Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1551

ตอนที่ 1551

ข้าจะรอพวกท่านอยู่ที่สวรรค์ชั้นสิบ

สวรรค์ชั้นที่สิบสามสั่นสะเทือนไปโดยสิ้นเชิง กลุ่มคนนอกคอกนับไม่ถ้วนมีกลุ่มควันสีดำลอยขึ้นมาจากศีรษะ ซึ่งจากนั้นก็หมุนวนไปรอบๆ ร่างพวกมัน ไหลซึมเข้าไปในดวงตา หู จมูกและปาก ดวงตาพวกมันเบิกโพลง สาดประกายขึ้นด้วยความเจ็บปวด ในที่สุดพวกมันก็เริ่มล้มลงไปบนพื้น ราวกับว่าถูกสังหารไปโดยผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลที่อยู่ในความทรงจำของตนเอง!

นี่คือวิชาเวทเดียวกันกับที่เมิ่งฮ่าวเคยจัดการไป ในตอนที่ต่อสู้กับเจตจำนงแห่งหลัวเทียน ซึ่งอยู่ในรูปแบบของเฉินฝาน แน่นอนว่านั่นคือก่อนที่เขาจะบรรลุถึงขั้นเหนือสูงสุด เขาไม่เคยพบเจอกับอะไรที่เป็นเช่นนี้มาก่อน และมันก็มีผลกระทบกับเขาอย่างลึกล้ำ หลังจากที่อยู่เหนือสูงสุด พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวก็ช่วยให้เข้าใจถึงวิธีการทำงานของวิชาเวทนี้

ผู้ฝึกตนเหนือสูงสุด…สามารถจะทำได้ทุกอย่าง!

แค่คิดก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!

มันคืออาณาจักรที่ถูกครอบครองโดยเซียน เทพ มาร ปีศาจ และอสูร!

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือออกไป และสวรรค์ชั้นที่สิบสามก็พังทลายลง วิญญาณของกลุ่มคนนอกคอกที่ตายไปถูกดึงออกมา และถูกโยนเข้าไปในทะเลแห่งเปลวไฟเพื่อทรมาน

ขณะที่สวรรค์ชั้นที่สิบสามพังทลายลงไป เศษซากปรักหักพังก็กระแทกลงไปยังสวรรค์ชั้นที่สิบสองตรงด้านล่าง ภูเขาพังทลาย อาคารบ้านเรือนถูกทำลายไป เมืองล่มสลาย

กลุ่มคนนอกคอกแห่งสวรรค์ชั้นที่สิบสองหัวเราะขึ้นมาด้วยความขมขื่น พวกมันต้องการจะต่อสู้กลับไป แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ พวกมันต้องการระเบิดตนเองไป แต่ก็ไม่สามารถ สิ่งเดียวเท่านั้นที่พวกมันทำได้ก็คือเฝ้ารอคอยความตาย

ยิ่งไปกว่านั้นทะเลแห่งเปลวไฟที่ด้านบนก็ประกอบไปด้วยวิญญาณที่กำลังถูกเผาไหม้อยู่นับไม่ถ้วน ทำให้กลุ่มคนนอกคอกที่ยังคงเหลืออยู่ เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าความตาย…ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดสำหรับพวกมัน ความตายที่แท้จริงไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่ายดายเช่นนั้น

เมิ่งฮ่าวมองไปยังสวรรค์ชั้นที่สิบสองด้วยสายตาที่เย็นชาชั่วขณะ ก่อนที่จะส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป

“ข้าจะผนึกจิตใจพวกเจ้า ให้เหลือแต่สัญชาตญาณ เพื่อเข่นฆ่ากันเอง!” ทันใดนั้นกลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดบนสวรรค์ชั้นที่สิบสองเริ่มสั่นสะท้านไปตามๆ กัน กลุ่มคนนอกคอกส่วนใหญ่เหล่านี้มีสองเศียรพร้อมด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และมีร่างกายที่อ้วนฉุจนดูไม่เหมือนกับมนุษย์ ในตอนนี้จิตใจพวกมันถูกลบล้างไปโดยสิ้นเชิง

พลังแห่งฟ้าดินคือพลังจากพื้นฐานเต๋าของเมิ่งฮ่าว และเป็นความแข็งแกร่งทั้งปวง ถ้าข้าต้องการสิ่งใด เจ้ามิอาจไม่มี ถ้าข้าไม่ต้องการ เจ้าไม่อาจจะมีได้!

เสียงกระหึ่มได้ยินมา ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกสองเศียรแผดร้องคำรามด้วยความดุร้ายออกมา จิตใจพวกมันหายไปแล้ว เหลืออยู่แต่สัญชาตญาณเท่านั้น เสียงที่ดังก้องของเมิ่งฮ่าวทำให้พวกมันสูญเสียธรรมชาติของตนเองไป โดยไม่ครุ่นคิดแม้แต่น้อย พวกมันหันหน้า และเริ่มโจมตีไปยังสหายของตัวเองอย่างดุร้าย

แน่นอนว่าเมิ่งฮ่าวไม่ได้กำจัดจิตใจพวกมันไปทั้งหมด ยังคงมีอยู่ที่นั่น แต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้นอกจากเฝ้ามองไปเท่านั้น พวกมันไม่มีทางจะขัดขวางสัญชาตญาณของตัวเองได้

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่กลางอากาศ มองดูการเข่นฆ่าสังหารของพวกมัน ชั่วขณะต่อมาทันใดนั้นก็ตระหนักว่าการล้างแค้นนี้ไม่ได้ทำให้ตนเองรู้สึกยินดี กลับทำให้รู้สึกโศกเศร้าเสียใจอย่างลึกล้ำมากขึ้นเท่านั้น

ภายในความโศกเศร้าเสียใจนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะต้องเฝ้าถามตัวเองว่า แตกต่างไปจากกลุ่มคนนอกคอกในตอนที่พวกมันทำการล้างแค้นตรงไหน หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง

การเข่นฆ่าสังหารไม่ได้ทำให้ตนเองรู้สึกยินดี ถึงแม้ว่าจะกำลังยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มนั้นก็ประกอบไปด้วยความเสียใจอย่างลึกล้ำ ถึงเขาจะกลายเป็นคนโหดเหี้ยม แต่ความโหดเหี้ยมนั้นก็มาจากความขมขื่นจากสองพันปีที่ผ่านมา

เมื่อคนผู้หนึ่งมีชีวิตอยู่ในโลกด้วยความเกลียดชัง ก็ต้องมีคนตายไป ไม่ว่าตัวเองหรือศัตรูของมันก็ตาม!

แต่ตอนที่กลุ่มคนนอกคอกสังหารหมู่ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล พวกมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและยังได้ร่าเริงอีกด้วย

เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังดินแดนกว้างใหญ่ที่ด้านล่าง ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกเข่นฆ่าสังหารซึ่งกันและกันจนคล้ายสัตว์ป่า เสียงกรีดร้องอย่างน่าอนาถใจของพวกมันค่อยๆ เริ่มจางหายไป ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบกริบลงไป

ในตอนนี้การต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมนองเลือด ส่งผลให้มีกลุ่มคนนอกคอกที่ยังคงรอดชีวิตอยู่เพียงแค่หยิบมือเท่านั้น เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือออกไป ทำให้วิญญาณนับไม่ถ้วนลอยขึ้นไปในทะเลแห่งเปลวไฟ จากนั้นดินแดนกว้างใหญ่ของสวรรค์ชั้นที่สิบสองก็พังทลายลง ทำให้เศษซากปรักหักพังตกลงไปบนสวรรค์ชั้นที่สิบเอ็ด

กลุ่มคนนอกคอกกำลังสั่นสะท้านอยู่ที่นั่น พวกมันเริ่มร้องตะโกนขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง หวาดกลัว และวิงวอนขอร้อง

เมิ่งฮ่าวมองไปยังพวกมันด้วยสีหน้าสงบนิ่งชั่วขณะ แสงสีแดงในดวงตาเริ่มเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมาและทำท่าผลักลงไป

ทันใดนั้นดินแดนกว้างใหญ่ก็เริ่มสั่นสะเทือนและบิดเบี้ยวไปมา ภูเขาพังทลาย พื้นดินขยับเลื่อน แม่น้ำระเหยกลายเป็นไอ สวรรค์ชั้นที่สิบเอ็ดเริ่มมีรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไป ราวกับว่ากำลังถูกบีบนวดโดยหัตถ์ยักษ์ ในที่สุดก็ดูไม่เหมือนกับดินแดนกว้างใหญ่อีกต่อไป แต่ดูคล้ายกับกระถางปรุงยาดินเหนียวขนาดยักษ์!

ดินแดนกว้างใหญ่กลายเป็นกระถางปรุงยา และกลุ่มคนนอกคอกก็กลายเป็นส่วนผสมของเม็ดยา เมื่อกลุ่มคนนอกคอกจากสวรรค์ชั้นที่สิบมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ พวกมันรู้สึกสิ้นหวังไปโดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวมองไปยังกระถางปรุงยาขนาดยักษ์ จากนั้นก็แตะนิ้วลงไป เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อกระถางเริ่มร้อนขึ้นมา กลายเป็นสีแดงเข้มอย่างรวดเร็วจากความร้อนอันเข้มข้น ด้วยเวทปรุงยานี้ ทำให้ทั่วทั้งดินแดนกว้างใหญ่ถูกใช้เพื่อกลั่นสกัดกลุ่มคนนอกคอกทั้งปวงให้กลายเป็น…เม็ดยาแห่งเลือดเนื้อขนาดยักษ์!

กระถางปรุงยาขนาดยักษ์สั่นสะท้าน และเสียงกรีดร้องก็เริ่มดังก้องออกมา แต่ในที่สุดเสียงเหล่านั้นก็จางหายไป ไม่อาจจะได้ยินอีกต่อไป ในที่สุดกระถางปรุงยาก็ระเบิดขึ้น และวิญญาณนับไม่ถ้วนก็โผล่ออกมา พุ่งเข้าไปในทะเลแห่งเปลวไฟที่ด้านบน เวลาเดียวกันนั้นเม็ดยาเม็ดหนึ่งก็ปรากฏขึ้น มีขนาดเท่ากำปั้นและมีสีเป็นโลหิต

เมิ่งฮ่าวมองไปยังเม็ดยาด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีแต่ต้องมองไปอย่างละเอียดเท่านั้น ถึงจะสามารถมองเห็นความเหน็ดเหนื่อยและโศกเศร้าเสียใจอยู่ในแววตา หลังจากที่ผ่านไปชั่วขณะ ก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อ ส่งยาเม็ดนั้นให้ลอยตรงไปยังกิ้งก่าชรา

“มอบให้เจ้า”

กิ้งก่าชราอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็มองไปยังเม็ดยาชั่วขณะ ก่อนที่จะอ้าปากงับลงไป กิ้งก่าชราสั่นสะท้าน และจากนั้นก็ดูอ่อนเยาว์ลง

เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังสวรรค์ชั้นที่สิบและกลุ่มคนนอกคอกที่สิ้นหวังในที่แห่งนั้นชั่วขณะ ก่อนจะในที่สุดก็หลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เมื่อครู่นี้เขาเริ่มตระหนักแล้ว

“การล้างแค้นตามลำพังช่างเป็นการเห็นแก่ตัวนัก ถึงแม้ว่าข้าต้องทุกข์ใจมานานนับพันปี แต่ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวงก็เป็นเช่นเดียวกัน”

“แรงกดดันเช่นนี้ มีแต่ต้องปลดปล่อยด้วยโลหิตของกลุ่มคนนอกคอกเท่านั้น” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้าขึ้น ขณะที่โบกสะบัดมือออกไป ในทิศทางของสวรรค์ที่ยังคงเหลืออยู่

“ข้าขอให้พื้นฐานฝึกตนของกลุ่มคนนอกคอกจากสวรรค์อื่นๆ ทั้งปวง ลดต่ำลงไปทั้งอาณาจักร!” คำพูดของเมิ่งฮ่าวทำให้กฎธรรมชาติของสวรรค์ชั้นแรกจนถึงชั้นที่สิบเปลี่ยนไปในทันที ทันใดนั้นกลุ่มคนนอกคอกทั้งปวงต่างก็สั่นสะท้าน ขณะที่พื้นฐานฝึกตนของพวกมันตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย และลดต่ำลงไปทั้งอาณาจักร!

เจ็ดแก่นแท้กลายเป็นจักรพรรดิเต๋า หกแก่นแท้ตกลงมาเป็นห้าแก่นแท้ ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าหนึ่งแก่นแท้ย้อนกลับเข้าไปอยู่ในอาณาจักรโบราณ ไม่มีกลุ่มคนนอกคอกแม้แต่คนเดียวที่จะหนีรอดไปได้

นี่ไม่ใช่การผนึก นี่คือความสูญเสียที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะฟื้นฟูกลับคืนมาได้

“ข้าขอให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มคนนอกคอกทั้งปวงจงหายไป!”

“ข้าขอให้พลังการบินของกลุ่มคนนอกคอกทั้งปวงจงหายไป!”

“ข้าขอให้พลังการเกิดใหม่ของกลุ่มคนนอกคอกทั้งปวงจงหายไป!” แต่ละประโยคเหล่านี้ดังก้องขึ้นคล้ายกับเป็นสายฟ้าที่แยกสวรรค์หั่นปฐพี กฎธรรมชาติเกิดขึ้นมาและเปลี่ยนไป ในทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว พวกมันก็กลายเป็นความจริงขึ้นมา

ทันใดนั้นพื้นฐานฝึกตนของกลุ่มคนนอกคอกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ก็ตกลงไป สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันกลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ใดๆ และพวกมันก็ไม่อาจจะบินได้

นี่คือสิ่งที่ไม่อาจจะทำให้สำเร็จได้ด้วยการใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวท คล้ายกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งเทพ เป็นเวทแห่งเซียน หรือเต๋าแห่งอสูร!

ในตอนนี้กลุ่มคนนอกคอกทั้งปวงต้องพบเจอกับธรรมชาติอันน่ากลัวและคาดไม่ถึงของอาณาจักรการฝึกตนของเมิ่งฮ่าว

ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากที่สุดที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในสวรรค์ชั้นต่างๆ สั่นสะท้าน ขณะที่พวกมันพูดถึงระดับการฝึกตนของเมิ่งฮ่าวออกมาเป็นเสียงดัง

“…เหนือสูงสุด!” ความสิ้นหวังของผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังได้บรรลุถึงจุดสูงสุด ขณะที่พวกมันตระหนักว่าแม้แต่อาณาจักรเทพและอาณาจักรมารก็ยังเป็นแค่มดแมลง เมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนเหนือสูงสุด

เพราะว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลได้สร้างผู้ฝึกตนเหนือสูงสุดขึ้นมา มันจึงถูกลิขิตให้…ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะท้าน

เวลาเดียวกันนั้น สายตาของเมิ่งฮ่าวก็จ้องมองทะลุผ่านดินแดนกว้างใหญ่ของสวรรค์แต่ละชั้นจนเข้าไปในผีเสื้อขุนเขาทะเล แววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนขณะที่ชี้นิ้วออกไป

ทันใดนั้นผีเสื้อขุนเขาทะเลก็สั่นสะท้าน และปีกของมันก็ขยับขึ้นลงไปมา ราวกับว่าประตูของโลกแห่งนี้ถูกเปิดออก ขณะที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลนับไม่ถ้วนเริ่มบินออกมาในทันที

“ข้าขอประทานพลังสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้กับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลทั้งปวง!”

“ข้าขอประทานพลังในการบินไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวให้กับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลทั้งปวง!”

“ข้าขอประทานวิชาเวทให้กับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลทั้งปวง!”

“ข้าขอประทานพลังกายเนื้อให้กับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลทั้งปวง!”

“ข้าขอประทานพลังการเกิดใหม่ให้กับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลทั้งปวง!”

“ข้าขอประทาน…ความปรารถนาดีทั้งหมดให้กับพวกเจ้าทั้งปวง!” ขณะที่เสียงของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกมา ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลที่บินออกมาจากผีเสื้อ ก็รู้สึกว่าพื้นฐานฝึกตนของตัวเองกำลังสั่นสะท้าน คนทั้งหมดเริ่มกระจายเป็นแสงอันเจิดจ้าออกมา

หลายคนในพวกมันต่างก็ตกตะลึง ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่เห็นเมิ่งฮ่าวผ่านดินแดนกว้างใหญ่ทั้งหมด แต่ก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของเขาอยู่ในจิตใจ

“ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล ข้าคือเมิ่งฮ่าว…ความเกลียดชังของอาณาจักรขุนเขาทะเลได้คุกรุ่นมานานนับพันปี จงสังเวยโลหิตของกลุ่มคนนอกคอก เพื่อทำให้ทะเลแห่งความเกลียดชังพุ่งขึ้นไป พุ่งทะยานสูงขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ถึงเวลาที่จะต้องสร้างอาณาจักรขุนเขาทะเลขึ้นมาใหม่แล้ว ข้าจะรอคอยพวกท่านอยู่บนสวรรค์ชั้นที่สิบ”

จากนั้นสายตาของเมิ่งฮ่าวก็ไปหยุดอยู่ที่ปีกทั้งสองข้างของผีเสื้อขุนเขาทะเล ที่แห่งนั้นเขามองเห็นบิดาและมารดา รวมทั้งหญิงสาวเยาว์วัยผู้หนึ่งอยู่ที่นั่นเป็นเพื่อนพวกท่าน

นางสวมใส่ชุดยาวสีขาว และมีความงดงาม มีท่าทางเหมือนกับที่เมิ่งฮ่าวเคยจดจำได้ เรียบง่าย บริสุทธิ์ และเด็ดเดี่ยว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า…นางจะบอบบางอ่อนแอลงมากไปกว่าเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!