Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1543

ตอนที่ 1543

เป้าหมาย สามสิบสามสวรรค์

เสียงเมิ่งฮ่าวดังก้องเข้าไปในหูของผู้ฝึกตนทั้งปวง ทำให้ดวงตาพวกมันลุกโชนขึ้นด้วยความคลั่งไคล้และเกรงขาม

“น้อมรับคำสั่ง จักรพรรดิอสูร!”

ตูมมมมมมม! ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวถูกแยกเปิดออก และกลุ่มหมอกแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตก็พุ่งออกไป สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่คงอยู่ภายในกลุ่มหมอกเริ่มสั่นสะท้าน ไม่กล้าที่จะเปิดเผยแม้แต่กลิ่นอายเพียงเล็กน้อยของตนเอง

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อ และกองทัพขนาดใหญ่ก็เริ่มถูกม้วนกวาดออกไปทั่วท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงไปยังทิศทางของผีเสื้อขุนเขาทะเล

กลุ่มหมอกกระจัดกระจายหายไป โลกนับไม่ถ้วนถูกผนึกไว้ และกระแสน้ำวนมากมายที่ยังคงมืดสลัวลงไป แม้แต่เจตจำนงแห่งท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวในความว่างเปล่าไร้ขอบเขตก็ยังไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้ ขบวนผู้ฝึกตนจำนวนมากเดินทางผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวคล้ายกับเป็นสายน้ำ ทำให้ความว่างเปล่าไร้ขอบเขตถูกแยกส่วนออกไป และทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง

ตี้อีจงอยู่ในตำแหน่งแนวหน้า และถูกขนาบข้างด้วยตี้เอ้อร์จงและตี้ซานจง คล้ายกับเป็นใบมีดอันคมกริบที่พุ่งทะลวงผ่านทุกสรรพสิ่งที่มากีดขวางเส้นทางของพวกมัน ขณะที่พุ่งผ่านท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวไปพร้อมกับเสียงหวีดหวิวแหลมเล็ก

ในท่ามกลางขบวนรบนี้เป็ตี้จิ่วจง ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนห้อมล้อมอยู่รอบๆ กิ้งก่าขนาดใหญ่ เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิอยู่บนศีรษะของกิ้งก่าตัวนั้น

ปลวกยักษ์และศีรษะขนาดใหญ่อยู่ห่างออกไปทั้งสองข้าง กระจายพลังแห่งระดับเก้าแก่นแท้ออกมา ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเริ่มมืดสลัวลงไป

ที่ขนาบอยู่ด้านข้างตี้จิ่วจงคือตี้ซื่อจง, ตี้อู่จง และตี้ลิ่วจง คล้ายกับเป็นปีกที่แผ่กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

ที่คุ้มกันอยู่ด้านหลังประกอบด้วยตี้ชีจงและตี้ปาจง คล้ายกับเป็นหางอันยิ่งใหญ่ที่กระจายเป็นกลิ่นอายอันดุร้ายออกมา

ดูเหมือนว่ากองกำลังอันยิ่งใหญ่นี้เตรียมตัวที่จะกำจัดเทพหรือเซียนใดๆ ก็ตามที่มาเผชิญหน้าด้วย พุ่งทะยานออกมาจากดาวชางหมาง ด้วยความรวดเร็วสูงสุด เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังผีเสื้อขุนเขาทะเล

ขณะที่พวกมันเดินทางไป โลกนับไม่ถ้วนต่างก็หลีกทางให้ กระแสน้ำวนมากมายยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ สถานที่แห่งใดก็ตามที่กล้ามาขัดขวางเส้นทางของกองกำลังนี้ ก็จะต้องถูกบดขยี้ไปในชั่วพริบตาอย่างง่ายดายราวกับเป็นหญ้าแห้ง

เมิ่งฮ่าวไม่ได้ปกปิดกลิ่นอายของตัวเองไว้แม้แต่น้อย ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งถึงตอนนี้ กลิ่นอายนั้นพุ่งกระจายออกไป เพื่อประกาศถึงความยิ่งใหญ่และสะกดข่มไปยังกระแสน้ำวนทั้งปวง สิ่งมีชีวิตทั้งหลายว่าตนเองกำลังกลับมาแล้ว

จักรพรรดิอสูรกลับมาแล้ว!

เวลาเดียวกันนั้น ขณะที่กองกำลังเดินทางผ่านไป สิ่งมีชีวิตต่างๆ ก็รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายพวกมันสั่นสะท้านด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และเริ่มแพร่กระจายข่าวออกไปอย่างรวดเร็วทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต

“ผู้ฝึกตนเหนือสูงสุดปรากฎขึ้นมาแล้ว!!”

“ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต ปรากฎเชาทัว (ผู้อยู่เหนือสูงสุด) ขึ้นมาสี่คนแล้ว!”

“ก่อนหน้านี้ ก็รู้สึกราวกับว่ามีสวรรค์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแห่งอยู่ตรงด้านบนพวกเรา ความจริงก็คือว่า…เชาทัวคนที่สี่ได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว!”

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง แม้แต่ฝุ่นละอองก็ยังไม่กล้าจะเข้ามาในเส้นทางของเมิ่งฮ่าว สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ห่างไกลออกไป ต้องคุกเข่าลงไปโขกศีรษะอย่างช่วยไม่ได้

ผู้ฝึกตนทั้งหมดในกองทัพกำลังกระเหี้ยนกระหือต้องการจะต่อสู้ ทำให้กลิ่นอายอันน่ากลัวพุ่งสูงขึ้นไปอยู่ในตอนนี้

ขณะที่กองทัพมุ่งหน้าตรงไป ก็เข้าไปใกล้ผีเสื้อขุนเขาทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ

เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่ด้านบนสุดของศีรษะกิ้งก่า มองออกไปยังผีเสื้อที่อยู่ห่างไกล และไม่อาจจะรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ได้อีกต่อไป ถึงเขาจะอยู่เหนือสูงสุด เกินกว่าผู้ฝึกตนใดๆ ทั้งปวง ถึงจะบรรลุถึงอาณาจักรในตำนาน และกลายเป็นผู้ที่คนอื่นๆ ต้องกราบกรานสักการะ แต่กระนั้นก็ยังคงไม่อาจจะสงบเยือกเย็นได้

“ข้ากลับมาบ้านแล้ว…”

“เตีย เหนียง ไหเอ๋อร์กำลังไปหาพวกท่านแล้ว…ไหเอ๋อร์กำลังกลับมาบ้านแล้ว…”

“ชิงเอ๋อร์ ข้ากำลังกลับไปหาท่าน…”

“ญาติสนิทมิตรสหายของข้า ยังอยู่ดีกันหรือไม่…? พวกท่านยังจำข้าได้หรือไม่? ข้า, เมิ่งฮ่าว…กลับมาแล้ว!”

“อาณาจักรขุนเขาทะเล พวกเจ้าถูกทำลายไปเมื่อปีนั้น และข้าก็ให้คำมั่นว่าจะสร้างพวกเจ้าขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้ข้ากลับมาเพื่อปฏิบัติตามคำสัญญานั้นแล้ว!”

“สามสิบสามสวรรค์…หนี้แค้นทั้งหมดจะต้องถูกชดใช้!”

“อาณาจักรเทพ อาณาจักรมาร ตอนนี้ข้าเข้าใจพวกเจ้ามากขึ้นกว่าเดิมแล้ว การคาดเดาของข้าได้รับการยืนยันแล้วมากกว่าเก้าในสิบส่วน อย่างไรก็ตาม…ข้าต้องทำลายพวกเจ้าไปอยู่ดี!”

“ถ้าพวกเจ้าไม่ถูกกำจัดไป ข้า, เมิ่งฮ่าวจะอยู่เหนือสูงสุดไปเพื่ออะไร? ถ้าพวกเจ้าไม่ถูกกวาดล้างไป แล้วข้าจะลืมเลือนศัตรู…ที่แสนเกลียดชังมานานนับสองพันปีได้อย่างไร?”

“ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต ถึงเวลาที่จะต้องพลิกกลับตาลปัตรแล้ว!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงสีแดงเข้ม เป็นแสงอสูรและปราณอสูรที่กระจายออกมาเกินสิ่งธรรมดาทั่วไป!

ภาพมากมายแวบขึ้นมาในจิตใจเมิ่งฮ่าว เขามองเห็นอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังถูกทำลายไปในช่วงการต่อสู้ มองเห็นอาณาจักรเทพกำลังไล่ตามมา มองเห็นการตายไปของสุ่ยตงหลิวและไห่เมิ่ง หลังจากที่ผีเสื้อขุนเขาทะเลปลอดภัย ก็มองเห็นอาณาจักรมารมาถึง รวมกำลังกับอาณาจักรเทพเพื่อทำลายอาณาจักรขุนเขาทะเล

ผีโต้งตายไป และนกแก้วก็ต้องพบเจอกับชะตากรรมที่แสนทุกข์ทรมาน ทั้งหมดนั้นก็เพื่อช่วยให้ตนเองหลบหนีจากไป หลังจากที่ตื่นขึ้นมาใกล้กับดาวชางหมาง เขาก็ตั้งเป้าหมายไว้อย่างหนึ่ง!

“สักวันหนึ่ง ข้าจะกลับไป!”

ตูม!

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน ขณะที่กองทัพเคลื่อนที่ไปข้างหน้า กลุ่มหมอกลอยห่างออกไป ในที่สุดก็มีบางสิ่งปรากฎขึ้นที่เบื้องหน้า มันคือค่ายกลเวทอันยิ่งใหญ่อย่างน่าตกใจ มันคือ…ผนึกไร้ขอบเขต!

ภายในผนึกไร้ขอบเขตนั้นคือดินแดนกว้างใหญ่สามสิบสามแห่ง ซึ่งเป็นสามสิบสามสวรรค์ที่สะกดข่มผีเสื้อขุนเขาทะเลไว้ ตรงด้านนอกของดินแดนกว้างใหญ่ทั้งสามสิบสามแห่งเป็นวานรตัวหนึ่ง กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นมันก็ลืมตาขึ้นมา สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวและตกใจ ขนทั่วร่างของมันลุกขึ้นตั้งชี้ชันในทันที

ด้านล่างของดินแดนทั้งสามสิบสามแห่ง ก็คือโลงศพสัมฤทธิ์เขียวโลงหนึ่ง!

โลงศพนั้นเปล่งประกายด้วยแสงอันอ่อนโยน และภายในนั้นก็เป็นหญิงสาวที่งดงามอย่างน่าตกตะลึงผู้หนึ่ง คล้ายกับกำลังหลับใหลอยู่ มองเห็นผีเสื้อตัวหนึ่งเกาะอยู่ตรงด้านบนโลงศพ และดูเหมือนว่าชีวิตของมันใกล้จะถึงจุดจบแล้ว

แรงกดดันบดขยี้ลงมาจากด้านบน แต่แสงจากโลงศพก็ทำให้แรงกดดันนั้นไม่อาจจะแตะต้องสัมผัสโดนตัวผีเสื้อได้ ราวกับว่าทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเกลียดชังผีเสื้อตัวนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะแสงจากโลงศพนั้น ผีเสื้อก็คงจะถูกทำลายไปนานแล้ว

เมื่อหลายปีก่อน ไห่เมิ่งจื้อจุน (ผู้ยิ่งใหญ่ทะเลความฝัน) ได้เสียสละชีวิตตนเองเพื่อค้นหาสถานที่อันปลอดภัย และการที่ผีเสื้อยังคงมีชีวิตอยู่จนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความเสียสละของนางนำมาซึ่งความปลอดภัยของอาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างแท้จริง!

“ข้ากลับมาแล้ว!” เมิ่งฮ่าวกระซิบ ลุกขึ้นมายืนบนศีรษะของกิ้งก่าชรา มองออกไปยังผีเสื้อขุนเขาทะเล

เมิ่งฮ่าวพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา จนมีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะสามารถได้ยิน ขณะที่มองไปยังผีเสื้อขุนเขาทะเล ดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงแห่งการหวนรำลึก

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวอยู่เหนือสูงสุด คำพูดหรือการกระทำเพียงเล็กน้อยก็สามารถจะทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว จริงๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องพูดออกมาแม้แต่น้อย แค่คิดเพียงแวบเดียวก็สามารถจะเปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติได้แล้ว

เขายังได้บรรลุถึงจุดที่ว่าไม่ว่าคนผู้นั้นจะอยู่ที่ไหน แค่คิดถึงนามของเขา

เมิ่งฮ่าวก็จะรับรู้ได้ ระดับความสามารถศักดิ์สิทธิ์และทักษะเช่นนี้คือหนึ่งในธรรมชาติอันน่ากลัวของผู้ฝึกตนเหนือสูงสุด ดังนั้นจึงไม่มีอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ถูกเรียกว่าเต๋าไร้ขอบเขต หรือเหยียบย่ำสวรรค์

ในตอนที่เมิ่งฮ่าวพึมพำคำพูดเหล่านั้น ภายในจิตใจของสหายเก่าทั้งหมดในผีเสื้อขุนเขาทะเลก็สามารถจะได้ยินเสียงของเขา

บิดามารดาซึ่งอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นก็มองขึ้นมา

ขณะที่รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเมิ่งฮ่าว สีหน้าพวกท่านเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากลิ่นอายของบุตรชาย ประกอบด้วยสิ่งที่สามารถจะทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือน และกำลังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม!

“เป็นฮ่าวเอ๋อร์!”

“ฮ่าวเอ๋อร์กลับมาแล้ว! มันยังไม่ตาย! ฉีหลินจื่อ (บุตรกิเลน) แห่งตระกูลฟางกลับมาแล้ว! มันกำลังจะทำลายสามสิบสามสวรรค์ให้เปิดออก และย้อมความว่างเปล่าไร้ขอบเขตให้กลายเป็นสีแดงด้วยโลหิตของพวกมัน!” บิดาเมิ่งฮ่าว, ฟางซิ่วเฟิง แหงนหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา ท่านไม่เคยรู้สึกดีใจและตื่นเต้นเช่นนี้นานมากแล้ว โอบกอดไปยังเมิ่งลี่ซึ่งมีดวงตาที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา

นางมองขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวตรงด้านบน และรู้ว่านั่นคือบุตรชายที่โดดเด่นมากที่สุดในหมู่ผู้คนทั้งปวง รู้ดีว่าเขาจะต้องรักษาคำสัญญา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานมากเท่าใด หรือเกิดเรื่องอันน่าเหลือเชื่อขึ้นมากมายแค่ไหนก็ตาม

หลายปีก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าจะกลับมา ดังนั้น…เขาจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน!

ผู้คนมากมายภายในโลกแห่งผีเสื้อขุนเขาทะเลต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกัน สวี่ชิงกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในบ้านของตนเองบนยอดเขา ทันใดนั้นก็เดินออกไปตรงด้านนอก ชุดยาวสีเขียวของนางโบกสะบัดไปมาในสายลม เส้นผมที่ยาวเงางามพลิ้วผ่านใบหน้าที่งดงาม ซึ่งเริ่มแก่ชราลงไปเล็กน้อยแล้ว

แต่ริ้วรอยอันเลือนลางเหล่านั้นก็ไม่อาจจะปกปิดสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและตื่นเต้นของนางได้

นางเพิ่งจะนั่งเข้าฌานไปเมื่อครู่นี้ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเมิ่งฮ่าว ก็ราวกับว่าเขากำลังมายืนอยู่ที่ข้างกาย กล่าวว่าข้ากลับมาแล้ว…

นางมั่นใจว่าตนเองไม่ได้ฟังผิดไป หลังจากที่รีบวิ่งออกมา ก็ไปยืนอยู่บนยอดเขา มองขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยความวิตกกังวล ใช้สองมือยึดจับเสื้อผ้าไว้จนแน่น หยดน้ำตาไหลลงมานองหน้า เป็นหยดน้ำตาที่เต็มไปด้วยความสุข และความปรารถนาที่จะได้พบกับเมิ่งฮ่าว เป็นความรู้สึกที่ถูกบ่มเพาะขึ้นมาเป็นเวลาสองพันปี

“เมิ่งฮ่าว…” สวี่ชิงกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่งดงามราวกับเป็นบุปผาที่เบ่งบาน ทำให้ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวนางค่อนข้างจะจืดจางไร้สีสันลงไป นางรู้ว่า…เมิ่งฮ่าวกลับมาแล้ว สามีของตนเองกำลังอยู่ที่ด้านนอกของท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวตรงด้านบน

เมิ่งฮ่าวกลับมาแล้ว ดังเช่นคำสัญญาที่เคยพูดไว้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!