Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1566

ตอนที่ 1566

ขุมกำลัง

นอกเหนือจากการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งเก้าแก่นแท้แล้ว ก็ยังมีการต่อสู้ระหว่างผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้และแปดแก่นแท้คนอื่นๆ อีกด้วย การต่อสู้อันน่าตื่นตระหนกเหล่านี้ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่ว

ยังมีการต่อสู้ของราชันจักรพรรดิ จักรพรรดิเต๋า และราชันเต๋าด้วยเช่นกัน ด้วยจำนวนคนที่ร่วมต่อสู้ในสนามรบอย่างมากมายเช่นนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงอย่างถึงที่สุด แน่นอนว่าการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณและอาณาจักรเซียนมีจำนวนมากมายมหาศาล ทะเลแห่งผู้ฝึกตนอันกว้างใหญ่บดขยี้ตรงไปยังแนวหน้าของทั้งสองฝ่ายจนโลหิตสาดกระจายออกไปทั่วในทันที

พิรุณโลหิตพร่างพรมพร้อมกับยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!

ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรเทพไม่มีเหตุผลที่ต้องยั้งมือใดๆ ในการต่อสู้นี้ และความคิดล่าถอยหลบหนีก็ไม่มีในจิตใจ ราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังย้ำเตือนให้พวกมันลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างและมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้นี้เท่านั้น

สำหรับผู้ฝึกตนจากชางหมางพ่าย พวกมันกำลังต่อสู้เพื่อผู้ฝึกตนเหนือสูงสุด การตายไปในการต่อสู้นี้ถือได้ว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุด นอกจากนั้นถึงแม้ว่าพวกมันจะตายไป ก็มีความเชื่อมั่นว่าผู้นำเหนือสูงสุดจะสามารถฟื้นคืนชีพตนเองจากความตายมาได้ และนั่นก็เป็นความจริงอย่างแน่นอน

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่น มองออกไปยังอาณาจักรเทพและผู้ฝึกตนของอาณาจักรนั้นทั้งหมด ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา

เขาเกลียดสามสิบสามสวรรค์เป็นอย่างมาก

แต่เกลียดชังอาณาจักรเทพและอาณาจักรมารมากไปกว่านั้น!

นี่คือการต่อสู้เพื่อล้างแค้น!

ขณะที่เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปยังสนามรบด้วยสายตาที่เย็นชา คิ้วก็ค่อยๆ ขมวดขึ้นอย่างช้าๆ ในอดีตที่ผ่านมาดูเหมือนว่าผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพจะฉลาดปราดเปรื่องและว่องไวเป็นอย่างมาก แต่ในตอนนี้กลับดูเหมือนว่าจะเชื่องช้าลงไป ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเดิมก็ตามที

“การคาดเดาของข้าส่วนใหญ่แล้วก็ถูกต้อง” เมิ่งฮ่าวคิด เท่าที่รู้ตอนนี้เขาแทบจะเชื่อมั่นว่าตนเองกำลังคิดถูกต้องเกี่ยวกับอาณาจักรเทพและอาณาจักรมาร กิ้งก่าชราตรงด้านล่างมองไปรอบๆ

พร้อมกับแววตาที่สาดประกายขึ้นด้วยความต้องการสังหาร แต่ถ้าไม่มีคำสั่งจากเมิ่งฮ่าว มันก็จะไม่ลงมือใดๆ แค่มองไปยังการสังหารที่เกิดขึ้นตรงเบื้องหน้าเท่านั้น ในที่สุดการต่อสู้ก็บรรลุถึงจุดสูงสุด เสียงกรีดร้องดังก้องออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในที่สุดดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น ขณะที่มองไปยังอาณาจักรเทพ เสียงระเบิดก็ดังก้องออกมา เมื่อภูเขาไฟนับร้อยเริ่มปะทุขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

เปลวไฟพุ่งสูงขึ้นไปในท้องฟ้า ทำให้ทุกสรรพสิ่งเริ่มมืดสลัวลงไป เวลาเดียวกันนั้นหุ่นเชิดเจ็ดสีจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นอยู่ภายในเปลวไฟ

หุ่นเชิดเหล่านั้นเริ่มรวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นค่ายกลรูปทรงสี่เหลี่ยมนับร้อย กระจายเป็นพลังและบรรยากาศที่เก่าแก่โบราณออกมา จนดูเหมือนว่าจะย้อนกลับไปเมื่อในสมัยหลายปีมาแล้วจนนับไม่ถ้วนก่อนหน้านี้

การปรากฏขึ้นมาของหุ่นเชิดเจ็ดสีเหล่านี้ ทำให้จิตวิญญาณของผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพพุ่งทะยานขึ้นไปในทันที ราวกับว่าพวกมันกำลังมองเห็นชัยชนะอยู่แค่เอื้อมในตอนนี้

นี่คือหนึ่งในกองกำลังสำรองของอาณาจักรเทพ หุ่นเชิดเจ็ดสีถูกซ่อนไว้ภายในภูเขาไฟมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน และดูเหมือนว่าหุ่นเชิดเหล่านี้จะมีกฎธรรมชาติเป็นของมันเอง เป็นกฎธรรมชาติที่มีอิทธิพลต่อความว่างเปล่า และเต็มไปด้วยพลังที่สามารถจะเปลี่ยนสวรรค์แปลงปฐพี ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

ในที่สุดค่ายกลหุ่นเชิดนับร้อยก็ทำการสังหารเข้าไปในกองกำลังแห่งชางหมางพ่ายไปตลอดทาง

จนนับไม่ถ้วนก่อนหน้านี้

การปรากฏขึ้นมาของหุ่นเชิดเจ็ดสีเหล่านี้ ทำให้จิตวิญญาณของผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพพุ่งทะยานขึ้นไปในทันที ราวกับว่าพวกมันกำลังมองเห็นชัยชนะอยู่แค่เอื้อมในตอนนี้

นี่คือหนึ่งในกองกำลังสำรองของอาณาจักรเทพ หุ่นเชิดเจ็ดสีถูกซ่อนไว้ภายในภูเขาไฟมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน และดูเหมือนว่าหุ่นเชิดเหล่านี้จะมีกฎธรรมชาติเป็นของมันเอง เป็นกฎธรรมชาติที่มีอิทธิพลต่อความว่างเปล่า และเต็มไปด้วยพลังที่สามารถจะเปลี่ยนสวรรค์แปลงปฐพี ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

ในที่สุดค่ายกลหุ่นเชิดนับร้อยก็ทำการสังหารเข้าไปในกองกำลังแห่งชางหมางพ่ายไปตลอดทาง

เมิ่งฮ่าวยืนสงบนิ่งอยู่บนศีรษะกิ้งก่าชรา หลังจากที่มองไปยังหุ่นเชิดเจ็ดสีชั่วขณะ สายตาก็เลื่อนไปยังรูปปั้นบรรพชนแห่งอาณาจักรเทพ

แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่บรรลุถึงจุดที่จำเป็นต้องสอดมือเข้าไป ชางหมางพ่ายคือกองกำลังอันแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าพวกมันจะจากสำนักมาไกล ไม่สามารถจะนำอาวุธที่ทรงพลังมากที่สุดของตนเองมาได้ แต่ก็ยังคงไม่อาจจะดูแคลนได้อย่างง่ายดาย

แทบจะในทันทีที่หุ่นเชิดเจ็ดสีเริ่มเคลื่อนไหว ผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้แห่งชางหมางพ่ายก็ร่วมกันร้องตะโกนขึ้นมาว่า

“ค่ายกลโลหิตไร้สิ้นสุด!”

ทันใดนั้นบนหน้าผากของผู้ฝึกตนชางหมางพ่ายแต่ละคนก็เปิดออก และหยดโลหิตก็ลอยออกมา จากนั้นก็รวมเข้าด้วยกันกลายเป็นทะเลโลหิตอันกว้างใหญ่ ยักษ์สีโลหิตจำนวนมากโผล่ขึ้นมาจากภายใน แหงนหน้าขึ้นแผดร้องคำรามด้วยโทสะออกมา ขณะที่กระโดดพุ่งตรงไปต่อสู้กับหุ่นเชิดเจ็ดสี

เกิดการต่อสู้อย่างรุนแรงขึ้น จนทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือนกันไปทั่ว!

ค่ายกลโลหิตไร้สิ้นสุดกระแทกลงไปยังหุ่นเชิดเจ็ดสี ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง แทบจะในทันใดนั้นหุ่นเชิดเจ็ดสีก็ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง และแสงอันเจิดจ้าที่กระจายออกมาจากร่างพวกมันก็มืดสลัวลงไป

ถึงแม้ว่าอาณาจักรเทพจะแข็งแกร่ง แต่ชางหมางพ่ายก็เป็นกองกำลังอันยิ่งใหญ่ที่ยอมตายเพื่อผู้ฝึกตนเหนือสูงสุด ทำให้การต่อสู้ระหว่างกอง

กำลังทั้งสองฝ่ายยากที่จะตัดสินผลแพ้ชนะกันได้อย่างง่ายดาย

 

ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองไปยังหุ่นเชิดเจ็ดสีที่ถูกบังคับให้ต้องถอยร่นออกไปในสนามรบ ดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ มองไปยังอาณาจักรเทพและผู้ฝึกตนจากที่แห่งนั้นอย่างละเอียดมากขึ้น แววตาเต็มไปด้วยแสงแห่งความครุ่นคิด แต่จากนั้นเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในอากาศอย่างฉับพลัน

อาณาจักรเทพสั่นสะเทือนไปทั่ว ยอดเขาเริ่มสั่นไหวไปมา และจากนั้นเสียงแตกร้าวก็ดังก้องขึ้น ขณะที่ยอดเขาเหล่านั้นลอยขึ้นไปในอากาศ สำนักมากมายที่อยู่บนยอดเขาเหล่านั้น มีอยู่นับล้าน ทำให้ภาพที่พวกมันกำลังพุ่งขึ้นไปในอากาศช่างน่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

ต่อจากนั้นก็ราวกับว่าผนึกถูกคลายออก เห็นได้ชัดว่าภูเขาถูกเปิดออกจนไร้ยอดเขา ขณะที่เสียงแผดร้องคำรามอันน่าตกใจนับไม่ถ้วนดังก้องออกมาจากภายใน มังกรปรากฏขึ้นจากภูเขาทั้งหนึ่งล้านลูก บินสูงขึ้นมาในอากาศอย่างฉับพลัน

กลุ่มมังกรขนาดใหญ่กระจายเป็นแรงกดดันที่ทำให้จิตวิญญาณของใครก็ตามที่มองไป ต้องตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำในทันที เสียงแผดร้องคำรามของพวกมันทำให้เกิดเป็นสีสันแวบขึ้นไปในอากาศ สายลมกรีดร้องระงมจนกลายเป็นลมพายุอันคลุ้มคลั่ง ขณะที่กลุ่มมังกรพุ่งตรงไปยังกองกำลังแห่งชางหมางพ่าย

“ช่างน่าประทับใจจริงๆ อาณาจักรเทพ” เมิ่งฮ่าวพึมพำ ดวงตาสาดประกายเจิดจ้าขึ้น โบกสะบัดมือออกไป กิ้งก่าชราส่งเสียงแผดร้องคำราม พุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด แทบจะทันใดนั้นก็ไปปรากฏขึ้นตรงด้านบนอาณาจักรเทพ และเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปในทันที กลายเป็นสิ่งที่ดูคล้ายกับเป็นแม่น้ำแห่งดวงดาว ซึ่งขยายยืดยาวออกไปด้วยแสงอันระยิบระยับ

เสียงแผดร้องคำรามนั้นกลายเป็นคลื่นเสียงที่เต็มไปด้วยรังสีสังหาร ม้วนกวาดออกไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้มังกรยักษ์สั่นสะท้านไปทั้งหมด พยายามต่อสู้กลับมาโดยพร้อมเพรียงกัน ทำให้กิ้งก่าชราไม่อาจจะรุกคืบหน้าไปได้ แต่เวลาเดียวกันนั้นเหล่าฝูงมังกรก็ต้องหยุดชะงักนิ่งไปด้วยเช่นกัน

อย่างน่าตกใจยิ่ง กิ้งก่าชราลงมือเพียงครั้งเดียว ก็สามารถจะขัดขวางเหล่าฝูงมังกรขนาดใหญ่นั้นไว้ได้ในทันที

สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังกึกก้อง การต่อสู้บรรลุถึงระดับความรุนแรงอย่างน่าเหลือเชื่อ ผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพกำลังถูกชางหมางพ่ายผลักดันให้ต้องถอยร่นไปทางด้านหลังอีกครั้ง จนกระทั่งพวกมันแทบจะไปอยู่บนดินแดนของตนเองแล้ว

เพราะว่ากิ้งก่าชราขัดขวางเหล่าฝูงมังกรไว้ ทำให้อาณาจักรเทพในตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์อันวิกฤตขึ้นมา

“อาณาจักรเทพต้องมีขุมกำลังมากกว่านี้เป็นแน่” เมิ่งฮ่าวพึมพำ ด้วยสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่น

เคย ขณะที่ลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!