Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1463

ตอนที่ 1463

เวทผนึกสวรรค์

ช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มฝูงชนในตี้จิ่วจงตกอยู่ในห้วงโกลาหลด้วยความตื่นเต้น กลุ่มเมฆก็เริ่มมารวมตัวกันที่ท้องฟ้าด้านบน ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆสีดำที่แน่นหนา

เนื่องจากมีแสงอันเจิดจ้าสาดกระจายออกมาจากสวรรค์ชั้นที่แปด ทำให้ยากที่จะมองเห็นพวกมันได้ในตอนแรก อย่างไรก็ตามผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากที่สุดในท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันเข้มข้นที่กำลังถูกสร้างขึ้นมาในฟ้าดิน

ในที่สุดความรู้สึกนั้นก็เริ่มจะรับรู้ได้อย่างเด่นชัดมากขึ้น และกลุ่มคนก็เริ่มแหงนมองขึ้นไป ทำให้สีหน้าพวกมันต้องเปลี่ยนไป

“นั่นคือ…ทัณฑ์สายฟ้า!”

“มันคือทัณฑ์อะไรกัน? ช่างมีขนาดที่ใหญ่โตนัก…”

“มันทำให้ข้าต้องคิดย้อนไปถึงทัณฑ์เซียนที่ศิษย์พี่ฟางมู่เผชิญมาในตอนนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าทัณฑ์สายฟ้านี้…เกิดขึ้นสำหรับมัน?” เสียงร้องด้วยความตกตะลึงได้ยินมา ขณะที่ชั้นกลุ่มเมฆสีดำเริ่มหนาแน่นมากขึ้นและมีขนาดใหญ่ขึ้น ในชั่วพริบตาก็ปกคลุมไปทั่วทั้งตี้จิ่วจง และกำลังมีขนาดใหญ่มากขึ้นในตอนนี้

ถึงแม้ว่าเยียนเอ๋อร์จะไม่ได้เห็นทัณฑ์เซียนของอาจารย์นางในวันนั้น แต่ในตอนนี้จิตใจก็กำลังสั่นสะท้านขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแต่จะได้ยินเสียงพูดคุยของกลุ่มคนที่อยู่รอบๆ ตัวเท่านั้น นางยังรู้สึกได้ด้วยเช่นกันว่ากลุ่มเมฆเหล่านี้ประกอบไปด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัวบางอย่าง

ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า, ราชันเต๋า, จักรพรรดิเต๋า และแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้ ต่างก็มองขึ้นไปด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ถ้าสถานการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นก่อนที่สวรรค์ชั้นที่แปดจะปรากฏขึ้น พวกมันคงจะไม่ให้ความสนใจเท่าใดนัก ความเป็นตายของฟางมู่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกมันแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้ด้วยการมีแสงอันเจิดจ้าของสวรรค์ชั้นที่แปดกำลังส่องประกายอยู่ ศักดิ์ฐานะและความสำคัญของฟางมู่สูงเกินกว่าพวกมันจากก่อนหน้านี้ไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นศิษย์สายในของแผนกใดแผนกหนึ่งอีกต่อไป เขามีศักยภาพที่จะกลายเป็นศิษย์ผู้สืบทอดของตี้จิ่วจง

เขาแทบจะสร้างตำนานที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนอยู่ภายในชางหมางพ่าย และกำลังจะทำให้ตี้จิ่วจงมีชื่อเสียงพุ่งทะยานขึ้นไป

ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า, ราชันเต๋า, จักรพรรดิเต๋า และแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้ที่สันโดษ ต่างก็ไม่ยินดีที่จะปล่อยให้ทัณฑ์สายฟ้ามายุ่งเกี่ยวกับศิษย์เช่นนี้

ผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้แค่นเสียงเย็นชาและพุ่งตรงขึ้นไป ติดตามด้วยจักรพรรดิเต๋า ราชันเต๋าและผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าคนอื่นๆ ต่างก็บินขึ้นไปด้วยเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งทรงพลังกลุ่มใหญ่เหล่านี้ต่างก็ปลดปล่อยพลังการฝึกตนออกไป พวกมันกำลังพยายามจะช่วยฟางมู่ทำให้ทัณฑ์สายฟ้ากระจายหายไปอย่างน่าตกใจยิ่ง

กลุ่มเมฆสีดำพลุ่งพล่านปั่นป่วน และสายฟ้าก็เริ่มฟาดลงมา แม้ในขณะที่พวกมันพุ่งตรงไปยังชางหมางไถ ผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้ก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อเพื่อทำให้พวกมันกระจายหายไป

ดูเหมือนว่าทัณฑ์สายฟ้าจะมีโทสะขึ้นมา ในชั่วพริบตาสายฟ้านับร้อยก็เริ่มฟาดลงมา จากนั้นก็นับพัน พวกมันดูคล้ายกับเป็นทะเลสาบแห่งสายฟ้าที่กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

เวลาเดียวกันนั้นย้อนกลับไปในชางหมางไถ เมิ่งฮ่าวกำลังเดินขึ้นไปบนชั้นที่เก้า ในทันทีที่เขาผ่านเข้าไป ก็มองไปรอบๆ และพบว่าตนเองกำลังถูกห้อมล้อมด้วยแท่นศิลาตัวอักษรขนาดต่างกันนับไม่ถ้วน ซึ่งมีตัวอักษรและสัญลักษณ์เวทจารึกไว้ทั้งหมด

บนแท่นศิลาตัวอักษรแท่นแรก เมื่อเขาตรวจสอบดูอย่างละเอียด ก็พบว่าเป็นวิชาเวทที่ครบถ้วนสมบูรณ์วิชาหนึ่ง หลังจากที่ตรวจสอบดูมากขึ้น ก็พบว่าแท่นศิลาตัวอักษรในที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยวิชาเวทจำนวนมาก มีมากกว่าหนึ่งล้านเวท นอกจากนี้ตรงหน้าเมิ่งฮ่าวมีแท่นศิลาตัวอักษรหนึ่งแท่นที่ว่างเปล่าไปโดยสิ้นเชิง

ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาครุ่นคิด เมิ่งฮ่าวก็เข้าใจได้ในทันทีว่าการทดสอบของชั้นที่เก้านี้ คือการทดสอบ…งานสร้างสรรค์!

จำเป็นต้องสร้างความสามารถศักดิ์สิทธิ์ หรือวิชาเวทขึ้นมา และจารึกอยู่บนแท่นศิลาตัวอักษรที่ว่างเปล่านี้ จากพลังของวิชาเวทที่สร้างขึ้นมานี้ ก็จะถูกจัดอันดับอยู่ในชั้นที่เก้าแห่งนี้

ขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวกระจายออกไป ตะเกียงวิญญาณเซียนก็เริ่มถูกจุดให้ติดขึ้นมาอยู่ภายในร่าง ทั้งในแง่ของจำนวนตะเกียงและขั้นตอนที่พวกมันปรากฏขึ้น ก็แตกต่างไปจากตะเกียงวิญญาณของร่างจริงเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ พื้นฐานฝึกตนก็พุ่งทะยานขึ้นไป เมิ่งฮ่าวสูดหายใจเข้าลึกๆ ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในแท่นศิลาตัวอักษรที่อยู่รอบๆ ทำการตรวจสอบดูพวกมันและค้นหาความรู้แจ้ง หลังจากนั้นชั่วขณะจิตใจก็สั่นสะท้านขึ้นมา

“การสร้างความสามารถศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า แต่ไม่มีอะไรที่จะมีประโยชน์ต่อข้ามากนัก น่าจะดีกว่าที่จะใช้สถานที่แห่งนี้สร้างเป็น…เวทผนึกสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น นั่งลงขัดสมาธิ หลังจากที่หลับตาลง ก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปยังแท่นศิลาตัวอักษรที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นอีกครั้ง เพื่อค้นหาความรู้แจ้งของวิชาเวทต่างๆ ที่อยู่ภายในนั้น และใช้สิ่งที่เรียนรู้มาเพิ่มเติมเข้าไปในเวทผนึกสวรรค์

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ เวทผนึกสวรรค์ก็สั่นสะท้านและเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เวลาเดียวกันนั้นก็เริ่มมีความซับซ้อนและน่าสนใจมากขึ้น

เมื่อเมิ่งฮ่าวค้นหาความรู้แจ้งและครุ่นคิดอย่างต่อเนื่อง เวทผนึกสวรรค์ก็บรรลุถึงความสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปกว่าเดิม

อย่างช้าๆ กลิ่นอายอันเข้มข้นเริ่มกระจายออกมาจากร่าง กลิ่นอายที่ทรงพลังนั้นทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน มีความก้าวร้าวเป็นอย่างมากจนดูเหมือนว่าจะสามารถผนึกสวรรค์ไว้ได้!

ช่างสะกดข่มอย่างไร้ที่เปรียบอย่างแท้จริง!

ถึงแม้ว่าจะจมอยู่ในการค้นหาความรู้แจ้ง เมิ่งฮ่าวก็สามารถจะรับรู้ได้ถึงสายฟ้าที่อยู่ตรงด้านนอกของชางหมางไถ อย่างน่าตกใจยิ่งทัณฑ์สายฟ้าในตอนนี้มีอยู่นับแสนที่กำลังระเบิดออกมาจนทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือนไปมา แต่พวกมันก็จางหายไปอย่างรวดเร็วโดยผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้และคนอื่นๆ

บางอย่างที่คล้ายกับเสียงแผดร้องคำรามด้วยโทสะดังก้องออกมาจากภายในกลุ่มเมฆสีดำ ขณะที่สายฟ้าร้อยล้านกว่าสายฟาดลงมาคล้ายกับเป็นการระเบิดของสายฟ้า ทำให้สีหน้าของกลุ่มคนที่มุงดูอยู่ต้องเปลี่ยนไปด้วยความตกตะลึง

ภายในชางหมางไถเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่ได้รับความรู้แจ้งอย่างต่อเนื่อง เวทผนึกสวรรค์เริ่มมีความสมบูรณ์มากขึ้น ตอนนี้มันมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวได้ตระหนักว่าในความพยายามที่จะบรรลุถึงเวทรุ่นเก้าก่อนหน้านี้ซึ่งถูกขัดขวางโดยหลัวเทียน ความจริงแล้วสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นเวทที่สมบูรณ์แบบแล้วในตอนนั้น มันยังไม่สมบูรณ์อย่างแท้จริง

ด้วยการเพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนที่เขากำลังทำอยู่อย่างต่อเนื่องในตอนนี้ ทำให้เวทผนึกสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบมีความแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

ยากที่จะบอกได้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าใดแล้ว แต่ในที่สุดเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มไปทั่วในจิตใจเมิ่งฮ่าว เมื่อเครื่องหมายผนึกของเวทผนึกสวรรค์ในที่สุดก็บรรลุถึงขั้นสมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นเพียงแค่โครงสร้างอย่างคร่าวๆ เท่านั้นไม่ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่เมื่อเมิ่งฮ่าวคิดว่ามันน่าจะเพียงพอ ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นเส้นสายกำลังกระจายออกไปจากภายในโครงสร้างนั้น คาดไม่ถึงว่า…บางสิ่งบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นมาอยู่ภายในร่าง ซึ่งก็คือ…เวทผนึกสวรรค์รูปแบบที่สอง!

การเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันนี้ทำให้เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน เริ่มค้นหาความรู้แจ้งอีกครั้ง เพ่งสมาธิไปที่เวทผนึกสวรรค์อย่างเต็มกำลัง เมื่อมองไปยังวิชาเวทนับล้านที่อยู่รอบๆ ตัว ก็สามารถจะบ่งบอกได้ถึงรูปร่างที่สมบูรณ์ของเวทผนึกสวรรค์รูปแบบที่สองนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่ารูปร่างนี้ดูเหมือนว่าจะเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป เห็นได้ชัดว่า…เครื่องหมายผนึกรูปแบบแรกไม่เพียงพอที่จะกลายเป็นเวทผนึกที่สมบูรณ์แบบได้ ต้องใช้ถึงสองรูปแบบ! แต่จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าสองรูปแบบก็ยังคงไม่เพียงพออย่างแท้จริง ในขณะที่…รูปแบบที่สามได้ปรากฏขึ้น!

จากนั้นก็เป็นรูปแบบที่สี่, ห้า, หก…จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังหมุนคว้าง และความตื่นเต้นก็ไหลท่วมท้นอยู่ในจิตใจ ขณะที่มองดูเวทผนึกสวรรค์กำลังเปลี่ยนแปลงและอยู่ในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง!

เมื่อเครื่องหมายผนึกรูปแบบที่เจ็ดปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวก็คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว แต่จากนั้นรูปแบบที่แปดก็ปรากฏขึ้น และในที่สุดก็เป็นรูปแบบที่เก้า จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังหมุนคว้าง และหอบหายใจออกมา ขณะที่มองไปยังโครงร่างทั้งเก้าของเครื่องหมายผนึก

เครื่องหมายผนึกทั้งเก้าเหล่านี้คือเวทผนึกสวรรค์!

เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมาในทันที สูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปยังแท่นศิลาตัวอักษรที่ว่างเปล่า ดวงตาสาดประกายขึ้น จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาและวางเครื่องหมายผนึกรูปแบบแรกลงไป

แท่นศิลาตัวอักษรสั่นสะท้าน และกระจายเป็นแสงอันเจิดจ้าออกมา จากความรู้สึกที่กระจายออกมานี้ ก็ดูเหมือนว่าจะอยู่ในจุดสูงสุดโดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวมองไปด้วยความตกตะลึง เขาแค่วางเครื่องหมายผนึกแรกจากเก้ารูปแบบไปบนแท่นศิลาตัวอักษรเท่านั้น แต่ชั้นที่เก้าก็ดูเหมือนว่า…จะบรรลุถึงจุดสูงสุดแล้ว

ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของผู้ยิ่งใหญ่ และหอบหายใจออกมา

“เวทผู้ยิ่งใหญ่…เครื่องหมายผนึกนี้คือเวทผู้ยิ่งใหญ่!”

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก็ขยับสองมือร่ายเวท โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาใช้เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ส่งเครื่องหมายผนึกรูปแบบที่สองลงไปบนแท่นศิลาตัวอักษร ทำให้มันสั่นสะเทือนไปมาอย่างรุนแรง

ภายในการสั่นสะเทือนนั้น เมิ่งฮ่าวมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเครื่องหมายผนึกทั้งสองกำลังหลอมรวมเข้าด้วยกัน และเจตจำนงแห่งผู้ยิ่งใหญ่ก็กำลังมีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น เสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่กลิ่นอายของพลังอันน่าเหลือเชื่อปะทุออกมาจากแท่นศิลาตัวอักษร

ให้ความรู้สึกว่าความสามารถศักดิ์สิทธิ์นั้นคล้ายกับเป็นเวทผู้ยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม!

ขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้น แท่นศิลาตัวอักษรที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นนับล้านก็เริ่มแตกร้าวขึ้นมา จากนั้นดวงตาเมิ่งฮ่าวก็ต้องเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง เมื่อแท่นศิลาตัวอักษรเหล่านั้นทั้งหมดระเบิดออกมา!

ราวกับว่าพวกมันทำลายตัวเองไป

เห็นได้ชัดว่า…เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับความสามารถศักดิ์สิทธิ์อย่างไร้ที่เปรียบนี้ ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทอื่นๆ ทั้งหมด ต้องเริ่มทำลายตัวเองไปดีกว่าที่จะยังคงอยู่ต่อไป!

นอกจากนี้…ก็เป็นแค่การหลอมรวมกันของเครื่องหมายผนึกทั้งสองเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวมองไปยังแท่นศิลาตัวอักษรด้วยความตื่นเต้น ส่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในฝ่ามือมากขึ้น จากนั้นก็ยื่นมือออกไป วางเครื่องหมายผนึกรูปแบบที่สามลงบนแท่นศิลาตัวอักษร

ทันใดนั้นเอง มันก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน ในขณะที่กลิ่นอายอันน่ากลัวระเบิดออกไป จนทำให้ใครก็ตามที่รู้สึกได้ต้องหวาดกลัวขึ้นมาอย่างรุนแรง

กลิ่นอายนั้นประกอบไปด้วยความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรง พลังอันน่ากลัวอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ จนทำให้แท่นศิลาตัวอักษรไม่อาจจะยืนหยัดต่อต้านได้ เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่แท่นศิลาตัวอักษรซึ่งยังคงเหลืออยู่…แตกร้าวและจากนั้นก็ระเบิดออกไป!

มันไม่อาจจะต่อต้านพลังของเครื่องหมายผนึกที่หลอมรวมกันแค่สามรูปแบบเท่านั้น!

หนึ่งเครื่องหมายผนึก ทำให้เกิดเป็นเวทผู้ยิ่งใหญ่!

สองเครื่องหมายผนึก ทำลายแท่นศิลาตัวอักษรนับล้าน!

สามเครื่องหมายผนึก ทำให้แท่นศิลาตัวอักษรที่ใช้ทดสอบของชั้นที่เก้าไม่อาจจะรองรับได้และระเบิดออกไป!

เมิ่งฮ่าวลุกขึ้นมายืน ร่างกายสั่นสะท้าน ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นและหัวเราะเป็นเสียงดังก้อง

“ข้าไม่อาจจะใช้มันออกมาได้อย่างเต็มรูปแบบในตอนนี้ ทำได้แค่สร้างเป็นตราประทับด้วยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เมื่อไหร่ที่ข้า…หลอมรวมเครื่องหมายผนึกทั้งเก้าจนกลายเป็นหนึ่งเดียว เวทรุ่นเก้าก็จะปรากฏขึ้น และข้าก็สามารถจะใช้มันได้อย่างเต็มกำลัง!” ในที่สุดเขาก็มีทิศทางและรู้ในสิ่งที่ต้องทำแล้ว เขาต้องเติมเต็มโครงสร้างของเครื่องหมายผนึกทั้งเก้าเหล่านี้

ในตอนนี้เองที่การกระทำของเขาในชางหมางไถ ได้ผลลัพธ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวลุกขึ้นมายืน ชั้นที่เก้าของชางหมางไถก็ปะทุขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า ซึ่งมองเห็นได้จากทางด้านนอกในทันที คนทั้งหมดสามารถจะมองเห็นว่าเหนือสวรรค์ชั้นที่แปดก็คือ…สวรรค์ชั้นที่เก้า!!

เก้าสวรรค์ช่างน่าประหลาดใจและทำให้ทุกสรรพสิ่งในโลกแห่งนี้สั่นสะเทือนไปทั่ว!

เสียงระฆังเริ่มดังก้องกังวานออกมาด้วยความเก่าแก่โบราณอย่างลึกล้ำมากขึ้นกว่าเดิม เวลาเดียวกันนั้นในตี้ปาจงบนทวีปที่แปด เสียงระฆังอันน่าตกใจอีกเสียงก็ได้ยินมา!

ผู้ฝึกตนในที่แห่งนี้ยังคงหมุนคว้างจากเหตุการณ์ของเมิ่งฮ่าวก่อนหน้านี้ และเมื่อพวกมันได้ยินเสียงระฆังดังก้องขึ้นมา ก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นด้วยความตกตะลึง

เวลาเดียวกันนั้น ในสำนักที่เจ็ด, หก, ห้า, สี่, สาม, สอง…และหนึ่ง สำนักทั้งเก้าแห่งชางหมางพ่าย ก็มีเสียงระฆังดังก้องกังวานขึ้นมา ระฆังทั้งเก้าดังก้องขึ้นไปทั่วทั้งชางหมางพ่าย และดาวชาวหมางทั้งหมด!

จิตใจของผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนกำลังสั่นสะท้าน และผู้แข็งแกร่งทรงพลังจำนวนมากต่างก็ประหลาดใจ คนทั้งหมดกำลังสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันแน่

ในที่สุดเสียงระฆังอันน่าตกใจ ก็ม้วนกวาดออกไปทั่วทุกซอกมุมของชางหมางพ่าย…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!