Skip to content

King of Gods 1126

King Of Gods

บทที่ 1126 แผนการของวังเก้านิรย

ในโลกนรกมืดมิด ประกายดำมืดเหี้ยมเกรียมห้าสายม้วนตัวตรงมายังจ้าวเฟิง

นี่คือการโจมตีอันไร้เทียมทานที่ครึ่งเทพโยวไห่ใช้อาวุธเทพชั้นรองสำแดงออกมาท่ามกลางการเพิ่มพลังของโลกมิติส่วนตัว

ผู้มีขั้นต่ำกว่าครึ่งเทพไม่มีทางมีชีวิตรอดอยู่ได้

“ครึ่งเทพโยวไห่โมโหจริงๆ แล้ว!”

“กระบวนท่าที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ต่อให้จ้าวเฟิงมีอาวุธเทพชั้นรองป้องกันก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

“เซียนยังไงก็คือเซียน จะต้านทานครึ่งเทพได้อย่างไรกัน!”

ผู้แข็งแกร่งคนอื่นที่นั่นเห็นครึ่งเทพโยวไห่สำแดงกระบวนท่าที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ออกมา จึงวางใจทันที

ดูท่าทางเมื่อครู่ครึ่งเทพโยวไห่คงแค่ประมาทไปเท่านั้นเลยถูกจ้าวเฟิงทำร้ายเอาได้

ครึ่งเทพที่ทุ่มสุดพลัง เซียนชั้นสูงจะสามารถต้านทานได้อย่างไร

“หึ พวกเจ้ายังมีเวลาไปมองที่อื่นอีก!”

จ้าววั่นแค่นเสียงเหยียดหยาม สำหรับพลังของจ้าวเฟิง แน่นอนว่าเขาเข้าใจเป็นที่สุด

“ระเบิดวายุอัสนี!”

จ้าววั่นควบคุมพลังวายุอัสนีทั้งหมดของฟ้าดิน ก่อตัวขึ้นที่มือ พายุหมุนวายุอัสนีที่น่าหวาดหวั่นม้วนตัวออกมาสายหนึ่ง ร้องคำรามพลางบดขยี้เข้าไป

“ช่างเป็นพลังที่น่าพรั่นพรึงจริง!”

“เซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นก็อย่าได้ดูถูก!”

ในยามที่จ้าววั่นลงมือ ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายเพิ่งจะพบว่าผู้ครอบครองเนตรหมื่นปรากฏการณ์เบื้องหน้าผู้นี้ก็ไม่ใช่คนที่จะดูถูกกันได้

อีกด้านหนึ่ง คุนอวิ๋น หนานกงเซิ่ง และจ้าวหยูเฟย ถึงแม้จะเป็นห่วงจ้าวเฟิงอยู่บ้าง แต่พวกเขาเห็นจ้าววั่นกำลังสู้สุดกำลังโดยไม่ร้อนรนสักนิดก็ค่อนข้างวางใจ

อีกฟากหนึ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ไร้เทียมทานของครึ่งเทพโยวไห่ จ้าวเฟิงใบหน้าเย็นเยียบ กระตุ้นพลังเลือดเทพในนิ้วชี้

ครั้งนี้จ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังเลือดในนิ้วชี้ทั้งหมด

ฟู่!

พลังเทพสายเลือดบรรพกาลที่น่าหวาดหวั่นแผ่กระจายออกมาจากนิ้วของจ้าวเฟิง ขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงผสานโลกมิติส่วนตัววายุอัสนีและพลังของขอบเขตแก่นแท้อัสนีเข้าไปในกระบวนท่าที่จะแสดงออกมา

“ดัชนีทลายปฐพี!”

นิ้วของจ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังวายุอัสนีเหนือสามัญจำนวนมาก โจมตีออกไปพร้อมสำนึกรู้ที่บ้าอำนาจในนั้น

ครืน แซ่ด แซ่ด!

ในแสงดัชนีใหญ่มโหฬารมีวายุคลั่งอัสนีสีทองแดงนับไม่ถ้วน ดุจเสาค้ำโลกต้นหนึ่ง โจมตีกดดันออกมา

ครืน บึ้ม!

ฟ้าดินเปลี่ยนสี ทั่วทั้งโลกราวจะดับสูญ วายุคลั่งทำลายล้างพัดทะลวงมา

“กลิ่นอายนี้…คือกลิ่นอายสายเลือดบรรพกาล ทั้งยังแฝงด้วยพลังเทพเสี้ยวหนึ่ง!”

ครึ่งเทพโยวไห่สัมผัสได้ถึงพลานุภาพที่ระเบิดออก ใบหน้าตื่นตกใจยิ่ง

ฟิ้ว!

ในยามนี้เอง ใจกลางการระเบิดที่ราวกับการทำลายล้างเปล่งประกายแสงสีทองแดงเส้นหนึ่ง

ฉึก! ชั่วพริบตาเดียว แสงทองแดงเส้นนั้นทะลุหน้าอกของครึ่งเทพโยวไห่

หน้าอกของครึ่งเทพโยวไห่ปรากฏรูเล็กๆรูหนึ่งขึ้นอีกครั้ง เลือดสีดำไหลออกมา

“เป็นท่าเมื่อครู่นั่นอีกแล้วรึ!” ครึ่งเทพโยวหลงสีหน้าเคร่งเครียด

สถานการณ์ในวันนี้ยังคงเป็นวังเก้านิรยที่ได้เปรียบ สุดท้ายก็ต้องเป็นวังเก้านิรยที่ได้รับชัยชนะ แต่ปัจจัยที่ไม่แน่นอนเพียงหนึ่งเดียวบนสนามรบก็คือจ้าวเฟิง

หากเพียงจ้าวเฟิงมีไพ่ตายอะไร สถานการณ์ก็อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้

“ราชาเซียนเสียเทียน ล่อคนหนึ่งในนั้นออกมา จากนั้นฆ่ามันทิ้งซะ!”

ครึ่งเทพโยวไห่สีหน้าไม่เปลี่ยน แอบส่งกระแสจิตให้กับราชาเซียนเสียเทียน

“ขอรับ ผู้อาวุโสสูงสุด!”

ราชาเซียนเสียเทียนสีหน้าตื่นตระหนก รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้อาวุโสสูงสุด ในใจตึงเครียดเล็กน้อย

“หึ พวกเจ้าวังเก้านิรยก็มีปัญญาแค่นี้!”

ชั้นวิญญาณของราชาเซียนเสียเทียนมีเสียงพูดถากถางดังขึ้น

แต่ราชาเซียนเสียเทียนกลับไม่กล้าแย้งประโยคนี้

ผู้นำระดับสูงของวังเก้านิรยค่อยๆ ย้ายสนามรบ

“จะหนีไปไหน!”

ทั่วร่างของจ้าวหยูเฟยเปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงวาววับ ดุจเซียนผลึกแก้วแวววาว โจมตีไปทันทีพร้อมด้วยไอสวรรค์ฟ้าดินที่น่าหวาดหวั่น

“ท่าทางช่วงนี้ตระกูลตวนมู่จะสุขสงบกันไปแล้วกระมัง การสั่งสอนของวังเก้านิรยในตอนนั้นคงไม่พอ!”

ราชาเซียนเสียเทียนเอ่ยเสียดสีเสียงเย็น แอบติดต่อกับสมาชิกวังเก้านิรยคนอื่นรอบกายแล้ววางแผนกลยุทธ์

“วันนี้พวกเจ้าวังเก้านิรย ชื่อจะต้องหายไปจากแผ่นดินใหญ่!”

จ้าวหยูเฟยใบหน้าเย็นเยียบ ซัดเส้นแสงม่วงทองแวววาวหลายสายออกมา

ก่อนที่จ้าวเฟิงจะดำเนินแผนการนี้ ก็บอกถึงเป้าหมายสุดท้ายเอาไว้แล้ว…ทำลายวังเก้านิรยให้สิ้นซาก

ดังนั้นจ้าวหยูเฟยจึงไม่กลัวว่าจะทำให้ตระกูลตวนมู่เดือดร้อน เข้าร่วมการเคลื่อนไหวครั้งนี้เลย

ใกล้ๆ ทิวเขาเก้านิรย สนามรบห้าสนาม สะเทือนฟ้าดิน

คุนอวิ๋น หนานกงเซิ่ง และจ้าววั่นล้วนรับมือกับศัตรูเบื้องหน้าอย่างยากลำบาก ไม่ได้สังเกตว่าสนามรบของจ้าวหยูเฟยห่างจากพวกเขาไปเรื่อยๆ

อีกด้านหนึ่ง “เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”

“ดัชนีทลายปฐพี!”

ยามนี้จ้าวเฟิงตั้งท่าพร้อมรบ วิชาดวงตาวิญญาณและการโจมตีที่ไร้เทียมทานสำแดงออกไปในเวลาเดียวกัน กดดันครึ่งเทพโยวไห่เอาไว้

‘บัดซบ วิชาดวงตาของเจ้าเด็กนี่พลังแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!’

สีหน้าของครึ่งเทพโยวไห่ย่ำแย่ สบถด่าในใจ

จ้าวเฟิงใช้วิชาดวงตาโจมตีก่อกวนเขาไม่หยุด ในขณะเดียวกันก็สำแดงดัชนีทะลุฟ้า และความเร็วของดัชนีทะลุฟ้าก็สูงเป็นอย่างมาก เมื่อใดที่ไม่ระวังจะถูกโจมตีเอาได้

ขณะนี้ บนร่างของครึ่งเทพโยวไห่มีรูเล็กๆ เกือบสิบรู

อีกทั้งบาดแผลที่ดัชนีทะลุฟ้าสร้างขึ้น ต่อให้เป็นครึ่งเทพโยวไห่ก็ไม่มีทางรักษาได้ในระยะเวลาอันสั้น

และจ้าวเฟิงที่กระตุ้นเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบก็มักจะเข้าใกล้ครึ่งเทพโยวไห่ ดูดซับเลือดและไอสวรรค์ของเขา

“ผิดปกติอยู่หน่อยๆ ครึ่งเทพโยวไห่เหมือนไม่คิดจะโจมตีข้า แต่เปลี่ยนเป็นป้องกันแทน!”

ในยามนี้เอง จ้าวเฟิงพบจุดผิดปกติ

ต่อให้จ้าวเฟิงแสดงกำลังรบที่ไร้เทียมทาน คู่มือเป็นถึงครึ่งเทพ จะกล้ำกลืนฝืนทนค่อยๆ รับมือกับจ้าวเฟิงแบบนี้ได้อย่างไร

“ไม่ดีแล้ว หยูเฟย!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงตื่นตะลึง

ขณะนี้การต่อสู้ของจ้าวหยูเฟยและสมาชิกวังเก้านิรยบางส่วนห่างจากขอบเขตที่วังเก้านิรยอยู่โดยสมบูรณ์

แต่เวลานี้ ต่อให้จ้าวเฟิงพบสิ่งผิดปกติก็ไม่สามารถตามไปได้ทันที

หากเพียงเขาไปช่วยจ้าวหยูเฟย ครึ่งเทพโยวไห่จะต้องเอาชนะหนานกงเซิ่ง คุนอวิ๋น และจ้าววั่นที่นี่แน่นอน ถึงตอนนั้นเขาจะต้องแพ้อย่างแน่นอน

“ฮ่าๆ ค้นพบตอนนี้ก็สายไปแล้ว!”

ครึ่งเทพโยวไห่หัวเราะเย็น สำหรับเขาจ้าวหยูเฟยตายไปแล้ว ส่วนจ้าวเฟิงและคนอื่นๆ ก็หนีไม่พ้น

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ฆ่าเจ้าก่อนแล้วกัน!”

รัศมีอำนาจของจ้าวเฟิงพลันเปลี่ยน จิตสังหารรุนแรงแผ่กระจายออกมาทันใด

สายเลือดวิญญาณของจ้าวหยูเฟยช่วยป้องกันร่างกาย ต่อให้ผู้นำระดับสูงวังเก้านิรยมีวิธีการแยบคาย จ้าวหยูเฟยก็สามารถยืนหยัดไปได้ช่วงหนึ่ง

ดังนั้นก่อนหน้านี้ จ้าวเฟิงจะต้องสังหารครึ่งเทพโยวไห่

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงพลันเปล่งประกายแสงอัสนีสีขาววาววับนับไม่ถ้วน

เสวียนอ้าวทำลายวิญญาณกลุ่มหนึ่งพร้อมด้วยคลื่นวิญญาณอันแข็งแกร่งล้นทะลักออกมา

ครืน ฉึก!

ตราอัสนีเทวะบิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่ง ลุกไหม้บิดโค้งราวเปลวเพลิง โจมตีไปยังวิญญาณของครึ่งเทพโยวไห่พร้อมด้วยกลิ่นอายวิญญาณที่น่าหวาดกลัวเป็นที่สุด

“อ๊าก…”

ครึ่งเทพโยวไห่กรีดร้องเจ็บปวด เขารู้สึกเหมือนว่าวิญญาณของตัวเองถูกฉีกทึ้ง เจ็บปวดจนอยากตาย

ฟิ้ว แซ่ด แซ่ด!

ปีกอัสนีที่หลังของจ้าวเฟิงเปล่งประกายแสงอันน่าสะพรึง ทำให้ร่างของเขามาถึงข้างกายของครึ่งเทพโยวไห่ในพริบตา

“ดัชนีทลายปฐพี!”

ระยะใกล้ถึงเพียงนี้ จ้าวเฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย กระตุ้นสายเลือดพลังเทพในนิ้วชี้ สำแดงเคล็ดวิชาอันแข็งแกร่ง

ครืน บึ้ม!

ในแสงดัชนีใหญ่มหึมา วายุอัสนีเพลิงมากมายระเบิดออกรุนแรง กลืนร่างของครึ่งเทพโยวไห่เข้าในนั้นจนหมดสิ้น

ครึ่งเทพโยวไห่ที่กำลังเจ็บปวดจาก ‘เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ’ ร่างถูกวายุอัสนีเพลิงมหาศาลและการทำลายล้างของพลังเทพสายเลือดสูงสุดโจมตีอีกครั้ง

“เนตรเทพแยกส่วน!”

หลังจากที่สำแดงเคล็ดวิชา จ้าวเฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย กระตุ้นตาซ้าย สำแดงวิชาดวงตาต้องห้าม

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงเปล่งประกายคลื่นแสงสีม่วงทองน่าอัศจรรย์ จากนั้นลายคลื่นสีทองเลือนรางโปร่งแสงตลบอวลออกมาจากข้างในเป็นชั้นๆ ทะลุผ่านครึ่งเทพโยวไห่เป็นพันเป็นหมื่นครา วิเคราะห์โครงสร้างของทั้งตัวเขาออกมา

ฟู่! ในสายตาของจ้าวเฟิง ครึ่งเทพโยวไห่หรือกระทั่งสรรพสิ่งรอบกายล้วนสลายไปอย่างไร้รูปร่าง

ยามที่ครึ่งเทพโยวไห่ฟื้นสติ เขาพลันพบว่าร่างกาย วิญญาณ พลังศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งพลังเทพของตนค่อยๆ หายไป พลังแท้จริงก็ลดลงทีละน้อยเช่นกัน

และมิติฟ้าดินรอบกายเขาตกอยู่ในสภาวะสูญญากาศ ทุกสรรพสิ่งที่นั่นสลายหายไปอย่างสมบูรณ์!

ครึ่งเทพโยวไห่สีหน้าเคร่งเครียด เตรียมลงมือขัดจังหวะวิชาดวงตาต้องห้ามของจ้าวเฟิง

ทันใดนั้น ข้างหลังของครึ่งเทพโยวไห่มีเส้นสีเงินเทากะพริบวูบ

เคร้ง บึ้ม! อุ้งเท้าทั้งสองแมวขโมยน้อยถือพลั่วเหล็กอันหนึ่ง ฟาดลงไปที่ส่วนหัวของครึ่งเทพโยวไห่เต็มเหนี่ยว

ในขณะเดียวกัน ไหมเมฆาผีเสื้อเซียนก็บินออกมาจากปากของแมวขโมยตัวน้อย ปลดปล่อยไหมเมฆาและละอองเกสรไฉ่เมิ่งอย่างรวดเร็ว

ครึ่งเทพโยวไห่มึนงงตาลาย ตื่นตกใจไปชั่วขณะจนสูญเสียการควบคุมร่างกาย

ในช่วงเวลานี้ จ้าวเฟิงกระตุ้นเนตรเทพแยกส่วนสุดพลัง ตัดพลังของครึ่งเทพโยวไห่

“แย่แล้ว!” ครึ่งเทพโยวไห่สัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในที่สุดก็รู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว

เขาที่ประมาทเลินเล่ออาจถูกจ้าวเฟิงซึ่งลงมือสุดพลังสังหารลงได้

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เขาก็ถูกจ้าวเฟิงทำร้ายไม่หยุด ขณะเดียวกันก็ถูกจ้าวเฟิงดูดเอาปราณเลือดลมไปส่วนหนึ่ง

ตอนนี้ภายใต้เนตรเทพเจ้าแยกส่วน พลังทั้งหมดของเขาถูกตัดออกเป็นสองส่วน

“ตายไปซะ!” จ้าวเฟิงเห็นครึ่งเทพโยวไห่ได้สติเต็มที่ ก็หยุดเนตรเพ่งเทพเจ้าทันที

“เพลิงวายุอัสนีเนตรเทพเจ้า!”

เปลวเพลิงสีม่วงทองกลุ่มหนึ่งโจมตีไปยังหัวของครึ่งเทพโยวไห่

ในยามนี้ เขาที่วิญญาณถูกตัดทอนลง พลังต้านทานต่อวิชาดวงตาวิญาณของจ้าวเฟิงก็ยิ่งต่ำ

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

จ้าวเฟิงไม่ให้โอกาสครึ่งเทพโยวไห่ได้หายใจ นำพลังอัสนีเทวะส่วนสุดท้ายบางส่วน หลอมรวมออกมาทั้งหมด

ครืน ฉัวะ!

ตราอัสนีเทวะบิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่ง ลุกไหม้บิดโค้งราวเปลวเพลิง มาพร้อมกลิ่นอายวิญญาณที่น่าหวาดหวั่นเป็นที่สุด โจมตีไปบนวิญญาณของครึ่งเทพโย่วไห่ทันที

“อ๊าก….”

วิญญาณของครึ่งเทพโยวไห่ถูกวิชาดวงตาวิญญาณอันน่าพรั่นพรึงโจมตีอีกครั้ง

ตั้งแต่จ้าวเฟิงเริ่มใช้ ‘เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ’ ครึ่งเทพโยวไห่ก็บาดเจ็บจากการโจมตีทุกประเภทของจ้าวเฟิงไม่ขาดสาย อีกทั้งแม้กระทั่งโอกาสจะเอาคืนก็ไม่มี

“จ้าวเฟิง คนในดวงใจเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่นานแล้ว!”

ครึ่งเทพโยวไห่ใบหน้าซีดเผือด ชีพจรอ่อนล้า แต่กลับเผยรอยยิ้มเย็นเยือก ดวงตามองไปยังที่ไกล

เขาในยามนี้ไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิงแล้ว กระทั่งคิดอยากจะหนีจากเงื้อมมือของอีกฝ่ายก็ค่อนข้างจะลำบาก

ดังนั้นครึ่งเทพโยวไห่จึงใช้เรื่องอื่นทำให้จ้าวเฟิงเสียสมาธิ

“วังเก้านิรยสมคบคิดกับต่างเผ่าพันธุ์งั้นรึ!”

สายตาของจ้าวเฟิงจ้องทะลุผ่านไปเกือบแสนลี้ มองไปยังราชาเซียนเสียเทียนที่ต่อสู้อยู่กับจ้าวหยูเฟย

เห็นเพียงทั้งร่างของราชาเซียนเสียเทียนทะลักแสงมารชั่วร้าย แผ่กระจายอำนาจเทพน่าหวั่นเกรงสะเทือนฟ้าดิน

ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดจู่ๆ ราชาเซียนเสียเทียนจึงมีกำลังรบที่แข็งแกร่งเช่นนี้ มีเพียงตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทะลุร่างอีกฝ่าย เห็นเงาต่างเผ่าพันธุ์ร่างหนึ่งในโลกมิติส่วนตัวของเขา

“ฮ่าๆ ตายไปซะ!”

ราชาเซียนยื่นมือจับ แสงมารมืดทมิฬที่แฝงด้วยพลังเทพเสี้ยวหนึ่งก่อตัวขึ้นเป็นหอกยาวสีดำ

ช่วงเวลาวิกฤต จ้าวหยูเฟยทำเพียงแค่กระตุ้นร่างของสายเลือด ผิวทั่วร่างนางพลันส่องประกายแวววาวราวเทพผลึกหยก บนผิวมีกระแสสีม่วงชั้นหนึ่งกระเพื่อมไหว

ตึง ฉึก!

หอกยาวสีดำเล่มหนึ่งทะลุผ่านร่างของจ้าวหยูเฟย กระตุ้นแสงแวววับชั้นหนึ่งขึ้นมา

วู้ม!

บนร่างกระจ่างราวผลึกแก้วสีม่วงของจ้าวหยูเฟย ‘บาดแผล’ บนนั้นสมานกันอย่างรวดเร็ว

ฉัวะ~ สีหน้าของจ้าวหยูเฟยหมองหม่นลงเล็กน้อย มือขาวกดไว้ที่หน้าอก กระอักเลือดสีม่วงทองออกมา

ต่อให้เป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์วิญญาณ ก็ไม่มีทางต้านทานการโจมตีของครึ่งเทพเอาไว้ได้

“ฮ่าๆ สายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณบรรพกาล ในวันนี้จะตายในเงื้อมมือของข้า!”

ราชาเซียนเสียเทียนตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็เผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบ้าคลั่ง

ฟู่! มือของเขาสะบัด พลังสายมารในท้องฟ้าก่อตัวขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นหอกยาวที่มีเปลวเพลิงทมิฬลุกไหม้หลายเล่ม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!