ตอนที่ 940
จุดสิ้นสุดของท้องฟ้า!
กายเนื้อเซียนแท้ หมายความว่าเขาคือผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง!
ซึ่งหมายความว่าร่างกายของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้แข็งแกร่งจนถึงระดับที่น่ากลัว เขาถูกแช่อยู่ในแสงเซียน ซึ่งแสงเหล่านั้นได้มารวมตัวกันอยู่ภายในร่างเขา เพื่อสร้างเป็น…ร่างเซียน!
เมิ่งฮ่าวกำมือเป็นหมัด รับรู้ได้ว่าถ้าเขาเข้าไปสู่สิ่งที่ถูกเรียกว่าผู้ฝึกตนอาณาจักรเซียนขั้นสูงสุด แค่หนึ่งหมัดก็สามารถจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
เขารู้สึกได้ถึงพลังของตนเอง ราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐานของตนเองไปโดยสิ้นเชิง แสงและความร้อนอันทรงพลังน่าหวาดกลัวจากก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะอ่อนกำลังลงไปในตอนนี้
“นี่คือพลังของกายเนื้อเซียนแท้…” เขามองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไป และม่านตาก็สาดประกายขึ้นด้วยเปลวไฟ
“ตอนนี้ถึงเวลาที่จะลองดูว่า…ท้องฟ้าอยู่สูงสักเพียงใด!”
เสียงกระหึ่มได้ยินมา ขณะที่เขาพุ่งสูงขึ้นไปในท้องฟ้าอย่างไม่ลดละ
แม้แต่ที่ความสูงระดับหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันจ้าง แสงและความร้อนก็ไม่อาจจะทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกว่าทนทานไม่ได้อีกต่อไป เขากลายเป็นลำแสงพุ่งทะลวงขึ้นมาจากดาวตงเซิ่งอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เมิ่งฮ่าวอยู่สูงขึ้นมามากจนมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ด้านล่างจะสามารถมองเห็นได้ สิ่งเดียวที่คนส่วนใหญ่สามารถมองเห็นก็คือริ้วแสงหลากสีที่เป็นทางยาว จนแทบจะทำให้สวรรค์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวมีชีวิตชีวาขึ้นมา กำลังพุ่งสูงขึ้นไป สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
เมิ่งฮ่าวถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟ ขณะที่พุ่งทะยานสูงขึ้นไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด ถ้ามองดูในระยะใกล้ๆ ก็ไม่อาจจะมองเห็นเปลวไฟเหล่านั้นได้ แต่ถ้ามองขึ้นมาจากด้านล่าง ก็จะสามารถมองเห็นเปลวไฟเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน
เหมือนกับว่าเมิ่งฮ่าวกำลังอยู่ภายในทะเลแห่งเปลวไฟที่ลุกไหม้ขึ้นอย่างน่ากลัว เหมือนกับว่าเขาสามารถจะมีชีวิตอยู่ภายในนั้นไปตราบชั่วกาลนาน!
ผู้ถูกเลือกที่อยู่ในกลางอากาศต่างก็สะท้านอยู่ภายในใจ สำหรับพวกมันแล้ว เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นขุนเขาอันสูงใหญ่ โดยไม่รู้สึกตัวพวกมันทั้งหมดต่างก็ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกันว่า พวกมันอาจจะต้องตามหลังเมิ่งฮ่าวไปตราบชั่วชีวิตนี้
บางทีพวกมันอาจจะไม่มีโอกาสเอาชนะเขาเลยก็เป็นได้ ไม่มีโอกาสที่จะไล่ตามเขาทัน บางที…พวกมันอาจจะต้องตามอยู่ที่ด้านหลังห่างไกลออกไป ไกลออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นได้!
แน่นอนว่าพวกมันไม่มีทางจะรู้ว่า หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่เมื่อในอดีตได้ยกให้เขาเป็น…อันดับที่สิบสามแห่งจิ่วต้าซานไห่! (เก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่)
ฝานตงเอ๋อร์มองไปอย่างเงียบๆ โจวซินไม่กล่าวอะไรออกมา หลี่หลิงเอ๋อร์, ไท่หยางจื่อ, ซ่งหลัวตาน, หวังมู่ และผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ จากสำนักและตระกูลทั้งหมด ต่างก็มีสีหน้าที่ซับซ้อน พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าวที่อยู่ห่างไกลออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นดวงตะวันอันเจิดจ้าที่โอบล้อมไปด้วยเปลวไฟ
ฟางเว่ยสั่นสะท้าน และค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ ทำให้ไม่มีใครมองเห็นความโศกเศร้าและการยอมแพ้ที่อยู่ภายในแววตาคู่นั้นได้
บิดาและปู่ของฟางเว่ยแทบจะคลุ้มคลั่งขึ้นมา พวกมันมองไปยังดวงตะวันอันเจิดจ้าที่อยู่สูงขึ้นไปในท้องฟ้า และความเกรี้ยวกราดอันน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ได้พุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งในจิตใจพวกมัน
ผู้เฒ่าสูงสุดนั่งอย่างเงียบๆ อยู่ในคฤหาสน์โบราณ มองขึ้นไปในท้องฟ้า ไม่มีใครรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ รวมทั้งไม่อาจจะคาดเดาได้ถึงความรู้สึกของมันด้วย
“ฟางฮ่าว…ฟางเว่ย” มันพึมพำ
เมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องด้วยความรวดเร็วสูงสุด คล้ายกับเป็นหงส์เพลิง ราวกับเป็นมังกรปีกวารี แกนมังกรปีกวารีที่อยู่ภายในร่างเขาตอนนี้กำลังหลอมละลาย และส่งต่อความรู้มาให้เขาอย่างรวดเร็ว
แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับมันมากนัก สิ่งเดียวที่เขากำลังคิดอยู่ก็คือว่า…ค้นหาว่าท้องฟ้าอยู่สูงสักเพียงไหน!
สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว เสียงกระหึ่มปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัว ขณะที่บินขึ้นไปอีกสามพันจ้าง จนกระทั่งไปอยู่ที่ระดับความสูงหนึ่งแสนสามหมื่นจ้าง แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดลง
แรงกดดันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การเปลี่ยนแปลงของแสงและความร้อนก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังไม่ยอมลดความเร็วลง หรือหยุดชะงักไปแม้แต่น้อย เขาไร้ขีดจำกัดเช่นเดียวกับจิตเต๋าของตนเอง ซึ่งดูเหมือนว่าสิ่งมัวหมองใดๆ ไม่อาจจะมาแตะต้องได้
หนึ่งวัน, สองวัน, สามวัน…เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งปรากฏการณ์แห่งตงเซิงจือหยาง (ตะวันรุ่งบูรพา) เหลืออยู่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
เมิ่งฮ่าวมุ่งหน้าต่อไป พุ่งทะลุผ่านชั้นอวกาศ มุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่อยู่ในสายตาของเขา ดวงตะวันที่ลอยอยู่ด้านนอกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว!
ตอนนี้เขาเหนือกว่าผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ ทั้งหมด รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นเดียวกันที่มาค้นหาโชควาสนาในการแข่งขันครั้งนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาจะต้องเอาชนะให้ได้…คือตัวเอง
เขาต้องเอาชนะตนเองให้จงได้! เขาจะต้องไล่ตามความฝันของตนเอง! ซึ่งคล้ายกับเป็นเต๋าของตัวเอง เป็นเต๋าที่พยายามจะข้ามภูเขา, แม่น้ำ และทะเลเป็นจำนวนมาก เป็นเต๋าแห่งอิสระและเสรีภาพ ไร้ขีดจำกัดและไร้สิ่งกีดขวางใดๆ สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้ตลอดไป
แม้แต่สวรรค์ก็ยังไม่อาจจะมาขัดขวาง หรือทำให้จิตเต๋าของเขาต้องตกต่ำลงไปได้!
หนึ่งวัน, สองวัน, สามวัน!
131,00 จ้าง 133,000 จ้าง…135,000 จ้าง…
และเขาก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อไป!
ผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ ที่อยู่ในท้องฟ้ามองไปด้วยความเงียบขรึม พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าวและความก้าวหน้าของเขา และความคิดเช่นเดียวกันก็ลอยขึ้นมาอยู่ในจิตใจพวกมันทั้งหมด
“สุดท้าย…มันจะไปได้สูงมากแค่ไหน!?!?”
หลี่หลิงเอ๋อร์กำลังคิดเช่นนี้ เช่นเดียวกับฝานตงเอ๋อร์, ไท่หยางจื่อ และซ่งหลัวตาน
เหล่าผู้อาวุโสต่างๆ กำลังมองไปอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน
“ขอบเขตระหว่างดวงดาวและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวช่างกว้างใหญ่นัก และผันแปรไปด้วยตัวแปรต่างๆ มากมาย ในช่วงที่ดวงตะวันอยู่ใกล้มากที่สุด ขอบเขตนั้นก็ยิ่งจะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น”
หลายวันหลังจากนั้น เมิ่งฮ่าวก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
139,000 จ้าง 140,000 จ้าง!
เมิ่งฮ่าวรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังจะบรรลุถึงจุดสิ้นสุด แสงและความร้อนที่อยู่รอบๆ ตัวได้มาถึงระดับที่สูงขึ้นอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ถึงแม้ว่ากายเนื้อของเขาจะอยู่ในอาณาจักรเซียนแท้ แต่ก็ยังคงรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะถูกหลอมละลายให้กลายเป็นแอ่งน้ำโลหิต และจากนั้นก็จะระเหยกลายเป็นกลุ่มหมอกโลหิตไป
เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน และอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ก็เริ่มทำงานขึ้นอย่างบ้าคลั่งเพื่อช่วยฟื้นฟูและเกื้อหนุน ทำให้เขาสามารถไปได้สูงขึ้นมากกว่าเดิม
“ข้าสามารถไปต่อได้อีก” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาหรี่เล็กลง ขณะที่เพ่งสมาธิไปที่เบื้องหน้าด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่
ตูม!
142,000 จ้าง!
144,000 จ้าง!
146,000 จ้าง!
ดวงตะวันเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงก่ำ และทั่วทั้งร่างก็สั่นสะท้าน ตอนนี้เขากำลังแห้งเหี่ยวลงไป แต่ก็…ยังคงบินสูงขึ้นไป!
เปลวไฟที่อยู่รอบๆ ตัวเริ่มกระจายออกไปอย่างไร้ขอบเขต ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล ก็แทบจะดูเหมือนว่าท้องฟ้ากำลังลุกเป็นไฟ เปลวไฟที่กระจายออกไปคล้ายกับเป็นปีกที่กำลังกระพือขึ้นลง เตรียมพร้อมที่จะโจมตีไปยังสวรรค์
พื้นดินสั่นสะเทือน และจิตใจของพวกที่มองดูอยู่ทั้งหมดสั่นสะท้าน
ในช่วงหนึ่ง ผู้เฒ่าสูงสุดได้โผล่ออกมาจากภายในคฤหาสน์โบราณ ไปยืนอยู่ในเขตสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่กว้างใหญ่ มองขึ้นไปในท้องฟ้าอันไร้ขอบเขต
“เวลาเกือบจะหมดแล้ว…” มันพึมพำเป็นเสียงแผ่วเบาขึ้น
ตอนนี้สายตาทุกคู่ต่างก็มองไปยังเมิ่งฮ่าว ไม่เพียงแต่ตระกูลฟางเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งที่น่าตกใจจากทุกเขตมุมทั้งหมดบนดาวตงเซิ่ง ต่างก็ให้ความสนใจไปยังภาพที่กำลังเกิดขึ้นนี้มานานแล้ว
“นั่นคือใคร?!”
“คนผู้นั้นบินออกมาจากตระกูลฟาง เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็น…ฟางเว่ย?!”
“ฟางเว่ยไม่อาจจะบินได้สูงเช่นนั้น! คนผู้นี้กำลังเข้าไปใกล้กับขอบเขตของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว! เมื่อไหร่ที่มันก้าวเท้าออกไปที่นั่น มันก็จะตายไป ยกเว้นว่ามันจะอยู่ในอาณาจักรเต๋าเท่านั้น!”
ขณะที่ผู้แข็งแกร่งแห่งดาวตงเซิ่งกำลังสั่นสะท้านใจ บนเกาะขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเลบางแห่งบนดาวดวงนี้ ชายชราผู้หนึ่งซึ่งมีกิริยาท่าทางราวกับเป็นเซียนผู้วิเศษ กำลังอ้าปากค้างมองขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง
“ท่านย่ามันเถอะ! เจ้าสารเลวน้อยนั่น…บัดซบ! บัดซบ! เหลาจู่ (ปรมาจารย์) มายังที่แห่งนี้เพื่อหลบซ่อนตัวแต่มัน…มันก็มาหาข้าจนได้!?!?”
ชายชราตกอยู่ในอารมณ์ที่ขุ่นมัว และส่งเสียงกู่ร้องอย่างยาวนานออกมา จนทำให้ทั่วทั้งเกาะนั้นต้องสั่นสะเทือน
ที่กำลังยืนอยู่ที่ด้านข้างชายชราเป็นหญิงสาวเยาว์วัยที่มีความงดงามอย่างน่าตกใจยิ่ง นางยิ้มด้วยความยินดีออกมา ขณะที่มองขึ้นไปในท้องฟ้า
เสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขากัดฟันแน่นและพุ่งสูงขึ้นไปอีก 148,000 จ้าง 149,000 จ้าง!
สีหน้าเมิ่งฮ่าวบิดเบี้ยวขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง ถ้ามองมาจากด้านนอก ก็ดูคล้ายกับว่าร่างกายเขากำลังลุกไหม้เป็นไฟขึ้นอย่างแท้จริง อวัยวะภายในของเขากำลังไหม้เกรียม เขาแทบจะกลายเป็นเถ้าธุลีไปได้ทุกขณะจิต
แต่…เขาก็ยังไม่ยอมหยุด!
149,100 จ้าง 149,300 จ้าง 149,500 จ้าง…
เมิ่งฮ่าวส่งเสียงแผดร้องออกมา ขณะที่เปลวไฟซึ่งปกคลุมไปทั่วร่างเริ่มเข้มข้นมากขึ้น เขาตกอยู่ภายในเปลวไฟไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังบินขึ้นไปอีก 300 จ้าง บรรลุถึงระดับความสูงที่ 149,800 จ้าง
ตอนนี้วันที่สามสิบหกใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เมิ่งฮ่าวมีเวลาเหลืออยู่แค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น!
“ข้าต้องพุ่งผ่านเขต 150,000 จ้างไปให้ได้!” เมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและมุ่งมั่น ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขามองเห็นได้ก็คือความมืดมิดอันกว้างใหญ่
149,900 จ้าง 149,950 จ้าง 149,990 จ้าง…
เวลาผ่านไปทั้งโลกเงียบกริบพื้นดินสงบนิ่ง ความสนใจของคนทั้งหมดเพ่งมองไปยังเมิ่งฮ่าว…ขณะที่เขาบรรลุถึงระดับความสูงที่ 149,990 จ้าง!
ตอนนี้เหลืออยู่เพียงแค่ 10 จ้างเท่านั้น เขาก็จะไปอยู่ที่ระดับ 150,000 จ้าง!!
ยิ่งไปกว่านั้น ก็เหลืออยู่แค่สิบห้าลมหายใจเท่านั้น ก่อนที่ปรากฏการณ์ตงเซิงจือหยาง (ตะวันรุ่งบูรพา) จะสิ้นสุดลง!
สิบจ้างสุดท้ายนี้ดูเหมือนจะใกล้เป็นอย่างยิ่ง แต่ก็เป็นขอบเขตระหว่างดวงดาวและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว!
ท้องฟ้าแห่งดาวตงเซิ่งจะสูงมากแค่ไหน? ในตอนนี้…เมิ่งฮ่าวรู้คำตอบแล้ว ท้องฟ้าอยู่ที่ระดับความสูง…150,000 จ้าง!
ตอนนี้เขามาหยุดอยู่ห่างจากความสูงนั้นเพียงแค่สิบจ้างเท่านั้น ร่างกายถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟ แต่ดวงตากำลังสาดประกายด้วยแสงอันคมกริบ
นอกเหนือจากดวงตะวันขนาดใหญ่แล้ว เขายังมองเห็นภาพแปลกๆ ซึ่งอยู่ที่ด้านนอกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอีกด้วย ราวกับว่ามันได้คงอยู่ในจิ่วต้าซานไห่ (เก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่) มาโดยตลอด มันไม่ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างง่ายดาย และสามารถจะมองเห็นได้จากเหตุการณ์ที่พิเศษเฉพาะเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น
นั่นคือ…สิ่งที่จะปรากฏขึ้น หลังจากที่ได้ครอบครองกายเนื้อเซียนแท้ และกลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง มันคือ…ทัณฑ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์!
มันเป็นเช่นเดียวกับทัณฑ์เซียนแท้ ที่มาพร้อมกับการกลายเป็นเซียนแท้!
ทัณฑ์เซียนมีประตู ทัณฑ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์มีต้นไม้!
แค่หนึ่งก้าวก็จะทำให้เมิ่งฮ่าวออกไปจากดวงดาว และเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวได้
แค่หนึ่งก้าวก็จะทำให้ทัณฑ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ฟาดลงมา!
เมิ่งฮ่าวหยุดอยู่ที่ตำแหน่งความสูง 149,990 จ้าง และมองตรวจสอบออกไปยังที่ห่างไกลอย่างเงียบๆ
ในตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งมีพื้นฐานฝึกตนที่ลึกล้ำ ได้มองไปด้วยความตกตะลึงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“ทัณฑ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์!” ผู้เฒ่าสูงสุดคิด มันหลับตาลง และมือขวาก็กำเป็นหมัดจนแน่น
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่ เป็นการตัดสินใจที่แหลมคมราวกับเป็นใบมีด ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมา
“ถ้าข้าไม่เข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และเผชิญหน้ากับดวงตะวันโดยตรง การเดินทางทั้งหมดนี้ก็จะเสียเปล่า”
“เวลาใกล้จะหมดแล้ว…ถ้าข้าคำนวนไม่ผิดพลาด ข้าสามารถจะอดทนต่อไปได้อีก…สิบลมหายใจ!” ด้วยเช่นนั้นเขาก็มองขึ้นไป รอคอยเป็นเวลาห้าลมหายใจ และจากนั้นก็เคลื่อนที่ขึ้นไปอีกครั้ง
หนึ่งก้าว, สิบจ้าง!
ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวเคลื่อนที่ขึ้นไป กลุ่มผู้ฝึกตนทั้งหมดที่เฝ้ามองดูอยู่บนดาวตงเซิ่งต่างก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง และร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ