Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1568

ตอนที่ 1568

หุ่นเชิด

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะก้าวเท้าลงไปบนอาณาจักรเทพจริงๆ พลังขับไล่อันแข็งแกร่งก็ระเบิดออกมาขัดขวางเขาไว้

พลังนั้นกระจายออกมาจากผู้ฝึกตนแต่ละคนแห่งอาณาจักรเทพ จากต้นไม้ใบหญ้าแต่ละต้น จากภูเขาและแม่น้ำทั้งหมด มันคือเจตจำนงแห่งอาณาจักรเทพทั้งปวง

ไม่ยินยอม ไม่ต้อนรับ ให้เมิ่งฮ่าวเหยียบย่างลงมา

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า และกำลังจะบังคับให้ตนเองพุ่งผ่านเข้าไป แต่ทันใดนั้นความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงก็พุ่งขึ้นมา ทำให้ต้องหยุดชะงักนิ่ง มองขึ้นไป ในตอนนี้เองที่สังเกตเห็นว่าภูเขาและพื้นดินบนดินแดนแห่งนี้กำลังสั่นสะท้านกันทั้งหมด เมื่อดินแดนกว้างใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทไป

ขณะที่ความมืดเริ่มปกคลุมไปทั่ว เสียงที่คล้ายเสียงพึมพำก็ดังก้องออกมาจากยอดเขาทั้งหมด คล้ายกับเป็นเสียงสวดมนต์ท่องคัมภีร์ หรือเสียงกระซิบของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง

เวลาเดียวกันนั้นภายในความมืดมิดที่อยู่ห่างไกลออกไป เมิ่งฮ่าวมองเห็นจุดแสงจุดหนึ่ง เมื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียดก็เผยให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันคือดวงตะวัน!

มีอยู่ทั้งหมดเก้าดวงกำลังพุ่งขึ้นไปในอากาศ กระจายเป็นพลังที่ดูเหมือนว่าจะสามารถฉีกกระชากความมืดมิดในยามราตรีให้ขาดออกจากกันได้ และขณะที่พลังนั้นพุ่งกระจายออกมา เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกได้ว่ามันกำลังเริ่มฉีกกระชากตนเอง

ในฐานะที่เมิ่งฮ่าวอยู่เหนือสูงสุดไปแล้ว ทำให้รู้สึกว่ามันมีอันตรายแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังคงเพียงพอที่จะทำให้ม่านตาของเขาต้องหรี่เล็กลงไป

“นี่คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง…” เมิ่งฮ่าวคิดพร้อมกับหรี่ตาเล็กลง ขณะที่เก้าดวงตะวันลอยขึ้นมาในอากาศ แสงของพวกมันก็พุ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้รู้สึกได้ถึงพลังที่กำลังบดขยี้ลงมาบนร่าง

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถจะสร้างขึ้นมาได้ วิชาเวทนี้ต้องถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้ฝึกตนเหนือสูงสุดแห่งอาณาจักรเทพอย่างแน่นอน!”

ทันใดนั้นดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ออกมา

ราวกับว่าเขาสามารถจะผ่านยุคสมัยแห่งกาลเวลา เข้าไปในห้วงอดีต และต่อสู้กับผู้อยู่เหนือสูงสุดในสมัยโบราณนั้น!

เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา ยกเท้าขวาขึ้นมา และจากนั้นก็กระทืบลงไป เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น ตามมาด้วยกลุ่มหมอกสีดำที่เดือดพล่านอยู่ข้างกาย และกระจายออกไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี

“เก้าตะวันแยกราตรี แต่ราตรีของข้าคือราตรีแห่งอสูร ซึ่งสามารถเปรอะเปื้อนได้ทุกสรรพสิ่ง และไม่ถูกทำลายลงไปได้!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ กลุ่มหมอกสีดำลอยคละคลุ้งออกไปมากยิ่งขึ้น ปกคลุมทุกสรรพสิ่งไว้ในภายใน ทำให้ความมืดมิดยามราตรีมืดลงไปมากขึ้น ทำให้แสงจากดวงตะวันทั้งเก้ายากที่จะสาดส่องผ่านเข้ามาได้

ทันใดนั้นเก้าดวงตะวันก็แวบขึ้น และเก้าเงาร่างที่อยู่ภายในก็หายตัวไป จากนั้นพื้นที่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวก็เริ่มบิดเบี้ยวไปมา และเก้าเงาร่างในชุดยาวสีดำก็ปรากฏขึ้น พื้นฐานฝึกตนของพวกมันส่งเสียงกระหึ่มด้วยพลังออกมาในทันที ขณะที่รวมตัว

กันเป็นค่ายกลเวทซึ่งสามารถจะทำร้ายคนที่อยู่ห่างจากเหนือสูงสุดเพียงแค่ครึ่งก้าวให้ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส และสามารถจะกวาดล้างผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้ออกไปได้อย่างง่ายดาย

แต่ตอนนี้พวกมันกำลังเผชิญหน้ากับเมิ่งฮ่าวอยู่

“ในที่สุดพวกเจ้าก็เสนอหน้าออกมาแล้ว?” เขากล่าวขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ

ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจดวงตะวันทั้งเก้าที่กำลังโจมตีมาโดยพร้อมเพรียงกันแม้แต่น้อย ยังได้ปล่อยให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทของพวกมันกระแทกลงมาบนร่างอีกด้วย

เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของดวงตะวันทั้งเก้าก็คล้ายกับเป็นวัวศิลาที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ในทันทีที่พวกมันแตะสัมผัสโดนพื้นผิวของน้ำทะเล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย ราวกับว่าเมิ่งฮ่าวกลืนกินความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันลงไป เกิดเป็นประกายแสงระยิบระยับอยู่รอบๆ ตัว ขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์พุ่งสะท้อนกลับไปยังดวงตะวันทั้งเก้าพร้อมกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนับร้อยนับพันเท่าจากพลังดั้งเดิมของพวกมัน

พลังของทั้งสองไม่มีทางจะเทียบกันได้อย่างแท้จริง หนึ่งเหมือนกับเป็นแสงหิ่งห้อย และอีกหนึ่งก็เป็นเหมือนกับแสงจันทรา

ตูม!

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าพุ่งสะท้อนกลับไปยังเก้าดวงตะวัน ทำให้เกิดเป็นเสียงแผดร้องออกมา และก่อนที่พวกมันจะทันได้ทำสิ่งใดๆ ก็ถูก

ปกคลุมด้วยพลังที่ตนเองปลดปล่อยออกไปแต่แข็งแกร่งกว่านับพันเท่าโดยสิ้นเชิง

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา แปดดวงตะวันจากเก้าดวงที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นกลายเป็นเถ้าธุลี ถูกทำลายไปทั้งร่างกายและวิญญาณ

เหลืออยู่เพียงแค่ดวงเดียวที่ยังไม่ถูกสังหารไป เป็นชายชราผู้หนึ่ง ซึ่งเมิ่งฮ่าวยื่นมือออกคว้าจับไปที่ลำคอมัน

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ขณะที่คว้าจับไปยังผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว ในท่ามกลางดวงตะวันทั้งเก้าที่อยู่เบื้องหน้า ชายชราจ้องมองกลับมา และกำลังจะระเบิดตัวเองไป แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวก็บดขยี้ลงไปบนร่างมัน

ทำให้พลังการระเบิดตัวเองต้องสูญสลายไป จากนั้นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็เสียดแทงเข้าไปในจิตใจของชายชรา ขณะที่เริ่มทำการควาญหาวิญญาณ

แต่สิ่งที่เมิ่งฮ่าวค้นพบก็คือ ความว่างเปล่า

ชายชราเริ่มสั่นสะท้าน บิดเบี้ยวไปมา และในที่สุดก็ตายไปภายใต้พลังแห่งการควาญหาวิญญาณ เมิ่งฮ่าวไม่พบเห็นความทรงจำใดๆ แม้แต่น้อย ราวกับว่า…ชายชราจริงๆ แล้วก็ไม่มีความทรงจำ ราวกับว่าเป็นเพียงแค่สิ่งของที่รู้จักแต่การเข่นฆ่าสังหารเท่านั้น

“หุ่นเชิด ยังมีหุ่นเชิดอื่นอีก” เมิ่งฮ่าวพึมพำ จากประสบการณ์ที่ผ่านมานับพับปีของตนเอง จากพื้นฐานฝึกตนเหนือสูงสุด และการได้ติดต่อกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว รวมทั้งเจตจำนงแห่ง

ทำให้พลังการระเบิดตัวเองต้องสูญสลายไป จากนั้นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็เสียดแทงเข้าไปในจิตใจของชายชรา ขณะที่เริ่มทำการควาญหาวิญญาณ

แต่สิ่งที่เมิ่งฮ่าวค้นพบก็คือ ความว่างเปล่า

ชายชราเริ่มสั่นสะท้าน บิดเบี้ยวไปมา และในที่สุดก็ตายไปภายใต้พลังแห่งการควาญหาวิญญาณ เมิ่งฮ่าวไม่พบเห็นความทรงจำใดๆ แม้แต่น้อย ราวกับว่า…ชายชราจริงๆ แล้วก็ไม่มีความทรงจำ ราวกับว่าเป็นเพียงแค่สิ่งของที่รู้จักแต่การเข่นฆ่าสังหารเท่านั้น

“หุ่นเชิด ยังมีหุ่นเชิดอื่นอีก” เมิ่งฮ่าวพึมพำ จากประสบการณ์ที่ผ่านมานับพับปีของตนเอง จากพื้นฐานฝึกตนเหนือสูงสุด และการได้ติดต่อกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว รวมทั้งเจตจำนงแห่งหลัวเทียน ทำให้เมิ่งฮ่าวได้ข้อสรุปมานานแล้วเกี่ยวกับอาณาจักรเทพและอาณาจักรมาร

ข้อสรุปของเขาก็คือว่า ดินแดนกว้างใหญ่ทั้งสองนี้จริงๆ แล้วก็ไม่มีบุคคลที่มีชีวิตอาศัยอยู่เลย!

ถ้าทายาทผู้สืบทอดของผู้อยู่เหนือสูงสุดโบราณทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ก็ไม่มีอะไรที่จะสมเหตุสมผล นอกจากนั้นผู้อยู่เหนือสูงสุดทั้งสองก็เป็นศัตรูกับหลัวเทียนด้วยเช่นกัน!

นี่คือข้อสรุปที่เมิ่งฮ่าวรวบรวมมา หลังจากที่แตะสัมผัสโดนเสาที่ถูกทำลายไปแล้วทั้งสามต้นตรงด้านนอกความว่างเปล่าไร้ขอบเขต

“อาณาจักรทั้งสองนี้น่าจะถูกหลัวเทียนทำลายไปนานหลายปีมาแล้ว คล้ายกับที่มันทำลายดินแดนกว้างใหญ่ของชางหมางเหลาจู่” เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว นี่คือข้อสรุปที่ตนเองรวบรวมมาได้ สิ่งที่น่าสงสัยมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็คือว่า ร่างกายของผู้ฝึกตนทั้งหมดที่อยู่รอบๆ บริเวณนี้ มีเลือดเนื้ออย่างแท้จริง

 

“คำอธิบายเพียงอย่างเดียวก็คือว่าพวกมันเป็นหุ่นเชิด แต่ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้พวกมันไม่ใช่หุ่นเชิด” เมิ่งฮ่าวคิด เริ่มเดินตรงไป กลุ่มผู้ฝึกตนพุ่งทะยานตรงมา แต่ก็ไม่มีใครสามารถจะเข้ามาใกล้ได้ คลื่นฝ่ามือทำลายพวกมันไปในทันที

ด้านหลังเมิ่งฮ่าวติดตามมาด้วยกองกำลังจากชางหมางพ่าย ซึ่งปลดปล่อยพลังทำลายล้างออกไปบนอาณาจักรเทพ ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว

เมิ่งฮ่าวเคลื่อนที่ตรงไปได้ประมาณหนึ่งร้อยก้าว ในตอนนั้นเองที่หนึ่งในแม่น้ำซึ่งบิดเบี้ยวไปมาบนดินแดนกว้างใหญ่จู่ๆ ก็เริ่มสาดประกายเป็นแสงระยิบระยับขึ้นมา คาดไม่ถึงว่า…แม่น้ำสายนั้นกำลังลอยขึ้นไปในอากาศ

เมื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียดก็จะพบว่าจริงๆ แล้ว แม่น้ำนั้นกำลังก่อตัวจนกลายเป็นคันธนู!

แทบจะในทันทีที่แม่น้ำซึ่งมีรูปร่างคล้ายคันธนูลอยขึ้นไปในอากาศ บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นมา ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวกวาดตามองไป ก็รู้สึกว่ามันดูคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง รูปร่างหน้าตาของมันดูคล้ายคลึงกับมือสังหารเป็นอย่างมาก และดูคล้ายกับรูปปั้นที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของอาณาจักรเทพด้วยเช่นกัน

“ผู้อยู่เหนือสูงสุดโบราณของสถานที่แห่งนี้…” เมิ่งฮ่าวมองไปด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!