะล่าใจมากเกินไป…แต่ก็ไม่เสียใจใดๆ น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจจะนำชิงเอ๋อร์กลับไปหรือช่วยเหลือฉู่อวี้เยียนได้…” เมิ่งฮ่าวพึมพำ ถอนหายใจขณะที่สามผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าโจมตีมา แต่ในตอนนี้เองที่แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง และจู่ๆ ดวงตาก็เริ่มสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า

“ข้ายังมีเวทแห่งเต๋าอีกอย่าง!” ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็มองขึ้นไปและกัดฟันแน่น จากนั้นก็โก่งขาเป็นรูปวงกลม และยกแขนขวาขึ้นไปที่เบื้องหน้า

“เต๋าอยู่ในจิตใจ!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องออกมา ทันใดนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เงียบกริบไปโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าเสียงทั้งหมดถูกกลืนกินไป อันที่จริงเสียงใดๆ ก็ตามที่ดังออกมา จะถูกกวาดล้างไปโดยสิ้นเชิง!

ภายในความเงียบกริบนั้น จู่ๆ ก็มีแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อกดทับลงมา สีหน้าเสวียนเต้าจื่อสลดลง ดวงตาหงเฉินเบิกกว้างขึ้น และปรมาจารย์เฮยหุนก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ พวกมันทั้งสามต่างก็เป็นราชันเต๋า มีความสอดคล้องกับสวรรค์, ปฐพีและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเป็นอย่างดี แต่ทันใดนั้นพวกมันก็รับรู้ได้ถึงเจตจำนงที่กำลังตกลงมา เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจพวกมันต้องสั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง

เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้านขึ้นเช่นเดียวกัน ขณะที่ร้องตะโกนคำพูดเหล่านั้นออกมา สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็กระจายออกไป ถึงแม้ว่าเขาจะฝึกฝนวิชาเวทนี้ร่วมกับนักพรตชราหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเช่นนี้ ทันใดนั้นความหวังก็พุ่งขึ้นมาอยู่ในจิตใจ ลุกโชนขึ้นด้วยความเจิดจ้าและรุนแรง

ลึกลงไปในจิตใจ ความหลงใหลและความศรัทธาหลอมรวมเข้าด้วยกัน ในตอนนี้เขาเชื่อว่าเวทผนึกสวรรค์จะต้องไปกระตุ้นให้อาณาจักรขุนเขาทะเลมีปฏิกิริยาขึ้นมาอย่างแน่นอน!

เขาไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงแรงกดดันในบริเวณนั้น ขณะที่จมอยู่ในสถานะที่แปลกประหลาดไปโดยสิ้นเชิง ราวกับว่า…เขาได้กลายเป็นโลกแห่งนี้ ราวกับว่า…เขาคือขุนเขาทะเลที่แปด ราวกับว่า…เขาคือเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล!

เมื่อมาถึงคำพูดที่ว่า ‘เต๋าอยู่ในจิตใจ’ เมิ่งฮ่าวก็มองว่าเต๋าคืออาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง! อาณาจักรขุนเขาทะเลอยู่ในจิตใจของตนเอง!

“เจตจำนงอยู่ในดวงตา!” แขนซ้ายเมิ่งฮ่าวยกขึ้นไปในแนวนอน เมื่อรวมเข้ากับแขนขวาก็กลายเป็นตัวอักษร 十 (สือ แปลว่าสิบ) ปิดบังดวงตาของเขาไว้ ทำให้ไม่อาจจะมองเห็นโลกที่เบื้องหน้าได้ แต่สิ่งที่ไม่อาจจะปกปิดได้ก็คือ…จิตใจและเจตจำนงของตนเอง!

ความเป็นจริงก็คือหลายครั้งที่เราหลับตาลง เมื่อมองไม่เห็นสิ่งใดๆ โดยสิ้นเชิง เมื่อเรามองไม่เห็นอะไรแม้แต่น้อย…ก็จะรับรู้ถึงโลกได้อย่างแท้จริง!

นั่นคือสิ่งที่เมิ่งฮ่าวกำลังพบเจออยู่ในตอนนี้ เขารับรู้ได้ถึงเก้าขุนเขาและเก้าทะเลที่อยู่ในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว และรู้สึกได้ถึงดวงตะวันและจันทราด้วยเช่นเดียวกัน

เมิ่งฮ่าวเริ่มสั่นสะท้านขณะที่จิตวิญญาณของตนเองเต็มไปด้วยอาณาจักรขุนเขาทะเล อย่างที่ไร้อุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง เจตจำนงของเขาในตอนนี้คือเจตจำนงแห่งขุนเขาทะเล และจิตใจก็กลายเป็นจิตใจแห่งขุนเขาทะเล!

แม้แต่นักพรตชราก็ไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะสามารถปลดปล่อยเวทผนึกสวรรค์ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้มาก่อน จริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องง่ายดายที่แทบจะราวกับว่า…มันคือเวทสวรรค์ที่ถูกจัดเตรียมมาให้เขาเป็นการพิเศษเฉพาะ!

เชื่อว่าตนเองคือราชันแห่งขุนเขาทะเล และผนึกสามสิบสามสวรรค์ไว้!

แต่ถ้าเขากลายเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลอย่างแท้จริง เวทนี้…ก็จะมีความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่อาจจะจินตนาการออกมาได้!

เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน ขณะที่ขยับขาให้ก่อตัวเป็นรูปร่างของภูเขา จากนั้นก็กวาดมือออกไปเป็นวงกว้าง ราวกับว่ากำลังโอบกอดโลกทั้งหมดไว้

“ข้าจะครอบครองขุนเขาทะเล! เวท…ผนึก…สวรรค์!!” เขาแผดร้องตะโกนขึ้น

ทันใดนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะท้าน และโลกแห่งนี้ก็สั่นสะเทือน ทะเลทั้งเก้าแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลแผดร้องดังกระหึ่ม และเก้าขุนเขาก็สั่นไปมาอย่างรุนแรง ดวงตะวันและจันทราส่งเสียงดังกึกก้อง ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังสาดประกายเป็นแสงเจิดจ้าออกมา!

ขุนเขาทะเลสั่นสะเทือนไปโดยสิ้นเชิง!

มีเพียงสถานที่แห่งนี้และเมิ่งฮ่าวเท่านั้นที่เริ่มทำการ…ผนึกสวรรค์!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!