Skip to content

King of Gods 1022

King Of Gods

บทที่ 1022 พลานุภาพวิชาฝ่ามือ

การรบของทั้งสองฝ่าย เซียนเป็นผู้ที่มีกำลังรบสูงสุด อยู่สูงเกินจะเอื้อมในสายตาของพลทหารนับพันนับหมื่น

การรบของเซียนทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง ทว่าตั้งแต่ที่ราชวงศ์ทั้งสองต่อสู้กันมา น้อยครั้งนักจะเกิดสถานการณ์ที่เซียนตายลงไป

อย่างไรเสีย ทุกเมืองก็จะมีเซียนคนถึงสองคนคอยดูแลอยู่ ในสถานการณ์ที่พลังไม่ต่างกันมากนัก เซียนจะไม่โดนสังหาร

แต่ในตอนนี้ พวกต่างเผ่าพันธุ์ที่เดิมทีเหนือกว่าโดยสิ้นเชิง กลับต้องสูญเสียเซียนไปผู้หนึ่ง!

“ท่านขวงลี่!”

“เซียนขวงลี่ตายแล้ว!”

“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

บนสนามรบ พลทหารและแม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์จำนวนนับไม่ถ้วนตื่นตระหนก ไม่อยากจะเชื่อ

พวกเขาคิดภาพไม่ออกเลยว่า เมืองเจียเป่าที่ไม่มีแม้แต่เซียนสังหารเซียนขวงลี่ได้อย่างไร

ในใจพวกต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความกลัว ขวัญกำลังใจที่เดิมฮึกเหิมก็พลันห่อเหี่ยวลงไป

แม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์หลายคนที่ต่อสู้กับจ้าวเฟิงเมื่อครู่ยิ่งใจเต้นระรัว ขนพองสยองเกล้า

“นี่เป็นพลังที่แท้จริงของเขารึ?”

“ต่อให้เขามีขอบเขตพลังขั้นปฐมเซียนก็เถอะ เหตุใดถึงสังหารเซียนขวงลี่ลงได้!”

แม่ทัพต่างเผ่าพันธุ์สามคนไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาประมือกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่น่ากลัวแบบนี้มาตลอด

เห็นได้ชัดเจนว่ามนุษย์ผู้นี้ซุกซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ เป้าหมายแท้จริงไม่ใช่เพื่อสังหารพวกเขา แต่เพื่อสังหารเซียน !

ย้อนมองที่ฟากของมนุษย์ ความสิ้นหวังแต่เดิมมลายหายทันที เสียงร้องตะโกนนับไม่ถ้วนดังขึ้น กึกก้องทั่วฟ้า

“เซียนต่างเผ่าพันธุ์ตายแล้ว!”

“นี่คือยอดฝีมือผู้เป็น ‘อาวุธลับ’ ที่ติดตามองค์รัชทายาทมางั้นหรือ?”

“ที่แท้แล้วพวกเรามีกำลังรบขั้นเซียนปกปักดูแลอยู่!”

พลทหารเผ่าพันธุ์มนุษย์มากมายฮึกเหิมเกินจะเปรียบ แม่ทัพส่วนหนึ่งที่เคยได้ยินเรื่องของจ้าวเฟิง ต่อให้เห็นจ้าวเฟิงลงมือสังหารเซียนด้วยตาตนเองก็ยังไม่กล้าเชื่อ

“จ้าวเฟิง!”

เถี่ยหงหลิงลอยตัวอยู่กลางอากาศ

แต่เดิมนางคิดว่าเมื่อมีปฐมเซียนสองคนเพิ่มมา ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ นางก็คงจะทำให้เซียนขวงลี่บาดเจ็บสาหัสได้ ถึงขั้นใช้ไพ่ไม้ตายบางอย่างเพื่อจะสังหารเขา

แต่จ้าวเฟิงกลับแย่งเหยื่อของนางไปอย่างสบายๆ สังหารอีกฝ่ายได้ในฉับพลัน

อีกทั้งพลังที่จ้าวเฟิงสำแดงออกมาแตกต่างกับตอนที่ ‘ประลองสามกระบวนท่า’ กับนางอย่างสิ้นเชิง พลังกายแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าหนึ่งเป็นอย่างน้อย

“หรือว่าเขาจะซ่อนพลังเอาไว้ตลอดมา?”

เถี่ยหงหลิงสงสัย หากในตอนนั้นจ้าวเฟิงแสดงพลังออกมาเช่นนี้ นางต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ชายที่ยอดเยี่ยมแข็งแกร่งเช่นนี้ ทั้งยังครอบครองสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบของตระกูลเถี่ย เถี่ยหงหลิงใจเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!

“เจ้ามนุษย์นี่!”

แววตาเซียนซุ่นอิ่งหวาดกลัวอย่างยิ่ง มองเซียนขวงลี่ที่วิญญาณหลุดลอย และเด็กหนุ่มผู้มีแววตาเย็นชาผู้นั้น

ในตอนนี้ เซียนซุ่นอิ่งเข้าใจในที่สุด นี่คือแผนการของฝ่ายมนุษย์ จงใจโยกย้ายกำลังรบขั้นเซียนไปเพื่อล่อลวงให้พวกเขาติดกับ ความจริงแล้วพวกมนุษย์วางแผนส่งปฐมเซียนที่กำลังรบไม่ด้อยไปกว่าเซียนชั้นยอดมา

ทว่า เหตุใดเด็กหนุ่มผู้นี้จึงไม่โจมตีเซียนขวงลี่ตั้งแต่แรก แต่รอให้ตนเองลงมือก่อน เขาถึงปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา?

“ต่อไปก็เป็นตาเจ้าแล้ว!”

แววตาของจ้าวเฟิงทอดมองเซียนซุ่นอิ่งที่อยู่ด้านล่าง!

“อะไรนะ!” เซียนซุ่นอิ่งเข้าใจในฉับพลัน ใจสั่นรัว

เหตุผลที่เด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ยอมแสดงพลังที่แท้จริงออกมา เป็นเพราะต้องการจะสังหารเขาด้วยเช่นกัน!

“เหอะ เจ้ามนุษย์พูดไม่อายปาก!”

เซียนซุ่นอิ่งแค่นเสียงเย็น

ถึงจ้าวเฟิงจะสังหารเซียนขวงลี่ได้สำเร็จ แต่ก็เป็นเพราะลงมือกะทันหันและลอบสังหารก่อน บนสนามรบ ใครก็คงไม่คิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เซียนขวงลี่จึงชะล่าใจเกินไป และถูกกำจัดไปอย่างง่ายดาย

แต่ทว่า สถานการณ์การรบไม่สู้ดีนักจริงๆ

เซียนซุ่นอิ่งเชื่อว่าหากสู้กันตัวต่อตัว จ้าวเฟิงไม่อาจจะสังหารเขาได้ แต่วันนี้เป็นสนามรบ ฝ่ายตรงข้ามยังมีสตรีตระกูลเถี่ยที่กล้าแกร่งอย่างมากนางนั้นด้วย

โครม!

เหนือเมืองเจียเป่า องค์ชายเก้ากำกระบี่อัสนีคราม โคจรพลังชะตามังกรแล้วพุ่งทะยานออกไปในทันที

“ถอยเต็มกำลัง!” เซียนซุ่นอิ่งตะเบ็งเสียงดัง ถ่ายทอดคำสั่งทหาร

พวกต่างเผ่าพันธุ์ที่กำลังสู้รบ เมื่อได้ยินคำบัญชาการจึงหนีกลับไปที่เมืองมังกรจันทราอย่างไม่คิดชีวิต

คำสั่งถอยทัพ ปกติมีอยู่สองประเภท หนึ่งคือ ‘ถอยทัพ’ โดยปกติแล้วจะโจมตีไปพลางถอยทัพไปพลาง ส่วนอีกประเภทคือ ‘ถอยเต็มกำลัง’ คือถอดใจไม่รับมืออะไรทั้งสิ้น และถอยร่นไปอย่างไม่สนสิ่งใด

และในเวลานี้พวกต่างเผ่าพันธุ์เลือกที่จะถอยเต็มกำลัง!

เปรี๊ยะ! เซียนซุ่นอิ่งกลายร่างเป็นลำแสงสีดำสนิท หนีไปทางด้านหลัง

“หยุดตรงนั้น!”

ปีกด้านหลังของจ้าวเฟิงสาดซัดวายุอัสนีธาตุไฟระยิบระยับ กระตุ้นความเร็วของเขาไปจนถึงขีด ร่างจ้าวเฟิงสว่างวาบแล้วหายไป มาปรากฏด้านหน้าเซียนซุ่นอิ่ง แก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์กดดันออกมา ขัดขวางอีกฝ่ายไว้

“เจ้ามนุษย์ชั่ว ไสหัวไป หากต่อสู้กันตัวต่อตัวจริงๆ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้างั้นรึ!”

เซียนซุ่นอิ่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถึงแม้ว่าเขาชำนาญในเรื่องความเร็ว แต่ความเร็วของมนุษย์ตรงหน้าไม่ด้อยไปกว่าเขาแม้แต่น้อย

มือสองข้างของเซียนซุ่นอิ่งกลายเป็นก้ามแมงป่องขนาดใหญ่ ตรงไปหาจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงไม่หลบไม่ถอย โคจรวายุอัสนีธาตุไฟ ทั่วร่างเรืองรองไปด้วยสายฟ้าสีทองแดงเป็นประกาย

โครม!

จ้าวเฟิงตั้งรับการโจมตีของเซียนซุ่นอิ่งอย่างซึ่งหน้า พร้อมสะบัดฝ่ามือออกไป

“แรงป้องกันร่างกายนี้!” เซียนซุ่นอิ่งรู้สึกว่าก้ามแมงป่องชาวาบ

เด็กหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ใช้เพียงร่างกายตั้งรับการโจมตีของเขา จะต้องรู้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์แมงป่องชำนาญการโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิต พลังโจมตีแข็งแกร่งเกินจะเปรียบ จึงอยู่เหนือยอดฝีมือที่ฝึกฝนร่างกายระดับหนึ่ง

“สังหารต่างเผ่าพันธุ์!”

องค์ชายเก้าชูกระบี่อัสนีคราม ถ่ายทอดคำสั่ง

โครม บึ้ม…

ในฟากมนุษย์ กำลังทหารและแม่ทัพต่างไล่ล่าสังหารอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ

ส่วนองค์ชายเก้าและเถี่ยหงหลิงไล่ตามเซียนซุ่นอิ่งไปทันที

“วุ่นวายกับเจ้าต่อไปไม่ได้แล้ว!”

เซียนซุ่นอิ่งรีบบีบป้ายส่งข่าวชิ้นหนึ่ง ก่อนหายไปจากเส้นทางการโจมตีของจ้าวเฟิง

“จ้าวเฟิง ขัดขวางเซียนซุ่นอิ่งเอาไว้ อย่าให้เขาหนีไปได้!”

องค์ชายเก้ากลายร่างเป็นแสงอัสนีสีครามโบยบินมาอย่างรวดเร็ว

เซียนต่างเผ่าพันธุ์สามารถสังหารได้ก็ต้องรีบสังหารทิ้ง หากปล่อยให้หนีไป ในภายหน้าเซียนซุ่นอิ่งจะต้องกลับมาอีกครั้ง และสังหารมนุษย์ทิ้งแน่นอน

“เหอะ!”

จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็น ด้านหลังมีเมฆดำสายฟ้ากว้างใหญ่ขยายออก แล้วจึงหลอมรวมเข้าไปฟ้าดินกว้างใหญ่ทันที

วินาทีต่อมา เซียนซุ่นอิ่งอยู่ภายในมิติที่เต็มไปด้วยวายุอัสนีบ้าคลั่งรุนแรง กฎเกณฑ์แห่งพลังที่น่ากลัวกดดันเขาเอาไว้ จนความเร็วช้าลง

‘มิติส่วนตัวของเจ้าเด็กมนุษย์คนนี้แปลกประหลาดนัก!’

เซียนซุ่นอิ่งตื่นตะลึง เขาไม่เคยเห็นโลกมิติส่วนตัวของปฐมเซียนคนไหนมีพลานุภาพเช่นนี้

เขารู้สึกได้ว่าในโลกมิติส่วนตัวของมนุษย์ผู้นี้มีกลิ่นอายบรรพกาลผิดธรรมดา

ตูม!

เซียนซุ่นอิ่งไม่กล้าชะล่าใจ รีบปลดปล่อยพลังเงาโลกมิติส่วนตัวออกมา

ชั้นมิติชื้นแฉะที่มีสายน้ำดำมืดไหลบ่า ปะทะเข้ากับโลกมิติส่วนตัววายุอัสนีของจ้าวเฟิง

โลกมิติส่วนตัวของเซียนจะครอบครองพลังที่ต่างกันออกไป ถึงแม้จะมีเพียงพลังจากเงา ก็สามารถทำลายโลกมิติส่วนตัวของจักรพรรดิทั่วไปได้อย่างง่ายดาย

แต่ในวินาทีดังกล่าว เงาโลกมิติส่วนตัวของเซียนซุ่นอิ่งได้เปรียบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อปะทะกับโลกมิติส่วนตัววายุอัสนีของจ้าวเฟิง

เซียนซุ่นอิ่งเองก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ขอแค่เขาไม่โดนโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงขัดขวาง ก็จะหนีรอดไปได้อย่างราบรื่น ความเร็วขององค์ชายเก้าและเถี่ยหงหลิงที่ตามมาด้านหลังช้าอยู่เล็กน้อย ไม่อาจจะไล่ตามทันในเวลาสั้นๆ

“ฮ่าๆ ได้ลองพอดีเลย!” จ้าวเฟิงระบายยิ้มออกมา

อย่างไรก็เป็นเงาโลกมิติส่วนตัวของเซียน โลกมิติส่วนตัววายุอัสนีของจ้าวเฟิงสามารถต้านทานได้ก็ไม่เลวมากแล้ว

วู้ม แซ่ด!

วายุอัสนีธาตุไฟหมุนวนทั่วร่างจ้าวเฟิงอย่างบ้าคลั่ง พลังแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ค่อยๆ รวมตัวในฝ่ามือขวา

เวลาเดียวกัน โลกมิติส่วนตัววายุอัสนีก็เพิ่มพลังให้กับจ้าวเฟิงด้วย

“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา ฝ่ามือพิฆาตโลกา!”

วินาทีที่จ้าวเฟิงฟาดฝ่ามือลงมา แก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขาอ่อนแรงลงไปเล็กน้อย

แล้วจึงเห็นเงาฝ่ามือทองแดงใหญ่ราวภูผา สายฟ้าเป็นประกายไร้จุดสิ้นสุด พุ่งไปด้านหน้า ทำลายทุกสรรพสิ่งที่ขวางหน้าไปจนสิ้น

ตู้ม! ฝ่ามือของจ้าวเฟิงตรงไปโจมตีบนเงาโลกมิติส่วนตัวของเซียนซุ่นอิ่ง

โครม แซ่ด!

แก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์และพลังวายุอัสนีที่แกร่งกล้า ถูกปลดปล่อยออกมาผ่านเสวียนอ้าวของ ‘ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา’ แทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างเงาโลกมิติส่วนตัวแห่งนั้น

“เป็นไปได้อย่างไร…โครงสร้างมิติส่วนตัวของข้า!”

เซียนซุ่นอิ่งใจเต้นรัว

เขาพลันรู้สึกว่าโลกมิติส่วนตัวในร่างสั่นไหว โครงสร้างรากฐานของมันถูกทำลายไปบางส่วน

และในเวลาเดียวกัน โลกมิติส่วนตัวที่เขาปลดปล่อยออกมาเริ่มจะวุ่นวาย พลังอ่อนแอลงไป พลานุภาพของฝ่ามือสายฟ้าทลายนภาปะทะเข้าใส่ร่างของเซียนซุ่นอิ่ง

โครม!

โลกมิติส่วนตัววายุอัสนีของจ้าวเฟิงทะลวงเข้าไปเมื่ออีกฝ่ายเผลอ กำราบโลกมิติส่วนตัวพลังเงาของเซียนซุ่นอิ่งเอาไว้ทันใด

‘ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ โครงสร้างพื้นฐานของมิติส่วนตัวยิ่งอ่อนแอก็ยิ่งทำลายลงได้ง่ายดายมากขึ้น!’

ได้ทดสอบฝ่ามือสายฟ้าทลายนภาด้วยตนเองแล้ว จ้าวเฟิงจึงกระจ่างแจ้ง

อันที่จริง จักรพรรดิจำนวนมากไม่มีประสบการณ์หรือยังขาดคำชี้แนะจากผู้อาวุโสกว่า จึงรีบร้อนสร้างโลกมิติส่วนตัวจนต้องมานั่งเสียใจอย่างยิ่งในภายหลัง

เซียนส่วนหนึ่งจะใช้พลังและเวลาจำนวนมากเพิ่มความแข็งแกร่งและปรับแก้โลกมิติส่วนตัว กระทั่งมีเซียนบางคนที่จะทำลายแล้วจึงสร้างโลกมิติส่วนตัวขึ้นมาใหม่

“ถ้าหากเป็นโลกมิติส่วนตัวของปฐมเซียนทั่วไป เกรงว่าข้าน่าจะทำลายมันได้ด้วยฝ่ามือเดียว!”

จ้าวเฟิงลำพองใจเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่าเซียนซุ่นอิ่งเป็นเซียนที่มีประสบการณ์ และโครงสร้างโลกมิติส่วนตัวก็ค่อนข้างมั่นคงด้วย

“เจ้ามนุษย์ชั่วช้านี่!” เซียนซุ่นอิ่งหวาดกลัวสุดขีด

เขาคิดไม่ถึงว่าปฐมเซียนผู้หนึ่งจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับรากฐานโลกมิติส่วนตัวของเขาได้

จะต้องรู้ว่า ขอแค่รากฐานของโลกมิติส่วนตัวไม่ถูกทำลายลงไป ถึงอย่างอื่นจะถูกทำลายทั้งหมด ก็ยังสามารถพึ่งพาแหล่งกำเนิดพลังฟื้นคืนกลับมาได้

เซียนซุ่นอิ่งกลายร่างเป็นแมงป่องยักษ์มีแสงสีดำโอบล้อมอย่างไม่ลังเล จากนั้นสำแดงเคล็ดวิชาข้ามมิติ

เถี่ยหงหลิงที่ไล่ตามหลังจ้าวเฟิงมาหวาดกลัวอย่างมาก

หากบอกว่าจ้าวเฟิงสังหารเซียนขวงลี่ได้เป็นเพราะลอบสังหารโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ตอนนี้จ้าวเฟิงกลับไล่สังหารเซียนซุ่นอิ่งอย่างเปิดเผย ถ้าเซียนซุ่นอิ่งไม่รวดเร็ว เกรงว่าน่าจะมีจุดจบแบบเดียวกับเซียนขวงลี่ไปนานแล้ว

“ธนูเหนือนภา!”

บนธนูเก่าแก่สีเงินในมือจ้าวเฟิงปรากฏลูกศรวายุอัสนีสีแดง ส่งเสียงดัง ‘ฟุ่บ’ แล้วพลันแหวกอากาศตรงดิ่งไป

เปรี๊ยะ!

ลูกธนูแสงวายุอัสนีสีทองปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็ทะลุบริเวณทรวงอกของเซียนซุ่นอิ่งแล้ว

หลังจากกลายร่างเป็นแมงป่องสีดำ เซียนซุ่นอิ่งมีพลังป้องกันแข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งขนาดก็ใหญ่ขึ้น แบ่งส่วนอานุภาพธนูเหนือนภาออก แต่ก็ไร้ผลใดๆ

เปรี๊ยะ…

จ้าวเฟิงกระตุกคันธนูอยู่หลายครั้ง ธนูแสงสีแดงเส้นหนึ่งทะลวงไปในอากาศ ปักทะลุผ่านร่างของเซียนซุ่นอิ่ง

“บ้าเอ๊ย เจ้ามนุษย์ชั่ว!”

แมงป่องขนาดยักษ์ที่เกิดจากเซียนซุ่นอิ่งกรีดร้องกลางอากาศ

การโจมตีของจ้าวเฟิงส่งผลทำลายร่างอย่างมาก และยังส่งผลต่อความเร็วของเขาด้วย

“เพื่อผลงานการรบ ไม่อาจปล่อยให้เจ้าที่บาดเจ็บหนักไปตายในเงื้อมมือของคนอื่น!”

ปีกด้านหลังของจ้าวเฟิงโบกสะบัด ไล่ตามเซียนซุ่นอิ่ง สะบัดฝ่ามือออก

“ไปตายซะ!”

หางแมงป่องบนร่างเซียนซุ่นอิ่งปล่อยพิษสีดำที่รุนแรงถึงชีวิตใส่จ้าวเฟิง

ร่างกายของเขาบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถรวดเร็วกว่าจ้าวเฟิงได้อีกแล้ว

“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”

จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตาวิญญาณกระบวนท่าหนึ่ง เพลิงอัสนีสีทองและม่วงกลุ่มหนึ่งปะทะไปบนร่างเซียนซุ่นอิ่ง

ในเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงใช้ปฏิกิริยาโต้ตอบที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งของเขาหลบหลีกการโจมตีหางแมงป่องของเซียนซุ่นอิ่ง ลอยตัวอยู่เหนืออีกฝ่าย แก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์บดขยี้ลงไป

โครม ตุบ!

จ้าวเฟิงสะบัดฝ่ามือติดต่อกันหลายครั้ง ซัดร่างขนาดใหญ่ของเซียนซุ่นอิ่งแหลกละเอียด

วิญญาณที่อ่อนแอของเซียนซุ่นอิ่งยังไม่ทันจะหนีพ้น ก็ถูกพลังดวงวิญญาณของจ้าวเฟิงสังหารตายลงไป

เซียนของต่างเผ่าพันธุ์ตายลงไปอีกหนึ่งแล้ว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!