Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 874

ตอนที่ 874

รอบก่อนรองชนะเลิศ!

“ข้าจะสังหารเจ้า!” หลี่หลิงเอ๋อร์แผดร้องด้วยโทสะ จิตใต้สำนึกนางได้ซ้อนทับภาพของเมิ่งฮ่าวไปบนภาพของฟางมู่เรียบร้อยแล้ว นางไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ขณะที่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันตรงส่วนก้น ทำให้นางไม่มีเวลาที่จะไปไตร่ตรองให้ลึกซึ้งได้

เมื่อนางกำลังจะโจมตีไป ความเจ็บปวดนั้นก็ทำให้นางต้องถอยโซเซไปทางด้านหลัง ในเวลาเดียวกันนั้น หอกยาวก็ส่งเสียงหวีดหวิวแหวกฝ่าอากาศ มาหยุดอยู่ตรงหน้าผากนาง

เมิ่งฮ่าวมองไปที่นางอย่างเย็นชา หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ มารดาได้บอกไว้ว่าหลี่หลิงเอ๋อร์ก็คือหลิงเอ๋อร์กงจู่ (องค์หญิงหลิงเอ๋อร์) ซึ่งเขาได้จุดไฟเผาเส้นผมของนางเมื่อตอนยังเป็นเด็ก เขายังรู้ด้วยอีกว่าท่านปู่ได้เตรียมที่จะให้คนทั้งสองวิวาห์กัน

อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้เห็นด้วยกับข้อตกลงนี้ เขามีภรรยาเพียงคนเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือสวี่ชิง

หลี่หลิงเอ๋อร์สั่นสะท้าน ขณะที่นางรู้สึกได้ถึงความเย็นชาที่กระจายออกมาจากคมหอก ซึ่งชี้มาที่หน้าผากของนาง รับรู้ได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามากระจายไปทั่วจิตใจ และนางก็รู้ว่าถ้าไม่กล่าวคำพูดที่เมิ่งฮ่าวอยากจะได้ยินออกมา คมหอกก็จะแทงเข้ามาที่หน้าผากนางอย่างไม่ลังเล

“ข้าไม่ต้องการจะสังหารเจ้า” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ อันที่จริงยังมีบางอย่างที่เขาอยากจะพูดออกมา…เขายังมีตั๋วสัญญาของหลี่หลิงเอ๋อร์อยู่ในถุงสมบัติ ดังนั้นจนกว่าที่เขาจะได้หินลมปราณเหล่านั้น ก็จำเป็นต้องให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไป

ถ้านางตายไป ใครจะมาจ่ายหินลมปราณเหล่านั้น…?

หลี่หลิงเอ๋อร์จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว หน้าอกขนาดใหญ่ของนางกระเพื่อมขึ้นลง ขณะที่หายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วง ในที่สุดนางก็กัดฟันแน่นและกล่าวช้าๆ ออกมาสามคำ

“ข้ายอมแพ้” ทันใดนั้นนางก็หายตัวไป จากนั้นก็ปรากฏกายขึ้นใหม่บนใบไม้ชั้นต่อไป นางยังไม่สูญเสียโอกาสที่จะผ่านเข้าไปในรอบรองชนะเลิศ ถ้านางเอาชนะได้ในการต่อสู้อีกสามครั้งที่เหลือ นางก็ยังคงจะมีโอกาสต่อไป

นอกจากนี้ นี่เป็นแค่รอบแรกที่จะตัดสินว่า ใครจะอยู่ในสี่คนแรก หรือสี่คนสุดท้าย

ทันใดนั้น กลุ่มฝูงชนในขุนเขาทะเลที่เก้าก็เริ่มพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันไปมา

“ฟางมู่เอาชนะหลี่หลิงเอ๋อร์ได้!”

“มันต้องอยู่ในสี่คนแรกอย่างแน่นอน! หลี่หลิงเอ๋อร์คือผู้ถูกเลือกแห่งตระกูลหลี่ และไม่ต้องสงสัยเลยว่านางจะกลายเป็นเซียนแท้ในวันข้างหน้า ข้ายังเคยได้ยินมาว่านางไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน การต่อสู้ระหว่างนางและฝานตงเอ๋อร์ในครั้งนั้นก็จบลงด้วยการเสมอกัน!”

“ฟางมู่ผู้นี้ช่างเป็นผู้ที่ไร้พ่ายอย่างแท้จริง!”

อันที่จริงเมิ่งฮ่าวไม่ได้เป็นคนแรกที่เอาชนะได้ในรอบนี้ อย่างน่าตกใจยิ่ง การต่อสู้ที่จบสิ้นไปแรกสุดเป็นการต่อสู้ระหว่างจ้าวอีฝานและบุรุษร่างสูงใหญ่จากเต๋าคุนหลุน

การต่อสู้นั้นน่าประหลาดใจเช่นเดียวกับการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ และทำให้เกิดเป็นความสนใจอยู่ไม่น้อย เมื่อบุรุษจากเต๋าคุนหลุนโจมตีมา มันได้ใช้เทือกเขาขนาดใหญ่ แม้แต่ตัวมันเองก็ดูเหมือนจะคล้ายกับภูเขา ทำให้การโจมตีทั้งหมดไม่อาจจะมีผลต่อมันเท่าใดนัก

อย่างไรก็ตามจ้าวอีฝานก็เป็นผู้ที่น่ากลัวเหมือนกัน ซึ่งเริ่มมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้นในการต่อสู้ของคนทั้งสอง มันใช้กระบี่ที่ทำให้ปฐพีต้องสั่นสะเทือนไปแค่หกครั้งเท่านั้นในการต่อสู้นี้ แต่ละกระบี่โจมตีไปด้วยความน่าตกใจมากกว่าก่อนหน้านั้น และพวกมันก็กรีดเฉือนลงไปยังเทือกเขา ทำให้บุรุษร่างสูงใหญ่จากเต๋าคุนหลุนต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส

กระบี่สุดท้ายระเบิดออกไปด้วยพลังที่บุรุษจากเต๋าคุนหลุนไม่อาจจะต่อต้านได้ เทือกเขาของมันระเบิดออก ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าจ้าวอีฝานระงับความต้องการสังหารของมันไว้ บุรุษผู้นั้นก็คงจะต้องถูกสังหารไปอย่างแน่นอน

ผลของการต่อสู้นี้ทำให้เกิดเป็นความปั่นป่วนอยู่ไม่น้อยในโลกด้านนอก น่าเสียดายที่เหล่าปรมาจารย์ในวิหารบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ไม่ได้มองไปยังสังเวียนการประลอง แต่กลับเพ่งมองไปยังหญิงสาวในชุดขาว สีหน้าพวกมันผสมปนเปกันไปมาระหว่างความเคารพนับถือและอารมณ์ที่ซับซ้อนอื่นๆ

เสียงระเบิดดังก้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชายชราที่พูดมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ด่านแรก ต่อสู้กับบุรุษหนุ่มจากเซียงหั่วเต้า (เต๋าธูปเผาไหม้) ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีอายุที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่สนใจถึงเรื่องนั้น มีแต่ความคิดที่จะเอาชนะกันให้จงได้

หนึ่งในพวกมันไม่ได้โจมตีไป แต่กลับพูดคุยอย่างคลุ้มคลั่งไปยังคู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่องจนน้ำลายฟูมปาก อีกคนยิ้มออกมาและถ่ายทอดคำพูดเข้าไปในจิตใจของคู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ของมันต้องคุกเข่าลงไปเพื่อกราบกรานมัน อันที่จริงแม้แต่หลังจากที่การต่อสู้กับคนอื่นๆ จบลงไป คู่ต่อสู้ของมันก็ยังคงมองไปยังบุรุษหนุ่มด้วยสีหน้าที่เลื่อมใสศรัทธา จากใบไม้ที่อยู่ชั้นล่างสุดอยู่ตลอดเวลา

เมื่อคนทั้งสองมาพบเจอกัน พวกมันก็ไม่ได้ต่อสู้กันไปมาอย่างวุ่นวาย แต่กลับนั่งลงขัดสมาธิ จ้องมองซึ่งกันและกัน ถึงแม้จะดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น แต่คนที่เข้าใจก็รู้ว่าพวกมันกำลังแสดงพลังออกมาอย่างดุร้ายเป็นอย่างยิ่งในตอนนี้

“การต่อสู้ของเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์!”

“เซียงหั่วเต้า (เต๋าธูปเผาไหม้) เชี่ยวชาญในเรื่องการใช้เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ พวกมันรวบรวมเจตจำนงของสิ่งมีชีวิตมากมาย ให้กลายเป็นเต๋าแห่งธูปเผาไหม้ เซี่ยอีเซียนคือผู้ถูกเลือกแห่งเซียงหั่วเต้า กล่าวกันว่ามันกำลังจะกลายเป็นเต้าจื่อ (บุตรแห่งเต๋า) แล้ว! เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของมันมีความแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ!”

“ถ้าข้าจำไม่ผิด ชายชราผู้นั้นมีนามว่า เฉียนตัวตัว (เงินมากมาย) มัน…กำลังต่อสู้ด้วยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์กับเซี่ยอีเซียนแห่งเซียงหั่วเต้าอยู่จริงๆ!”

อีกสังเวียนการประลอง ฝานตงเอ๋อร์กำลังเผชิญหน้ากับบุรุษหนุ่มจากกู่เซียนหลิง (สุสานเซียนโบราณ) คนทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุร้าย และใบหน้าของบุรุษหนุ่มจากกู่เซียนหลิงก็เต็มไปด้วยความหลงใหล ดวงตามันดูเหมือนจะสามารถหลอมละลายความเย็นเยียบใดๆ ได้ แต่สิ่งที่ทำให้มันต้องคลุ้มคลั่งไม่ใช่ฝานตงเอ๋อร์ แต่เป็นกลุ่มหมอกที่อยู่ด้านหลังฝานตงเอ๋อร์ ซึ่งถูกทำให้กระจัดกระจายออกไป ในช่วงที่ต่อสู้กันไปมา เผยให้เห็นเป็นซากศพของหญิงสาวอยู่ที่ด้านหลังนาง

“นั่นคือ…ซากศพที่งดงามมากที่สุด เท่าที่ข้าเคยพบเห็นมาตลอดชั่วชีวิตนี้!” บุรุษหนุ่มพึมพำ โลงศพเจ็ดใบวางเรียงรายอยู่ที่เบื้องหน้ามัน ฝาโลงถูกเปิดออกเผยให้เห็นซากศพเจ็ดซาก ซึ่งมันกำลังใช้ต่อสู้กับฝานตงเอ๋อร์

ฝานตงเอ๋อร์ก็แทบจะใกล้คลุ้มคลั่งแล้วเช่นกัน ในตอนนี้ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่นางจะเกลียดมากไปกว่าซากศพอีกแล้ว และแววตาของคู่ต่อสู้ ก็ทำให้นางต้องเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างรุนแรง

เสียงระเบิดดังก้องออกมา และเวลาก็เลื่อนผ่านไป หญิงสาวชุดขาวลอยตัวอยู่เหนือต้นไม้เต๋าตลอดเวลา กำลังมองไปยังผู้ฝึกตนในสังเวียนการประลองด้วยแววตาที่เย็นชา ยากที่จะบอกได้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากที่ผ่านไปนานชั่วครู่ เสียงระเบิดก็ดังขึ้นมาอยู่ที่ด้านข้างฝานตงเอ๋อร์ และบุรุษหนุ่มผู้นั้นก็กระอักโลหิตออกมากองโต มันพุ่งถอยไปทางด้านหลัง ขณะที่ทำเช่นนั้น เส้นผมสีดำจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือมัน ซึ่งไม่ได้เป็นเส้นผมของฝานตงเอ๋อร์ แต่เป็นของซากศพหญิงสาวนั้น

ใบหน้าฝานตงเอ๋อร์บิดเบี้ยวขึ้นจนดูน่าเกลียด เมื่อกลุ่มหมอกที่ด้านหลังนางหายไป ในตอนนี้คนทั้งหมดที่กำลังเฝ้าดูอยู่ในขุนเขาทะเลที่เก้า ต่างก็มองเห็นซากศพหญิงสาวได้อย่างชัดเจน

“ข้ายอมแพ้!” บุรุษหนุ่มจากกู่เซียนหลิง (สุสานเซียนโบราณ) ร้องตะโกนออกมา กระอักโลหิตออกมาอีกคำ แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความลุ่มหลง มันถือเส้นผมขึ้นมาจ่อที่จมูก และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็เก็บเส้นผมนั้นไว้ด้วยความระมัดระวัง ดวงตาสาดประกายขึ้น มองไปยังซากศพหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังฝานตงเอ๋อร์

“นางคือรักแท้ของข้า ฝานตงเอ๋อร์ ท่านต้องดูแลนางให้ดี” ด้วยเช่นนั้น บุรุษหนุ่มก็หายตัวไป ปรากฏกายขึ้นใหม่บนใบไม้สำหรับผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดคน อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงมองไปยังซากศพนั้นด้วยความลุ่มหลงต่อไป

ทันใดนั้นเสียงพูดคุยก็ดังขึ้นมาในท่ามกลางกลุ่มผู้ชมที่อยู่ในขุนเขาทะเลที่เก้า

“เจ้าหนุ่มเซียวหลัวแห่งกู่เซียนหลิงนั่นช่างวิปลาสโดยแท้! มันเป็นผู้ถูกเลือก แต่กลายเป็นว่ากลับเป็นผู้ที่บ้าซากศพ!”

“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่คนทั้งหมดพูดจะเป็นเรื่องจริง! มีซากศพของหญิงสาวลอยอยู่ที่ด้านหลังของฝานตงเอ๋อร์!”

“จากที่ข้าได้ยินมา ซากศพนั้นมาติดอยู่กับตัวนาง ตอนที่นางไปเผชิญหน้ากับใครบางคนซึ่งมีนามว่าเมิ่งฮ่าวบนดาวหนานเทียน!”

ขณะที่กลุ่มฝูงชนส่งเสียงพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้ การต่อสู้ระหว่างเฉียนตัวตัวที่พูดมาก และเซี่ยอีเซียนแห่งเซียงหั่วเต้า (เต๋าธูปเผาไหม้) ก็มาถึงจุดสิ้นสุด ใบหน้าเซี่ยอีเซียนซีดขาว โลหิตพุ่งออกมาจากปาก หลังจากที่กวาดเช็ด มันก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาออกมา ลุกขึ้นยืนและโค้งตัวลงให้กับชายชรา

“ข้าเชื่อแล้วว่าเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของท่านช่างน่ามหัศจรรย์ใจยิ่ง, สหายเต๋า เซี่ยโหม่วยอมแพ้” มันกล่าว

ใบหน้าของเฉียนตัวตัวก็ซีดขาวด้วยเช่นกัน ลืมตาขึ้นมาในทันทีและลุกขึ้นมายืน จากนั้นก็ประสานมือให้กับเซี่ยอีเซียนอย่างเงียบๆ

เสียงพูดคุยทันใดนั้นก็ดังก้องขึ้น

“คิดไม่ถึงว่าเฉียนตัวตัวจะเป็นผู้ชนะ!!”

“มันทำให้เซี่ยอีเซียนแห่งเซียงหั่วเต้าพ่ายแพ้ไปได้ เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของมันแข็งแกร่งเท่าใดกันแน่? มันคือม้ามืดในการแข่งขันครั้งนี้อย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่ามันคงจะไม่ผ่านเข้ารอบสิบหกคนสุดท้าย ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะสามารถเอาชนะมาได้ และผ่านเข้ามาถึงรอบสี่คน!”

ถ้าไม่นับการวิเคราะห์จากกลุ่มฝูงชนที่อยู่ด้านนอก สี่คนแรกได้ถูกตัดสินออกมาแล้วคือ เมิ่งฮ่าว, จ้าวอีฝาน, เฉียนตัวตัว และฝานตงเอ๋อร์!

สี่คนหลังประกอบด้วยหลี่หลิงเอ๋อร์, เซี่ยอีเซียน, เซียวหลัว และบุรุษร่างสูงใหญ่แห่งเต๋าคุนหลุน สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้คือสามรอบการต่อสู้สุดท้าย!

ตอนนี้คนทั้งหมดจากสี่คนแรก จะต้องต่อสู้กับสี่คนหลังที่เหลือ หลังจากที่ต่อสู้กันทั้งหมดเสร็จสิ้น สี่คนที่เอาชนะมาได้มากที่สุด ก็จะเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ!

หลังจากพักผ่อนไปสามชั่วยาม เมื่อคนทั้งหมดฟื้นฟูกลับไปยังจุดสูงสุดของตัวเอง การต่อสู้รอบที่สองเพื่อเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศก็จะเริ่มขึ้น! เมิ่งฮ่าวยืนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกบนใบไม้สัมฤทธิ์ ขณะที่แสงระยิบระยับที่เบื้องหน้า เผยให้เห็นเป็นบุรุษหนุ่มร่างสูงใหญ่แห่งเต๋าคุนหลุน

บุรุษผู้นั้นก้าวเท้าตรงมา ราวกับเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่ตกลงมา แต่เมิ่งฮ่าวก็มีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย จากสำนักต่างๆ แห่งขุนเขาทะเลที่เก้า เขามีความคุ้นเคยกับสำนักเซียนอสูรมากที่สุด อันเนื่องมาจากจื่อเซียง และเขาก็รู้จัก…เต๋าคุนหลุนด้วยเช่นกัน

ท่านอาจารย์ตานกุ่ยได้เข้าสังกัดเต๋าคุนหลุน และเพราะเหตุนี้ เมิ่งฮ่าวจึงได้ยิ้มอย่างสุภาพไปยังบุรุษร่างสูงใหญ่

บุรุษร่างสูงใหญ่จ้องมองมาด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็พยักหน้าให้กับเมิ่งฮ่าว พร้อมกับประสานมือ

“หยางอี้แห่งเต๋าคุนหลุน สหายเต๋าฟาง โปรดชี้แนะ!”

“เช่นกัน เช่นกัน!” เมิ่งฮ่าวกล่าว ประสานมือตอบกลับไป

เมื่อกล่าวทักทายกันแล้ว ดวงตาหยางอี้ก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้า กลิ่นอายอันรุนแรงระเบิดขึ้น ขณะที่มันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ขณะที่ใกล้เข้ามา อย่างน่าตกใจยิ่ง ภูเขามากมายได้ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัวมัน

สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย แต่ม่านตาหดเล็กลง เขาเคยสังเกตมาก่อนแล้วว่า บุรุษร่างสูงใหญ่นี้สามารถใช้…เวทกลืนภูเขาได้!!

เวทกลืนภูเขาเป็นเวทแห่งเต๋าจากสำนักเซียนอสูรโบราณ และก่อนหน้านี้เมิ่งฮ่าวก็คิดว่ามีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้มันออกมาได้ เมื่อได้เห็นการกระทำของหยางอี้ผู้สูงใหญ่ ทำให้ตอนนี้เขามีความสนใจในเต๋าคุนหลุนมากยิ่งขึ้น

“เวทกลืนภูเขา…?” เมิ่งฮ่าวคิด แอบหัวเราะอยู่ภายในใจ ก้าวเท้าออกไปด้วยเช่นกัน ทำให้มีภูเขามากมายปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัว แน่นอนว่าด้วยความช่วยเหลือจากขนนกสีดำ ทำให้พวกมันดูคล้ายกับเป็นกระแสน้ำเล็กๆ มากมาย

ในชั่วพริบตา คนทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กันไปมา พวกเขาไม่ได้ใช้วิชาใดๆ ออกมามากมาย แต่มุ่งเน้นไปที่เวทกลืนภูเขา และกายเนื้อที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อเท่านั้น

ตูมมมมม!

เกิดการปะทะกันสิบกว่าครั้งขึ้น หลังจากที่หยางอี้ถอยไปทางด้านหลัง ร่างกายก็สั่นสะท้านขึ้น แต่ดวงตายังคงเจิดจ้าด้วยความต้องการต่อสู้

“สมใจนัก! การต่อสู้นี้สนุกกว่าสู้กับจ้าวอีฝานมากนัก!” หยางอี้หัวเราะเป็นเสียงดังออกมา จากนั้นก็กำมือเป็นหมัด ทำให้ภูเขาที่อยู่รอบๆ ตัวมันเชื่อมต่อกันกลายเป็นเทือกเขา ตัวมันเองก็ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนเป็นภูเขาขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน

เมิ่งฮ่าวหัวเราะเป็นเสียงดังเช่นเดียวกับหยางอี้ โจมตีไป ทำให้กระแสน้ำรวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นแม่น้ำอันกว้างใหญ่ ส่งเสียงดังกระหึ่มไปทั่วในอากาศ คนทั้งสองต่อสู้กันไปมาอีกครั้ง ทุ่มกำลังออกมาสุดตัว เสียงระเบิดดังก้องขึ้น ทำให้เกิดเป็นความสนใจต่อกลุ่มคนดูที่กำลังตกตะลึงอยู่ไม่น้อย

คนทั้งสองต่อสู้กันไม่นานมากนัก ใช้เวลาแค่ธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอกเท่านั้น ในที่สุดหยางอี้ก็ต้องโซเซถอยไปทางด้านหลังเจ็ดถึงแปดก้าว หอบหายใจออกมา มันโบกสะบัดชายแขนเสื้อทำให้เทือกเขาหายไป จากนั้นก็ยืนอยู่ที่นั่นจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างลึกซึ้ง ในที่สุดมันก็ส่ายหน้าและหัวเราะออกมา

“ข้าสู้ท่านไม่ได้ ได้แต่ต้องยอมแพ้! แต่ขอบอกว่านี่เป็นความสนุกมากที่สุด ที่ข้าได้ต่อสู้มาทั้งหมดในสังเวียนการประลองครั้งนี้!”

“หยางอี้ผ่านเข้าไปในรอบรองชนะเลิศไม่ได้ แต่ถ้าพี่ฟางมีเวลา ได้โปรดไปยังเต๋าคุนหลุน พวกเราจะได้ดื่มด้วยกัน!”

เมิ่งฮ่าวหัวเราะ เขารับรู้ได้ว่าหยางอี้เป็นคนที่โผงผางและซื่อตรง นอกจากนั้นหลายปีที่เมิ่งฮ่าวอยู่ในโลกแห่งการฝึกตนนี้ ทำให้สามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้ไม่ใช่คนที่หน้าซื่อใจคดหรือพวกหลอกลวง เมิ่งฮ่าวจึงพยักหน้าและยิ้มให้กล่าวว่า

“ข้าจะไปเยือนเต๋าคุนหลุนอย่างแน่นอน!”

หยางอี้หัวเราะขณะที่หายตัวไป เพื่อไปปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนใบไม้อีกใบสำหรับการต่อสู้รอบที่สามของมัน

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็นั่งลงขัดสมาธิ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ทันใดนั้นแสงระยิบระยับก็สาดประกายขึ้น ขณะที่การต่อสู้รอบที่สามเริ่มขึ้น ไม่มีคู่ต่อสู้ปรากฏตัวขึ้น แต่ได้ยินเสียงกระหึ่มออกมาแทน ขณะที่โลงศพเก้าโลงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา กระแทกลงมาจากด้านบน

“ซากศพหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังฝานตงเอ๋อร์คือรักแท้ของข้า ดังนั้นข้าจึงไม่ได้ทำร้ายนาง แต่คนที่เหลือทั้งหมดนั้นแตกต่างกันออกไป!” เสียงนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลคล้ายกับหญิงสาว แต่เงาร่างที่เดินออกมาจากกลุ่มแสงนั้นเป็นบุรุษ

นี่คือเซียวหลัวแห่งกู่เซียนหลิง หนึ่งในห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!