ตอนที่ 1553
การกลับมาของจักรพรรดิอสูร
เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปยังทะเลที่เก้า
การที่มันหลบซ่อนตัวอยู่บนสวรรค์ชั้นที่แปด เขาไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย
ย้อนกลับไปในช่วงสงครามขุนเขาทะเล ทะเลที่เก้าได้กลายเป็นผู้ทรยศ ทำให้แผนการของสุ่ยตงหลิวต้องตกอยู่ในอันตราย ทำให้ผีเสื้อขุนเขาทะเลต้องหลบหนีจากไปด้วยความลำบากมากขึ้น และทำให้ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต้องเหลือน้อยลง เพื่อช่วยให้ผีเสื้ออยู่รอดปลอดภัย
การทรยศอย่างกะทันหันของทะเลที่เก้าในช่วงวิกฤตนั้น ส่งผลกระทบต่ออาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างมากมายมหาศาล
นับจากนั้นเป็นต้นมา ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง ต่างก็เกลียดชังทะเลที่เก้าอย่างลึกล้ำ
ผู้ฝึกตนที่ถือกำเนิดขึ้นมาหลังจากที่ผ่านไปหนึ่งพันปี เคยได้ยินเรื่องราวการทรยศของทะเลที่เก้ากันทั้งหมด แต่จวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็เป็นเพียงเรื่องราวที่ถูกบอกเล่าสืบต่อกันมาเท่านั้น…
แต่ตอนนี้สวรรค์ชั้นที่แปดได้เปลี่ยนจากดินแดนอันกว้างใหญ่กลายเป็นทะเลอันเกรียงไกรไปแล้ว
ใบหน้าหนึ่งค่อยๆ เผยให้เห็นอย่างช้าๆ จากภายในทะเล เป็นใบหน้าของสตรีผู้หนึ่ง ถูกห้อมล้อมด้วยอสูรทะเลนับไม่ถ้วน
“ตี้จิ๋วไห่! (ทะเลที่เก้า)” ตี้จ้างแผดร้องคำราม ขณะที่ระเบิดเป็นพลังโจมตีอันน่ากลัวตรงไปยังหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ของกลุ่มคนนอกคอก ดวงตาท่านสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร และเสียงร้องคำรามนั้นก็ดังก้องคล้ายเสียงฟ้าผ่า ชั่วขณะต่อมาท่านก็บินตรงไปยังทะเลที่เก้า
เมิ่งไว่กงมองขึ้นไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความทรงจำจากในอดีต และบินตรงไปยังทะเลที่เก้าด้วยความรวดเร็วสูงสุดด้วยเช่นกัน
เดิมทีปรมาจารย์เอกะเทวะตั้งใจว่าจะใช้ศีรษะพุ่งชนไปยังดินแดนกว้างใหญ่ของสวรรค์ชั้นที่แปด แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่ามันได้กลายเป็นน้ำทะเลไปแล้ว ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น และทำท่าว่ากำลังจะพุ่งตรงไป แต่จริงๆ แล้วกลับเริ่มล่าถอยออกไป อย่างไรก็ตามคำพูดที่เปล่งออกมาจากปากมัน ไม่ได้แสดงออกถึงการล่าถอยแม้แต่น้อย
“สังหาร! สังหาร! เจ้าบัดซบนั่น! เหลาจู่ไม่กลัวเจ้า ฆ่า ฆ่า ฆ่า…” แต่มันก็ยังคงล่าถอยอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งอยู่ห่างไกลออกไป
ในที่สุดเสียงกระหึ่มก็ได้ยินออกมาจากภายในทะเลที่เก้า ขณะที่อสูรทะเลนับไม่ถ้วนบินตรงไปยังผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเล เจ้าอ้วน หวังโหย่วฉาย หลี่หลิงเอ๋อร์ และคนอื่นๆ ทั้งหมด เข้าร่วมกับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลที่เหลืออยู่ กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปเพื่อต่อสู้
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นจนสวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน อสูรทะเลแห่งทะเลที่เก้าเริ่มกรีดร้องเป็นเสียงโหยหวน ถูกผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลบดขยี้ไป ในที่สุดทะเลที่เก้าก็ชโลมไปด้วยสีแดงของโลหิต
ทะเลเริ่มหดตัวเล็กลงไป เผยให้เห็นเป็นเส้นทางไปสู่สวรรค์ชั้นที่เก้า และผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลบางคนก็พุ่งตรงไป ดวงตาของปรมาจารย์เอกะเทวะกลอกลิ้งไปมาด้วยความครุ่นคิดชั่วขณะ และจากนั้นก็มุ่งหน้าตรงไปยังสวรรค์ชั้นที่เก้าด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้นสนามรบในอาณาเขตแห่งนั้นก็เปิดเป็นเส้นทางขึ้นมา
เพียงชั่วขณะก็เกิดการต่อสู้กันขึ้นบนสวรรค์ชั้นที่เก้า ในที่สุดสวรรค์ชั้นที่เก้าก็ถูกทำลายไป ต่อมา…เหล่ากองกำลังก็มุ่งหน้าตรงไปยังสวรรค์ชั้นที่สิบ!
แต่คนทั้งหมดก็ไม่ได้โจมตีไปในทันที กลับมองไปยังเมิ่งฮ่าวแทน ซึ่งเคยพูดขึ้นมาในจิตใจของพวกมันว่าจะพบกับคนทั้งหมดบนสวรรค์ชั้นที่สิบแห่งนี้
สำหรับผู้คนที่เคยผ่านสงครามขุนเขาทะเลมา นามของเมิ่งฮ่าวถูกสลักฝังลึกอยู่ในจิตใจพวกมัน สำหรับผู้ฝึกตนทั้งหลายที่ถือกำเนิดขึ้นมาหนึ่งพันปีหลังจากนั้น เขาเป็นทั้งคนแปลกหน้า แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าแปลกประหลาด
เขาเป็นคนแปลกหน้าเพราะว่าพวกมันไม่เคยพบเห็นตัวเป็นๆ มาก่อน เขาเป็นคนคุ้นเคยเพราะว่ามีรูปปั้นของเขาในผีเสื้อขุนเขาทะเลอยู่นับไม่ถ้วน นอกจากนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเคยกระทำมา ก็ถูกบอกเล่าอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนทั้งหมดสามารถจะจดจำเขาได้
เมิ่งฮ่าวถูกยกย่องเทิดทูนราวกับเป็นเทพเจ้า อยู่ภายในโลกของผีเสื้อขุนเขาทะเลมานานแล้ว!
สำหรับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล เขาคือเทพ คือเจตจำนงแห่งสวรรค์ คือราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลของพวกมัน!
แทบจะทันใดนั้น ผู้ฝึกตนที่มาถึงสวรรค์ชั้นที่สิบ ก็สามารถจะมองเห็นเมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ ดูเหมือนกับรูปปั้นของเขาอย่างแท้จริง!
อันที่จริง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะดูยิ่งใหญ่ทรงอำนาจกว่ารูปปั้นมากนัก
อย่างไรก็ตาม การมองเห็นเมิ่งฮ่าวก็เป็นเรื่องที่สำคัญรองลงมา ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือว่าทันใดนั้นผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง ต่างก็รู้สึกว่าโลหิตของพวกมันกำลังพลุ่งเดือดพล่าน พื้นฐานฝึกตนพุ่งทะยานขึ้นไป ราวกับว่าบุคคลที่พวกมันกำลังมองไปนั้นคือต้นกำเนิดของสายโลหิตพวกมัน!
เป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ทำให้ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่ก้าวเข้าไปบนสวรรค์ชั้นที่สิบต้องประสานมือและโค้งตัวลง
“เยาจุนเหลาจู่!!” (ปรมาจารย์จักรพรรดิอสูร)
“ขอน้อมพบเยาจุนต้าเหริน!” (จักรพรรดิอสูรผู้ยิ่งใหญ่)
“ขอคารวะท่านปรมาจารย์!”
“จักรพรรดิอสูร!!”
“ท่านปรมาจารย์!!!” เสียงร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นของผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลดังก้องขึ้น จนทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนไปมา
กลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ฉวยโอกาสโจมตีมา แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้บรรลุถึงเขตพื้นที่ซึ่งถูกครอบครองโดยผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล พวกมันก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป เห็นได้ชัดว่ามีแต่กลุ่มคนจากขุนเขาทะเลเท่านั้น ถึงจะสามารถอยู่ในที่แห่งนั้นได้ ใครก็ตามที่พยายามจะผ่านเข้ามา ก็จะต้องถูกทำลายไปทั้งร่างกายและวิญญาณ!
คนทั้งหมดกำลังร้องตะโกนไปยังปรมาจารย์ ไปยังจักรพรรดิอสูร
ขณะที่ผู้ฝึกตนมาถึงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันก็มองขึ้นไป และสั่นสะท้านอย่างลึกล้ำด้วยภาพของเมิ่งฮ่าว ดวงตาพวกมันลุกโชนขึ้นด้วยความหลงใหล ด้วยความกระตือรือร้น ด้วยความนับถือเลื่อมใส
สำหรับผู้ฝึกตนที่เคยบอกเล่าเรื่องราวที่น่าเคารพนับถือของเมิ่งฮ่าว เมื่อพวกมันมองเห็นเขา ไม่เพียงแต่จะก้มศีรษะลงด้วยความเคารพเท่านั้น แต่ด้วยความเทิดทูนบูชาอีกด้วย!
พื้นดินสั่นสะเทือน ขณะที่ผู้ฝึกตนมาถึงสวรรค์ชั้นที่สิบมากขึ้นเรื่อยๆ และผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากไปกว่านั้นก็คือเหล่าผู้ชราที่เคยต่อสู้มาในสงครามขุนเขาทะเล
“เป็นเมิ่งฮ่าว!”
“เมิ่งฮ่าวกลับมาแล้ว!”
“เมิ่งฮ่าว จักรพรรดิอสูร กลับมาแล้ว!” เสียงของพวกมันเต็มไปด้วยความดีใจ และร้องไห้ออกมาด้วยความสุข หลายปีก่อนหน้านี้ เมิ่งฮ่าวได้ต่อสู้เพื่อปกป้องผีเสื้อขุนเขาทะเล คอยขัดขวางอาณาจักรเทพและอาณาจักรมารไว้ เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนเหล่านั้นไม่มีทางจะลืมเลือนไปได้
ขณะที่เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น กำลังมองลงไปยังกลุ่มฝูงชน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของพวกมัน และหยดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมา
เป็นความรู้สึกที่คล้ายกับว่าตนเองกำลังมาอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวอีกครั้ง เป็นกลุ่มคนที่ตนเองเคยคิดถึงอย่างลึกล้ำเป็นเวลานานนับพันปี
“ข้าคือเมิ่งฮ่าว และข้า…ก็กลับมาแล้ว!” เขากล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา แต่ก็ดังก้องขึ้นคล้ายเสียงฟ้าร้องคำราม กระจายออกไปทั่วทั้งสวรรค์ชั้นที่สิบ ด้วยเช่นนั้นเขาก็เริ่มลอยตัวลงไป
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้กลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว และส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา พวกมันรู้สึกราวกับว่ามีภูเขาที่มองไม่เห็นนับไม่ถ้วนกำลังบดขยี้ลงมาบนร่าง
นั่นคือแรงกดดันจากเมิ่งฮ่าว กลิ่นอายของเขาขณะที่ลอยตัวลงไป กลุ่มคนนอกคอกที่อยู่บนดินแดนกว้างใหญ่แห่งนั้น…ระเบิดขึ้นทั้งหมด
“จักรพรรดิอสูร!”
“จักรพรรดิอสูร!!”
“จักรพรรดิอสูร!!!” ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลนับไม่ถ้วนบินตรงไปที่ด้านข้าง ร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความหลงใหลและความเลื่อมใสศรัทธา
“กลับบ้านกันเถอะ!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น เสียงร้องตะโกนด้วยความดีใจดังก้องมากขึ้น ขณะที่ผู้ฝึกตนมารวมตัวกันอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว และมุ่งหน้าลงไป สวรรค์ชั้นสิบที่อยู่ด้านหลังคนทั้งหมด กลายเป็นเถ้าธุลีไป!
ในตอนนี้ไม่มีดินแดนกว้างใหญ่เหนือผีเสื้อขุนเขาทะเลอีกต่อไป มีแต่เพียง…ทะเลที่กำลังหดตัวเล็กลงไปด้วยท่าทางที่สั่นสะท้านเท่านั้น
เสียงร้องตะโกนด้วยความดีใจของผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลดังก้องมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นที่ทรงพลังพุ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง กลุ่มคนที่อยู่รอบๆ ทะเลที่เก้าต่างก็มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน
เจ้าอ้วนกำลังสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัด ในทันทีที่มองเห็นเมิ่งฮ่าว ก็ร้องไห้ออกมาเป็นเสียงดัง และบินตรงมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ ชั่วขณะต่อมามันก็มาอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว กางแขนโอบกอดด้วยความอบอุ่น
“เมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าว…ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก รู้หรือไม่ว่าสองพันปีที่ผ่านมา ข้าคิดถึงเจ้าจริงๆ ผู้คนมากมายคิดว่าเจ้าตายไปแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อ ข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่ตาย เมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าว…” เจ้าอ้วนตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งทั้งร้องไห้และหัวเราะในเวลาเดียวกัน คนทั้งสองเป็นสหายกันมานานหลายพันปี จนยากที่จะแยกออกจากกันได้
เมิ่งฮ่าวตบไปที่ไหล่เจ้าอ้วน ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
ภรรยาของเจ้าอ้วน รวมทั้งลูกหลานต่างก็จ้องมองมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ภาพที่ปรมาจารย์ของพวกมันกำลังกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าตกใจโดยสิ้นเชิง คนทั้งหมดคุกเข่าลงไปโขกศีรษะให้กับเมิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว
เงาร่างอีกคนปรากฏขึ้น พุ่งตรงมาด้วยความรวดเร็ว ซึ่งก็คือ…ฟางอวี๋ พี่สาวของเมิ่งฮ่าวนั่นเอง!
ตอนนี้นางดูเหมือนกับสตรีที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาแล้ว หยดน้ำตาไหลลงมานองหน้า ขณะที่พุ่งมาอยู่ตรงเบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว และจากนั้นก็กอดเขาไว้
“เจี่ย (พี่สาว) ข้ากลับมาแล้ว…” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา มองตรงไปยังหวังโหย่วฉายที่อยู่ห่างไกลออกไป ใบหน้าหวังโหย่วฉายดูเคร่งขรึมน่ากลัวมานานนับพันปีแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีรอยยิ้มที่ตื่นเต้นขึ้นมา
เมิ่งฮ่าวมองไปยังตี้จ้าง ซึ่งมองมายังเขาด้วยเช่นกัน และเริ่มหัวเราะขึ้น จากนั้นก็ยังมีเมิ่งไว่กงที่จ้องมองมาด้วยความรักใคร่เอ็นดู หยดน้ำตากำลังไหลลงมาอาบแก้ม
หลี่หลิงเอ๋อร์ก็อยู่ที่นั่น กลายเป็นหญิงชราไปแล้วในตอนนี้ จื่อเซียงก็อยู่ในกลุ่มฝูงชนเช่นเดียวกัน ด้วยสีหน้าอันซับซ้อน ดูเหมือนว่านางกำลังคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวเมื่อในอดีต แต่ก็มีความสุขและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ยังมีซุนไห่ซึ่งเป็นเจี่ยฟู (พี่เขย) ของเมิ่งฮ่าว ปฏิกิริยาแรกที่มันมองเห็นเขาก็คือรู้สึกตื่นเต้น แต่จากนั้นก็มีท่าทางหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย เวลาเดียวกันนั้นก็รู้สึกภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน เนื่องจากตนเองเป็นเจี่ยฟูของเมิ่งฮ่าว…
ในท่ามกลางใบหน้าที่ดูคุ้นเคยอื่นๆ เป็นเคอจิ่วซือ ซึ่งมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่สำหรับเคอจิ่วซือแล้ว เขาก็ยังคงเป็นน้องชายของตนเองอยู่ดี
ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็มองผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวลงไปยังผีเสื้อขุนเขาทะเล เขามองเห็นบิดามารดา มองเห็นภรรยาสวี่ชิงซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างกายพวกท่าน ในตอนนี้จิตใจเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ขาดหายไปนานนับพันปีแล้ว
“ข้า กลับมาแล้ว!”