ตอนที่ 509
ในที่สุดก็มองเห็นดินแดนสีดำ
“พี่เมิ่ง ข้ามักจะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปีนั้น ในอาณาจักรแห่งซากสะพาน” สวี่ไป๋กล่าวขึ้นพร้อมกับหัวเราะ มองมายังเมิ่งฮ่าว
ในขณะที่มันพูด เผ่าเฮยหลงอันยิ่งใหญ่ ก็เริ่มลงมือสังหารเผ่าโจร
เมิ่งฮ่าวมองกลับไปยังสวี่ไป๋ และหัวเราะหึๆ ออกมา เสียงของเขาราบเรียบราวกับสายลม กล่าวตอบว่า “ไม่มีอะไร ข้าก็แค่โชคดีเท่านั้นเอง แต่ท่านสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของวิญญาณอสูรได้ด้วยตัวคนเดียว ข้ารู้สึกเลื่อมใสท่านอย่างแท้จริง”
เสียงกึกก้องอย่างเข้มข้นของการต่อสู้ดังขึ้นมาจากแต่ละด้านของคนทั้สอง ในตอนนี้เผ่าเฮยหลงกำลังทุ่มสุดกำลังเพื่อทำการสังหารหมู่
เผ่าอูเสินก็เป็นเช่นเดียวกัน พวกมันไม่ต้องการจะเป็นอันดับสองรองจากเผ่าเฮยหลง และทำให้เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันต้องเสียหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง พวกมันทั้งหมดต่างก็มีฝีมือและมากประสบการณ์ ทันทีที่พวกมันมองเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตนี้ พวกมันก็เข้าใจว่าการเดิมพันในสนามรบนี้…ก็คือวี่แววของการเป็นพันธมิตรอย่างแท้จริง และจะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งผู้นำ
ดังนั้น พวกมันจึงใช้พลังลมปราณออกมาเต็มกำลังโดยไม่ลังเล เพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้นำของพันธมิตร
ทั้งสองฝ่ายต่างก็โจมตีด้วยความสนุกสนานบนสนามรบที่เป็นการเดิมพัน เผ่าโจรส่งเสียงแผดร้องอย่างโศกเศร้าเสียใจออกมา พวกมันถูกบังคับให้ต้องต่อสู้ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากพยายามจะหลบหนีจากไป
สัตว์ปีศาจหนึ่งแสนห้าหมื่นตัวของเมิ่งฮ่าวสับสนวุ่นวายอยู่เต็มท้องฟ้า อึดใจหนึ่ง เผ่าอูเสินก็เป็นผู้นำ แต่ไม่นานหลังจากนั้น เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเฮยหลง เช่นเดียวกับเซิ่งจู่ของสองเผ่าโจรก็ปรากฏขึ้นในสนามรบทันที และเผ่าอูเสินก็เริ่มเป็นผู้ตาม
แต่จากนั้น สามลำแสงทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นภายในเผ่าอูเสิน นี่เป็นสามลำแสงที่ไม่ได้ปรากฏขึ้นในช่วงการต่อสู้กับเผ่าไห่เยาก่อนหน้านี้ ฉับพลันนั้น เสียงร้องอันทรงพลังก็ดังก้องขึ้นไปถึงสวรรค์ ขณะที่…สามเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้น!
นี่เป็นสามเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ ที่เมิ่งฮ่าวได้ดูดซับเข้าไปในปีนั้น ติดตามด้วยแปดเผ่าพันธมิตร ทันใดนั้น ความรุนแรงของการสังหารก็เพิ่มขึ้น
“พี่เมิ่ง” สวี่ไป๋กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ “ท่านและเผ่าอูเสินของท่านได้ต่อสู้สร้างเป็นเส้นทางลงมายังที่นี้จากเขตทางเหนือ ข้าได้ยินเรื่องราวมามากมาย แต่…เส้นทางเดินครั้งสุดท้ายจะยากลำบากมากที่สุด”
“สุดท้ายแล้ว เผ่าที่แข็งแกร่งมากที่สุดทั้งหมดจะรวมตัวเข้าด้วยกัน ไม่ว่าพวกมันต้องการหรือไม่ ถ้าพวกมันไม่มีวิญญาณอสูร พวกมันทั้งหมดก็จะกลายเป็นเผ่าโจรไปในที่สุด”
“พวกมันทั้งหมดพยายามจะไขว่คว้าวิญญาณอสูร และปล้นชิงสิ่งของจากเผ่าอื่นๆ สร้างเป็นเส้นทางสังหารขึ้นจนถูกสังเกตเห็นจากพันธมิตรศาลสวรรค์ หรือเผ่าอันยิ่งใหญ่อื่นๆ ซึ่งมีทรัพยากรที่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ในดินแดนสีดำได้ พวกมันเหล่านั้นเลือกที่จะกลายเป็นเผ่าสาขาเพื่อแลกโอกาสที่จะมีชีวิตรอดอยู่ต่อไป” การต่อสู้อันดุร้ายในตอนนี้ได้มาถึงจุดวิกฤต เผ่าอูเสินกลายเป็นผู้นำมากขึ้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็ดูเหมือนว่าเผ่าเฮยหลงจะกลายเป็นผู้ตามอย่างเห็นได้ชัด
“ทางเลือกเดียวของพวกเราก็คือการก่อตั้งเป็นพันธมิตร” สวี่ไป๋กล่าวต่อไปอย่างช้าๆ “เผ่าอูเสิน (อีกาศักดิ์สิทธิ์) และเผ่าเฮยหลง (มังกรดำ) จำเป็นต้องค้นหาเผ่าเทียนเฟิง (สายลมสวรรค์) เพื่อก่อตั้งเป็นสามเผ่าพันธมิตร ถ้าพวกเรามุ่งหน้าไปด้วยกัน หลังจากที่ไปถึงดินแดนสีดำ ชนเผ่าของพวกเราก็จะคงอยู่ต่อไปตราบชั่วนิรันดร์ นี่เป็นวิถีทางเดียวที่พวกเราจะมั่นใจได้ว่า ไม่เพียงแต่จะเข้าไปในดินแดนสีดำได้เท่านั้น แต่ก็ยังอาศัยอยู่ที่นั่นได้อย่างปลอดภัย ข้ามั่นใจว่าท่านเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้เรียบร้อยแล้ว พี่เมิ่ง จริงๆ แล้วข้าไม่จำเป็นต้องพูดขึ้นมาเลย”
เสียงระเบิดทันใดนั้นก็ได้ยินมาจากทิศทางของเผ่าอูเสิน ในตอนนี้ศัตรูแปดในสิบส่วนได้ตายไป พวกที่เหลืออยู่กระจัดกระจายกันออกไป และพยายามจะหลบหนีเอาชีวิตรอด
เห็นได้ชัดว่า คงอีกไม่นานก่อนที่เผ่าโจรทั้งหมดจะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น
สำหรับเผ่าเฮยหลง พวกมันทำลายล้างเผ่าโจรไปได้เพียงแค่ห้าในสิบส่วนเท่านั้น พวกมันกำลังต่อสู้กันอยู่ เห็นได้ชัดว่าช้ากว่าเล็กน้อย
สวี่ไป๋ขมวดคิ้ว ภายในใจ มันกำลังตกตะลึง และมีความชื่นชมในเผ่าอูเสินมากขึ้น ในขณะที่เมิ่งฮ่าวกำลังครุ่นคิดในสิ่งที่มันเพิ่งจะกล่าวไป มันก็กระแอมไอออกมา และมองอย่างลึกซึ้งไปยังกลุ่มคนเผ่าเฮยหลง
การมองนี้ทำให้ดวงตาของกลุ่มคนเผ่าเฮยหลงกลายเป็นสีแดง ราวกับว่าพวกมันรู้สึกละอายใจ ราวกับว่ามีแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ได้กดทับลงมาบนร่างพวกมัน สมาชิกของเผ่าทั้งหมดทันใดนั้นก็คลายเส้นเชือกสีดำที่พันอยู่รอบๆ ข้อมือออก ในตอนนี้ พวกมันเงยหน้าขึ้นไปในท้องฟ้าและส่งเสียงกู่ร้อง พลังลมปราณของพวกมันระเบิดออกจนเกือบจะถึงห้าในสิบส่วน เป็นการระเบิดความบ้าคลั่งออกมา โจมตีไปยังเผ่าโจรที่กำลังหลบหนีไปอย่างต่อเนื่อง
ความเดือดพล่านของเผ่าเฮยหลงทันใดนั้นก็ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนพลิก จำนวนผู้เสียชีวิตท่ามกลางเผ่าโจรพุ่งทะยานขึ้น สร้างความตกตะลึงให้กับพวกมันโดยสิ้นเชิง กลุ่มคนที่ยังมีชีวิตรอดของเผ่าโจร เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและหวาดกลัว และเริ่มหลบหนีไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย
“สังหารพวกมัน!!” กลุ่มคนเผ่าเฮยหลงแผดร้องคำรามออกมา ขณะที่ทำการสังหารหมู่อย่างต่อเนื่อง เผ่าอูเสินก็มีความก้าวหน้าด้วยเช่นกัน หลังจากชั่วธูปไหม้หมดครึ่งดอกผ่านไป ทั้งสองเผ่าก็ทำการสังหารจนหมดสิ้นในเวลาเดียวกัน แต่รังสีสังหารของพวกมันยังคงพลุ่งพล่าน ทั้งสองเผ่ากลับมายืนอยู่ด้านหลังสวี่ไป๋และเมิ่งฮ่าว
ทั้งสองเผ่าเผชิญหน้ากัน ดูเหมือนว่าไม่มีใครยินดีจะยอมจำนนต่ออีกฝ่าย
สวี่ไป๋มองไปยังเผ่าอูเสินและสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ภายในใจ มันกำลังตกตะลึง มันรู้ว่าได้แต่ปลดผนึกเส้นเชือกสีดำเท่านั้น ถึงจะทำให้เผ่าเฮยหลงรักษาความเท่าเทียมกันนี้ได้ อย่างไรก็ตาม มันยังคงคิดว่าถ้าพวกมันปลดผนึกนี้ออกตั้งแต่ตอนแรก เผ่าอูเสินก็ไม่มีทางจะเทียบได้
แต่จากนั้นมันก็มองไปยังฝูงสัตว์ปีศาจ ในตอนนี้เองที่มันสังเกตเห็นว่าฝูงสัตว์ปีศาจของเผ่าอูเสินไม่ได้มีจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นตัวอีกต่อไป แต่ตอนนี้มีเพียงแค่สองหมื่นตัวเท่านั้น ทำให้มันอ้าปากค้าง จิตใจสั่นสะท้าน และเริ่มสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วง
“ไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับข่าวลือที่กล่าวว่า เผ่าอูเสิน…ต่อสู้เพื่อหล่อเลี้ยงการต่อสู้!” มันคิด “การต่อสู้แต่ละครั้งทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้น! ยิ่งไปกว่านั้น…เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันก็ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง เมิ่งฮ่าวไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย! เผ่าอูเสินนี้ช่างแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคาดคิดไว้มากนัก”
สำหรับเมิ่งฮ่าว เขาได้ครุ่นคิดมากมายในสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากที่เผ่าเฮยหลงได้ปลดผนึกออก ทำให้เขาต้องยอมรับว่าเผ่าเฮยหลงมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
สวี่ไป๋หัวเราะเป็นเสียงดังก้องออกไป เป็นเสียงที่ดังออกมาจากใจจริง เมื่อมันมองไปยังเมิ่งฮ่าวและกล่าวว่า “พี่เมิ่ง พวกเรามาก่อตั้งเป็นพันธมิตรร่วมกัน ดีหรือไม่?”
“ดี!” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบโดยไม่ลังเล ข้อได้เปรียบของการเป็นพันธมิตรเช่นนี้มีมากมาย มากกว่าข้อเสียมากนัก นอกจากนี้ เมิ่งฮ่าวก็รู้ว่าหลังจากที่ไปถึงดินแดนสีดำ เผ่าอูเสินก็สามารถรวมเข้ากับวิหารจินกวง เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะไม่อยู่ร่วมกับพวกมันอีกต่อไป แต่จะแยกตัวจากไป
ดังนั้น ท้ายที่สุดแล้ว การมีแนวร่วมอื่น ก็จะช่วยให้เผ่าอูเสินมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
“พวกเรา จัดเตรียมการกรีดเลือดร่วมสาบาน!” สวี่ไป๋ร้องตะโกนไปยังเผ่าเฮยหลง พันธมิตรเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ขณะที่คำพูดหลุดออกมาจากปากสวี่ไป๋ ผู้เฒ่าและผู้เฒ่าสูงสุดของเผ่าเฮยหลงก็เข้ามาใกล้ ขณะที่หัวหน้าเผ่าเฮยหลงอันยิ่งใหญ่…ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นสวี่ไป๋
ทางฝ่ายของเมิ่งฮ่าว ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งหมดของเผ่าอูเสินเข้ามาใกล้ พิธีการถูกจัดเตรียมขึ้น และการสาบานโดยการละเลงเลือดไปบนริมฝีปากก็เริ่มขึ้น พันธมิตรได้ก่อตั้งขึ้นเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตำนานของทะเลทรายตะวันตก บรรพบุรุษของสัตว์ปีศาจและเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ได้กล่าวคำสาบาน และพันธมิตรทั้งสองฝ่ายก็ก่อตัวขึ้นโดยไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม!
วันต่อมาเป็นวันแห่งการพักผ่อนและจัดวางโครงสร้างใหม่ ทั้งสองฝ่ายแจกจ่ายสิ่งของอย่างเท่าเทียมกัน สำหรับเมิ่งฮ่าว ในตอนนี้ เขาได้เปิดเผยให้ทราบว่า สามารถควบคุมฝูงสัตว์ปีศาจที่แข็งแกร่งของเผ่าเฮยหลงได้ถึงเจ็ดหมื่นตัว ด้วยเช่นนั้น เมื่อถึงเวลาของการต่อสู้ ฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวก็จะมีจำนวนมากถึงสองแสนสี่หมื่นตัว!
มังกรสีดำและยานบินพุ่งผ่านท้องฟ้าตรงไปยังทิศทางใต้
การเดินทางสุดท้ายนี้จะใช้เวลาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้นก็จะสิ้นสุดลง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภายในสามเดือนนี้ จะเป็นช่วงการทำสงครามที่ยากมากที่สุด ซึ่งเผ่าเฮยหลงและเผ่าอูเสินจะเคยพบเจอมา!
ในช่วงเดือนแรก พวกเขาเข้าต่อสู้เจ็ดครั้ง กับชนเผ่าที่แตกต่างกันเก้าชนเผ่า ทุกๆ สามถึงห้าวัน พวกเขาจะไปเผชิญหน้ากับเผ่าโจร แม้เผ่าอูเสินจะมีประสบการณ์การทำสงครามมามากมายแค่ไหน แต่ด้วยความถี่ในการต่อสู้เช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงมาก่อน
เช่นเดียวกับเผ่าเฮยหลง ถ้าไม่ใช่ว่าทั้งสองเผ่าได้จับมือเป็นพันธมิตรกัน พวกเขาก็คงต้องพบเจอกับความสูญเสียอย่างแน่นอน บางทีอาจจะมากกว่าครึ่ง แต่เผ่าอูเสินคงจะไม่เลวร้ายเท่า เนื่องจากสัตว์ปีศาจของพวกมัน เผ่าเฮยหลงอาจจะต้องพบกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากมากกว่า
แต่เนื่องจากการเป็นพันธมิตรของทั้งสองเผ่า การต่อสู้ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาทำให้พวกเขาเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่มีการสูญเสียที่สำคัญมากมาย
มีอยู่สามเหตุการณ์ที่ทำให้การต่อสู้ต้องเปลี่ยนไป อันเนื่องมาจากสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าว ซึ่งตอนนี้ได้รวมเข้ากับฝูงสัตว์ปีศาจของเผ่าเฮยหลงด้วย
พลังอันน่ากลัวที่เขาสามารถใช้ได้ ทำให้กลุ่มคนเผ่าเฮยหลงเต็มไปด้วยความตกตะลึง และที่ตื่นเต้นมากไปกว่านั้น แม้แต่สวี่ไป๋ก็ยังต้องประหลาดใจต่อเมิ่งฮ่าว มันไม่เคยได้ยินว่าซือหลงใดๆ จะสามารถทำได้เช่นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวกระทำมา
ในช่วงหนึ่งเดือนแรก แม้ว่าทั้งสองเผ่าจะพยายามรักษาความสูญเสียไว้ เมิ่งฮ่าวก็ยังสามารถทำให้ฝูงสัตว์ปีศาจมีขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากเช่นนี้ เผ่าเฮยหลงจึงให้ความร่วมมือโดยการไม่โจมตีไปยังสัตว์ปีศาจของศัตรู สุดท้ายฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวก็มีจำนวนมากถึงสามแสนตัว!
เมื่อสัตว์ปีศาจมากมายมหาศาลเช่นนี้ปรากฏขึ้น สวรรค์ยังต้องสั่นสะท้าน ปฐพียังต้องสั่นสะเทือน!
ในเดือนที่สอง พวกเขาได้เผชิญหน้ากับการต่อสู้มากกว่ายี่สิบครั้ง ในสองครั้งพวกเขาได้เผชิญหน้ากับเผ่าโจรที่รวมตัวกันเป็นพันธมิตร แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์ปีศาจอันน่าสะพรึงกลัวของเมิ่งฮ่าว เผ่าโจรเหล่านั้นก็ถูกบดขยี้ราวกับเป็นหญ้าแห้ง
สุดท้ายของเดือนที่สอง ฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวก็มีจำนวนมากถึง…สี่แสนตัวอย่างน่าตกใจยิ่ง!สัตว์ปีศาจสี่แสนตัวเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็น หรือได้ยินมาก่อนในทะเลทรายตะวันตก แม้แต่เผ่าอันยิ่งใหญ่ซึ่งมีปรมาจารย์ตัดวิญญาณอยู่ด้วย ก็ไม่มีทางจะมีฝูงสัตว์ปีศาจขนาดใหญ่โตมากมายเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ซือหลงจะประทับตราสัตว์ปีศาจได้มากมายเช่นนี้ด้วยเช่นกัน อันที่จริง…อาหารที่ต้องใช้เลี้ยงสัตว์ปีศาจสี่แสนตัว ก็เพียงพอที่จะทำให้ชนเผ่าอันยิ่งใหญ่ต้องยากจนลงในช่วงเวลาสั้นๆ
เมื่อฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวมีจำนวนถึงสี่แสนตัว การต่อสู้…ก็กลายเป็นง่ายขึ้น ตลอดช่วงเวลาของเดือนสุดท้าย พวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับศัตรูใดๆ ใช้ความเร็วผ่านพื้นที่ราบสูงมุ่งหน้าตรงไปยังดินแดนสีดำโดยไร้อุปสรรคใดๆ
อันที่จริง ก็ดูเหมือนว่านี่จะเป็นผลสะท้อนจากการกำจัดเผ่าไห่เยาในต้วนหนานกวน
แต่กระนั้น เมิ่งฮ่าวก็ยังไม่อาจจะขจัดความรู้สึกถึงวิกฤตที่ใกล้เข้ามา ซึ่งยังคงพุ่งขึ้นมาในจิตใจเขาอย่างต่อเนื่องได้ แม้แต่สวี่ไป๋ก็ขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา มีบางอย่างที่ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งคนอื่นๆ ก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกันนี้
ปลายเดือนสามหลังจากที่ออกมาจากต้วนหนานกวน เผ่าเฮยหลงและเผ่าอูเสินในที่สุด…ก็มองเห็นดินแดนสีดำ!!
ทันทีที่พวกเขามองไป ใบหน้าของเมิ่งฮ่าวและสวี่ไป๋ เช่นเดียวกับสมาชิกของชนเผ่าทั้งหมด ทันใดนั้นก็เริ่มดูน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด