บทที่ 1083 ร่วมมือล่าสังหาร
“นึกว่าพวกเจ้าจะเจอผู้ช่วยฝีมือเก่งกาจอะไร ที่แท้ก็เป็นแค่เซียนทั่วไปสามคนเท่านั้น!”
สตรีต่างเผ่าพันธุ์ที่ผิวกายเป็นสีเขียวมรกตโปร่งแสงยิ้มเหี้ยมเกรียม
“จะได้ประโยชน์อะไร?”
จ้าวเฟิงเอ่ยอีกครั้งกับราชาเซียนเกราะเขียวที่ได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรเสียถ้าหากพวกจ้าวเฟิงยื่นมือให้ความช่วยเหลือ เผชิญหน้ากับต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหก ผู้แข็งแกร่งหนึ่งในนั้นก็มีราชาเซียนถึงสองคน
เรื่องที่ไร้ซึ่งประโยชน์แถมยังอันตรายเช่นนี้ จ้าวเฟิงไม่อยากจะช่วยเหลือจริงๆ ส่วนหนานกงเซิ่งยิ่งไม่อยากจะสนใจเรื่องนี้แล้ว
อีกอย่าง หากคนที่ราชาเซียนเกราะเขียวผู้นี้พบเจอเป็นราชาเซียนหรือครึ่งเทพมนุษย์คนอื่น จะต้องมอบของจำนวนมากเพื่อขอร้องให้อีกฝ่ายช่วยเหลือแน่
เรียกได้ว่า ถึงพวกราชาเซียนเกราะเขียวจะเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนี้ ก็ยังจะมีหน้าอาศัยสถานะของตำหนักไท่หวง ดูถูกพวกจ้าวเฟิง คิดจะใช้งานกันปล่าๆ
ชายเกราะเขียวที่บาดเจ็บและเซียนอีกคนหนึ่งมีสีหน้าเหลือทนอย่างยิ่ง ถ้ายามนี้ไม่ใช่สถานการณ์อันตราย ไม่แน่ว่าพวกเขาสองคนอาจลงมือทำร้ายจ้าวเฟิงแล้ว
ในฐานะที่พวกเขาเป็นคนระดับสูงในสำนักสี่ดาวของราชวงศ์ต้าเฉียน เป็นคนที่ควบคุมเบื้องหลังทั้งราชวงศ์ แต่จ้าวเฟิงกลับอาศัยโอกาสนี้ขู่กรรโชกพวกเขา
“ในฐานะที่พวกข้าเป็นคนระดับสูงของตำหนักไท่หวง เป็นสำนักขั้วอำนาจเบื้องหลังราชวงศ์ต้าเฉียน เจ้าทำเช่นนี้คงไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง!”
ชายเกราะเขียวข่มความเกรี้ยวกราดในใจ พลันเปิดปากเอ่ย
“ราชาเซียนปี้กวง พวกเรามอบทรัพยากรที่ได้มาเมื่อครู่ให้ไปเถิด!”
ในตอนนี้ เซียนเกาหวงเอ่ยโน้มน้าว
อย่างไรเสียพวกจ้าวเฟิงก็สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ มอบสิ่งของให้ส่วนหนึ่งก็เป็นสิ่งสมควร อีกทั้งต่างเผ่าพันธุ์พวกนั้นก็มีฤทธิ์เดชไม่เบา
“พวกเจ้าเผ่าพันธุ์มนุษย์นับว่าน่าสนใจ ความตายจะมาเยือนอยู่แล้วยังจะขัดแย้งกันภายในอีก!”
สตรีต่างเผ่าพันธุ์ที่มีกายเขียวโปร่งแสงหัวเราะ
“จะสังหารพวกเจ้าให้หมดแล้วกัน!”
ราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์ที่ถือขวานยักษ์ผู้หนึ่งตะโกนเสียงดัง ก่อนลงมือทันที
ในเวลาเดียวกัน ต่างเผ่าพันธุ์คนอื่นเบื้องหลังเผยยิ้มเย็นแล้วตามมาติดๆ
“หากพวกเจ้ายินดีช่วยเหลือเราโจมตีพวกต่างเผ่าพันธุ์ให้พ่ายไป พวกเรายินดีจะมอบของจำนวนสามส่วนจากทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวได้เมื่อครู่ให้พวกเจ้า!”
เมื่อเห็นผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเซียนฝ่ายตรงข้ามลงมือ ราชาเซียนปี้กวงผู้นั้นจึงเอ่ยขึ้นทันที
เซียนขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นอีกผู้หนึ่งผงกศีรษะ ไม่มีท่าทีเห็นต่าง
ความจริงแล้ว พวกเขาไม่คิดว่าพวกจ้าวเฟิงจะช่วยพวกเขาให้พ้นจากอันตรายนี้ไปได้
พวกเขาเพียงแต่คิดจะใช้จ้าวเฟิงซื้อเวลาก็เท่านั้น เพราะในขณะที่พวกเขาถูกพวกต่างเผ่าพันธุ์ไล่ล่าสังหาร ก็ได้ส่งสารขอความช่วยเหลือไปแล้ว
“ห้าส่วน!” จ้าวเฟิงเอ่ยตามตรง
“เจ้ามนุษย์โง่งม รนหาที่ตาย!”
ต่างเผ่าพันธุ์ที่กำขวานยักษ์มองเห็นพวกจ้าวเฟิงยังพูดคุยเจรจา สีหน้าชั่วร้ายอย่างมาก
“ได้ ห้าส่วนก็ได้!”
ราชาเซียนปี้กวงโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก แต่ทำเพียงกล้ำกลืน ตอบตกลงเงื่อนไขของจ้าวเฟิง
“เช่นนั้นก็ลงมือกันเถอะ!”
จ้าวเฟิงเห็นฝ่ายตรงข้ามตอบตกลง จึงเอ่ยปากในทันที
ถ้ามีแค่พวกจ้าวเฟิงสามคนเท่านั้นที่ต่อสู้ ถึงราชาเซียนปี้กวงจะมอบทรัพยากรทั้งหมดให้ แต่ธุระนี้เห็นทีจ้าวเฟิงคงจะช่วยไม่ได้จริงๆ
“ลงมือ!” ราชาเซียนปี้กวงพลันเอ่ย
พรึ่บ!
ในมือขวาราชาเซียนปี้กวงปรากฏกระบี่ยาวสีทองคำขาวเล่มหนึ่ง สาแสงสว่างเรืองรองแสบตา
วูบ วูบ~ เผ่าพันธุ์มนุษย์หกคนพร้อมใจกันทะยานจู่โจม
โครม! หนานกงเซิ่งทะลักแสงศักดิ์สิทธิ์โลหิตม่วง เข้าปะทะกับชายต่างเผ่าพันธุ์ที่กำขวานยักษ์เก่าแก่
ในเวลาเดียวกัน อีกห้าคนประมือกับผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์คนอื่นอย่างดุเดือด
“นี่มันสายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณ!”
สตรีต่างเผ่าพันธุ์กายมรกตโปร่งแสงล่วงรู้ถึงฐานะของจ้าวหยูเฟยขณะประมือกับนาง
ทุกอิริยาบทของจ้าวหยูเฟยสามารถกระตุ้นไอสวรรค์ในฟ้าดิน ช่วยเสริมพลานุภาพในกระบวนท่าของนาง
“แสงวิญญาณตระการ!”
มือนวลจ้าวหยูเฟยเปล่งแสงหยกม่วงวาววับที่น่าสะพรึงออกมา ก่อนจะสาดแสงม่วงวิจิตรตระการพุ่งปะทะไปยังราชาเซียนกายหยกต่างเผ่าพันธุ์
อีกฟาก ชายต่างเผ่าพันธุ์ผู้ถือขวานยักษ์ก็ต่อสู้กับหนานกงเซิ่งจนฟ้าดินสะเทือน เขย่าขวัญผู้คน
ราชาเซียนผู้นั้นถือขวานยักษ์เก่าแก่ สาดพลังทรงอำนาจที่กดดันสรรพสิ่ง และฟาดระลอกการโจมตีขนาดมโหฬารออกมาอย่างรวดเร็ว
หนานกงเซิ่งไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อย โคจรพลังเทพปีศาจ เกาะกลุ่มรวมกันเป็นกรงเล็บมารขนาดยักษ์สองข้าง ต้านทานการโจมตีของราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์เอาไว้
“พลังเทพปีศาจ หนานกงเซิ่ง?”
ชายต่างเผ่าพันธุ์ผู้ถือขวานยักษ์เผยสีหน้าตื่นตะลึง มองสถานะของหนานกงเซิ่งออกเช่นกัน
ส่วนจ้าวเฟิงก็ประมือกับเซียนคนอื่นในกลุ่มต่างเผ่าพันธุ์นี้
นี่คือแผนการรบที่พวกจ้าวเฟิงทั้งสามวางแผนเอาไว้นานแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มราชาเซียน ให้หนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยคอยตรึงกำลังรบราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์เอาไว้
หนานกงเซิ่งครอบครองพลังเทพปีศาจ บวกกับมีอาวุธเทพชั้นรองโล่ทองคำ จะตรึงกำลังราชาเซียนได้สบายอย่างยิ่ง ส่วนสายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณของจ้าวหยูเฟย เมื่ออยู่ในร่างเทพก็มีกำลังรบก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ส่วนจ้าวเฟิงที่ดูไปแล้วอ่อนแอที่สุดจะถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาจึงเอาชนะกำลังรบขั้นเซียนคนอื่นในกลุ่มต่างเผ่าพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพลิกสถานการณ์ได้
แน่นอน แผนการรบเช่นนี้เหมาะกับกลุ่มต่างเผ่าพันธุ์ที่มีราชาเซียนสองคนเท่านั้น
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ พวกจ้าวเฟิงก็ทำได้เพียงพึ่งพาแผนการรบนี้เพื่อให้ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม หากคิดจะเอาชนะยังนับว่ายากเย็นพอควร นอกเสียจากว่าพวกจ้าวเฟิงจะใช้ไพ่ตายส่วนหนึ่ง
ทว่าทันทีที่ต้องเจอกับกลุ่มต่างเผ่าพันธุ์ที่มีราชาเซียนเกินสามคน หรือไม่ก็พลังและจำนวนคนของฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบกว่ามาก
เช่นนั้นพวกจ้าวเฟิงก็ทำได้เพียงแค่ถอยร่นเต็มกำลัง
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
จ้าวเฟิงหลอมรวมพลังวายุอัสนีและขอบเขตแก่นแท้อัสนี ฟาดฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีทองแดงสายหนึ่งออกมา
พรึ่บ วู้ม วู้ม!
เห็นเพียงฝ่ามือยักษ์แสงอัสนีสีแดงทองขนาดราวภูเขา ส่องประกายสายฟ้าวูบวาบ ผลักออกไปด้านหน้า อีกทั้งฝ่ามือนี้ของจ้าวเฟิงยังหลอมรวมพลังและแรงกดดันจากขอบเขตแก่นแท้อัสนีเอาไว้ด้วย
โครม! เบื้องหน้าจ้าวเฟิง เทวาเร้นลับชั้นสูงและเซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นผู้หนึ่งล้วนไม่อาจต้านทานพลานุภาพยิ่งใหญ่ของจ้าวเฟิงได้ ถูกโจมตีจนกระแทกกำแพงผลึกเบื้องหลัง
เซียนต่างเผ่าพันธุ์ในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นผู้นั้น เกือบจะถูกฝ่ามือของจ้าวเฟิงจนถึงแก่ความตาย
“ผู้อาวุโส พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”
เซียนชั้นสูงผู้หนึ่งบาดเจ็บในระดับหนึ่ง เกิดหวาดกลัวจ้าวเฟิงไม่น้อย
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ขนาดพลังของเจ้าเด็กนั่นยังยอดเยี่ยมขนาดนี้เลยหรือ?”
สตรีต่างเผ่าพันธุ์กายสีเขียวมรกตมีสีหน้าหวาดกลัว
พลังของเซียนเทวาเร้นลับสามคนเบื้องหน้าอยู่เหนือกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มากนัก
“เป็นพลังที่แกร่งกล้าเหลือเกิน!”
ราชาเซียนปี้กวงตื่นตะลึงทันที
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยจะเติบโตมาจนถึงระดับขั้นนี้แล้ว ถึงกับสามารถรับมือกับกำลังรบขั้นราชาเซียนได้
ส่วนพลังของจ้าวเฟิงก็ไม่อาจดูแคลนได้
ดูไปแล้วพวกเขาทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน ยังสามารถเอาชนะพวกต่างเผ่าพันธุ์ได้อย่างราบรื่นนัก
“ดีนัก!” เซียนเกาหวงตื่นตะลึงเกินปกติ
กระทั่งเขายังคาดคิดไม่ถึง พลังของพวกจ้าวเฟิงทั้งสามพัฒนามาจนถึงระดับขั้นนี้แล้ว
เมื่อหวนนึกถึงตอนที่เขาเจอกันในครั้งแรก
พลังของจ้าวเฟิงก็พอๆกับเซียนหมื่นปรากฏการณ์เท่านั้น ส่วนหนานกงเซิ่งเองก็สามารถประมือกับเซียนท่าเทียนได้ก็เท่านั้น
“แบ่งร่าง!”
ราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์สองคนแบ่งร่างออกมาเพื่อไปช่วยเหลือ เซียนชั้นสูงรับมือจ้าวเฟิงทันที
ร่างแยกของราชาเซียนสองคน จะมีกำลังรบของราชาเซียนอยู่ห้าส่วน นับว่าสูงส่งอย่างยิ่ง เมื่อร่วมมือกับเซียนต่างเผ่าพันธุ์ในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงผู้นั้น อาจจะถึงขั้นอยู่เหนือจ้าวเฟิงด้วยซ้ำไป
“ราชาเซียนปี้กวง ร่างแยกของเจ้า?”
เซียนเกาหวงละล่ำละลั่กถาม
“ร่างแยกของข้าเมื่อครู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจสู้ได้!”
ราชาเซียนปี้กวงปฏิเสธจะให้ความช่วยเหลือจ้าวเฟิง
พรึ่บ ฟู่ ฟู่!
เมื่อจ้าวเฟิงเห็นสถานการณ์ไม่ชอบมาพากลมากนัก จึงรีบเรียกเงาโลกมิติส่วนตัวเมืองมายาออกมา บั่นทอนพลังของผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์สามคนตรงหน้า
ร่างแยกสองร่างในนั้น จิตสำนึกอ่อนแอเบาบาง ถูกลดทอนพลังอย่างมากเมื่ออยู่ในโลกมิติส่วนตัวเมืองมายาของจ้าวเฟิง
อีกทั้งเมื่ออยู่ในเงาของโลกมิติส่วนตัวเมืองมายา พลานุภาพวิชาเนตรศาสตร์ลวงตาของจ้าวเฟิงจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น
“ดาราม่วงลวงจิต!”
“วิญญาณพิศวง!”
จ้าวเฟิงโคจรดวงตาซ้าย ปลดปล่อยวิชาเนตรศาสตร์ลวงตาอย่างง่ายที่เขาเคยเรียนรู้มาจากตระกูลจีในตอนนั้นไปแบบส่งเดช
พรสวรรค์ในศาสตร์ลวงตาของจ้าวเฟิง ที่จริงแล้วยังอยู่เหนือวิชาดวงตาประเภทโจมตีมาก เพียงแต่ว่าไม่ได้จดจ่อจะศึกษาให้ลึกซึ้งก็เท่านั้น
“แย่ละ เจ้าเด็กนั่นยุ่งยากเสียจริง!”
ราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์ผู้ถือขวานยักษ์รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ
จากความช่วยเหลือของร่างแยกพวกเขาสองคน จ้าวเฟิงจึงยังสามารถต่อสู้ด้วยกลยุทธ์สมบูรณ์พร้อม อีกทั้งค่อยๆ กลับมาได้เปรียบอีกด้วย
ในฟากเผ่าพันธุ์มนุษย์ กำลังรบผู้นำระดับสูงของตำหนักไท่หวงอีกสามคนก็ไม่อาจจะมองข้ามได้
ถึงแม้ว่าราชาเซียนปี้กวงจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังคงมีกำลังรบในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูง
“ถอยทัพ!”
สตรีต่างเผ่าพันธุ์ผู้มีกายสีเขียวโปร่งแสงรีบส่งกระแสจิตบอกทุกคน
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์การต่อสู้ไม่ค่อยสู้ดีนัก ไม่มีความจำเป็นจะต้องสู้ต่อไป
สวบ~ ในวินาทีนั้น พวกต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหมดหนีไปในทันทีพร้อมกัน
ส่วนฝั่งมนุษย์ก็ไม่ได้ไล่ล่าสังหารอีกต่อไป
“ขอบคุณสหายน้อยจ้าวเฟิงมาก!”
เซียนเกาหวงเอ่ยขอบคุณทันที
จ้าวเฟิงยิ้มให้เซียนเกาหวงเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่ราชาเซียนปี้กวง
“ขอผู้อาวุโสรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้ในตอนแรกด้วย!”
จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเรียบ
การต่อสู้เมื่อครู่ ถ้าหากคนระดับสูงของตำหนักไท่หวงสองคนนั้นลงมือสุดความสามารถจะจบเรื่องได้ไวขึ้น แต่ราชาเซียนปี้กวงเห็นราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์สองคนนั้นแยกร่างออกมา กลับไม่ให้ความร่วมมือ
“ในจุดนี้ ข้าราชาเซียนปี้กวงยอมจ่ายเอง!”
ราชาเซียนปี้กวงไม่ยินยอมอย่างยิ่งที่จะมอบแหวนเก็บของชิ้นหนึ่งให้
ถึงอย่างไร ราชาเซียนปี้กวงก็เป็นราชาเซียนผู้หนึ่ง เป็นผู้ที่มีอำนาจอย่างยิ่งในตำหนักไท่หวง ย่อมไม่มีทางไม่รักษาคำพูด
จ้าวเฟิงรับแหวนเก็บของมา สำรวจของข้างในเป็นอย่างแรก แล้วจึงเผยสีหน้าพึงพอใจ
“ทรัพยากรวิญญาณล้ำค่าสี่สิบสามชิ้น ผลึกเซียนระดับล่างสิบหกชิ้น และยังมีผลึกเซียนแท้จริงสามชิ้น!”
จ้าวเฟิงเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าราชาเซียนปี้กวงจะต้องไม่ได้ให้จำนวนที่ครบถ้วน แต่ทรัพยากรเหล่านี้อยู่เหนือกว่าความคาดหมายของจ้าวเฟิงแล้ว เขาจึงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับราชาเซียนปี้กวงอีก
“ทุกท่าน เอาไว้เจอกัน!”
หลังจากแลกเปลี่ยนกันแล้ว จ้าวเฟิงจึงรีบบอกลาราชาเซียนปี้กวง
ถัดจากนั้น จ้าวเฟิง หนานกงเซิ่ง และจ้าวหยูเฟยจึงเดินทางจากไปอย่างรวดเร็ว
พวกจ้าวเฟิงเพิ่งจากไปไม่นานนัก เบื้องหลังร่างของราชาเซียนปี้กวงพลันปรากฏกลิ่นอายที่แข็งแกร่งหลายกลุ่ม
“ราชาเซียนปี้กวง เกิดอะไรขึ้น? เจ้าบาดเจ็บงั้นรึ?”
ผู้มาเยือนก็คือราชาเซียนอวี่หลิง
เมื่อครู่เขาอยู่ในละแวกนี้เช่นกัน เมื่อได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ราชาเซียนปี้กวงส่งไปจึงรีบเดินทางมา
“เผชิญหน้ากับพวกต่างเผ่าพันธุ์ แต่ว่าเมื่อครู่พวกเราเจอกับกลุ่มของจ้าวเฟิง จึงร่วมมือกันเอาชนะพวกต่างเผ่าพันธุ์ได้!”
ราชาเซียนปี้กวงถอนหายใจ
ถ้าหากราชาเซียนอวี่หลิงเร่งรุดมา เขาก็คงจะไม่ถูกพวกคนรุ่นเยาว์หลายคนปล้นชิงแบบนั้น
“อะไรนะ? จ้าวเฟิง?”
ราชาเซียนอวี่หลิงอารมณ์สั่นสะเทือน เผยสีหน้ายินดีออกมา
ราชาเซียนซีไห่ที่อยู่ข้างกายเขา แววตาเปล่งประกายเล็กน้อย
“สหายปี้กวง จ้าวเฟิงไปไหนแล้ว? รีบบอกข้าเร็ว!”
ราชาเซียนอวี่หลิงตื่นเต้นอย่างยิ่ง
“สหายอวี่หลิง เจ้าตามหาจ้าวเฟิงเพราะเหตุใด?”
ราชาเซียนปี้กวงเมื่อเห็นท่าทางของราชาเซียนอวี่หลิงเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
“พี่ปี้กวง เจ้าคงไม่รู้ว่าจ้าวเฟิงเป็นถึงฆาตกรที่สังหารองค์ชายสิบสามของราชวงศ์ อีกทั้งยังเคยลงมือทำร้ายคนระดับสูงของตำหนักไท่หวงด้วย…”
ราชาเซียนอวี่หลิงเอ่ยออกมาตามตรง
ทันใดนั้น เรื่องที่เขาถูกจ้าวเฟิงโจมตีจนบาดเจ็บและถอยร่นไปก็ถูกมองข้ามไปเสียสิ้น
“คิดไม่ถึงว่าผู้เยาว์คนนี้จะน่ารังเกียจขนาดนี้ เมื่อครู่นี้เขาเองก็ฉวยโอกาสชิงทรัพยากรล้ำค่าทั้งหมดที่ข้าได้มาจากในร่างเทพ ข้าจะติดตามสหายอวี่หลิงไปจัดการเจ้าเด็กนั่นด้วยกัน!”
ราชาเซียนปี้กวงมีสีหน้าตื่นเต้น ดูดีใจเสียยิ่งกว่าราชาเซียนอวี่หลิงเสียอีก