ตอนที่ 1238
สุนัขป่าตะกละยึดครองร่าง
ทั่วทั้งโลกแห่งนี้กำลังสั่นสะเทือน เพดานสีเทาที่ด้านบนเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆและสายหมอก และพื้นดินก็สั่นไหวราวกับมีมังกรบิดตัวไปมาอยู่ที่ด้านล่าง จนแทบจะพุ่งขึ้นมา!
ป้ายศิลาหลุมฝังศพที่พุ่งสูงขึ้นไปอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของโลกแห่งนี้ กำลังส่ายโงนเงนไปทางด้านข้าง และเสียงกระหึ่มราวกับเสียงฟ้าคำรามก็ได้ยินมาจากด้านล่างพื้นดิน
ตูม!
ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกมา คนทั้งหมดรวมทั้งเมิ่งฮ่าวก็รู้สึกว่าจิตใจกำลังหมุนคว้างไปมา
ผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณกระอักโลหิต และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ปราณและโลหิตของหานชิงเหลยกำลังเดือดพล่าน และลอยตัวอยู่กลางอากาศ กำลังหอบหายใจออกมา เงาร่างเลือนรางที่อยู่รอบๆ ตัวมัน ต่างก็ถูกบังคับให้ต้องเผยตัวออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าดีกว่าเล็กน้อย จิตใจพวกมันสั่นสะท้าน แต่ก็ไม่ได้กระอักโลหิตออกมา อย่างไรก็ตามเพียงชั่วขณะเสียงกระหึ่มอีกเสียงก็ดังก้องขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งอย่างไร้ขอบเขตมากกว่าเสียงแรก
ตูม!
เสียงนี้ทำให้คนทั้งหมดที่อยู่ต่ำกว่าระดับราชันเต๋าต้องกระอักโลหิตออกมา ร่างเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน และโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากมุมปาก สำหรับราชันเต๋า ใบหน้าพวกมันซีดขาว ขณะที่คลื่นแห่งความตื่นตระหนกพุ่งขึ้นมาในจิตใจ
สำหรับสองผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าสองแก่นแท้ ที่พยายามจะมาขัดขวางเมิ่งฮ่าว ทั้งคู่กระอักโลหิตออกมา และสีหน้าก็สลดลงไป ไม่อาจจะต่อสู้กับเมิ่งฮ่าวได้อีกต่อไป พวกมันมองลงไปยังพื้นดินและเห็นรอยแตกกำลังกระจายออกไปในพื้นดินที่อยู่ด้านล่างของป้ายศิลาหลุมฝังศพ เสียงกระหึ่มสองครั้งที่ดังก้องออกมาเมื่อครู่นี้ มาจากรอยแตกเหล่านั้น
ต่อมาเสียงกระหึ่มครั้งที่สามก็ได้ยินมา เป็นเสียงที่คล้ายกับเสียงแผดร้องคำรามของยักษ์ ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง และท้องฟ้าก็มืดสลัวลงไป
เสวียนเต้าจื่อกระอักโลหิตออกมา และรู้สึกประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง
ทันใดนั้นเสียงเก่าแก่โบราณที่เจือปนด้วยความชั่วร้ายและบ้าคลั่ง ก็เต็มอยู่ในโลกที่มืดมิดแห่งนี้ “จิ่วเฟิง เหล่าฟูขอสาปแช่งให้เจ้าไม่ตายดี! ขอสาปแช่งให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกแห่งเซียนของเจ้าสูญสิ้นสายโลหิตผู้สืบทอด! เจ้าทำลายร่างของข้าได้ แต่ไม่อาจจะทำลายวิญญาณไฟของข้าได้! วิญญาณเหล่าฟูจะไม่ถูกทำลายไปโดยผู้ที่ไม่ก้าวเข้าไปในสวรรค์โดยสมบูรณ์!”
“เจ้ามีแค่กายเนื้อที่เหยียบย่ำสวรรค์เท่านั้น พื้นฐานฝึกตนของเจ้ายังคงอยู่ห่างอีกครึ่งก้าว ดังนั้นเจ้าจึงได้แต่สะกดข่มเหล่าฟูไว้เท่านั้น!”
ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน และในที่สุดก็สามารถจะมองเห็นแสงอันเจิดจ้าพุ่งออกมาจากรอยแตกในพื้นดินตรงด้านล่างป้ายศิลาหลุมฝังศพ
เป็นแสงสีฟ้าที่กระจายเต็มอยู่ในโลกแห่งนี้ แทบจะราวกับว่า…สิ่งที่ถูกฝังอยู่ในที่แห่งนี้ไม่ใช่ผู้ฝึกตน แต่เป็น…ดวงตะวัน!
จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน กระพริบตาเก้าครั้งติดต่อกัน จากนั้นก็พุ่งพลังแห่งเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าเข้าไปในดวงตา หลังจากที่ตรวจสอบดูอย่างละเอียด ก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น
อย่างน่าตกใจยิ่ง ภายใต้พื้นดินของหลุมฝังศพ เขามองเห็น…ดวงตะวันอยู่จริงๆ! เป็นดวงตะวันสีฟ้า!!
ดวงตะวันนั้นทำให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่วิ่งผ่านไปทั่วสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของ
เมิ่งฮ่าว และด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาระลึกขึ้นได้ถึงภาพที่เคยเห็นมาจากก่อนหน้านี้ เขาเคยเห็นดวงตะวันเก้าดวง กำลังฉุดลากดินแดนอันกว้างใหญ่และรูปปั้นขนาดยักษ์พุ่งผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
หนึ่งในดวงตะวันเหล่านั้นคือ…ดวงตะวันดวงเดียวกับที่เขากำลังมองเห็นอยู่ในตอนนี้!!
พวกมันดูเหมือนกันโดยสิ้นเชิง!!
จิตใจเสวียนเต้าจื่อสั่นสะท้าน และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก มันต้องการไล่ตามเมิ่งฮ่าวและสังหารเขาไป แต่ในตอนนี้ก็ไม่อาจจะทำได้ ร่างกายมันหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ไม่อาจจะขยับตัวเคลื่อนไหวได้โดยสิ้นเชิง แต่ดวงตากำลังสาดประกายขึ้นด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองลงไปยังรอยแตก พร้อมกับจิตใจที่กำลังหมุนคว้าง
“อาณาจักรพื้นฐานเต๋ามีอยู่จริง!! พื้นฐานเต๋า! พื้นฐานเต๋า! พื้นฐานจริงๆ ของเต๋าทั้งหมด!! จากสิ่งที่ข้าเคยอ่านมาจากบันทึกโบราณเมื่อครั้งหนึ่ง ผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้คล้ายกับเป็นเทพผู้สูงส่ง และเป็นเต๋าศักดิ์สิทธิ์อันดับเก้าแห่งโลกอื่น!”
“อาณาจักรพื้นฐานเต๋าของโลกแห่งเซียนไม่ได้ช่วยขยายความรู้แจ้งของคนผู้หนึ่งให้กว้างไกลออกไป และไม่มีเส้นทางอื่นให้เดินไปด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญก็คือการเดินไปนอกเหนืออาณาจักรเต๋าเพื่อจะมองเข้าไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาพื้นฐานแห่งเต๋า!”
“การขยายให้กว้างไกลมากเกินไปกว่าเต๋าคือเต๋าอันไร้ขอบเขตของโลกอื่น!”
“สำหรับเส้นทางอื่นที่จะก้าวเดินไปให้สูงเกินกว่าเต๋า นั่นก็คือการเหยียบย่ำไปบนสวรรค์ของโลกอื่น!” เสวียนเต้าจื่อกำลังสั่นสะท้าน และดวงตาก็เต็มไปด้วยการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวและบ้าคลั่ง มันเริ่มตระหนักได้ถึงความเป็นจริงของเรื่องราวเหล่านี้ และจริงๆ แล้ว กลุ่มคนในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมดที่รู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มีอยู่น้อยมาก จนสามารถจะนับได้เพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
แต่ตอนนี้มันไม่อาจจะขยับตัวเคลื่อนไหวได้ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถ แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ตามที
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นในโลกแห่งนี้ที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นั่นก็คือชายชราแห่งเทียนเสินเต้า!
“เทพผู้สูงส่ง…จากโลกอื่น!” มันพึมพำ ดวงตาสาดประกายเจิดจ้าขึ้น
แทบจะในทันทีที่ทั่วทั้งโลกแห่งนี้สั่นสะเทือน แสงเจิดจ้าที่สาดประกายออกมาจากรอยแตกด้านล่างป้ายศิลาหลุมฝังศพก็หายไปในทันที เวลาเดียวกันนั้นแรงดึงดูดอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น
เป็นพลังอันเข้มข้นที่สามารถจะดูดกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไปได้ ทำให้ทั่วทั้งโลกแห่งนี้ต้องมืดสลัวลงไป แม้แต่เพดานที่ด้านบนก็ดูเหมือนว่าแทบจะถูกฉุดลากลงมา ขณะที่พื้นดินสั่นสะเทือน ชายชราที่กำลังตื่นตระหนกแห่งเทียนเสินเต้า ก็กัดปลายลิ้นลงไปเล็กน้อย พ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ ใช้สองมือขยับร่ายเวท อย่างน่าตกใจยิ่ง ห้าแก่นแท้ปะทุออกมาจากร่างมัน ต่อสู้กลับไปยังแรงดึงดูดนั้น
มันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีปฏิกิริยาเช่นนี้ ไม่มีใครในที่แห่งนี้จะสามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้ เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่เงาร่างจำนวนมากกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงเข้าไปในรอยแตกและจากนั้นก็ถูกกลืนกินไป
ผู้ที่ต้องพบเจอกับชะตากรรมเช่นนั้นคือกลุ่มคนที่อยู่ในอาณาจักรเซียนและอาณาจักรโบราณ ตามมาด้วยหานชิงเหลย จากนั้นก็เป็นสองผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า รวมทั้งเสวียนเต้าจื่อ ไม่มีใครสามารถป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกดูดกลืนเข้าไปได้
เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้านขณะที่กลายเป็นลำแสง ถูกฉุดลากเข้าไปอย่างไม่ยินยอมด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวกำลังถูกดูดให้ตรงเข้าไปในรอยแตก ก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ที่ห่างออกไปไม่ไกลมากนักเป็นเงาร่างอันเลือนรางอยู่ร่างหนึ่ง ดวงตาแดงก่ำของมันสาดประกายขึ้นด้วยความละโมบอยากได้ ทันใดนั้นมันก็พุ่งตรงมาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ และในชั่วพริบตาก็มาอยู่เหนือร่างเมิ่งฮ่าว ในตอนที่เมิ่งฮ่าวตกลงไปในรอยแตก มันก็กระโจนเข้าใส่…ในทันที ไม่เปิดโอกาสให้เมิ่งฮ่าวทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ
เพียงแวบเดียว…ร่างมันก็หลอมรวมเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว จนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน!
อันที่จริงเงาร่างนั้นรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งจนไม่ได้สังเกตเห็นว่า ในตอนที่มันหลอมรวมเข้ากับเมิ่งฮ่าว…ดวงตาของเขากำลังสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ
แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว และจากนั้นก็หายตัวไป ถูกดูดเข้าไปด้วยพลังดึงดูดอันแข็งแกร่ง ในที่สุดก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ตรงด้านนอก ซึ่งก็คือชายชราแห่งเทียนเสินเต้า ร่างมันกำลังสั่นสะท้านขณะที่ค่อยๆ ถูกลากให้ตรงไปยังรอยแตก
ขณะที่มันเข้าไปใกล้ แรงดึงดูดก็เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว และเสียงกระหึ่มเสียงที่สี่ก็ดังก้องออกมา ชายชราผู้นี้มีห้าแก่นแท้ ทำให้กลายเป็นจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้ ด้วยพลังเช่นนั้นมันแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ทำให้โลหิตพุ่งออกมาจากทั่วร่างกาย จากนั้นก็กลายเป็นตัวอักษรเต๋า (道) ขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่รอบๆ ตัว!
ดูเหมือนว่าตัวอักษรนั้นจะให้มันยืมพลังอันไร้ขอบเขต ช่วยให้มันต่อสู้กลับไปยังแรงดึงดูดนั้นได้ แต่ก็ยังคงไม่อาจจะต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์ และชายชราก็ถูกฉุดลากให้เข้าไปใกล้กับรอยแตกมากขึ้น
สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือความรวดเร็วลดลงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ในที่สุดร่างมันก็อยู่ห่างจากรอยแตกเพียงแค่สิบจ้าง ในตอนนี้เองที่เสียงถอนหายใจด้วยโทสะก็ดังก้องออกมาจากภายในรอยแตก แรงดึงดูดหายไป และรอยแตกนั้นก็ปิดสนิทไปอย่างไร้ร่องรอยใดๆ
ทันใดนั้นชายชราก็กระอักโลหิตออกมากองโต เส้นผมยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง ดูท่าทางจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง ร่างกายมันกลายเป็นก้อนเนื้อที่แหลกเหลว มันแค่สามารถต่อสู้กลับไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่กายเนื้อก็อ่อนแอกว่าพลังการฝึกตนของตัวเอง ทำให้ต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส
“จากตำนานที่บอกเล่าสืบต่อกันมา เทพผู้สูงส่งจากโลกอื่นเทียบได้กับผู้ยิ่งใหญ่ ถ้ามันอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ ก็สามารถจะกำจัดข้าไปได้ในทันที มันไม่มีร่างเหลืออยู่ มีแต่วิญญาณที่ถูกสะกดข่มไว้เท่านั้น จึงทำให้ข้ามีโอกาสรอดมาได้!” ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ มันพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าตรงไปยังทางออกโดยไม่ลังเลใดๆ
ขณะที่มันจากไป ผู้ฝึกตนอื่นๆ จากพันธมิตรเทพสวรรค์ กำลังเข้ามาในที่แห่งนี้เพื่อค้นหาโชควาสนา
ด้านล่างของพื้นผิวสุสานคือป่าช้าขนาดใหญ่!
ป่าช้านั้นขยายยืดยาวออกไปจากทั่วทุกด้าน และมีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ผู้ฝึกตนที่ถูกดูดเข้ามา ไม่ได้ถูกส่งไปยังตำแหน่งเดียวกัน แต่กระจัดกระจายกันออกไป บางคนก็หมดสติไป บางคนก็ยังรู้สึกตัวดี
เมิ่งฮ่าวตกอยู่ในท่ามกลางกลุ่มคนที่หมดสติไป ดูคล้ายกับตายไปแล้วขณะที่นอนอยู่ตรงด้านข้างของห้องๆ หนึ่ง เป็นห้องเล็กๆ ที่ผนังถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่วิจิตรสวยงาม ตรงกลางห้องเป็นโลงไม้ที่ไม่มีฝาปิด เต็มไปด้วยกลุ่มหมอกสีขาวที่กำลังเดือดพล่าน มีไม้เลื้อยคลืบคลานออกมาบนพื้นและกระจายออกไปเป็นระยะ
ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนั้นเงียบกริบ เมิ่งฮ่าวไม่ใช่ผู้เดียวที่กำลังนอนอยู่ในที่แห่งนี้ ยังมีผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณอีกหนึ่งคนกำลังนอนหมดสติอยู่ตรงด้านข้างด้วยเช่นกัน
ในที่สุดแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณ เมื่อมันลืมตาขึ้นมา ก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปในทันที หลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีอันตรายอยู่ในที่แห่งนั้น ก็ลุกขึ้นมายืนด้วยความระมัดระวัง จากนั้นก็มองไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัวและสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง
มันจำได้ว่าถูกรอยแตกดูดกลืนลงไป เมื่อตระหนักว่ากำลังอยู่ในส่วนลึกของพื้นดินด้านล่างหลุมฝังศพ เส้นผมของมันก็ลุกขึ้นตั้งชี้ชัน จากนั้นก็มองไปรอบๆ อีกครั้ง ในที่สุดสายตาก็ไปหยุดนิ่งอยู่บนร่างเมิ่งฮ่าว
“เมิ่งฮ่าว…” ผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณคิดด้วยความตกใจ ถอยไปทางด้านหลัง จ้องนิ่งไปยังเมิ่งฮ่าวอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะในที่สุดก็เริ่มค้นหาทางออกไปจากห้องแห่งนี้ หลังจากที่ค้นพบ มันก็ทำท่าจะจากไป แต่ก็หยุดชะงักอยู่ชั่วครู่และมองกลับไปยังเมิ่งฮ่าว
“มันยังไม่ตื่นขึ้นมา…” ผู้ฝึกตนกัดฟันแน่น และโบกสะบัดมือออกไปในทันที ส่งผลให้กระบี่บินพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว อย่างน่าตกใจยิ่ง กระบี่เล่มนั้น…แทงเข้าไปในศีรษะของเขา ทำให้โลหิตพุ่งกระจายออกไปทั่วบริเวณนั้น!
เมิ่งฮ่าวไม่ขยับเขยื้อนร่างกายแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาตายไปแล้ว
ผู้ฝึกตนนั้นไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะง่ายดายเช่นนี้ หลังจากที่จ้องมองไปด้วยความตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ดวงตามันก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความยินดี
“มันตายแล้ว? อืม มันได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสมาก่อน หลังจากที่ถูกดูดเข้ามาในที่แห่งนี้ อาการบาดเจ็บของมันก็ต้องเลวร้ายลง แต่ก็ไม่น่าจะตายไป…”
ผู้ฝึกตนนั้นกระทำการด้วยความระมัดระวังอย่างถึงที่สุด บังคับกระบี่บินให้ตัดไปที่ลำคอเมิ่งฮ่าวอย่างโหดเหี้ยม
เกิดเป็นเสียงฉับดังก้องขึ้น และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาราวกับเป็นน้ำพุ ขณะที่ศีรษะเมิ่งฮ่าวถูกตัดออกมาจากร่างกาย!
ผู้ฝึกตนนั้นอ้าปากค้าง โดยไม่ลังเลอีกต่อไป รีบพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
“ข้าโชคดีแล้ววันนี้! มันตายไปแล้ว ถุงสมบัติของมันต้องเป็นของข้า!” ผู้ฝึกตนเข้าไปใกล้เมิ่งฮ่าวด้วยความตื่นเต้น ยื่นมือออกไปคว้าจับถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าว!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มันยื่นมือออกไป ความรู้สึกถึงวิกฤตที่ใกล้เข้ามาก็แวบขึ้นในจิตใจราวกับเป็นสายฟ้า เส้นผมทั้งหมดของมันลุกขึ้นตั้งชี้ชัน และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ ร่างกายมันนิ่งแข็งไปโดยสิ้นเชิง
ขณะที่ตระหนักว่ามือของเมิ่งฮ่าวเพิ่งจะพุ่งขึ้นมาและคว้าจับไปบนแขนของมัน