ตอนที่ 792
เต๋ากลายเป็นหมอก, หมอกกลายเป็นใบมีด!
“มันคือเมิ่งฮ่าว!!”
“นั่นคือเมิ่งฮ่าวผู้ยิ่งใหญ่!เจ้ารูปปั้นบรรพบุรุษอันกระจ้อยร่อยนั่น จะสะกดข่มเมิ่งฮ่าวผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไรกัน!?”
“เมิ่งฮ่าวไม่ใช่อยู่ในขั้นค้นหาเต๋า…?แล้วจะมีเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งการตัดวิญญาณอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?”
ผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายพวกมันมากมายต่างก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง จากความรู้สึกของคนส่วนใหญ่เป็นไปไม่ได้ที่เมิ่งฮ่าวจะอยู่ในขั้นตัดวิญญาณโดยหลักแล้วผู้คนส่วนใหญ่ได้ลืมไปนานแล้วว่าพื้นฐานฝึกตนของเขาจริงๆแล้วอยู่ที่ขั้นการตัดครั้งที่สองเท่านั้น!
ในประวัติศาสตร์ของดินแดนแห่งดาวหนานเทียนไม่เคยมีผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณได้ครอบครองร่างจำแลงขั้นสูงสุดค้นหาเต๋ามาก่อนและไม่เคยมีการต่อสู้ที่ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณจะสามารถสู้และสังหารใครบางคนที่อยู่ในขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าได้อย่างแท้จริง
สิ่งที่ผู้ฝึกตนเหล่านี้กำลังได้ร่วมเป็นสักขีพยานเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงมีผู้คนอยู่ไม่น้อยที่เชื่อว่าเมิ่งฮ่าว…อยู่ในขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า!
แน่นอนว่าสำหรับผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือแล้วก็ยิ่งมีความตกตะลึงและประหลาดใจอย่างรุนแรงมากขึ้นไปอีก
“รูปปั้นบรรพบุรุษไม่อาจจะสะกดคนผู้นี้ลงไปได้!มัน…มันมาจากที่ไหนกัน!?”
“มันอยู่ในขั้นตัดวิญญาณจริงๆ?เป็นไปไม่ได้!!”
“สวรรค์!มัน…มันเป็นแค่ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณได้อย่างไรกัน!? ถ้าตอนนี้มันสามารถต่อสู้กับขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าได้แล้วละก็ ตอนที่มันบรรลุถึงขั้นค้นหาเต๋า คงไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถต่อสู้กับเซียนเทียมได้นะ!?!?”
ผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือต่างก็รู้สึกประหลาดใจโดยสิ้นเชิง ทีละคน ทีละคนพวกมันต่างก็มองตรงไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกและไม่อยากจะเชื่อ
บุคคลเหล่านี้ไม่ได้คุ้นเคยกับเมิ่งฮ่าวเท่าใดนัก ตอนนี้เมื่อพวกมันตระหนักได้ถึงความจริงเกี่ยวกับเขาก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะยอมรับเรื่องนี้
สำหรับผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกพวกมันเริ่มส่งเสียงอุทานเป็นเสียงดังออกมาในทันที เสียงนั้นกลายเป็นคลื่นเสียงที่ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน
“ผู้ที่เป็นอันดับหนึ่งรองจากเซียนในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน!”
“เมิ่งฮ่าวผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะเป็นอิสระออกมาแล้ว!”
“ตัดวิญญาณในค้นหาเต๋า!”
สำหรับตานกุ่ยและปรมาจารย์ซ่งพวกท่านไม่รู้สึกประหลาดใจถึงแม้ว่าจะไม่รู้พื้นฐานฝึกตนที่แท้จริงของเมิ่งฮ่าวก็ตามทีแต่ก็รู้สึกคุ้นเคยกับพลังอันน่าเหลือเชื่อของเขาพวกท่านไม่ได้ให้ความสนใจในความจริงที่ว่าเขายังคงอยู่ในขั้นตัดวิญญาณเท่านั้น
อย่างไรก็ตามผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้พวกมันต้องจ้องมองไปพร้อมกับปากที่อ้าค้างโดยเฉพาะหญิงอ้วนที่รู้สึกประหลาดใจมากเป็นพิเศษ ทันใดนั้นนางก็มองไปยังใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของร่างจริงที่สองของเมิ่งฮ่าว
จากนั้นนางก็เริ่มสั่นสะท้าน หนังศีรษะเริ่มด้านชา ฉับพลันนั้นนางก็มีความรู้สึกว่าดินแดนทางเหนือได้ทำความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ที่มารุกรานดินแดนด้านใต้
ถ้ามีใครที่จะสั่นสะท้านไปมากกว่านาง บุคคลผู้นั้นต้องมีจิตใจที่เต็มไปด้วยคลื่นแห่งความประหลาดใจอย่างใหญ่หลวง นั่นก็คือผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งที่ทรงพลังมากที่สุดจากดินแดนทางเหนือ,ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ!
มันกำลังตกอยู่ในความงุนงงและแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ อันที่จริงมันไม่ยินดีที่จะเชื่อ การต่อสู้ที่มันเพิ่งจะได้เผชิญหน้ากับเมิ่งฮ่าวมาได้ฝากเป็นรอยแผลให้กับมันไว้และบังคับให้มันต้องใช้รูปปั้นบรรพบุรุษออกมาและนั่น…คือการต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งตัดวิญญาณ!?
“เป็นไปไม่ได้!”มันหอบหายใจออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยไม่เพียงแต่ความตกตะลึงเท่านั้นแต่ยังมีความหวาดกลัวอยู่ด้วยเช่นกันมันไม่เคยจะคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวซึ่งคล้ายกับเป็นผู้ถูกเลือกที่ไม่มีใครเทียบได้ จริงๆแล้วก็อยู่แค่ในขั้นตัดวิญญาณเท่านั้น
ในความไม่อยากจะเชื่อของมันก็รู้สึกได้ถึงหนังศีรษะที่ด้านชาโดยสิ้นเชิง
“ไม่ว่าเจ้าจะพยายามอย่างไรก็ควรจะรู้ว่าการตัดครั้งที่สามนี้เป็นจุดวิกฤตมากที่สุดของการตัดทั้งหมดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้เจ้าต้องถูกกำจัดไปในทันทีและถ้าเจ้าทำได้ไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดไปพื้นฐานฝึกตนของเจ้าก็ไม่อาจจะก้าวหน้าไปได้อีกตลอดไป”
“เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับการตัดครั้งที่สามนี้ ซึ่งสามารถที่จะเข้าใจได้ ดังนั้นการตัดวิญญาณในตอนนี้เป็นการกระทำอันเนื่องมาจากมันถูกต้อนให้เข้าไปอยู่ในมุมอับมันถูกบังคับให้ต้องตัด!”
“ด้วยเช่นนั้น…ถ้ามันพลาดมันก็จะถูกกำจัดไปในวันนี้!”
“เมิ่งฮ่าว…ไม่มีทางที่เจ้าจะทำได้สำเร็จ!”ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิรู้สึกตกใจอย่างแท้จริงและไม่อยากจะคาดคิดว่า เมิ่งฮ่าวจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ถ้าเขาเข้าไปในขั้นค้นหาเต๋าได้สำเร็จ…
เต๋าอันยิ่งใหญ่เริ่มมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ท้องฟ้าที่ด้านบนของดาวหนานเทียนทั้งหมดในตอนนี้ถูกบดบังไปโดยสิ้นเชิง
ในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน ภายในเจดีย์แห่งถัง บุรุษและสตรียืนอยู่ด้วยกันด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน สตรีรู้สึกตื่นเต้นและบุรุษก็เห็นได้ชัดว่ากำลังพยายามรักษาความเยือกเย็นไว้แต่ก็ไม่อาจจะทำได้
คนทั้งสองได้รอคอยวันนี้มานาน, นานมากๆแล้ว
“พวกเรายังคงไปไม่ได้” บุรุษพึมพำ “รอให้นานกว่านี้ แค่อีกเล็กน้อยเท่านั้น…นี่คือครั้งสุดท้ายแล้ว!”
“ถ้ามันทำได้สำเร็จในที่สุดพวกเราก็จะได้พบเจอกัน ถ้าไม่…”
ภรรยาจับมือมันไว้แน่น ฝ่ามือของคนทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ตลอดทั้งชีวิตนี้ บุรุษและสตรีคู่นี้ไม่เคยจะรู้สึกกังวลใจมากเช่นนี้มาก่อนไม่เคยมีเหตุการณ์ใดที่พวกมันจะเคยให้ความสำคัญมาก่อนถึงแม้จะมีใครบางคนที่แข็งแกร่งอย่างน่าตกใจ พยายามที่จะสอดมือเข้ามาในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้พวกมันก็ยอมที่จะจ่ายค่าตอบแทนใดๆ เพื่อที่จะหยุดคนผู้นั้นถึงแม้จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาก็ตามที!
“พวกเรารอคอยมาสามชีวิตแล้ว รอมานานหลายร้อยปี…เพียงแค่ตอนนี้เท่านั้น!”
“ฮ่าวเอ๋อร์เจ้า…ต้อง…บรรลุค้นหาเต๋าให้จงได้!”
ย้อนกลับไปในกรงขัง เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิร่างสั่นสะท้านอยู่เล็กน้อย เส้นผมพริ้วไปมา โลกรอบๆ ตัวหดเล็กลงไป จนเหลือเพียงแค่หนึ่งพันจ้างเท่านั้น รอบๆ บริเวณนั้นไม่มีอะไรนอกจากอากาศ ภูเขาทั้งหมดและทุกสรรพสิ่งถูกบดขยี้จนกลายเป็นฝุ่นผงด้วยแรงกดดันอันน่าตกใจนั้น
เสียงแตกร้าวได้ยินมา กระจายออกมาจากร่างของเขา ราวกับว่ากระดูกกำลังถูกบดขยี้ไป
อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้สนใจสังเกต สติทั้งหมดของเขาได้มุ่งเน้นไปที่การเรียกใบมีดของการตัดครั้งที่สามมา ยิ่งเขาพยายามเรียกมากเท่าใด สวรรค์และปฐพีที่โลกด้านนอกก็ยิ่งมืดสลัวลงไปมากขึ้นเท่านั้น
เต๋าอันยิ่งใหญ่มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนถึงจุดที่กลุ่มหมอกได้ปรากฏขึ้น…เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นกลุ่มหมอกในสนามรบนี้และจากนั้นก็กระจายออกปกคลุมไปทั่วทั้งดินแดนแห่งดาวหนานเทียน
ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าจากทั้งสามดินแดน ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้พวกมันเริ่มพูดคุยกันอย่างเงียบๆ ซึ่งได้ยินกันแค่ไม่กี่คนเท่านั้นทำให้จิตใจพวกมันต้องสั่นสะท้าน
“นั่นคือ…”
“เต๋าที่กลายเป็นกลุ่มหมอก!!”
“โอกาสเดียวที่เต๋าจะก่อตัวเป็นกลุ่มหมอกก็คือมีผู้แข็งแกร่งอันทรงพลังที่น่าเหลือเชื่อได้รับความรู้แจ้งเกี่ยวกับเต๋าอันยิ่งใหญ่เท่านั้น! มีแต่เช่นนั้นถึงจะทำให้สวรรค์และปฐพีเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เช่นนี้!!”
“นี่เป็นสิ่งที่เคยได้ยินมาแต่ในตำนานเท่านั้น!ในดินแดนแห่งดาวหนานเทียนนี้ไม่เคยจะได้ยินมาก่อน!!”
แสงแห่งความตื่นเต้นปรากฏขึ้นในดวงตาของตานกุ่ยและท่านแทบจะอดใจไม่ไหวที่ต้องหัวเราะเป็นเสียงดังออกมาอยู่ภายในจิตใจ
ปรมาจารย์ซ่งก็ดูตื่นเต้นด้วยเช่นกัน
แต่กลับกัน ร่างจริงที่สองของเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นก็นั่งลงขัดสมาธิหลับตาอยู่ในกลางอากาศ!
การตกลงมาของเต๋าอันยิ่งใหญ่ทำให้การต่อสู้ทั้งหมดต้องยุติลงแม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าก็ไม่อาจจะทำการโจมตีไปได้ในช่วงที่เต๋าอันยิ่งใหญ่ตกลงมาผู้แข็งแกร่งดินแดนทางเหนือไม่อาจจะทำอะไรได้ นอกจากจ้องมองไปด้วยสายตาเบิกกว้างไม่อยากจะเชื่อยังร่างจริงที่สองของเมิ่งฮ่าวที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น
“บัดซบ!เจ้าไม่มีทางจะทำได้สำเร็จ!”ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิคิดด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง
ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของดินแดนทางเหนือ, ทะเลทรายตะวันตกและดินแดนด้านใต้ ต่างก็มองไปยังภาพที่เกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด ย้อนกลับไปในดินแดนตะวันออก ตระกูลจี้นิ่งเงียบโดยสิ้นเชิง สำหรับปรมาจารย์เด็กหนุ่มที่สูญเสียแขนทั้งสองข้างมันกำลังจ้องนิ่งไปยังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้มีผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ จากสำนักและตระกูลต่างๆในดินแดนตะวันออก รู้สึกได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ด้วยเช่นกันด้วยความตกตะลึงพวกมันส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปเพื่อสังเกตดูแต่ไม่มีใครกล้าจะทำสิ่งใดๆ นอกจากนี้ถ้าตระกูลจี้ไม่สอดมือเข้าไปแล้วพวกมันจะกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้อย่างไร?
ย้อนกลับไปภายในกรงขัง ตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวเงยหน้าขึ้นไปในทันใด ลืมตาขึ้นมาและร้องตะโกนขึ้น
“ตัดครั้งที่สาม!”
เสียงนั้นดังก้องไปมาอยู่ภายในโลกแห่งนี้ ซึ่งตอนนี้ได้หดเล็กลงไปจนมีขนาดแค่ห้าร้อยจ้างในตอนแรกดูเหมือนว่าเสียงนั้นไม่อาจจะได้ยินอยู่ในโลกด้านนอกแต่จริงๆแล้วก็ราวกับว่ามีเมิ่งฮ่าวจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังส่งเสียงตะโกนออกมา จนทำให้โลกด้านนอกได้ยินเสียงนี้อย่างแผ่วเบา
แทบจะราวกับว่าเสียงนั้นดังออกมาจากภายในกลุ่มหมอก ราวกับว่าเป็นเสียงสะท้อนที่ดังออกมาจากการตกลงมาของเต๋าอันยิ่งใหญ่
ผู้คนมากมายได้ยินเสียงนี้และทำให้จิตใจต้องสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง
ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกมา กลุ่มหมอกซึ่งปกคลุมไปทั่วทั้งดาวหนานเทียน ทันใดนั้นก็พุ่งกลับขึ้นไป ม้วนตัวไปมาขณะที่เริ่มรวมตัวกันอยู่ที่ด้านบนของสนามรบในดินแดนด้านใต้ ที่นั่นในกลางอากาศกลุ่มหมอกได้ก่อตัวกันเป็นรูปร่างของ…
ใบมีดกลุ่มหมอก!!
หมอกใบมีด!
การรู้แจ้งแห่งเต๋า!
ทันทีที่หมอกใบมีดปรากฏขึ้น ดวงตาของผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าทั้งหมดในสนามรบต่างก็เบิกกว้าง จิตใจเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มกึกก้องแม้แต่สีหน้าของตานกุ่ยก็ยังแสดงถึงความไม่อยากจะเชื่อ
การที่เต๋าได้แข็งแกร่งขึ้นจนกลายมาเป็นกลุ่มหมอกเป็นสิ่งที่น่าตกใจมากพอแล้วสิ่งที่เป็นตำนานเช่นนั้นสามารถที่จะยอมรับได้แต่…การที่ได้เห็นกลุ่มหมอกกลายเป็นใบมีดเป็นสิ่งที่ทำให้คนทั้งหมดต้องตกตะลึงอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้
“หมอก…ใบมีด!!”ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิครุ่นคิดด้วยความตกตะลึง “นั่นเป็น…สิ่งที่ควรจะพบเจออยู่บนภูเขาเซียนก่อนที่จะเปิดประตูเซียนเมื่อบรรลุขั้นเซียนอมตะเท่านั้น!!”
“ใครก็ตามที่กลายเป็นเซียนแท้ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์เซียนหลังจากที่เอาชนะทัณฑ์เซียนได้แล้วพวกมันก็จะไปยืนอยู่บนภูเขาเซียนด้วยตัวเอง ขณะที่พวกมันก้าวเท้าตรงไป หมอกใบมีดก็จะตกลงมาพวกมันก็จะถูกตัดขาดออกไปจากอาณาจักรวิญญาณ มีพลังเพียงพอที่จะเปิดประตูเซียนและกลายเป็นเซียนแท้!”
“แต่มัน…กำลังใช้หมอกใบมีดทำการตัดครั้งที่สาม!!เมื่อหมอกใบมีดกรีดเฉือนร่างมันไปมันก็จะตัดจุดศูนย์กลางวิญญาณและทำให้เส้นทางที่จะกลายเป็นเซียนแท้มั่นคงถาวรขึ้น!!”
จิตใจมันหมุนคว้างและร่างก็สั่นสะท้าน ทันใดนั้นมันก็ตระหนักว่า การส่งกองกำลังเข้ามาในดินแดนด้านใต้เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง!!
ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าทั้งหมดที่อยู่ในกลางอากาศต่างก็ตกตะลึง แน่นอนว่าไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้นในดินแดนตะวันออก ปรมาจารย์ของสำนักและตระกูลทั้งหมด ต่างก็รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกันพวกมันแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังได้เห็นอยู่นี้ เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“บุรุษหนุ่มผู้นั้นคือใคร!?”
“มันกำลังใช้หมอกใบมีดทำการตัดครั้งที่สามของมัน! ถ้ามันล้มเหลวก็ไม่มีอะไรแต่ถ้าทำได้สำเร็จ นั่นไม่ใช่การต่อต้านสวรรค์?!”
“ถ้าทำได้สำเร็จมันก็จะก้าวเข้าไปในขั้นค้นหาเต๋า หรือว่าเซียน?”
เด็กหนุ่มที่ไร้แขนในตระกูลจี้ ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นมายืน ดวงตาเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“กล่าวกันว่าฟางซิ่วเฟิง ซึ่งเป็นผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งในตระกูลฟางได้ใช้ใบมีดที่ประกอบขึ้นมาจากกลุ่มหมอกสองในสิบส่วนเพื่อทำการตัดครั้งที่สามทำให้เกิดเป็นความปั่นป่วนขึ้นมาในท่ามกลางตระกูลโบราณแห่งขุนเขาที่เก้าแม้แต่ท่านปรมาจารย์ก็ยังต้องเฝ้าจับตาดูด้วยความสนใจ”
“เมิ่งฮ่าวผู้นี้…มัน…มันยังได้ต่อต้านสวรรค์มากกว่าฟางซิ่วเฟิงในช่วงของการตัดวิญญาณซะอีก จริงๆแล้วมัน…กำลังใช้หมอกใบมีดที่สมบูรณ์แบบ!”
ในเจดีย์แห่งถัง สตรีนางนั้นอ้าปากค้าง
“เต๋ากลายเป็นกลุ่มหมอกและกลุ่มหมอกก็กลายเป็นใบมีด!” ดวงตานางสาดประกายด้วยความตื่นเต้นและสั่นสะท้านอย่างรุนแรง “ฟูจวิน (สามี)…ท่านเชื่อหรือไม่ว่าฮ่าวเอ๋อร์กำลังกระทำเรื่องนี้อยู่!?!?มัน…มัน…ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดเป็นกลุ่มหมอกขึ้นมาแต่ยังได้ทำให้กลุ่มหมอกทั้งหมดรวมตัวกันเป็นหมอกใบมีด!มันยังน่าตกตะลึงมากกว่าท่านอีก!!”
“เจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมาน สี่ชีวิต สามการเกิดใหม่…ก็เพื่อป้องกันไม่ให้กรรมของมันต้องมาแปดเปื้อนกับพวกเราทำให้มันมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ต่อไป!” บุรุษพึมพำ
“เต๋ากลายมาเป็นกลุ่มหมอก กลุ่มหมอกกลายเป็นใบมีด ใบมีดนั่นจะตัดช่องว่างระหว่างเซียนและมาร!” สายตาของบุรุษสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า จนต้องเงยหน้าขึ้นและหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เป็นธรรมดาที่บุตรชายแห่งตระกูลฟาง จะเก่งกล้ากว่าบิดาของมัน!”
———————
หมายเหตุ :ในภาษาจีน 雾刀 (อู้เตา = หมอกใบมีด)และ 悟道 (อู้เต้า = การรู้แจ้งแห่งเต๋า)ออกเสียงคล้ายกัน