Skip to content

King of Gods 1006

King Of Gods

บทที่ 1006 พลานุภาพแข็งแกร่ง

ภายในหอควันสมุทร ผู้เฒ่าชุดแดงดำและชายเกราะทองทะยานออกไปทันควัน

เวลาเดียวกัน ตำแหน่งอื่นในหอควันสมุทร เงาหลายสิบร่างกรูออกมา

“จ้าวเฟิง!” ร่างเฒ่าประหลาดสวีสั่นน้อยๆ ชันกายขึ้นทันที

“ผู้อาวุโสสูงสุด!” แววตาของจานเจี๋ยเอ๋อร์เต็มไปด้วยความชื่นชมบูชา

ยังมีสมาชิกจำนวนมากในหอควันสมุทรตื่นเต้น มองขึ้นไปบนฟ้า ราวกับแค่ผู้อาวุโสสูงสุดจ้าวเฟิงกลับมา ฝันร้ายนี้ก็จะจบลง

“นายท่าน ช่วยพวกเฒ่าประหลาดสวีกับเซียนราตรีทมิฬก่อน!”

ปี้ชิงเยวี่ยใช้ตราผนึกดวงใจทมิฬสื่อสารกับจ้าวเฟิง

ในเวลานี้พวกเขาสองคนโดนพิษ จะต้องรีบรักษาให้ไวที่สุด

จ้าวเฟิงมองสมาชิกของหอควันสมุทรที่โดนกักขังอยู่ในค่ายกลแวบหนึ่ง ยังมีสมาชิกในที่สีหน้าหนักอึ้งลงไปเล็กน้อย

เขาพอเข้าใจเรื่องราวคร่าวๆ ของที่นี่ผ่านทางปี้ชิงเยวี่ย

ขั้วอำนาจสามดาวสองกลุ่มที่ยึดครองหอควันสมุทรคือ ‘หอแปดดารา’ รวมไปถึง ‘สำนักปีศาจเพลิง’ ที่เป็นสำนักศาสตร์ซากศพที่อยู่ด้านข้าง

ขั้วอำนาจใหญ่ทั้งสองกลุ่มอาศัยโอกาสตอนที่จ้าวเฟิงและคนระดับสูงของหอควันสมุทรจากไปเข้ายึดครอง ในเวลาเดียวกันยังวางหลุมพรางไว้ ทำให้เฒ่าประหลาดสวี ปี้ชิงเยวี่ย และคนอื่นๆที่เพิ่งกลับมารับมือไม่ทัน

แต่เห็นได้ชัดเลยว่าขั้วอำนาจสองกลุ่มนี้คิดจะฮุบขั้วอำนาจที่จ้าวเฟิงอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ไล่ล่าสังหาร บางทีพวกเขาอาจจะมีจุดมุ่งหมายอื่นอยู่ด้วย

“เจ้าก็คือจ้าวเฟิง? ”

ชายเกราะทองเอ่ยเสียงต่ำ กึกก้องฟ้าดินฟากหนึ่ง

“เจ้าพูดมากไร้สาระเสียจริง กำจัดเขาไปซะก็น่าจะพอแล้ว!”

ผู้เฒ่าชุดดำแดงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอำมหิตอย่างอดรนทนไม่ไหว

เป้าหมายของพวกเขาสองสำนักมีแค่จ้าวเฟิงเท่านั้น

ขอแค่กำจัดจ้าวเฟิงได้ หอควันสมุทร สำนักศักดิ์สิทธิ์วั่น และขั้วอำนาจลอบสังหารแห่งหนึ่ง รวมไปถึงสมบัติล้ำค่าของจ้าวเฟิงก็จะเป็นของพวกเขา

“เจ้าไม่เห็นพวกลูกหลานตระกูลจีที่อยู่ข้างจ้าวเฟิงหรืออย่างไร?”

ชายเกราะทองลอบส่งกระแสจิต

ในรายงานข่าวสารที่พวกเขาได้รับ จ้าวเฟิงน่าจะมีความสัมพันธ์ส่วนหนึ่งกับตระกูลตวนมู่เท่านั้น แต่ตระกูลตวนมู่จัดอยู่ในลำดับท้ายสุดของแปดตระกูลใหญ่ และยังอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอย่างมากด้วย ต่อให้พวกเขายึดขั้วอำนาจของจ้าวเฟิงไป เชื่อได้ว่าตระกูลตวนมู่ก็คงจะไม่ทำอะไรพวกเขา

แต่ตระกูลจีต่างกันออกไป ตระกูลจีอยู่ไม่ไกลจากฝั่งทะเลมากนัก พลังอำนาจของตระกูลจีนับว่ากลางค่อนไปสูงในบรรดาแปดตระกูล

“ช่างโง่งมเสียจริง ไม่ต้องสนใจคนของตระกูลจี กำจัดจ้าวเฟิงทิ้งไปก็พอ!”

ผู้เฒ่าชุดแดงดำเอ่ยอย่างดูแคลน

ถ้าหากจ้าวเฟิงมาเพียงคนเดียวก็อาจมีปัญหา

แต่จ้าวเฟิงคิดว่าพาคนของตระกูลจีมาแล้วพวกเขาจะตกใจหนีไป เช่นนั้นก็ผิดพลาดอย่างมหันต์แล้ว

“บอกมา คนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร เห็นแก่ที่พวกเจ้าไม่ได้ทำร้ายสมาชิกหอควันสมุทร จะไว้ชีวิตพวกเจ้าแล้วกัน!”

จ้าวเฟิงโพล่งขึ้นมา

หอแปดดาราและสำนักปีศาจเพลิงเป็นขั้วอำนาจสามดาวแถบชายฝั่งที่อยู่ใกล้แผ่นดินใหญ่

สำนักทั้งสองแห่งนี้และหอควันสมุทรไม่มีความแค้นต่อกัน

ต่อให้ตอนอยู่ในมิติเทพลวงตา จ้าวเฟิงเคยปล้นชิงทรัพยากรของหอแปดดารา ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลให้หอควันสมุทรโดนหอแปดดาราจับจ้องแบบนี้

สำนักธรรมะและอธรรมสองแห่งร่วมมือกันอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ เพื่อโจมตีและยึดครองขั้วอำนาจของเขาเบื้องหลังจะต้องมีใครคอยบงการอยู่แน่

“ฮ่าๆ จะตายอยู่แล้วยังจะพูดจาไร้สาระอยู่อีก!” ผู้เฒ่าชุดแดงดำเอ่ยหยามเหยียด

จักรพรรดิผู้หนึ่งกลับกล้าพูดคุยกับเซียนสองคนเช่นนี้

ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะอยู่ในขอบเขตเทวาเร้นลับช่วงแรกเริ่ม แต่พลังกลับแข็งแกร่งกว่าเฒ่าประหลาดสวีที่เพิ่งจะทะลวงขั้นเซียนขอบเขตเทวาเร้นลับไม่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังพาปฐมเซียนสองคนจากขั้วอำนาจของแต่ละคนมาด้วย

วูบ! เงาคนในชุดแดงดำและชายเกราะทองพุ่งทะยานมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจักรพรรดิและปฐมเซียนจำนวนมากจึงตามมาติดๆ

“ไม่ต้องทำร้ายคนของตระกูลจี สังหารจ้าวเฟิงก็พอ! ”

เสียงของผู้เฒ่าชุดแดงดำดังขึ้นในชั้นวิญญาณของคนที่เหลือ

กลุ่มคนของตระกูลจีสับสนวุ่นวายขึ้นมาทันใด หากภารกิจนี้ไม่ใช่เซียนซิงหมัวกำชับด้วยตนเอง พวกเขาก็คงหนีไปนานแล้ว

อีกอย่าง เรื่องที่จ้าวเฟิงจัดการจีเซิ่งหมิงในชั่วพริบตาเดียวที่ด้านนอกหอคอยดาราม่วงก็ได้แพร่กระจายออกมาแล้ว ดังนั้นลูกหลานจำนวนเล็กน้อยของตระกูลจีจึงยอมรับในศักยภาพของจ้าวเฟิงพอควร

“อย่าลนลานไป ฟังคำสั่งของจ้าวเฟิง หอแปดดาราและสำนักปีศาจเพลิงยังไม่กล้าทำอะไรกับพวกเราตระกูลจี!”

เสียงของจีหลานดังขึ้นในใจเหล่าคนมากมายของตระกูลจี

จีหลานเชื่อมั่นในพลังของจ้าวเฟิง เมื่ออยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์พร้อม บวกกับความช่วยเหลือจากคนจำนวนมากของตระกูลจี ก็มากพอจะรับมือกับเรื่องตรงหน้า

สีหน้าจ้าวเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง มองขั้วอำนาจทั้งสองที่พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง

พลังดวงตาแข็งแกร่งเอ่อล้นในดวงตาซ้ายของเขา

“เขตแดนคุกมายา!”

พลังวิญญาณที่ไร้ขอบเขตในกายวิญญาณอัสนีทะลักเข้าไปในดวงตาซ้าย

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงกลายเป็นโลกเขาวงกตสีทองม่วงไร้ขอบเขต แผ่แรงดึงดูดที่ทรงพลังออกมา

วิ้ง!

ยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่ด้านหน้าจ้าวเฟิง มองไปยังดวงตาของเขาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว พลันรู้สึกว่าความคิดจิตวิญญาณถูกควบคุม ดิ้นรนอย่างสุดแรงเกิด แต่ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ ไม่นานนัก แวววตาของพวกเขาก็หม่นแสงลงไปสิ้น

ฟิ้ว! สมาชิกหลายสิบคนที่ทะยานตามชายเกราะทองและผู้อาวุโสชุดดำแดงมา ทั้งหมดชะงักอยู่ที่ไกลๆ นิ่งเหมือนวิญญาณหลุดลอย

ส่วนชายเกราะทองและผู้เฒ่าชุดแดงดำโคจรพลังวิญญาณทั้งหมด ถึงจะต้านทานวิชาดวงตาที่น่ากลัวเอาไว้ได้

“นี่…มันเรื่องอะไรกัน? ”

ผู้เฒ่าชุดแดงดำรู้สึกได้ถึงสิ่งไม่ชอบมาพากล เกิดความหวาดกลัวอย่างมาก

เขามองไปที่เด็กหนุ่มดวงตาสีทองด้านหน้า ร่างกายสั่นอย่างหวาดกลัว

“เป็นไปได้อย่างไร พลังวิญญาณช่างแข็งแกร่งนัก…”

ชายเกราะทองเหงื่อเย็นเต็มแผ่นหลัง

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คาดคิดไม่ถึง การต่อสู้ยังไม่เริ่มขึ้นก็จะจบลงแบบนี้

เพียงแค่สายตาปราดเดียวของจ้าวเฟิงก็สังหารยอดฝีมือทั้งหมดนอกเหนือจากพวกเขาสองคนในพริบตาเดียว

เป็นไปได้อย่างไรกัน? เขาอยู่ในขั้นจักรพรรดิเองไม่ใช่หรือ?

เหตุใดวิชาดวงตาของขั้นจักรพรรดิถึงส่งผลต่อคนในขั้นเซียนได้?

แต่คนตระกูลจีจำนวนมากด้านหลังจ้าวเฟิงตื่นตระหนก ก่อนอึ้งไป

คิดไม่ถึงว่าไม่ต้องให้พวกเขาลงมือด้วยซ้ำ!

“นี่…” จีหลานพูดไม่ออก

ถึงแม้ว่านางพอเดาได้รางๆ ว่าพลังของจ้าวเฟิงที่อยู่ในสภาวะสมบูรณ์คงทำให้นางตื่นตะลึง แต่ไม่ใช่แบบนี้!

ปฐมเซียนสองสามคนและจักรพรรดิหลายสิบคน ไม่มีแรงจะต้านทานวิชาดวงตาของจ้าวเฟิงเลย

จ้าวเฟิงมองไปยังสนามรบ “พลังของวิชาดวงตาแตกกระสานซ่านเซ็น ไม่สามารถคุกคามเซียนได้อีกแล้ว!”

แน่นอน ตัววิชาดวงตากระบวนท่านี้ของจ้าวเฟิงเป็นวิชากักขังศัตรู และสามารถทำลายกำลังรบส่วนหนึ่งของฝ่ายศัตรูได้ในพริบตา แรงโจมตีไม่มากนัก

“รีบบุก วิญญาณของเจ้าเด็กนี่แข็งแกร่งเกินไป!”

ชายเกราะทองหน้าไม่เปลี่ยนสี พูดกับผู้เฒ่าชุดแดงดำ

ผู้เฒ่าชุดแดงดำค่อนข้างชำนาญขอบเขตวิญญาณ จึงพอจะต้านทานวิชาดวงตาศาสตร์วิญญาณของจ้าวเฟิงได้

“ขอบเขตวิญญาณของเจ้าเด็กนี่แข็งแกร่งเช่นนี้ เจ้าแค่ต้องต้านทานการโจมตีทางวิญญาณของเขา ส่วนข้าจะโจมตีกายเนื้อเอง!”

ชายเกราะทองเอ่ยต่อ

“ได้!”

ผู้เฒ่าชุดแดงดำกัดฟัน แปลงกายเป็นเพลิงวิญญาณแดงดำสายหนึ่ง โผมาจู่โจมจ้าวเฟิงในทันที

ถ้าหากพวกเขาเซียนสองคนโดนจ้าวเฟิงโจมตีจนพ่าย เช่นนั้นแล้วสำนักของพวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ในเวลาเดียวกัน น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของผู้เฒ่าชุดแดงดำก็ดังขึ้นในวิญญาณของชายเกราะทอง “หรือว่าเซียนเงาทมิฬนั่นจะหลอกพวกเราอยู่?”

สีหน้าชายเกราะทองเคร่งเครียดเล็กน้อย แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางให้ถอยแล้ว

“รนหาที่ตาย!” จ้าวเฟิงเอ่ยออกมาเบาๆ สีหน้าเย็นชาดุดัน

ดวงตาซ้ายของเขาทะลักเพลิงพลังดวงตาที่น่ากลัวออกมา ระลอกแสงสีทองเจือม่วงไหลวน ลายอัสนีเทวะสีทองเข้มกระจาย

โครม! กลุ่มเพลิงอัสนีสีทองม่วงที่โปร่งแสง พร้อมกลิ่นอายอัสนีเทวะทำลายล้าง โจมตีไปบนกลุ่มเพลิงปีศาจดำแดง

“อึก อ๊าก…”

ผู้เฒ่าชุดแดงดำพลันร้องเสียงแหลม ชั้นวิญญาณและร่างกายเผชิญกับการลุกลามทำลายของเพลิงอัสนี เผาผลาญไม่หยุดหย่อน

จากประสบการณ์ในหอคอยดาราม่วง พลังวิญญาณของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งมากขึ้น จนสามารถใช้วิชาดวงตาไปถึงขอบเขตพลังอีกขั้นหนึ่ง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเซียนทั่วไปที่ไม่ถูกกดพลัง เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้าของจ้าวเฟิงก็ยังคงสามารถทำให้พวกเขาเจ็บหนักได้อยู่ดี

จ้าวเฟิงบินออกมาทันที

ตูม! จ้าวเฟิงโคจรพลังแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ซัดหมัดเข้าโจมตีผู้เฒ่าชุดแดงดำจนกระอักเลือด

ปฐมเซียนทั่วไป เมื่อโดนซัดด้วยหมัดแบบนี้ของจ้าวเฟิงจะต้องตายอย่างแน่นอน

แต่กายศักดิ์สิทธิ์ของเซียนจะต่างออกไป สำหรับภยันอันตรายจากคนที่ขอบเขตพลังต่ำกว่า จะมีแรงป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง พลังฟื้นฟูก็น่าทึ่งมาก

“เหอะ!” จ้าวเฟิงระเบิดพลังหมัดที่แฝงไปด้วยพลังอัสนีเทวะจำนวนมากอีกครั้ง โจมตีไปบนแสงวนพลังศักดิ์สิทธิ์บนจุดตันเถียนของผู้เฒ่า

ในยามที่จักรพรรดิทะลวงขั้นเซียน มิติแก่นผลึกในร่างจะเปลี่ยนสภาพเป็นแสงวนพลังศักดิ์สิทธิ์

โครม บึ้ม! ร่างของผู้เฒ่าชุดแดงดำสลายไปในอากาศ วิญญาณแตกสลายเป็นผุยผงเพราะการกดทับจากพลังวิญญาณของจ้าวเฟิง

เหลือเพียงกำไลเก็บของวงหนึ่งเอาไว้ จ้าวเฟิงจึงเก็บเข้าไปในมนตราอากาศ

ผู้เฒ่าชุดแดงดำก็เป็นขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นแรกเริ่มเหมือนกัน แต่ด้อยกว่าพวกเซียนไป่เลี่ยนในสุสานราชวงศ์อย่างมาก

ครั้งนี้จ้าวเฟิงก็ใช้พลังของตนเองสังหารเซียนได้สำเร็จ

ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักปีศาจเพลิงตายตกไปเช่นนี้!

คนอื่นในตระกูลจีรวมถึงจีหลานร่างกายสั่นสะท้าน

เซียนขอบเขตเทวาเร้นลับที่เกรียงไกรในดินแดนทวีปมาตายอย่างง่ายดายเช่นนี้ ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเกินจริงยิ่งนัก

ลูกหลานตระกูลจีพวกนั้นเพิ่งจะมาเข้าใจเอาในตอนนี้ว่าตนเองโชคดีมาก ออกเดินทางมาเพียงครั้งเดียวก็ได้รับรางวัลภารกิจที่มากมายของตระกูลมา

“ผู้อาวุโสสูงสุด!” สมาชิกจำนวนมากของหอควันสมุทรเลือดลมในร่างปั่นป่วน!

นี่สิถึงเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขา มีพลังน่าสะพรึง สามารถบดขยี้ผู้รุกรานได้

ชายเกราะทองเคลื่อนไหวเชื่องช้า ชะงักในฉับพลัน ถอยร่นไปหลายก้าว ขนลุกชันทั่วร่างกาย พลังหนาวเหน็บแห่งความตายแทรกซึมทั่วร่าง

“ทำไมแข็งแกร่งมากขนาดนี้? เป็นไปได้อย่างไรกัน? จักรพรรดิไยจึงสังหารเซียนได้ง่ายดายเช่นนี้? ”

ชายเกราะทองตะโกนก่นด่าในใจไม่หยุด

“บ้าเอ๊ย ถูกเซียนเงาทมิฬขายเสียแล้ว!”

หลังลังเลครู่หนึ่ง ชายเกราะทองจึงกัดฟันเอ่ย “จ้าวเฟิง ปล่อยหอแปดดาราไป พวกเรายินดีจะชดเชยความเสียหายทั้งหมดให้กับหอควันสมุทร แล้วข้าจะบอกนามคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง!”

พลังของจ้าวเฟิงทำให้เขาไม่กล้าต่อต้าน

“ไม่ต้องแล้ว!” จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเรียบ

ณ พื้นที่ลึกลับไกลออกไปหลายพันลี้ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สุ่ยวัน สีหน้าของร่างดำกึ่งโปร่งแสงพลันเปลี่ยนสี “เจ้าพวกไร้ประโยชน์ฝูงนี้ ไม่ได้การ ถูกเจอตัวแล้ว!”

วิญญาณของเซียนเงาทมิฬสั่นสะท้าน กลายเป็นเส้นแสงมืดสนิทวูบวาบแล้วจึงหายไป

“บัญชีของหอแปดดารา ไว้ข้าค่อยกลับมาคิดอีกที!”

จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็น ปราณแท้จริงวายุอัสนีทะลักออกมาในฟ้าดินรอบบริเวณ ปีกแสงอัสนีสีชาดคู่หนึ่งก่อตัวขึ้นทันที

แซ่ด พรึ่บ! ปีกด้านหลังจ้าวเฟิงเปล่งแสงทองเจิดจ้า กลายเป็นเส้นสายฟ้ายาวเส้นหนึ่งแล้วจึงหายไปอย่างรวดเร็ว

“ช่างรวดเร็วยิ่งนัก!”

ชายเกราะทองแข็งค้างราวท่อนไม้ หวาดกลัวจับใจ

เมื่อครู่เขาเคยคิดจะหนีไป แต่อัจฉริยะและผู้อาวุโสจำนวนมากของหอแปดดาราซึ่งเดินทางมาด้วยต่างก็อยู่ที่นี่ทั้งสิ้น

“คิดไม่ถึงว่าข้าจะเชื่อคำพูดของวังเก้านิรย จนมาทำเรื่องแบบนี้!”

ชายเกราะทองหัวเราะเยาะตัวเอง

และตอนนี้ ในกลุ่มคนหลายสิบคนที่ตกอยู่ภายใต้วิชาลวงตาของจ้าวเฟิง ปฐมเซียนที่พลังวิญญาณค่อนข้างแข็งแกร่งถึงค่อยๆ ได้สติคืนมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!